วันเวลาปัจจุบัน 16 พ.ค. 2025, 18:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 132 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2013, 18:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
คำว่า..สุญญตาหมายถึงความว่าง มันเป็นผลจากการทำฌาน

การได้ฌาน ๘ ก็ถือเป็นสุญญตา นั้นก็คือว่างจากรูปฌานและอรูปฌาน

ส่วนปรมนุตตรสุญญตา เป็นความว่างที่สูงกว่าฌาน๘ เป็นความว่างจาก ราคะทั้งปวง
เรียกความว่างจากราคะนี้ว่า......เจโตวิมุตติ

การจะได้ปรมนุตตรสุญญตา จะต้องปฏิบัติ สุญญตานุปัสสนาให้ได้เสียก่อน



การได้ฌาน ๘ ก็ถือเป็นสุญญตา นั้นก็คือว่างจากรูปฌานและอรูปฌาน

อะไรบ้างครับ ฌาน ๘

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ย. 2013, 02:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 06:03
โพสต์: 95

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความว่างตามความเป็นจริง ไม่เคลื่อนคลาด บริสุทธิ์


ซึ่งบางคนเรียกว่า ......ปรมนฺตตรสุญญตา...... กล่าวคือ


......ไม่ใส่ใจอากิญจัญญายตนสัญญา
......ไม่ใส่ใจเนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา

......ใส่ใจแต่สิ่งเดียวเฉพาะ ......เจโตสมาธิ...... อันไม่มีนิมิต
......จิตแล่นไป เลื่อมใส ตั้งมั่น และ นึกน้อมอยู่ใน เจโตสมาธิ อันไม่มีนิมิต

......ย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า เจโตสมาธิ อันไม่มีนิมิตนี้ ยังมีปัจจัยปรุงแต่ง จูงใจได้
......ย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่ปัจจัยปรุงแต่ง จูงใจได้นั้น ไม่เที่ยง
มีความดับไปเป็นธรรมดา

......เมื่อรู้อย่างนี้ เห็นอย่างนี้ จิตย่อมหลุดพ้นจาก กามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ
......เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว
......พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว
......กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ฯลฯ

......เป็นการก้าวลงสู่ความว่าง ตามความเป็นจริง ไม่เคลื่อนคลาด บริสุทธิ์......


......ปรมนฺตตรสุญญตา...... สามารถปฏิบัติไปตามแนวทางของ มหายาน หรือ
บุคคลบางกลุ่ม เรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า ......โพธิญาณ......


การปฏิบัติภาวนา เพื่อก้าวลงสู่ความว่าง หรือ สุญญตา ต้องเริ่มต้นปฏิบัติตั้งแต่
ขั้นพื้นฐานไปตามขั้นตอน โดยลำดับ


ขอให้เจริญในธรรม อันยิ่งขึ้นไปทุกท่านนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ย. 2013, 03:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แบบชาวบ้านๆ ความเข้าใจ ตามที่ได้ศึกษา ตามภูมิปัญญา ตัวเอง
สุญญตา...ว่าง...ว่างแบบ ภาษาชาวบ้าน ว่างจากสาระหรือเป็นมายา
เป็นภาษาธรรมะ ว่าง จากการปรุงแต่ง อันนี้ว่างแบบลึกซึ้ง ว่างจน เข้าไปถึงพระนิพพาน :b12:
เจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ย. 2013, 05:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
คำว่า..สุญญตาหมายถึงความว่าง มันเป็นผลจากการทำฌาน

การได้ฌาน ๘ ก็ถือเป็นสุญญตา นั้นก็คือว่างจากรูปฌานและอรูปฌาน

ส่วนปรมนุตตรสุญญตา เป็นความว่างที่สูงกว่าฌาน๘ เป็นความว่างจาก ราคะทั้งปวง
เรียกความว่างจากราคะนี้ว่า......เจโตวิมุตติ

การจะได้ปรมนุตตรสุญญตา จะต้องปฏิบัติ สุญญตานุปัสสนาให้ได้เสียก่อน



การได้ฌาน ๘ ก็ถือเป็นสุญญตา นั้นก็คือว่างจากรูปฌานและอรูปฌาน

อะไรบ้างครับ ฌาน ๘



:b1: พีโฮฮับขอรับ คำถามอยู่ทางนี้ขอรับ มาตอบก่อน ไปยุ่งเรื่องเป็นเรื่องตาย เรื่องวิญญาณเข้าร่างไม่เข้าร่างที่โน่นอีก ทางนี้ๆ ฌาน 8 มีอะไรบ้าง แล้วมันวางจากรูปฌานอรูปฌานยังไง :b14:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ย. 2013, 09:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
สุญญตา=สุญญะ+อัตตา........แปลว่า ว่างจากความเป็นตัวตน....น่าจะถูกต้องตามธรรมและตามศัพท์

เมื่อบุุคคลเจริญวิปัสสนาภาวนาไปจนถึงระดับที่ทำลายความเห็นผิดว่าเป็นอัตตา ตัวกู ของกู ได้แล้ว เขาจะได้สัมผัสสภาวะ จิตไร้กู หรือ อนัตตา เมื่อจิตไร้กูมาคอยตอบโต้กับผัสสะและเวทนาทั้งหลาย ทุกอย่างก็เป็น ....สูญ (สุญญะ) เหมือนการเอาเลขอะไรไปคูณกับเลขศูนย์ ผลที่ได้ย่อมเป็นสูญทั้งหมด

จิตอย่างนี้เรียกว่า "สุญญตาจิต" ครับ มากกว่านี้ถ้ายังสนใจก็ถามต่อได้นะครับ


แก้ไขล่าสุดโดย asoka เมื่อ 13 ก.ย. 2013, 20:07, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ย. 2013, 09:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
คำว่า..สุญญตาหมายถึงความว่าง มันเป็นผลจากการทำฌาน

การได้ฌาน ๘ ก็ถือเป็นสุญญตา นั้นก็คือว่างจากรูปฌานและอรูปฌาน

ส่วนปรมนุตตรสุญญตา เป็นความว่างที่สูงกว่าฌาน๘ เป็นความว่างจาก ราคะทั้งปวง
เรียกความว่างจากราคะนี้ว่า......เจโตวิมุตติ

การจะได้ปรมนุตตรสุญญตา จะต้องปฏิบัติ สุญญตานุปัสสนาให้ได้เสียก่อน



การได้ฌาน ๘ ก็ถือเป็นสุญญตา นั้นก็คือว่างจากรูปฌานและอรูปฌาน

อะไรบ้างครับ ฌาน ๘



:b1: พีโฮฮับขอรับ คำถามอยู่ทางนี้ขอรับ มาตอบก่อน ไปยุ่งเรื่องเป็นเรื่องตาย เรื่องวิญญาณเข้าร่างไม่เข้าร่างที่โน่นอีก ทางนี้ๆ ฌาน 8 มีอะไรบ้าง แล้วมันวางจากรูปฌานอรูปฌานยังไง :b14:


กรัชกายถามจริง อ่านความเห็นที่พี่โฮแนะนำจขกทไม่รู้เรื่องใช่มั้ย
เอาไปอ่านอีกรอบ..............

โฮฮับ เขียน:
ปรมนุตตรสุญญตา เขียน:
เวรกรรม ดิฉันก็บอกไปแล้วว่าไม่รู้ คนไม่รู้ถามคนไม่รู้เดี๋ยวก็คงรู้มั้งคะ แปลกจังคุณกรัชกาย


อย่าไปใส่ใจกับอิตากรัชกายเขาเลยครับ ที่เขาถามเขาไม่ต้องการคำตอบหรอกครับ
ถ้าคุณตอบไป เขาก็จะเอาคำตอบของคุณ มาถามคุณต่อไปอีกเรื่อยๆไม่มีวันสิ้นสุด

ตากรัชกายมีแค่นี้แหล่ะครับ
ชอบถามโดยไม่รู้ว่าตัวเองถามอะไร
และอีกอย่าง ชอบก็อปปี้บทความคนอื่นมาโพส

ถ้าคุณทนรำคาญได้ อิตากรัชกายก็ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอะไรหรอกครับ
ถ้าไม่ชอบความรำคาญ ก็อย่าไปยุ่งกับแกครับ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ย. 2013, 13:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: เอาตัวธรรมดาๆก็ได้พี่โฮฮับ ไม่ต้องเน้นตัวใหญ่เท่าหม้อแกงก็ได้ มองเห็น คิกๆๆ

ถามจริงๆที่พี่โฮพูดเนี่ย เนี่ยๆ

อ้างคำพูด:
การได้ฌาน ๘ ก็ถือเป็นสุญญตา นั้นก็คือว่างจากรูปฌานและอรูปฌาน


พี่โฮรู้ไหมว่า ญาณ 8 (หรือสมาบัติ 8) ได้แก่ รูปฌาน 4 กับ อรูปฌาน 4 มันอันเดียวกัน พูดซ้ำกัน แต่พี่โฮก็พูดเสียว่า การได้ฌาน ๘ ก็ถือเป็นสุญญตา นั้นก็คือว่างจากรูปฌานและอรูปฌาน

เคยบอกหลายครั้งแล้วอย่าพูดเป็นนกแก้วนกขุนทอง เพราะมันเป็นการพอกพูนสัญญาผิดๆ พอกพูนโมหะจิตให้หนาขึ้นๆ ยังมีชีวิตอยู่ก็แก้ไขยาก ตายไปก็ตกนรกโลกันต์ (โลกันตนรก) เข้าใจมั้ยขอรับเนี่ย เหนื่อยใจ :b32: :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ย. 2013, 13:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นึกได้ คำว่า "สุญญตา" เนี่ยนะ เท่าที่เห็นและนึกได้ตอนนี้ ท่านใช้เป็นคุณบทของนิพพาน (เห็นชุดหนึ่ง) เช่น สุญญตนิพพาน อนิมิตตนิพพาน อัปปนิหิตนิพพาน :b1:

"สุญญตนิพพาน" ตามศัพท์ก็คงจะประมาณว่า นิพพานว่างจากกิเลสตัณหาอุปาทาน ว่าง่จากอัตตา คือกิเลสที่ยึดถือว่าอัตตาถูกทำลายสิ้นแล้ว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ย. 2013, 14:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b8:
สุญญตา=สุญญะ+อัตตา........แปลว่า ว่างจากความเป็นตัวตน....น่าจะถูกต้องตามธรรมและตามศัพท์

เมื่อบุุคคลเจริญวิปัสสนาภาวนาไปจนถึงระดับที่ทำลายความเห็นผิดว่าเป็นอัตตา ตตัวกู ของกู ได้แล้ว เขาจะได้สัมผัสสภาวะ จิตไร้กู หรือ อนัตตา เมื่อจิตไร้กูมาคอยตอบโต้กับผัสสะและเวทนาทั้งหลาย ทุกอย่างก็เป็น ....สูญ (สุญญะ) เหมือนการเอาเลขอะไรไปคูณกับเลขศูนย์ ผลที่ได้ย่อเป็นสูญทั้งหมด

จิตอย่างนี้เรียกว่า "สุญญตาจิต" ครับ มากกว่านี้ถ้ายังสนใจก็ถามต่อได้นะครับ

ขอบใจอโสกะมากนะที่ทำให้คุณน้องถึงบางอ้อ ที่แท้สุญญตาก็คือสภาวะที่จิตวางจากตัวตนหรือตัวกูของกูเพราะ เห็นการกระทบของผัสสะและเวทนาทั้งหลาย และรู้อยู่ทุกขณะจิต และเห็นการเกิดดับของสภาวะนั้นจนจิตเบื่อหน่ายคลายความยึดมั่นถือมั่น จิตจะวางจากอารมณ์นั้นหยุดปรุงแต่ง(นี่ใช่มั้ยคือความว่าง) ไม่ว่าอะไรจะมากระทบก็รู้อยู่แต่จิตก็สงบระงับปราศจากนิวรณ์ทำให้ตัณหาอุปทานไม่เกิดในขณะปัจจุบัณนั้น(ภพใหม่ก็ไม่เกิด) จิตวางอารมณืนั้นอย่างสงบจิตตั้งมั่นจนเป็นสมาธิเข้าสูสภาวะที่รู้เห็นตามความเป็นจริงของสภาวะธรรม ที่แท้สุญญตาก็คือความว่างสิ่งนี้ก็คือความเป็นอนัตตาคือไร้ตัวตน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ย. 2013, 20:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




067dsq_resize.jpg
067dsq_resize.jpg [ 28.99 KiB | เปิดดู 3251 ครั้ง ]
:b8:
สาธุ อนุโมทนากับ nongkong ครับ
:b27:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ย. 2013, 20:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




ประตูทางออกสู่นิพพาน_resize.jpg
ประตูทางออกสู่นิพพาน_resize.jpg [ 42.81 KiB | เปิดดู 3249 ครั้ง ]
กรัชกาย เขียน:
นึกได้ คำว่า "สุญญตา" เนี่ยนะ เท่าที่เห็นและนึกได้ตอนนี้ ท่านใช้เป็นคุณบทของนิพพาน (เห็นชุดหนึ่ง) เช่น สุญญตนิพพาน อนิมิตตนิพพาน อัปปนิหิตนิพพาน :b1:

"สุญญตนิพพาน" ตามศัพท์ก็คงจะประมาณว่า นิพพานว่างจากกิเลสตัณหาอุปาทาน ว่าง่จากอัตตา คือกิเลสที่ยึดถือว่าอัตตาถูกทำลายสิ้นแล้ว

:b8:
ประตูออกสู่นิพพานมี 3 ประตูครับ......ดังภาพ
:b27:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2013, 04:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
สุญญตา=สุญญะ+อัตตา........แปลว่า ว่างจากความเป็นตัวตน....น่าจะถูกต้องตามธรรมและตามศัพท์

เมื่อบุุคคลเจริญวิปัสสนาภาวนาไปจนถึงระดับที่ทำลายความเห็นผิดว่าเป็นอัตตา ตตัวกู ของกู ได้แล้ว เขาจะได้สัมผัสสภาวะ จิตไร้กู หรือ อนัตตา เมื่อจิตไร้กูมาคอยตอบโต้กับผัสสะและเวทนาทั้งหลาย ทุกอย่างก็เป็น ....สูญ (สุญญะ) เหมือนการเอาเลขอะไรไปคูณกับเลขศูนย์ ผลที่ได้ย่อเป็นสูญทั้งหมด

จิตอย่างนี้เรียกว่า "สุญญตาจิต" ครับ มากกว่านี้ถ้ายังสนใจก็ถามต่อได้นะครับ

ขอบใจอโสกะมากนะที่ทำให้คุณน้องถึงบางอ้อ ที่แท้สุญญตาก็คือสภาวะที่จิตวางจากตัวตนหรือตัวกูของกูเพราะ เห็นการกระทบของผัสสะและเวทนาทั้งหลาย และรู้อยู่ทุกขณะจิต และเห็นการเกิดดับของสภาวะนั้นจนจิตเบื่อหน่ายคลายความยึดมั่นถือมั่น จิตจะวางจากอารมณ์นั้นหยุดปรุงแต่ง(นี่ใช่มั้ยคือความว่าง) ไม่ว่าอะไรจะมากระทบก็รู้อยู่แต่จิตก็สงบระงับปราศจากนิวรณ์ทำให้ตัณหาอุปทานไม่เกิดในขณะปัจจุบัณนั้น(ภพใหม่ก็ไม่เกิด) จิตวางอารมณืนั้นอย่างสงบจิตตั้งมั่นจนเป็นสมาธิเข้าสูสภาวะที่รู้เห็นตามความเป็นจริงของสภาวะธรรม ที่แท้สุญญตาก็คือความว่างสิ่งนี้ก็คือความเป็นอนัตตาคือไร้ตัวตน

ยัยน้อง....สุญญตา ที่จขกทเขาเอามาเป็นประเด็น .....
มันไม่ได้มีความหมายว่า จิตวางตัวตนหรือตัวกู ของกู อะไรนั้น

สังเกตุดูในกระทู้จะมี บัญญัติอีกคำหนึ่ง ที่ว่า....ปรมนุตตรสุญญตา
และยังมีอีกคำที่ต้องสังเกตุก็...ว่างกับวาง เหตุปัจจัยของความว่าง
และการวางมันไม่เหมือน

เมื่อกล่าวถึงสุญญตานั้น ก็หมายถึง สภาวะที่เป็นความว่าง อันเกิดจากการเพ่งวัตถุหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
จนจิตเกิดเป็นสภาวะว่างๆ ความว่างแบบนี้จิตยังไม่ได้วางอัตตาตัวตนเลย เพราะเหตุแห่งทุกข์
หรือราคะยังไม่ได้ถูกทำลาย
ที่มันไม่ได้แสดงอาการ เป็นเพราะถูกกดข่มไว้ด้วยกำลังของ...ฌาน

ยกตัวอย่าง ผู้ที่ได้ฌาน๘ไม่ใช่ว่าบุคคลนั้นบรรลุธรรมแล้ว ผู้มีฌาน๘เป็นเพียงปุถุชนธรรมดา
ฌาน๘มันเสื่อมได้ ฌานเกิดจากการเพ่ง เมื่อไม่เพ่งจิตก็ยังเกิดกิเลสราคะได้

ดังนั้นสุญญตา จึงหมายถึงจิตที่เป็นสภาวะว่างๆ แต่ยังกิเลสราคะอยู่
มันจึงยังไม่ใช่การวางอัตตาตัวตน ตัวกูตัวฉันอะไรนั้น

การวางอัตตาตัวตน จะต้องเป็นการวางแม้กระทั้งความว่างที่เรียกว่าสุญญตา
จิตที่วางความว่างหรือสุญญตา เราเรียกจิตนั้นนั้นว่า จิตที่ปราศจากราคะ
จิตที่ปราศจากราคะหรือปล่อยวางสุญญตาแล้วเรียกว่า.......ปรมนุตตรสุญญตา



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2013, 04:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
nongkong เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
สุญญตา=สุญญะ+อัตตา........แปลว่า ว่างจากความเป็นตัวตน....น่าจะถูกต้องตามธรรมและตามศัพท์

เมื่อบุุคคลเจริญวิปัสสนาภาวนาไปจนถึงระดับที่ทำลายความเห็นผิดว่าเป็นอัตตา ตตัวกู ของกู ได้แล้ว เขาจะได้สัมผัสสภาวะ จิตไร้กู หรือ อนัตตา เมื่อจิตไร้กูมาคอยตอบโต้กับผัสสะและเวทนาทั้งหลาย ทุกอย่างก็เป็น ....สูญ (สุญญะ) เหมือนการเอาเลขอะไรไปคูณกับเลขศูนย์ ผลที่ได้ย่อเป็นสูญทั้งหมด

จิตอย่างนี้เรียกว่า "สุญญตาจิต" ครับ มากกว่านี้ถ้ายังสนใจก็ถามต่อได้นะครับ

ขอบใจอโสกะมากนะที่ทำให้คุณน้องถึงบางอ้อ ที่แท้สุญญตาก็คือสภาวะที่จิตวางจากตัวตนหรือตัวกูของกูเพราะ เห็นการกระทบของผัสสะและเวทนาทั้งหลาย และรู้อยู่ทุกขณะจิต และเห็นการเกิดดับของสภาวะนั้นจนจิตเบื่อหน่ายคลายความยึดมั่นถือมั่น จิตจะวางจากอารมณ์นั้นหยุดปรุงแต่ง(นี่ใช่มั้ยคือความว่าง) ไม่ว่าอะไรจะมากระทบก็รู้อยู่แต่จิตก็สงบระงับปราศจากนิวรณ์ทำให้ตัณหาอุปทานไม่เกิดในขณะปัจจุบัณนั้น(ภพใหม่ก็ไม่เกิด) จิตวางอารมณืนั้นอย่างสงบจิตตั้งมั่นจนเป็นสมาธิเข้าสูสภาวะที่รู้เห็นตามความเป็นจริงของสภาวะธรรม ที่แท้สุญญตาก็คือความว่างสิ่งนี้ก็คือความเป็นอนัตตาคือไร้ตัวตน

ยัยน้อง....สุญญตา ที่จขกทเขาเอามาเป็นประเด็น .....
มันไม่ได้มีความหมายว่า จิตวางตัวตนหรือตัวกู ของกู อะไรนั้น

สังเกตุดูในกระทู้จะมี บัญญัติอีกคำหนึ่ง ที่ว่า....ปรมนุตตรสุญญตา
และยังมีอีกคำที่ต้องสังเกตุก็...ว่างกับวาง เหตุปัจจัยของความว่าง
และการวางมันไม่เหมือน

เมื่อกล่าวถึงสุญญตานั้น ก็หมายถึง สภาวะที่เป็นความว่าง อันเกิดจากการเพ่งวัตถุหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
จนจิตเกิดเป็นสภาวะว่างๆ ความว่างแบบนี้จิตยังไม่ได้วางอัตตาตัวตนเลย เพราะเหตุแห่งทุกข์
หรือราคะยังไม่ได้ถูกทำลาย
ที่มันไม่ได้แสดงอาการ เป็นเพราะถูกกดข่มไว้ด้วยกำลังของ...ฌาน

ยกตัวอย่าง ผู้ที่ได้ฌาน๘ไม่ใช่ว่าบุคคลนั้นบรรลุธรรมแล้ว ผู้มีฌาน๘เป็นเพียงปุถุชนธรรมดา
ฌาน๘มันเสื่อมได้ ฌานเกิดจากการเพ่ง เมื่อไม่เพ่งจิตก็ยังเกิดกิเลสราคะได้

ดังนั้นสุญญตา จึงหมายถึงจิตที่เป็นสภาวะว่างๆ แต่ยังกิเลสราคะอยู่
มันจึงยังไม่ใช่การวางอัตตาตัวตน ตัวกูตัวฉันอะไรนั้น

การวางอัตตาตัวตน จะต้องเป็นการวางแม้กระทั้งความว่างที่เรียกว่าสุญญตา
จิตที่วางความว่างหรือสุญญตา เราเรียกจิตนั้นนั้นว่า จิตที่ปราศจากราคะ
จิตที่ปราศจากราคะหรือปล่อยวางสุญญตาแล้วเรียกว่า.......ปรมนุตตรสุญญตา





นึกถึงภาษามวย "มีเถียง" :b9: แล้วก็อีก อะไรน๊า ไปน้ำขุ่นๆ

"ปรมนุตตรสุญญตา" เป็นชื่อที่เขาใช้แทนตัวเขาในลานนี้ ก็เหมือนกรัชกาย โฮฮับ ฯลฯ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2013, 04:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปรมนุตตรสุญญตา เขียน:
ปุจฉา
ชีวิตหนึ่งที่เกิดมา อยู่อย่างไรให้คุ้มค่า และให้มีความสุข
เมื่อไม่รู้ว่าลมหายใจจะหยุดเมื่อไร จะมีวันพรุ่งนี้หรือไม่
เกิดเป็นมนุษย์ได้แล้ว ชาติหน้าไม่รู็จะมีโอกาศอีกหรือไม่

วิสัชนา
ดำรงตนอยู่ใน ศีลห้า หยุด โลภ โกรธ หลง อิจฉา ริษยา
ดำรงตนอยู่บนทางสายกลาง มีความพอเพียงเป็นที่ตั้ง
เรียนธรรมะปัจจุบัน ทุกวันเวลา มีความสุขด้วยปัญญา
ปัญญา...?

ปฏิบัติให้รู้แจ้ง รูปไม่เที่ยง เวทนาไม่เที่ยง สัญญาไม่เที่ยง
สังขารไม่เที่ยง วิญญาณไม่เที่ยง รูปไม่ใช่ตัวตน เวทนาไม่
ใช่ตัวตน สัญญาไม่ใช่ตัวตน สังขารไม่ใช่ตัวตน วิญญาณ
ไม่ใช่ตัวตน สังขารทั้งหลาย ทั้งปวงไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน.
หลงยึดติดย่อมนำ ทุกข์ มาให้




ถ้าจะอ้าง ต้องย้อนกลับมาที่จุดเริ่มกระทู้นี้ จขกท. เค้า ปุจฉา - วิสัชชนา คือ ถามเองตอบเอง มันจบตั้งแต่เริ่มแล้ว

แต่กรัชกาย แตกประเด็น ไปหยิบหัวข้อ (ชื่อ) กระทู้มา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2013, 05:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
นึกถึงภาษามวย "มีเถียง" :b9: แล้วก็อีก อะไรน๊า ไปน้ำขุ่นๆ

"ปรมนุตตรสุญญตา" เป็นชื่อที่เขาใช้แทนตัวเขาในลานนี้ ก็เหมือนกรัชกาย โฮฮับ ฯลฯ


ถึงได้บอกว่า ไม่มีสมาธิ ขาดสัมปัญญะ
ดูที่มาของ......."ปรมนุตตรสุญญตา" ที่พี่โฮเอามาพูด

กรัชกาย เขียน:
ปรมนุตตรสุญญตา เขียน:
ดิฉันสนใจในเรื่องของสุญญตาและยินดีแลกเปลี่ยนความรู้กับกัลยาณมิตรทุกท่านนะคะ ใครที่สนใจเรื่องสุญญตาแบบเดียวกันนี้เชิญได้นะคะ

"สุญญตา คือ ความว่าง
ปรมนุตตรสุญญตา สุญญตาที่ว่างอย่างยิ่ง ไม่มีอะไรอื่นยิ่งไปกว่า"

ไม่ค่อยเข้าใจ ว่างจากอะไร ว่างยังไงครับ ที่ว่าว่างอยางยิ่ง :b10:


กรัชกาย เขียน:
ปรมนุตตรสุญญตา เขียน:
ปุจฉา
ชีวิตหนึ่งที่เกิดมา อยู่อย่างไรให้คุ้มค่า และให้มีความสุข
เมื่อไม่รู้ว่าลมหายใจจะหยุดเมื่อไร จะมีวันพรุ่งนี้หรือไม่
เกิดเป็นมนุษย์ได้แล้ว ชาติหน้าไม่รู็จะมีโอกาศอีกหรือไม่

วิสัชนา
ดำรงตนอยู่ใน ศีลห้า หยุด โลภ โกรธ หลง อิจฉา ริษยา
ดำรงตนอยู่บนทางสายกลาง มีความพอเพียงเป็นที่ตั้ง
เรียนธรรมะปัจจุบัน ทุกวันเวลา มีความสุขด้วยปัญญา
ปัญญา...?

ปฏิบัติให้รู้แจ้ง รูปไม่เที่ยง เวทนาไม่เที่ยง สัญญาไม่เที่ยง
สังขารไม่เที่ยง วิญญาณไม่เที่ยง รูปไม่ใช่ตัวตน เวทนาไม่
ใช่ตัวตน สัญญาไม่ใช่ตัวตน สังขารไม่ใช่ตัวตน วิญญาณ
ไม่ใช่ตัวตน สังขารทั้งหลาย ทั้งปวงไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน.
หลงยึดติดย่อมนำ ทุกข์ มาให้



ถ้าจะอ้าง ต้องย้อนกลับมาที่จุดเริ่มกระทู้นี้ จขกท. เค้า ปุจฉา - วิสัชชนา คือ ถามเองตอบเอง มันจบตั้งแต่เริ่มแล้ว

แต่กรัชกาย แตกประเด็น ไปหยิบหัวข้อ (ชื่อ) กระทู้มา


กรัชกายไม่มีสมาธิขาดสัมปชัญญะ ในความเห็นแรกของจขกท....ที่เป็นตัวสีฟ้า
มันเป็นการปูทางให้คนอื่นได้มีการปุจฉา-วิสัชนากัน

ถ้าสังเกตุให้ดีหัวข้อกระทู้บอกเอาไว้ว่า "เป็นเรื่องสุญญตา"
เราก็ต้องเอาประโยคที่จขกททิ้งท้ายไว้(สีฟ้า) มาพิจารณาว่าเกี่ยวข้องอย่างไรกับเรื่องของสุญญตา

นี้เป็นประเด็นที่กรัชกายไปกล่าวหาจขกทว่าถามเองตอบเอง
มันก็แค่กรัชกายไม่รู้ไม่เข้าใจเนื้อหาที่จขกทเอามาโพส


และอีกเรื่องหนึ่งที่กรัชกายเอาบัญญัติที่ว่า.."ปรมนฺตตรสุญญตา"มาโพส
เป็นเพราะกรัชกายขาดความเข้าใจในเรื่องการพิจารณาธรรม
กรัชกายศึกษาธรรมด้วยการท่องจำคำศัพท์ กรัชกายจึงรู้แต่คำแปล....แต่ไม่รู้ความหมาย

กรัชกายไม่รู้ว่า "ปรมนฺตตรสุญญตา"ที่เอามาโพส
มันเกี่ยวข้องโดยตรงกับความเห็นทิ้งท้ายสีฟ้าของจขกท


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 132 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร