วันเวลาปัจจุบัน 25 ก.ค. 2025, 10:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2013, 04:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมเห็นด้วยกับครูบาอาจารย์บางท่านที่กล่าวในทำนองว่า ที่เราสับสนกับพระธรรม
ก็เป็นเพราะบรรดาอรรถกถาจารย์ที่มาอธิบายพุทธพจน์ ด้วยการสร้างคำศัพท์ใหม่ๆขึ้นมา
ต่างคนก็เอาศัพท์ตัวเองมาอธิบายธรรมหรือปรมัตถ์ธรรม คนฟังเลยสับสน ยิ่งคนฟังมาจากหลายๆ
อรรถกถาจารย์ยิ่งไปกันใหญ่คำศัพท์เหล่านั้นมันตีกันอยู่ในหัวสมอง :b9:
(คำกล่าวข้างบน ผมไม่ได้ว่านะครับ เป็นคำพูดของพระ ผมมีความเห็นเสริมนิดหน่อยแค่นั้น)

ว่าแล้วก็ยกมาให้ดูเลยครับว่า พวกคุณๆสับสนกับคำเหล่านี้มั้ย
มโนทวาร....มโนทวารธาตุ.....มโนวิญญาณ.....มโนวิญญาณธาตุ
หทยวัตถุ......หทยวัตถุธาตุ.... ฯลฯ

นี่มันแค่น้ำจิ้ม ผมยกมาเฉพาะที่มันเกี่ยวข้องกับหัวข้อกระทู้
เอาเป็นว่าผมมีความเห็นสั้นนำทางก่อนว่า ไอ้คำศัพท์มากมายกายกองนี้
บางคำมันก็เหมือนกันแต่มันต่างกันที่ตัวบุคคล หรือแตกต่างกันที่วิชชากับอวิชาครับ

ผมจะค่อยๆอธิบายให้ฟัง อย่าลืมมันเป็นความเห็นส่วนตัว มันเกิดจากวิปัสนาหรือ
การปฏิบัติของผมเอง ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เข้าใจหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับผม :b13:

เรามาดูคำที่ว่า....มโนทวารกับมโนทวารธาตุ
มโนทวารใช้กับปุถุชน มโนทวารธาตุใช้กับอรหันต์(ยังมีอริยบุคคลอีก แต่ไม่ขอกล่าวถึง
มันจะสับสนซะเปล่าๆ)

เรามาดูมโนทวารในส่วนที่เรียกว่า สมองของปุถุชนมันเป็น...อุปทายรูป

อธิบาย ที่เรียกว่ารูปขันธ์ มันเป็นอาการยึดมั่นถือมั่นในรูปหรือร่างกาย แท้จริงรูปหรือร่างกาย
เป็นเพียงมหาภูติรูปสี่ เป็นเพียงแค่ธาตุสี่มาประชุมกัน ปุถุชนไปปรุงแต่งธาตุสี่ จนเกิดเป็น
อุปาทายรูปขึ้น เป็นอุปาทายรูป๒๔
สรุปก็คือ มหาภูติรูปก็คือเป็นความจริงแห่งรูปหรือร่างกาย แต่อุปาทายรูปเกิดจากการปรุงแต่ง
ดังนั้นเราจึงเรียกสมองในส่วนของปุถุชนว่า มโนทวารเฉยๆ เพราะมันเกิดจากการปรุงแต่ง
มันเป็นอุปาทายรูป

แล้วทำไมเรียกสมองของอรหันต์ว่า....มโนทวารธาตุทั้งๆที่เป็นสมองเหมือนกัน
ก็เป็นเพราะพระอรหันต์ ตัดกิเลสหมดแล้วยิ่งในส่วนของรูป ท่านรู้ว่าความยึดมั่นถือ
จนเกิดเป็นรูปขันธ์ก็เพราะ การปรุงแต่งมหาภูติรูปหรือธาตุสี่
แท้จริงแล้วร่างกายของเราเป็นเพียงธาตุสี่ที่มาประชุมกันเท่านั้น

สรุปก็คือ รูปของพระอรหันต์จึงมีเพียงแค่ธาตุสี่ อรหันต์ไม่เกิดอุปาทายรูปแล้ว
สมองของพระอรหันต์จีงเป็นรูปธาตุไม่ใช่อุปาทายรูป
ดังนี้จึงเรียกสมองของพระอรหันต์ที่ทำให้เกิดความคิดว่า.....
มโนธาตุคือเป็นส่วนหนึ่งของมหาภูติรูปสี่นั้นเอง :b13:

ปล.เปิดโอกาสให้แย้งให้ซักถาม เอาให้ถีงไส้ติ่งก็ไม่ว่าครับ
แต่ขออย่างเดียว อย่ามาถามคำศัพท์แบบอิตาน่อมแหน่มกรัชกายนะครับ
เพราะที่เรากำลังพูดอยู่มันเป็นเรื่องปัญหาจากคำศัพท์ :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2013, 04:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าพูดมากน่า ไปแทงไป แทงลึกๆ อย่าพูดมากรำคาญ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2013, 04:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
แนะนำทั้งผู้ปริยัติและปฏิบัติ หาเข็ม (เย็บผ้า ไม่มีเข็มก็เอาไม้เสียบลูกชิ้นปิ้งก็ได้) มาเล่มหนึ่ง ทิ่มเข้าไปที่แขน จิตก็จะเกิดที่แขน ทิ่มลงไปลึกๆที่ท้อง จิตก็จะเกิดที่ท้อง ฯลฯ ทิ่มเข้าไปใต้ราวนมด้านซ้ายแทงลงไปลึกๆ ให้ถึงหัวใจ จิตก็เกิดที่ตรงนั้นๆ ทิ่มที่หัวกะโหลกให้ทะลุถึงสมอง จิตก็จะเกิดทีนั่น แทงไปตามช่อง (ทวาร) ต่างๆ จิตก็เกิดที่นั่น ทดลองทำดู ดูจิตนะ

ซี่ซั่วพูดไปเรื่อย ถามหน่อยตอนที่เราเอาเข็มมาแทงตัวเองแบบนั้น
เราเป็นหุ่นยนต์หรือเปล่า มือเราเอาเข็มมาแทงเอง โดยไม่ต้องอาศัยจิตได้มั้ย
ก่อนที่จะเอาเข็มมาแทง จิตมันเกิดตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว จิตมันเกิดแล้วปรุงแต่งแล้ว
จนเป็น...กายสังขาร

กายสังขารเกิดจาก การที่จิตไปปรุงแต่งรูปกาย ให้กระทำกรรมไปตามเจตนาของจิต
ดังนั้นจิตมันเกิดที่ ใจกับธัมมารมณ์ เมื่อเกิดแล้ว เป็นวิถีจิต เป็นกระบวนการขันธ์
เป็นสังขารที่เรียกว่า....หลงอันมีโลภะเป็นปัจจัยร่วม
ขณะที่แทงตัวเองผลก็คือ จิตเป็นวิบาก อันเป็นผลมาจาก
จิตตัวแรกนั้นก็คือ มโนวิญาณ :b32:



ท่องไปเรื่อย ไปลองแทงลองทำดูแล้วค่อยมาพูดนะ คือเริ่มดูจิตตั้งแต่เริ่มหยิบเข็ม หรือไม้เสียบลูกชิ้นนะ :b12: ดูแต่ละขณะๆไป หยิบเข็มขึ้นก็รู้ แทงเข้าไปก็รู้ เข้าไปก็รู้ทะลุหัวใจก็รู้ รู้ทุกขณะๆนะครับนะ

ไปลองแทงลองทำดูนะ แล้วจะเห็นจิต :b32: เห็นมโนวิญญาณ มโนธาตุ มโนและศิรกราน ฯลฯ อะไรก็ว่าไป :b14: ธรรมะต้องพิสูจน์ด้วยการทำด้วยการปฏิบัติจริง ไม่ต้องพูดมากนะ :b9: ไปแทงก่อนไป

พี่อ่าง เถิดเทิ่งบอกว่า......ปังยาอ่อง :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2013, 05:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พูดจริงๆนะ โฮฮับอ่านๆเห็นๆแล้วรำคาญ คิกๆ ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยไม่ว่าจะปริยัติหรือปฏิบัติ แต่อาศัยหน้าทนไปเรื่อย :b9: ไปแทงตัวให้เลือดสาดก่อนแล้วมาเล่าสภาวะให้ฟังไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร