วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 23:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 82 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2012, 04:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว




556465_194073554055617_1892937278_a.jpg
556465_194073554055617_1892937278_a.jpg [ 9.98 KiB | เปิดดู 3557 ครั้ง ]
ลองไปค้นหาดูนะครับอาจพบช่องทางที่มีแสงสว่างครับ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2012, 10:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ขโมยขโจร....จะไปลักไปขโมยของใคร....มันก็มีความมุ่งมั่น..ตั้งใจ...คิดหาวิธีการ...ขณะขโมย..ก็ตั้งอกตั้งใจ...งัดประตูบ้าน..งัดตู้เซฟ...งัดไม่ได้..ก็หาวิธีการใหม่....เอาจนได้....

ความตั้งอกตั้งใจ...คือสมาธิ
สมาธิ...เกิดจาก..การมีสติต่อเนื่อง...
สติ...สมาธิ...จึงเป็นกลุ่มเดียวกัน...

แต่..การจะเป็น..สัมมา...หรือ..มิจฉา...ดูที่ว่า...มีเพื่ออะไร...ได้อะไรเป็นผล
หากเพื่อ
...การออกจากทุกข์...มีความพ้นทุกข์เป็นผล...ก็เรียก..สัมมาสติ...สัมมาสมาธิ
แต่ถ้า...ไม่เป็นการออกจากทุกข์...มีวัฏฏะสงสารเป็นผล....ก็เรียก...มิจฉา

ความต้องการออกจากทุกข์...นี้เป็นปัญญา
การมีความเห็นว่า...อกุศล..ไม่เป้นไปเพื่อการออกจากทุกข์...กุศล..เป็นไปเพื่อการออกจากทุกข์...นี้เป็นปัญญา
การมีความคิดว่า...เมื่ออกุศลเกิด...จะไม่ปรุงแต่งต่อ..การจะรู้ว่าอะไรเป็นกุศลหรืออกุศล...ต้องมีสติ...แต่เป็นสติที่มีการเลือกเอาใว้ล่วงหน้าแล้ว...เลือกใว้ด้วยปัญญาเพื่อการออกจากทุกข์

หากมองในปฏิจจะ....ผัสสะเกิด...เวทนาจึงมี...ตัณหาจึงมี..อุปาทานจึงมี...ภพจึงมี

แล้ว...เวทนา...สุข..ทุกข์..นี้เกิดอย่างอิสระหรือ??....ผมว่าไม่...มันมีจุดหมายไปทางภพหลัก ๆ ประจำใจของเรามากกว่า
ผู้มีปัญญาเพื่อออกจากทุกข์....ก็ตั้งภพที่เป็นกุศลภพ..อันเอื่อต่อความหลุดพ้น.โดยใช้สติ...เพื่อบายพาสเข้าสู่ภพที่เป็นคุณ
หากสติทันที่..ผัสสะ.....สุขสร่างทุกข์สร้าง...ที่เป็นเวทนาก็ไม่เกิด
หากสติไม่ทัน...เวทนาเกิดแล้ว...ก็ใช้สติ...มาทำบายพาสก่อนเกิดตัณหา...เป็นต้น

อิอิ....พอดีกว่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 13:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว




5377-3.gif
5377-3.gif [ 21.09 KiB | เปิดดู 3533 ครั้ง ]
อวิชชา แปลว่าความ ไม่รู้
อวิชชาไม่รู้อะไร อวิชชาไม่รู้ ๘ อย่าง คือ

๑. ความไม่รู้ใน "ทุกข์"
๒. ความไม่รู้ใน "สมุทัย"
๓. ความไม่รู้ใน "นิโรธ"
๔. ความไม่รู้ใน "มรรค"
๕. ความไม่รู้ใน "ความไม่รู้อดีต"
๖. ความไม่รู้ใน "ความไม่รู้อนาคต"
๗.ความไม่รู้ในทั้ง "อดีตและอนาคต"
๘.ความไม่รู้ใน "ปฏิจจสมุปบาท"

ความจริงที่อวิชชาไม่รู้นั้นส่วนมาก จะตีความหมายอวิชชากันแปลว่า "โง่"
แท้จริงแล้วอวิชชาเขาไม่รู้เพียงแค่ ๘ อย่างเท่านั้น นอกนั้นเขาก็รู้หมด
รู้อย่างที่วิชชา "รู้" (ยกเว้น ๘ อย่าง) อวิชชาตัวนี้เขาก็รู้ คือรู้อย่างวิญญานรู้ รู้แบบทางโลกๆรู้ เขารู้หมด
คนที่ขาดปัญญามีเหตุ ๒ คือทวิเหตุ ได้แก่ (อโลภะเหตุ อโทสะเหตุ)บุคคลผู้นี้ก็สามารถทำสมถะ
ก็จะได้ถึงอุปจารสมาธิ ถ้าทำวิปัสสนาก็สามารถเห็นไตรลักษณ์ได้เช่นกัน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 13:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
อวิชชา แปลว่าความ ไม่รู้
อวิชชาไม่รู้อะไร อวิชชาไม่รู้ ๘ อย่าง คือ

๑. ความไม่รู้ใน "ทุกข์"
๒. ความไม่รู้ใน "สมุทัย"
๓. ความไม่รู้ใน "นิโรธ"
๔. ความไม่รู้ใน "มรรค"
๕. ความไม่รู้ใน "ความไม่รู้อดีต"
๖. ความไม่รู้ใน "ความไม่รู้อนาคต"
๗.ความไม่รู้ในทั้ง "อดีตและอนาคต"
๘.ความไม่รู้ใน "ปฏิจจสมุปบาท"

ความจริงที่อวิชชาไม่รู้นั้นส่วนมาก จะตีความหมายอวิชชากันแปลว่า "โง่"
แท้จริงแล้วอวิชชาเขาไม่รู้เพียงแค่ ๘ อย่างเท่านั้น นอกนั้นเขาก็รู้หมด
รู้อย่างที่วิชชา "รู้" (ยกเว้น ๘ อย่าง) อวิชชาตัวนี้เขาก็รู้ คือรู้อย่างวิญญานรู้ รู้แบบทางโลกๆรู้ เขารู้หมด
คนที่ขาดปัญญามีเหตุ ๒ คือทวิเหตุ ได้แก่ (อโลภะเหตุ อโทสะเหตุ)บุคคลผู้นี้ก็สามารถทำสมถะ
ก็จะได้ถึงอุปจารสมาธิ ถ้าทำวิปัสสนาก็สามารถเห็นไตรลักษณ์ได้เช่นกัน

ลุงหมานครับ ลุงช่วยอ้างอิงพุทธพจน์ ส่วนที่เน้นสีแดงให้ดูหน่อยซิครับ
ผมฟังดูมันแหม่งๆอยู่นะครับ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 14:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
อวิชชา แปลว่าความ ไม่รู้
อวิชชาไม่รู้อะไร อวิชชาไม่รู้ ๘ อย่าง คือ

๑. ความไม่รู้ใน "ทุกข์"
๒. ความไม่รู้ใน "สมุทัย"
๓. ความไม่รู้ใน "นิโรธ"
๔. ความไม่รู้ใน "มรรค"
๕. ความไม่รู้ใน "ความไม่รู้อดีต"
๖. ความไม่รู้ใน "ความไม่รู้อนาคต"
๗.ความไม่รู้ในทั้ง "อดีตและอนาคต"
๘.ความไม่รู้ใน "ปฏิจจสมุปบาท"

ความจริงที่อวิชชาไม่รู้นั้นส่วนมาก จะตีความหมายอวิชชากันแปลว่า "โง่"
แท้จริงแล้วอวิชชาเขาไม่รู้เพียงแค่ ๘ อย่างเท่านั้น นอกนั้นเขาก็รู้หมด
รู้อย่างที่วิชชา "รู้" (ยกเว้น ๘ อย่าง) อวิชชาตัวนี้เขาก็รู้ คือรู้อย่างวิญญานรู้ รู้แบบทางโลกๆรู้ เขารู้หมด
คนที่ขาดปัญญามีเหตุ ๒ คือทวิเหตุ ได้แก่ (อโลภะเหตุ อโทสะเหตุ)บุคคลผู้นี้ก็สามารถทำสมถะ
ก็จะได้ถึงอุปจารสมาธิ ถ้าทำวิปัสสนาก็สามารถเห็นไตรลักษณ์ได้เช่นกัน

ลุงหมานครับ ลุงช่วยอ้างอิงพุทธพจน์ ส่วนที่เน้นสีแดงให้ดูหน่อยซิครับ
ผมฟังดูมันแหม่งๆอยู่นะครับ :b32:

ไม่ต้องอ้างครับ...ตรงตัวเป๊ะเลย คุณโฮฮับ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 19:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




ทาง 5 เส้น_resize.jpg
ทาง 5 เส้น_resize.jpg [ 45.59 KiB | เปิดดู 3513 ครั้ง ]
:b8:
ทางไปของสัตว์โลก มี 5 ทางเหมือนนิ้วมือทั้ง 5 นิ้ว
ดังแสดงในภาพครับ
onion
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2012, 06:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว




imagesCA2CZT2A.jpg
imagesCA2CZT2A.jpg [ 10.5 KiB | เปิดดู 3503 ครั้ง ]
asoka เขียน:
:b8:
ทางไปของสัตว์โลก มี 5 ทางเหมือนนิ้วมือทั้ง 5 นิ้ว
ดังแสดงในภาพครับ
onion

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2012, 06:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว




11155-1.jpg
11155-1.jpg [ 27.77 KiB | เปิดดู 3503 ครั้ง ]
สังสารวัฏฏ์

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แก้ไขล่าสุดโดย ลุงหมาน เมื่อ 11 ธ.ค. 2012, 08:25, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2012, 07:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว




images.jpg
images.jpg [ 8.89 KiB | เปิดดู 3500 ครั้ง ]
วิถีจิตข้ามโคตรสู่อริยะมรรค

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2012, 07:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว




6147-6.gif
6147-6.gif [ 6.86 KiB | เปิดดู 3499 ครั้ง ]
วิถีจิตที่นำไปสู่พระนิพพานแน่นอน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2012, 09:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
อวิชชา แปลว่าความ ไม่รู้
อวิชชาไม่รู้อะไร อวิชชาไม่รู้ ๘ อย่าง คือ

๑. ความไม่รู้ใน "ทุกข์"
๒. ความไม่รู้ใน "สมุทัย"
๓. ความไม่รู้ใน "นิโรธ"
๔. ความไม่รู้ใน "มรรค"
๕. ความไม่รู้ใน "ความไม่รู้อดีต"
๖. ความไม่รู้ใน "ความไม่รู้อนาคต"
๗.ความไม่รู้ในทั้ง "อดีตและอนาคต"
๘.ความไม่รู้ใน "ปฏิจจสมุปบาท"

ความจริงที่อวิชชาไม่รู้นั้นส่วนมาก จะตีความหมายอวิชชากันแปลว่า "โง่"
แท้จริงแล้วอวิชชาเขาไม่รู้เพียงแค่ ๘ อย่างเท่านั้น นอกนั้นเขาก็รู้หมด
รู้อย่างที่วิชชา "รู้" (ยกเว้น ๘ อย่าง) อวิชชาตัวนี้เขาก็รู้ คือรู้อย่างวิญญานรู้ รู้แบบทางโลกๆรู้ เขารู้หมด
คนที่ขาดปัญญามีเหตุ ๒ คือทวิเหตุ ได้แก่ (อโลภะเหตุ อโทสะเหตุ)บุคคลผู้นี้ก็สามารถทำสมถะ
ก็จะได้ถึงอุปจารสมาธิ ถ้าทำวิปัสสนาก็สามารถเห็นไตรลักษณ์ได้เช่นกัน

คุนน้องก็เข้าใจแบบนี้นะ. เพราะคุนน้องไล่ทวนกระแส ความเกิดดับของตนก็เข้าใจว่า อวิชชาคือความไม่รู้ในปฏิจฯ คือความไม่รู้ใน อริยะสัจท์ ซึ่งถ้าเราเห็นการเกิดดับของสายปฏิจฯ. เราต้องมาทวนเรื่องทุกในอริยสัจต่อไปจนกว่าจะปฏิบัติในองค์ มรรคให้เข้าถึงสภาวะนิโรธ ให้รู้แจ้งเห็นจริงถึงจะเอาอวิชชาออกไปได้ ไม่รู้เข้าใจถูกรึเปล่านะ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2012, 09:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมานครับ..... ถามหน่อยลุงเอารูปมาโพส แล้วไม่อธิบายความด้วย
แบบนี้ใครจะไปรู้เรื่องกับลุงครับ หรือจะให้ชาวบ้านเขาดูเป็นงานศิลป
แอบแทรกจินตนาการเอาเอง

ท่านผู้ชมครับ รูปมันมีพลัง มีจิตวิญญาณ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2012, 09:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
อวิชชา แปลว่าความ ไม่รู้
อวิชชาไม่รู้อะไร อวิชชาไม่รู้ ๘ อย่าง คือ

๑. ความไม่รู้ใน "ทุกข์"
๒. ความไม่รู้ใน "สมุทัย"
๓. ความไม่รู้ใน "นิโรธ"
๔. ความไม่รู้ใน "มรรค"
๕. ความไม่รู้ใน "ความไม่รู้อดีต"
๖. ความไม่รู้ใน "ความไม่รู้อนาคต"
๗.ความไม่รู้ในทั้ง "อดีตและอนาคต"
๘.ความไม่รู้ใน "ปฏิจจสมุปบาท"

ความจริงที่อวิชชาไม่รู้นั้นส่วนมาก จะตีความหมายอวิชชากันแปลว่า "โง่"
แท้จริงแล้วอวิชชาเขาไม่รู้เพียงแค่ ๘ อย่างเท่านั้น นอกนั้นเขาก็รู้หมด
รู้อย่างที่วิชชา "รู้" (ยกเว้น ๘ อย่าง) อวิชชาตัวนี้เขาก็รู้ คือรู้อย่างวิญญานรู้ รู้แบบทางโลกๆรู้ เขารู้หมด
คนที่ขาดปัญญามีเหตุ ๒ คือทวิเหตุ ได้แก่ (อโลภะเหตุ อโทสะเหตุ)บุคคลผู้นี้ก็สามารถทำสมถะ
ก็จะได้ถึงอุปจารสมาธิ ถ้าทำวิปัสสนาก็สามารถเห็นไตรลักษณ์ได้เช่นกัน

คุนน้องก็เข้าใจแบบนี้นะ. เพราะคุนน้องไล่ทวนกระแส ความเกิดดับของตนก็เข้าใจว่า อวิชชาคือความไม่รู้ในปฏิจฯ คือความไม่รู้ใน อริยะสัจท์ ซึ่งถ้าเราเห็นการเกิดดับของสายปฏิจฯ. เราต้องมาทวนเรื่องทุกในอริยสัจต่อไปจนกว่าจะปฏิบัติในองค์ มรรคให้เข้าถึงสภาวะนิโรธ ให้รู้แจ้งเห็นจริงถึงจะเอาอวิชชาออกไปได้ ไม่รู้เข้าใจถูกรึเปล่านะ :b1:

เพ้อเจ้อน่า เห็นการเกิดดับของขันธ์ห้าหรือยัง
พุทโธ่! พูดไปเรื่อย เห็นการเกิดดับสายปฏิจจ์ :b32:

ลุงหมานก็อีกคนพูดไปแบบนกแก้ว หาเหตุผลไม่ได้
หาคำอธิบายไม่มี ขาดการรับผิดชอบ แบบนี้พระพุทธเจ้าเรียกคำพูดของลุงหมานว่า.....
อนริยโวหาร คือเป็นคำพูดที่ไม่มีประโยชน์ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2012, 13:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
คุนน้องก็เข้าใจแบบนี้นะ. เพราะคุนน้องไล่ทวนกระแส ความเกิดดับของตนก็เข้าใจว่า อวิชชาคือความไม่รู้ในปฏิจฯ คือความไม่รู้ใน อริยะสัจท์ ซึ่งถ้าเราเห็นการเกิดดับของสายปฏิจฯ. เราต้องมาทวนเรื่องทุกในอริยสัจต่อไปจนกว่าจะปฏิบัติในองค์ มรรคให้เข้าถึงสภาวะนิโรธ ให้รู้แจ้งเห็นจริงถึงจะเอาอวิชชาออกไปได้ ไม่รู้เข้าใจถูกรึเปล่านะ :b1:


การศึกษาธรรมะเราต้องรู้ตาม คือรู้ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า จะไปรู้เองไม่ได้ นึกเอาเองก็ไม่ได้ ว่าน่าจะเป็นย่างนั้น ว่าน่าจะเป็นอย่างนี้ และต้องศึกษาให้ตรงคำสอน ถ้าผิดหลักคำสอนก็ต้องถือว่าไม่ใช่ธรรมะของพระพุทธเจ้า การศึกษาปริยัติจึงมีความสำคัญมาก ถ้าไม่รู้ปริยัติโอกาสผิดมีมาก

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2012, 13:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ลุงหมานครับ..... ถามหน่อยลุงเอารูปมาโพส แล้วไม่อธิบายความด้วย
แบบนี้ใครจะไปรู้เรื่องกับลุงครับ หรือจะให้ชาวบ้านเขาดูเป็นงานศิลป
แอบแทรกจินตนาการเอาเอง

ท่านผู้ชมครับ รูปมันมีพลัง มีจิตวิญญาณ :b32:


ก็แล้วแต่ใครจะมองอย่างไรแหละครับ...บางคนมองแล้วบาปเกิด บางคนมองแล้วบุญเกิด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 82 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร