วันเวลาปัจจุบัน 21 มิ.ย. 2025, 08:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 39 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 12:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 05:27
โพสต์: 49

อายุ: 0
ที่อยู่: www.ccagthailand.com

 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธศาสนา ไม่ได้สอนให้แบมือขอ สวดมนต์อ้อนวอน ให้คนอื่นมาช่วย สิ่งที่ตนหวังดังใจ

แต่สอน ให้เราพึ่งตนเอง ให้รู้จักตนเอง ให้เฝ้าระวังทวารทั้ง ๖ เข้าก็รู้ ออกก็รู้ สิ่งที่ดีก็รับ สิ่งไม่ดีก็รับ

แล้วมาพิจารณาเลือกเอา ด้วยปัญญา

พุทธศาสนาจะให้โทษ สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญญา โง่เขลา มืดบอด แล้วเอาไปอวดอ้างว่ารู้

.....................................................
ธาตุ๔ ขันธ์ ๕ ทวาร ๖


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 14:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มี.ค. 2010, 20:06
โพสต์: 46

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกสรรพสิ่งมีทั้งคุณและโทษ เหมือนร่างกายเรานี้แหละ
เอาไปปล้น ไปฆ่า ไปทำชั่ว ก็เป็นโทษ
เอาไปรักษาศีล เอาไปภาวนา เจริญปัญญา ก็เป็นคุณ

smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 16:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
พุทธศาสนามีทั้งคุณและโทษ
เผยแผ่ ดี ถูกต้อง ก็เป็นคุณ
เผยแผ่ ไม่ดี ไม่ถูกต้อง ก็เป็นโทษ


พระพุทธศาสนาประกอบด้วยส่วนหลัก ๓อย่างคือ

๑.พระพุทธเ้จ้า

๒.พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน

๓. พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า

เมื่อตรวจสอบส่วนประกอบทั้ง๓นี้แล้ว ย่อมเห็นได้โดยแน่แท้ว่า ไม่มีส่วนใดหรือส่วนใหนเป็นส่วน"เสีย"เลย มีแต่คุณควรค่าแก่การเคารพบูชาเลื่อมใสและปฏิบัติตามทั้งสิ้น...ข้อที่จขกท ยกมาตั้งเป็นหัวข้อจึงไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามหลักความจริง..

ทั้งข้อความข้างบนที่จขกท ปรารภไว้ ก็ไม่มีเหตุผล เพราะศาสนาพุทธโดยทั้งสิ้นควรค่าแก่การเผยแพร่ เพราะมีแต่คุณโดยส่วนเดียว หาความเป็นโทษใดๆไม่ได้เลย ..พึงทราบว่าประการแรก พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ย่อมทรงกล่าวหรือตรัสสอนแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่สรรพสัตว์ ทรงละเว้นได้แล้วซึ่งมิจฉาวาจา ย่อมไม่กล่าวสิ่งไร้สาระไม่มีประโยชน์หรือนำทุกข์โทษมาให้เหล่าสัตว์ผู้ทุกข์ยาก...ประการที่สอง ธรรมะที่ทรงตรัสสอนมีรสเดียวคือ วิมุตฺติรส ได้แก่ รสแห่งความหลุดพ้น คือพระนิพพาน เพราะฉะนั้น จึงไม่อาจกล่าวได้เลยว่า พุทธศาสนามีทั้งคุณและโทษ..ควรแต่จะกล่าวว่าพุทธศาสกอปรด้วยคุณอันยิ่งโดยประการเดียวโดยแท้..

ส่วนที่เป็นโทษนั้น หาใช่พุทธศาสนาไม่ แต่เป็นสิ่งอื่น ได้แก่กิเลสตัณหาของปุถุชนเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ส่วนประกอบของพุทธศาสนาแต่ประการใด พึงแยกแยะให้ถูกต้องชัดเจน จะได้ไม่กล่าวจ้วงจาบให้เกิดโทษหนักหนาสาหัสแก่ตนโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เช่นนี้ :b54: :b54: :b54:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 17:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 09:08
โพสต์: 16


 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธศาสนามีทั้งคุณและโทษ

เผยแผ่ ดี ถูกต้อง ก็เป็นคุณ
เผยแผ่ ไม่ดี ไม่ถูกต้อง ก็เป็นโทษ

ยืนยันเหมือนเดิมครับ

:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 17:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ใบไผ่เขียว เขียน:
ต่างคนต่างปัญญา ต่างความเชื่อ ต่างความเห็น เรื่องใดอ่านแล้วจินตนาการเข้าได้กับลัทธิความเชื่อของตน
ก็ถือว่าเรื่องนั้นถูกต้อง เพราะเป็นไปตามการวินิจฉัยของตน เอาตนเป็นที่ตั้ง

แต่ศาสนาพุทธไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเชื่อหรือความเห็นของใคร ศาสนาพุทธขึ้นอยู่กับสัจจธรรมความจริง
ความจริงเป็นอย่างไร ก็เป็นอยู่อย่างนั้น ไม่เคยเปลี่ยนไปตามความเชื่อ ความเห็นของใคร

พุทธศาสนามีทั้งคุณและโทษ
เผยแผ่ ดี ถูกต้อง ก็เป็นคุณ
เผยแผ่ ไม่ดี ไม่ถูกต้อง ก็เป็นโทษ

:b8:


ที่มีคุณมีโทษ ไม่ใช่ตัวศาสนา แต่คือ "ทิฏฐิ"

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 17:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
ใบไผ่เขียว เขียน:
ต่างคนต่างปัญญา ต่างความเชื่อ ต่างความเห็น เรื่องใดอ่านแล้วจินตนาการเข้าได้กับลัทธิความเชื่อของตน
ก็ถือว่าเรื่องนั้นถูกต้อง เพราะเป็นไปตามการวินิจฉัยของตน เอาตนเป็นที่ตั้ง

แต่ศาสนาพุทธไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเชื่อหรือความเห็นของใคร ศาสนาพุทธขึ้นอยู่กับสัจจธรรมความจริง
ความจริงเป็นอย่างไร ก็เป็นอยู่อย่างนั้น ไม่เคยเปลี่ยนไปตามความเชื่อ ความเห็นของใคร

พุทธศาสนามีทั้งคุณและโทษ
เผยแผ่ ดี ถูกต้อง ก็เป็นคุณ
เผยแผ่ ไม่ดี ไม่ถูกต้อง ก็เป็นโทษ

:b8:


ที่มีคุณมีโทษ ไม่ใช่ตัวศาสนา แต่คือ "ทิฏฐิ"


ท่านเช่นนั้น ตอบอย่างนี้ได้ไหมครับ มีคุณมีโทษ ไม่ใช่ช้าง แต่อยู่ที่คนมอง (คลำ) เห็นช้าง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 17:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
ท่านเช่นนั้น ตอบอย่างนี้ได้ไหมครับ มีคุณมีโทษ ไม่ใช่ช้าง แต่อยู่ที่คนมอง (คลำ) เห็นช้าง


มองเฉยๆ ยังพอลุ้น แต่ถ้าแสดงตามทิฏฐิด้วย สิแย่แน่เลย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 17:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ท่านเช่นนั้น ตอบอย่างนี้ได้ไหมครับ มีคุณมีโทษ ไม่ใช่ช้าง แต่อยู่ที่คนมอง (คลำ) เห็นช้าง


มองเฉยๆ ยังพอลุ้น แต่ถ้าแสดงตามทิฏฐิด้วย สิแย่แน่เลย


ขอคำอธิบายทิฐิแต่ละอย่างๆสิครับ มีเท่าไหร่ อะไรบ้าง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 17:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พรหมชาลสูตร

ทิฏฐิทั้งหลายทั้งปวงในโลกนี้ ก็ไม่พ้นข่ายพระญาณของพระพุทธองค์
กรัชกาย คลิกเข้าไปทำความเข้าใจให้ดีครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 18:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า

ธรรมของพระตถาคต เมื่อเข้าไปประดิษฐานในสันดานของปุถุชนแล้ว ย่อมกลายเป็นของปลอม (สัทธรรมปฏิรูป) ไป แต่ถ้าเข้าไปประดิษฐาน ในจิตสันดานของพระอริยเจ้าแล้วไซร้ย่อมเป็นของบริสุทธิ์แท้จริง และเป็นของไม่ลบเลือนด้วย

เพราะฉะนั้น เมื่อยังเพียรแต่เรียนพระปริยัติธรรมถ่ายเดียว จึงยังใช้การไม่ได้ดี ต่อเมื่อมาฝึกหัดปฏิบัติจิตใจ กำจัดเหล่ากะปอมก่า คือ อุปกิเลสแล้วนั่นแหละ จึงจะยังประโยชน์ให้สำเร็จเต็มที่ และทำให้พระสัทธรรมบริสุทธิ์ไม่วิปลาสคลาดเคลื่อนจากหลักเดิมด้วย

ฝึกตนดีแล้วจึงฝึกผู้อื่น ชื่อว่าทำตามพระพุทธเจ้า

ปุริสทัมมสารถิ สัตถา เทวมนุสสานํ พุทโธ ภควา สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงทรมานฝึกหัด พระองค์จนได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็น พุทโธ ผู้รู้ก่อนแล้วจึงเป็น ภควา ผู้ทรงจำแนกแจกธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ สัตถา จึงเป็นครูของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้ฝึกบุรุษผู้มีอุปนิสัยบารมีควรแก่การทรมานในภายหลัง จึงทรงพระคุณปรากฏว่า

กัลยาโณ กิตติสัทโท อัพภุคคโต เสียงเกียรติศัพท์อันดีงามของพระองค์ ย่อมฟุ้งเฟื่องไปในจาตุรทิศจนตราบเท่าทุกวันนี้ แม้พระอริยสงฆ์สาวกเจ้าทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วก็เช่นเดียวกันปรากฏว่าท่านฝึกฝนทรมานตนได้ดีแล้ว จึงช่วยพระบรมศาสดาจำแนกแจกธรรมสั่งสอนประชุมชนในภายหลัง ท่านจึงมีเกียรติคุณปรากฏเช่นเดียวกันกับพระผู้มีพระภาคเจ้า

ถ้าบุคคลไม่ทรมานตนให้ดีก่อนแล้วและทำการจำแนกแจกธรรมสั่งสอนไซร้ ก็จักเป็นผู้มีโทษปรากฏว่า ปาปโก สทโท โหติ คือเป็นผู้มีชื่อเสียงชั่วฟุ้งไปในจาตุรทิศ เพราะโทษที่ไม่ทำตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอริยสงฆ์สาวกเจ้าในกาลก่อน ทั้งหลาย ฯลฯ

ข้อมูลนี้มาจากหนังสือ มุตโตทัย แสดงโดย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

อ่านจบแล้วขอให้ทุกท่านพิจารณ์ว่า พุทธศาสนามีทั้งคุณและโทษจริงหรือไม่?

มาพิจารณากระทู้ คุณใบไผ่เขียว จะเห็นว่า

เผยแผ่ ดี ถูกต้อง ก็เป็นคุณ คือ
กัลยาโณ กิตติสัทโท อัพภุคคโต เสียงเกียรติศัพท์อันดีงามของพระองค์ ย่อมฟุ้งเฟื่องไปในจาตุรทิศจนตราบเท่าทุกวันนี้

เผยแผ่ ไม่ดี ไม่ถูกต้อง ก็เป็นโทษ คือ
ปาปโก สทโท โหติ คือเป็นผู้มีชื่อเสียงชั่วฟุ้งไปในจาตุรทิศ

อีกอย่าง พระพุทธองค์ทรงตั้งพระพุทธศาสนาขึ้น ทรงบัญญัติพระวินัยและแสดงโทษของการละเมิดพระวินัยตามมา เป็นการป้องปราบมิให้สาวกประพฤติ เพราะมีโทษจริง ตั้งแต่โทษหนัก จนถึงลหุโทษ เปรียบได้กับกฎหมายของทางโลกเลย

แหะ..ไม่ใช่ผู้รู้ครับ ผิดพลาดประการใด ขอประทานอภัย..ขอรับ :b12: :b8:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 23:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 13:15
โพสต์: 6

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ใบไผ่เขียว เขียน:
pupea2552 เขียน:
ไม่ทราบว่าพระเทวทัตใช้ศาสนาเพื่อความเป็นใหญ่อย่างไร จขกท.โปรดชีแจ้ง
ให้ทราบด้วยเพราะเท่าที่ทราบ พระเทวทัตใช้การกระทำของตนเองไปในทางที่ผิดไม่ใช่ใช้ศาสนา
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แจ้งข้อสงสัยด้วยค่ะ

ถามว่าตอนนั้นพระเทวทัต เป็นพระสงฆ์หรือฆารวาส?
หากเป็นฆารวาส พระสงฆ์ส่วนหนึ่งจะหลงเชื่อตามหรือไม่?
หากพระเทวทัตไม่ใช่พระสงฆ์ พระเจ้าอชาตสัตรูจะทรงศรัทธา จนถึงกับทำร้ายพระบิดาตัวเองหรือเปล่า?
พระเทวทัตอาศัยความเป็นพระสงฆ์ในศาสนาหรือความเป็นฆารวาสดำเนินการ?

เหมือนกับตอนนี้ มีใครบ้างที่โพสกระทู้ธรรม แล้วบอกว่าข้าพเจ้าคิดเอง ธรรมนี้เป็นของข้าพเจ้า
มีแต่อ้างว่าเป็นธรรมของครูบาอาจารย์เป็นของพระพุทธเจ้าหรือไม่ก็เอามาจากพระไตรปิฎก
แล้วเอาความเห็นตนเองแทรกเข้าไป ไม่เรียกว่าแอบอ้างพระศาสนาแล้วเรียกว่าอะไร?

ถ้าธรรมเหล่านั้นเป็นของพระพุทธเจ้าจริงๆ แล้วจะขัดแย้งกัน เหมือนทุกวันนี้หรือ?

:b12:

เช่นเดียวกับที่มีคนบอกว่า ศาสนาพุทธมีโทษ เป็นการเอาความเห็นตนเองแทรกเข้าไป ไม่เรียกว่าแอบอ้างพระศาสนาแล้วเรียกว่าอะไร
ธรรม ที่คิดเอาเอง ตีความขัดแย้งกันเอง ไม่เป็นธรรมของพระพุทธเจ้า ก็ไม่ใช่ศาสนาพุทธ แล้วจะมากล่าวตู่ว่า ศาสนาพุทธ มีโทษได้อย่างไร เหล่านั้นเป็นของนอกศาสนาพุทธ แต่มาแอบอ้างว่าเป็นศาสนาพุทธ แล้วกล่าวโทษศาสนาพุทธได้อย่างไร
พระเทวทัต อาศัยศาสนาพุทธและความไม่รู้ของพระเจ้าอชาติศัตรู เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
พระพุทธศาสนาไม่เคยสอนให้กระทำเยี่ยงนี้ สอนแต่ให้ทำความดี ไม่ให้เชื่ออะไรง่ายๆ (หลักกาลามสูตร) พระเทวทัตทำไม่ดีด้วยจิตริษยาของตัวเองเป็นโทษเป็นความผิดของศาสนาพุทธหรือ
จนถึงปัจจุบันนี้ผ่านมาสองพันห้าร้อยกว่าปีแล้วก็ยังมีคนแบบนี้อยู่ ศาสนาพุทธมีโทษ หรือ เป็นคนแอบอ้างศาสนาหาประโยชน์กันแน่
ศาสนาพุทธไม่เคยมีโทษ บุคคลควรที่จะศรัทธาอย่างถูกต้อง ไม่หลงงมงาย เชื่อตะพึดตะพือโดยขาดการศึกษาอย่างถ่องแท้ เมื่อถูกหลอกก็มาโทษพระศาสนา มันสมควรแล้วหรือ


แก้ไขล่าสุดโดย hiwatcher เมื่อ 18 ส.ค. 2010, 00:18, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 00:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 13:15
โพสต์: 6

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ใบไผ่เขียว เขียน:
พุทธศาสนามีทั้งคุณและโทษ

เผยแผ่ ไม่ดี ไม่ถูกต้อง ก็เป็นโทษ

:b12:

อย่างนี้เป็นโทษของคนเผยแผ่ หรือเป็นโทษของพระพุทธศาสนากันแน่

ขี้ตู่กลางนา ขี้ตาตุ๊กแก ขี้มูกยายแก่ อรแร้ อรชร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 00:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
เหมือนคนหลงทาง แต่ได้รับการชี้ทางที่ผิด ที่ไม่ถูกต้อง จะด้วยความไม่รู้หรือจงใจก็ตาม
หากรู้ที่หลังว่าบอกทางผิด ถ้าเป็นผู้มีจิตละเอียด เขาจะรู้สึกผิดและเป็นทุกข์เป็นกังวล


หนทางเขาก้มีอยุ่ของเขาแบบนั้น
คนบอกผิด ก็ผิดอยู่ที่คนบอก
คนเชื่อก็ผิดอยุ่ที่คนเชื่อ
เป็นเรื่องของคนหลงทางกับคนบอกทาง

เหตุไฉนจึงไปกล่าวโทษถนน


อ้างคำพูด:
ถ้าศาสนาเปรียบเหมือนมีด

ใช้ดี ใช้ถูกต้อง ก็เป็นคุณ
ใช้ไม่ดี ใช้ไม่ถูก ก็เกิดโทษ บาดมือเอาได้

เหมือนพระเทวฑัต ใช้ศาสนาไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ใช้ศาสนาเพื่อความเป็นใหญ่
เพื่อลาภสักการะ จึงเกิดโทษแก่ตนเอง ดังกล่าว


มีดเขาก็มีของเขาอยู่อย่างนั้น
เอาไปใช้ไม่ดีบาดมือเอง ก็ควรพิจารณาว่าตัวเอง
ใช้มีดถูกลักษณะหรือไม่ โดนบาดเพราะอะไร?
แทนที่จะมาเพ่งโทษมีด

พระศาสนาคือมีด พระเทวทัตคือคนใช้มีด

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 06:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 09:08
โพสต์: 16


 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
มาพิจารณากระทู้ คุณใบไผ่เขียว จะเห็นว่า

เผยแผ่ ดี ถูกต้อง ก็เป็นคุณ คือ
กัลยาโณ กิตติสัทโท อัพภุคคโต เสียงเกียรติศัพท์อันดีงามของพระองค์ ย่อมฟุ้งเฟื่องไปในจาตุรทิศจนตราบเท่าทุกวันนี้

เผยแผ่ ไม่ดี ไม่ถูกต้อง ก็เป็นโทษ คือ
ปาปโก สทโท โหติ คือเป็นผู้มีชื่อเสียงชั่วฟุ้งไปในจาตุรทิศ

ขอชื่นชมและขอโมทนาครับ สาธุ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 07:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ใบไผ่เขียว เขียน:
พุทธศาสนามีทั้งคุณและโทษ

เผยแผ่ ดี ถูกต้อง ก็เป็นคุณ
เผยแผ่ ไม่ดี ไม่ถูกต้อง ก็เป็นโทษ

ยืนยันเหมือนเดิมครับ

:b12:

และนี้คือ..ตัวอย่าง..ของการเผยแผ่..ไม่ดี

จะมี..โทษ..บ้างหรือเปล่า??? :b7: :b7: :b7:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 39 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร