คุณกรัชกายตามลุ้นอย่างใกล้ชิดทีเดียว

อนุโมทนาที่นำมาเสนอเรื่องความสุขด้วยนะคะ แต่ชีวิตคู่น่ะ จะทุกข์มากกว่าสุขน่ะซิคะ ไม่อาจจะหยั่งน้ำใจใครได้น่ะ ที่ว่าดีนักหนา พอแต่งแล้วมันก็อาจเป็นอื่นได้อีก น่ากลัวจัง

กามสุข มิใช่ เพียงชีวิตคู่ (ทางเพศ) เท่านั้น กระทบอารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ที่น่าปรารถนา น่า

พอใจ แล้วรู้สึกเป็นสุข ก็เรียกว่า กามสุข (สามิสสุข) ศึกษาต่อลิงค์นั้นครับ แล้วศึกษา อัสสาทะ

อาทีนวะ นิสสรณะด้วย

จะสมัครบอร์ดที่คุณกรัชกายให้ลิ้งค์มาแต่สมัครไม่ได้อ่ะ มองไม่เห็นกล่องสำหรับตอบคำถามที่คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า

หรือครับเป็นไปได้ไง ใต้คำว่า สาธารณะมีอยู่สามช่องเอง ช่องที่สามนั่นแหละที่ถามหา

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?action=register


คุณมีเวลาอ่านบทความยาวไหม

อ่านดูครับ ความหมายกามสุข

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?topic=518.0

นี้ความหมายสุขที่ประณีตยิ่งกว่ากามสุขนั้น คือ จากอันดับที่สองไป

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?topic=531.0

หากไม่มีพื้นฐานเลย ก็อ่านเข้าใจยากครับ

เต็มๆยืดยาวก็ลิงค์นี้ครับ

viewtopic.php?f=2&t=19000

นั่นซอยให้สั้น สำหรับคนสมาธิสั้นอ่าน

บางคนใช้แค่..สติปัญญา..ก็เจอทุกข์ได้..ไม่ต้องพาตัวไปเจอทุกข์จริง ๆ

บางคนต้องให้เจอทุกข์กับตัว...จึงจะซึ้ง..กับคำว่าทุกข์

คนอยากจะมีเมียก็ปล่อยเค้าไปเถอะ แล้วจะรู้ว่าไม่น่าเอาเชือกมาผูกคอตัวเองเลย

Positive Thinking มองแต่มุมบวก ค้นหาแต่สิ่งที่ดี

มองเธอด้วยสายตาที่มุ่งจะค้นหาว่าผู้หญิงคนนี้มีดีอะไรบ้างน้อ ประกายตาของคุณจะฉาบ อิ่มไปด้วยความปารถนาดี มิตรไมตรี และอบอุ่น

ทักทาย ทำความรู้จักให้ได้ก่อน โดยวิธีการหรือเทคนิคใดๆก็ได้

ต่อจากนั้นไปก็ใชฆราวาสธรรม ข้อ สังคหวัตถุ 4 คือ

1.ทาน กาให้ปันสิ่งของ

2.ปิยวาจา พูดจาปราศัยกันด้วยวาจาอันไพเราะ

3.อัตถจริยา ประพฤติตนเป็นคนดี มองเธอแต่มุมบวก แง่ดี อย่างสม่ำเสมอ เสมอต้นเสมอปลาย ตลอดไป

4.สมานัตตา ถ้อยทีถ้อยอาศัย ใช้เมตตาเป็นหลักเชื่อมประสาน รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราพิจารณา พูดจากันด้วยเหตุและผล จงคิ้ดแต่จะให้ ไม่คิดแต่จะเอา เมื่อเขาเห็นความดีของเราแล้วเขาจะให้กลับคืนทุกสิ่งทุกอย่าง ด้วยใจ

การคบมิตรหญิงเป็นศิลปะ ที่ต้องรู้จักใช้สติ ปัญญา เฝ้าดู เฝ้าสังเกต พิจารณา ศึกษา สังเกตการณ์เอาเอง เหมือนกับการทำวิปัสสนาภาวนานั่นแหละครับ แต่นี่เราเอาธรรมมาประยุกต์ใช้ทางโลก

อายุ 32 ปีแล้ว อยากชิมรสชีวิตคู่ ให้รู้ว่าเผ็ด เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ทุกข์ หรือสุข อย่างไร ก็ไปพิสูจน์เสียให้อิ่มพอ รู้จริงๆแล้วก็ เวลาไปบวชในวันหน้า จะได้ไม่มีเรื่องมาพาให้สึกอีก

อิอิ..จีบสาวไม่ยากอย่างที่คิดหรอก..มีหลักใหญ่ๆ ดังนี้

- ใจกล้า หน้าด้าน ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก
- เช้าถึง เย็นถึง ชวนทานข้าว ตอนเย็น
- หาดอกไม้ธูปเทียน เอ้ย..ไม่ใช่ ของกำนัลสวยๆ ราคาไม่แพงแต่ราคาพอควร
- เข้าถึงครอบครัว อย่าหน่ายที่จะทำตัวให้เป็นประโยชน์ (ถ้ารักจริงหวังแต่ง..)
- ตอนค่ำ ส่ง SMS เช่น รักนะ จุ๊บ ๆ,คิดถึง,ฝันดีนะ

หากประสบผลสำเร็จ หลังแต่งงาน ผ่านไปสัก ๗-๑๐ ปี มีหลักคิดดังนี้(แสดงว่ารักกันจริงๆ..)

- พูดน้อย ฟังให้มาก บางเรื่องทำหูทวนลมเสีย
- ฝึกวิชาป้องกันตัว โดยเฉพาะวิชาตัวเบาและการหลบหลีก
- ฝึกเมตตาให้มาก อดทนมีขันติ
- ฝึกกายาคตา ฝึกอสุภะ เข้าไว้จนเป็นนิสัย

อิอิ ไม่สงวนสิทธิ์จ้ะ.. (คนหล่อๆ ต้องฟันหลอ.. )

ถ้าอยู่ดี ๆ ไปขอเบอร์ก็ลำบากนะ คุณลองคิดดูถ้าคุณเป็นผู้หญิง อยู่ดีดีมีหนุ่มที่ไหนไม่รู้ ไม่รู้จักมาขอเบอร์คุณจะกล้าให้มั้ย ก่อนอื่นคุณต้องทำความรู้จักให้เค้าเชื่อใจก่อนนะ สังคมสมัยนี้หลอกลวงเป็นข่าวกันเยอะนะคะ มันต้องเริ่มจากการไว้ใจกันก่อนนะ ทำให้เข้าเชื่อใจว่าคุณไม่ได้มาหลอกนะ

เอาใจช่วยให้เจอคุ๋ชีวิตที่ดี มีศิลธรรมนะคะ

จงทำตนให้คนมาจีบ จนถึงขนาดรุมจีบ
ก็จะหมดปัญหาเรื่องการตามจีบชาวบ้านชาวเมือง

น้อมคิดว่าเป็นผู้ชาย ไม่เห็นจะมีอะไรที่น่าไม่กล้า หรือน่าอายตรงไหน

เป็นผู้หญิงซิลำบาก

แต่น้อมเป็นคนชอบฟังเพลง ได้ยินเพลงประมาณว่า ผู้ชายชอบแอบเก็บซ่อนความรู้สึกในใจ ...ยิ่งกว่าผู้หญิงอีก ผู้หญิงอาจแค่แสดงออกน้อย ไม่อยากแสดงออกมากกลัวไม่งาม แต่ผู้ช่ายกลับเก็บข่ม ข่มไว้ในใจ คล้ายๆเก็บกดอย่างหนึ่ง

น้อมก็มานั่งคิดว่าเป็นเพราะอะไร...สงสัยว่ากลัวเสียฟอร์มใช่ไหม หรือไม่ก็กลัวถูกปฏิเสธ

ตามอ่านทั้ง ๒ หน้า ก็ไม่เจอเจ้าของกระทู้ตอบ สงสัย จ้าโดนเก็บเสียแล้วนะ