เพราะ..คำนี้ครับ...

เพราะก็เห็นคนมากมายทำลายทรัพยากรอยู่ทุกวัน และก็ได้รับการนับถือยกย่องสำหรับพวกกลุ่มอุตสาหกรรมเพราะนำเงินเข้าประเทศมากมายมหาศาล หรือบริจาคเงินให้วัดวาอาราม หรือเป็นspondser ให้พระต่างๆ ได้ออกวิทยุ ทีวี หรือsponsorเว็บบอรด์ธรรม(ก็มีมั๊ง) คือไม่เห็นได้เคยได้ยินจากพระรูปใดตือนนักธุรกิจอุตสาหกรรมเหล่านั้นว่าเป็นบาปนะ การทำลายทรัพยากรนี้ (หรือว่ากลัวขาดsponserรายใหญ่ก็ไม่รู้นะ:-)

เกรงว่า...ความไม่ละเอียดรอบคอบ..ของใจท่าน...จะทำให้เกิดอกุศลโดยความไม่ตั้งใจ
นะครับ..

ประทานโทษครับ...หากเขียนไม่กระจ้างแล้วทำให้ท่านปวดหัว..

กระผมหมายความว่า...ใจคอยแต่เฝ้ากังวลว่า.นี้จะบาปไหม??นั้นจะบาปไหม??...จนไม่เป็นอันทำอะไร...เรียกว่าจิตฟุ้งซ่าน....ไม่สงบ

กระผมก็เลยตั้งข้อสังเกตุว่า....หากเราตั้งใจทำดี...แต่ทำแล้วใจก็ไม่สงบ..ระงับ..ตั้งมั่น..ก็ให้ฉุกคิดหน่อยว่า...สิ่งที่กำลังทำอยู่..น่าจะยังมีส่วนที่ไม่ถูกอยู่แน่ ๆ

แค่นี้แหละครับ..

ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจนะครับว่า การทำลายกับการนำมาใช้ประโยชน์มันต่างกัน
หวังว่าคุณคงรู้นะครับว่าอันไหนบาป อันไหนไม่บาป

เรื่องการทำลายไม่ต้องพูดถึงเพราะมันไม่ดีอยู่แล้ว สิ่งที่เราสมควรดูก็คือการนำมาใข้ประโยชน์
ประโยชน์ที่ว่ามันคืออะไร เป็นคุณประโยชน์ในด้านไหน เราต้องแยกแยะให้ถูกครับ

ที่แน่ๆและเป็นสิ่งที่ถูกก็คือ การนำทรัพยากรมาเป็นปัจจัยสี่ให้แก่เรา
หรือเป็นตัวกลางนำทรัพยากรเหล่านั้น มาเป็นปัจจัยสี่ให้แก่มนุษยชาติ

การเอาทรัพยากรมาทำประโยขน์ที่เกินเลยจากปัจจัยสี่ มันเข้าข่ายของ
การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ มันไม่ดีหรือที่คุณถามว่าบาปมั้ยนั้นแหล่ะครับ

ที่ผมบอกว่า "เพราะก็เห็นคนมากมายทำลายทรัพยากรอยู่ทุกวัน และก็ได้รับการนับถือยกย่องสำหรับพวกกลุ่มอุตสาหกรรมเพราะนำเงินเข้าประเทศมากมายมหาศาล หรือบริจาคเงินให้วัดวาอาราม หรือเป็นspondser ให้พระต่างๆ ได้ออกวิทยุ ทีวี หรือsponsorเว็บบอรด์ธรรม(ก็มีมั๊ง) คือไม่เห็นได้เคยได้ยินจากพระรูปใดตือนนักธุรกิจอุตสาหกรรมเหล่านั้นว่าเป็นบาปนะ การทำลายทรัพยากรนี้ (หรือว่ากลัวขาดsponserรายใหญ่ก็ไม่รู้นะ:-)"

ผมก็หมายความตามที่ผมเขียนนี้และครับ
แต่ก็ขอบคุณคุณกบนอกกะลาที่ช่วยเตือนผม

ใครทราบไหมว่าผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติจนทำให้โลกเกิดภัยภิบัติ ผู้คนเดือดร้อนล้มตายมากมายจะได้รับผลกรรมเช่นไร
มันคงยากที่จะรู้เพราะถ้าย้อนเวลากลับไปจนถึงไหนๆ จนถึงกำเนิดโลกใบนี้เลยก็ได้มั๊ง ไม่มียุคใดสมัยใดที่มนุษย์เราจะทำได้ขนาดนี้ พื้นแผ่นดิน บ้านของตัวเองแท้ๆ ทำเข้าไปได้แล้วก็ยังทำกันอยู่ทุกวี่ทุกวัน
ผมไม่เคยได้ยินว่าจะรับผลกรรมเช่นไร ถ้าทำชั่วแบบอื่นเราก็อาจเคยได้ยินว่า ตายไปจะโดนอย่างโน้นอย่างนี้ เพราะบางคนสามารถไปนรก/เห็นนรกได้ แล้วก็เอามาเตือนกัน
พวกนายทุนนักอุตสาหกรรมก็อย่าพึ่งดีใจไป เพราะกรรมเวรนั้นมีจริง

ครับเวรกรรมนั้นมีจริง ถึงทรัพยากรธรรมชาติมันจะพูดไม่ได้ แต่มันก็แสดงออกได้อย่างชัดเจนทีเดียวใช่ไหม?

หลายๆท่านก็คงมีโอกาสส่งกำลังใจ ส่งสะตังไปช่วยประเทศญี่ปุ่นกันแล้ว ในฐานะชาวพุทธเราก็น่าจะลองมองพิจารณาด้วยว่า มันคือวิบากกรรมอะไรหนอที่ต้องทำให้เขาเหล่านั้นเผชิญความทุกข์ ลำบากสาหัสเช่นนี้? นึกถึงในพระไตรปิฏกจะมีอยู่ไม่มากก็น้อย พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงเล่าที่มาที่ไปในอดีตชาติที่ทำให้เกิดผลลัพธ์แบบนั้นๆในชาตินี้ ผมก็ไม่มีญาณวิเศษอะไรหรอก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะคิดขึ้นว่า ก็ญี่ปุ่นนี้ก็จัดเป็นตัวพ่อได้เลยนะของการทำลายทรัพยากร/ทำลายโลก เพราะเขาคือเจ้าพ่อของวงการ อุตสาหกรรมมีมากมายกระจายไปทั่วโลกเพื่อทำลายผืนดินและ/หรือผืน น้ำ/อากาศ/ท้องฟ้านี้ รวมทั้งอเมริกาซึ่งก็เป็นอีกตัวพ่อนึง เห็นข่าวโดนพายุทอร์นาโดถล่มในหลายๆเมือง ทั้งหิมะ ทั้งน้ำท่วมเยอะแยะไปหมด ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ครับ พวกท่านนักธุรกิจอุสาหกรรมที่คิดว่าตัวเองเก่งเสียเต็มประดา ทำเป็นวางตัว ภูมิอกภูมิใจเหลือเกิน ภายใต้มิจฉาทิฐิที่มีอยู่เต็มสมอง ที่่ในความเป็นจริงกำลังนำพาโลกสู่หายนะ?

การเห็นคุณค่าในคำที่เราไม่ชอบ....นับว่า...เยี่ยม...

แล้ว...รู้ไหม..ว่าอะไรเป็นเหตุ...ให้คนทำลายธรรมชาติ...

1. ความโลภ...อยากทำให้ตัวเองสบาย...มีไฟฟ้าใช้..จึงสบาย...มีรถมีเครื่องบิน..ก็เพื่อความสบาย...พอมีแล้ว..ก็อยากมีให้มาก ๆ ..คิดว่า..มีแค่นี้ยังสบายขนาดนี้..ถ้ามีมาก ๆ ก็คงสบายมากกว่านี้..แล้วยังสรรหาว่าแบบนี้ดีกว่าแบบนั้น...ยุ่งยากเข้าไปใหญ่

2. ที่โลภก็เพราะความหลง...หลงผิดคิดว่า..เราคือตัวนี้..เท่านั้น...ดังนั้น..มันจึงคิดแต่บำรุงร่างกายนี้..แบบไม่ลืมหูลืมตา...ใครจะว่า..ทำแล้วสิ่งแวดล้อมจะเป็นพิษ...มันก็ว่า..กว่าจะเป็นพิษกูก็ตายก่อนแล้ว...ไม่ได้รับรู้อะไรหรอก...

ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า..มันไม่รู้ว่า...มันจะต้องมาเกิดอีก...เกิดมาพอดีรับกรรมจากสิ่งแว้ดล้อมที่มันเคยทำลาย...ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า...

ถ้าคุณใช้ชีวิตประจำวันโดยการไม่ขี่รถ/ขับรถ/ไม่ใช้ไฟฟ้า/ไม่ใช้น้ำประปา/ไม่ใช้เทคโนโลยี่ต่างๆ ผมจะไม่ว่าคุณเลยแต่นี้นอกจากคุณต้องใช้สิ่งเหล่านี้แล้วคุณยังมานั่งเล่นคอมอีก แล้วก็ไปว่าคนนั้นคนนี้อย่างนี้มันถูกต้องแล้วหรอ หลักคำสอนของพระพุทธศาสนาก็บอกอยู่แล้วว่า อนิจจัง คือความไม่เที่ยง เปลียนแปลงตลอดเวลา เกิดขึ้น ตั่งอยู่ ดับไป โลกก็เช่นเดียวกัน ยอมเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา จะให้โลกหยุดอยู่กับที่คงเป็นไปไม่ได้

ค่ะ คิดดี ทำดี ได้ดี ทำลายธรรมชาติ เป็นเหตุ ผลธรรมชาติจะทำลาย เรา เป็นผล

เรียนคุณสัจธรรมของชีวิตครับ ผมจะช่วยขจัดมิจฉาทิฐิที่คุณมีให้นะครับ ที่คุณว่า
"ถ้าคุณใช้ชีวิตประจำวันโดยการไม่ขี่รถ/ขับรถ/ไม่ใช้ไฟฟ้า/ไม่ใช้น้ำประปา/ไม่ใช้เทคโนโลยี่ต่างๆ ผมจะไม่ว่าคุณเลยแต่นี้นอกจากคุณต้องใช้สิ่งเหล่านี้แล้วคุณยังมานั่งเล่นคอมอีก แล้วก็ไปว่าคนนั้นคนนี้อย่างนี้มันถูกต้องแล้วหรอ"
ผมจะเปรียบเทียบนี่กับที่ว่า ศีลข้อ1 ห้ามฆ่าสัตว์ แต่คนกินเนื้อสัตว์ไม่ใช่จะผิดศีลไปด้วยนะครับ คุณลองพิจารณา ถ้าไม่เข้าใจก็ถามกลับมาได้ครับ
ที่คุณว่า "หลักคำสอนของพระพุทธศาสนาก็บอกอยู่แล้วว่า อนิจจัง คือความไม่เที่ยง เปลียนแปลงตลอดเวลา เกิดขึ้น ตั่งอยู่ ดับไป โลกก็เช่นเดียวกัน ยอมเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา จะให้โลกหยุดอยู่กับที่คงเป็นไปไม่ได้"
แล้วยังไงเหรอครับ ไม่เห็นเกี่ยวกับที่พวกนักธุรกิจอุตสาหกรรมทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ทำลายโลก แล้วก็ยังทำอยู่ เกิดภัยพิบัติ ผู้คนลำบาก ล้มตาย ไปทั่ว ซึ่งก็ไม่รู้พวกนักธุรกิจอุตสาหกรรมจะไปลงนรกขุมไหนเหมือนกัน

กินเนื้อสัตว์ที่เขาฆ่า แล้วไปด่าคนที่ฆ่าสัตว์ว่าบาปอย่างนั้นบาปอย่างนั้น แบบนี้มันไม่บาปได้ไง ก็ไม่ต่างอะไรกับที่คุณมานั่งเล่นคอมแล้วไปด่าคนที่ผลิตคอมว่าผลิตออกมาทำไมทำร้ายโลกเปล่า

แล้วเมื่อ100ปีที่แล้วโลกยังไม่เจริญแต่มาปัจจุนันโลกมีความเจริญมากแล้วความเจริญนั้นเกิดจากอะไรหรอถ้าไม่ใชเกิดจากการพัฒนาของมนุษย์

คุณสัจจะธรรมของชีวิต
ด่าหมายถึง ใช้ถ้อยคําว่าคนอื่นด้วยคําหยาบช้าเลวทราม ผมใช้ตรงไหนเหรอ บอกด้วยแล้วผมจะได้ระวังการใช้คำ จุดประสงค์ผมจริงๆคืออยากให้พวกนายทุนนักธุรกิจอุตสาหกรรม ได้คิด และเลิกซะ โลกเรามันโดนทำลายหนักหนาแล้ว พอได้แล้ว แต่นี่ยังคิดหลงตัวเองว่ากำลังทำความดีไปซะอีก
ฆ่าสัตว์นั้นบาปแต่พระพุทธเจ้าก็กินเนื้อสัตว์
ที่คุณบอกว่า"แล้วเมื่อ100ปีที่แล้วโลกยังไม่เจริญแต่มาปัจจุนันโลกมีความเจริญมากแล้วความเจริญนั้นเกิดจากอะไรหรอถ้าไม่ใชเกิดจากการพัฒนาของมนุษย์"
พัฒนาก็พัฒนาซิแต่นี่คุณทำลายซะโลกปั่นป่วน เขาเรียกพวกคุณว่าอย่างไรนะ แบบเอาแต่ความดีเข้าตัว ความชั่วที่ตัวทำก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
นรกแบบไหนน้าที่พวกคนอย่างคุณจะต้องเจอ???
กลับตัวกลับใจเสียเถอะ

ผมพูดตอนใหนหรอว่าคนที่กินเนื้อที่เขาฆ่าแล้วบาป