วันเวลาปัจจุบัน 17 มิ.ย. 2024, 03:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2014, 07:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8124


 ข้อมูลส่วนตัว


การบูชาบุคคลที่ควรบูชา นั้นเป็นมงคลข้อหนึ่งในมงคลสูตร ๓๘ ประการ
การบูชา คือ การยกย่อง เลื่อมใส ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่เสแสร้งแกล้งทำ นั่นหมายถึง
กิริยาอาการสุภาพที่แสดงต่อผู้ที่ควรบูชาทั้งต่อหน้าและลับหลัง ซึ่งการบูชาในทางปฏิบัตินั้น
มีอยู่ด้วยกัน ๒ วิธี คือ การบูชาด้วยสิ่งของ เรียกว่า อามิสบูชา และ การบูชาด้วยการตั้งใจ
ปฏิบัติตามคำสอนหรือแบบอย่างที่ดีของท่าน เรียกว่า ปฏิบัติบูชา
ซึ่งอย่างหลังนี้เองเป็นการบูชาสูงสุด ที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่อง

บุคคลที่ควรบูชา คือ บุคคลที่มีคุณงามความดี ควรค่าแก่การระลึกถึง
และยึดถือเป็นแบบอย่างในการประพฤติปฏิบัติตาม มีอยู่ด้วยกันจำนวนมาก
เช่น พระพุทธเจ้า พระสงฆ์ พ่อ แม่ ฯลฯ อย่างไรก็ดีพระพุทธเจ้าได้ตรัสถึง
บุคคลที่สมควรแก่การสร้างสถูปไว้บูชาไว้เพียง ๔ จำพวก ได้แก่

๑. พระพุทธเจ้า
เหตุที่พระพุทธเจ้าทรงเป็นถูปารหบุคคลจำพวกหนึ่งนั้น ทรงมีพุทธาธิบายว่า เมื่อมหาชนยังจิตให้เลื่อมใสว่า นี่เป็นสถูปของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น พวกเขายังจิตให้เลื่อมใสในสถูปนั้นแล้ว เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

๒. พระปัจเจกพุทธเจ้า
เหตุที่พระปัจเจกพุทธเจ้าทรงเป็นถูปารหบุคคลจำพวกหนึ่งนั้น ทรงมีพุทธาธิบายว่า เมื่อมหาชนยังจิตให้เลื่อมใสว่า นี่เป็นสถูปของพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์นั้น พวกเขายังจิตให้เลื่อมใสในสถูปนั้นแล้ว เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

๓. พระอรหันต์ (ในพระสูตรกล่าวเป็น "พระตถาคตสาวก" ซึ่งปกติหมายถึง "พระอรหันต์")
เหตุที่พระสาวกของพระพุทธเจ้าทรงเป็นถูปารหบุคคลจำพวกหนึ่งนั้น ทรงมีพุทธาธิบายว่า เมื่อมหาชนยังจิตให้เลื่อมใสว่า นี่เป็นสถูปของพระสาวกของผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น พวกเขายังจิตให้เลื่อมใสในสถูปนั้นแล้ว เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

๔. พระเจ้าจักรพรรดิ์
เหตุที่พระเจ้าจักรพรรดิ์ทรงเป็นถูปารหบุคคลจำพวกหนึ่งนั้น ทรงมีพุทธาธิบายว่า เมื่อมหาชนยังจิตให้เลื่อมใสว่า นี่เป็นสถูปของพระธรรมราชาผู้ทรงธรรมนั้น พวกเขายังจิตให้เลื่อมใสในสถูปนั้นแล้ว เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

เมื่ออ่านจบ จขกท. ที่ถามมาคิดว่าหมดความสงสัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2014, 09:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เจ้าวังทอง เขียน:
ในธรรมวินัย ผิดแน่นอน สิ่งที่ผิดพระธรรมวินัยแล้วเราไปเคารพกราบไหว้ก็ผิดไปด้วย

มีใครบอกได้มั้ย..ว่า..ผิด..ธรรมวินัย..ข้อไหน? เป็นความรู้ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2014, 10:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
cool การสร้างพระพุทธรูป เพื่อกราบไหว้ ก็เป็นพราหมณ์-ฮินดู

เรื่องพวกนี้ค่อนข้างซับซ้อน เกี่ยวพันกันหลายเรื่อง จนยากจะอธิบายให้รู้ได้ในคราวเดียว, ต้องใช้การสนทนาเพื่อเรียบเรียงความคิดกันนาน.

แต่ถ้าจะให้สรุปใน 1 ย่อหน้า...

:b6: มันเป็นการแทรกซึมของพราหมณ์ ลัทธินารายณ์อวตาร เพื่อค้ำจุนระบอบเทวราชา.
เพราะโดยสาระสำคัญของศาสนาพุทธนั้น เป็น ปฏิปักษ์ ต่อระบอบเทวราชา (ราชาคือผู้ศักดิ์สิทธิ์ หรือคือเทพเจ้า).

เรื่องอาจเริ่มตั้งแต่ การนำความเป็น เทวะ เข้าไปในศาสนาพุทธ ด้วยวิธีการที่หลากหลาย, ลดฐานะของปุถุชนลง จนต่ำกว่าบรรดานักบวช (ที่เรียกตนเองว่า พระภิกษุ).
พระ กลายเป็นคนกึ่งเทวะที่ศักดิ์สิทธิ์ มีภาษาเฉพาะที่ถูกกำหนดให้ใช้ (โยม อาตมา นิมนต์ ฉัน ฯลฯ) แต่พระยังอยู่ต่ำกว่าราชา ซึ่งเป็นเทวะโดยแท้ มีภาษาเฉพาะเต็มรูปแบบ.

หลักการของพุทธ ถูกทำให้ลืมเลือน ด้วยการเขียนไตรปิฏกใหม่ ด้วยสำนวนภาษาไทยที่อ่านไม่รู้เรื่อง.
จริงอยู่ ไตรปิฏกถูกแก้ไขมาแล้ว 11 ครั้ง. แต่การเขียนด้วยภาษาพิศดาร ย่อมทำให้ศาสนานี้ พ้นไปจากวิถึชีวิตของคนทั่วไป.
เมื่อเข้าถึงได้ยาก มันก็กลายเป็นของพิเศษสำหรับผู้ที่เข้าถึงได้ (คือ ทำให้คนกลุ่มหนึ่ง เป็นผู้อธิบายความหมายเท่านั้น).

ถ้าเราสังเกตเสียหน่อย, ศาสนาที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มีแต่ความเป็นเทวะ วรรณะ และลำดับชั้น.
ศรัทธาในศาสนา ถูกทำให้เป็นเรื่องของการบูชาในรูปแบบต่างๆ, ตอกย้ำความเป็นเทวะ ของบรรดาพระขึ้นไปอีก.

onion แผ่นดินนี้ ไม่ใช่แผ่นดินในศาสนาพุทธ. สิ่งที่เห็น คือความ นอกรีต ที่เอาคำว่าศาสนาพุทธ มาหลอกลวงคน.

จะไม่มีอนาคตใดๆ สำหรับความนอกรีตนี้. ถ้าเราเชื่อตำนานที่ว่า, พันปีจากนี้ เทพและพรหมจะเป็นผู้รักษาศาสนา. ก็น่าคิดว่า พรหม ซึ่งใกล้ความเป็นพระพุทธเจ้ามากที่สุด จะทำอย่างไร.

จบ

ปล. ศาสนาพุทธ ยกย่องและนับถือผู้ที่ละกิเลสได้ (อริยบุคคล) หรือผู้ที่สำรวมกาย-วาจา ควรแก่การให้เกียรติ.
ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชน ทุกคนย่อมไม่ต่างกัน, สาระตรงนี้ ทำให้พุทธเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบเทวราชา แต่ไม่ได้เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบกษัตริย์ แยกออกมะ

ปล.2 รู้สึกรุนแรงดี ก็ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศ... เน๊อะ s002 s002 s002



ทั้งหมดนี้แหละ....ความเชื่อ...ศาสนา..ทุกความเชื่อ....เป้นSubset ของศาสนาพุทธหมด..

ถ้าเป้นการวิ่งมาราธอน... s007 .ก็มีหลายกลุ่ม.....กลุ่มผู้นำ....กลุ่มผู้ตาม.....กลุ่มปิดท้าย


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร