กัลยาณมิตตตา เป็นไฉน?
บุคคลเหล่าใด เป็นคนมีศรัทธา มีศีล เป็นพหูสูต มีจาคะ มีปัญญา, การเสพ
การสัองเสพ การส้องเสพด้วยดี การคบ การคบหา ความภักดี ความจงรักภักดี ต่อบุคคลเหล่านั้น
ความเป็นผู้มีกายและใจโน้มน้าวไปตามบุคคลเหล่านั้น อันใด นี้เรียกว่า กัลยาณมิตตตา.

(พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๑ ธรรมสังคณีปกรณ์ สุตตันติกทุกะ)


ดูกรพยัคฆปัชชะ ก็กัลยาณมิตตตาเป็นไฉน กุลบุตรในโลกนี้ อยู่อาศัยในบ้านหรือนิคมใด
ย่อมดำรงตน เจรจา สั่งสนทนากับบุคคลในบ้านหรือนิคมนั้น ซึ่งเป็นคฤหบดี หรือ
บุตรคฤหบดี เป็นคนหนุ่มหรือคนแก่ ผู้มีสมาจารบริสุทธิ์ ผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา
ศึกษาศรัทธาสัมปทาตามผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา ศึกษาศีลสัมปทาตามผู้ถึงพร้อมด้วยศีล
ศึกษาจาคสัมปทาตามผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะ ศึกษาปัญญาสัมปทาตามผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญา
ดูกรพยัคฆปัชชะนี้เรียกว่ากัลยาณมิตตตา ฯ

(พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต ทีฆชาณุสูตร)


ลองนำมาเที่ยบกันดูครับ

บุคคลเหล่าใด เป็นคนมีศรัทธา มีศีล เป็นพหูสูต มีจาคะ มีปัญญา,

(บุคคลในบ้านหรือนิคม ซึ่งเป็นคฤหบดี หรือบุตรคฤหบดี เป็นคนหนุ่มหรือคนแก่ ผู้มีสมาจารบริสุทธิ์ ผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา )

การเสพการสัองเสพ การส้องเสพด้วยดี การคบ การคบหา ความภักดี ความจงรักภักดี ต่อบุคคลเหล่านั้น ความเป็นผู้มีกายและใจโน้มน้าวไปตามบุคคลเหล่านั้น

( ดำรงตน เจรจา สั่งสนทนา
ศึกษาศรัทธาสัมปทาตามผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา
ศึกษาศีลสัมปทาตามผู้ถึงพร้อมด้วยศีล
ศึกษาจาคสัมปทาตามผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะ
ศึกษาปัญญาสัมปทาตามผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญา )

อันใด นี้เรียกว่า กัลยาณมิตตตา.

ก็ย่าทักบอกว่า
พอคิดแบบนี้ ความหงุดหงิด โมโห โกรธา หายไป
กลับกลายเป็นความแช่มชื่น ทำงานได้อย่างไม่ติดขัด....ใครจะว่าบ้ายอก็ช่าง
ในเมื่อคิดแบบนี้แล้วทำให้ใจเราทุกข์น้อย โกรธน้อย.....



ย่าทักคิดอย่างนี้แล้ว สบายใจขึ้น นี่คะ

ย่ากับหลาน ค่อยๆ ปลอบกันไปนะครับ ห้ามออกอาการเลียะพะ ท้าตีท้าต่อย จนชาวบ้านตกใจอีก
เค้า กลัวอ่ะ ...บรื้อออ

สาธุจ้า

จร้าาาาาา

เช่นกันครับ คุณย่า .. แหะๆ