วันเวลาปัจจุบัน 11 มิ.ย. 2025, 06:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 61 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 11:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 16:59
โพสต์: 79

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างถึง
ในครั้งพุทธกาลเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับศีลธรรม หรือพระวินัย แล้วมีผู้ไปถามพระพุทธเจ้า เช่น มีภิกษุไปตัดไม้ ไม้ตกลงมาโดนเพื่อนภิกษุตาย หรือ มีภิกษุใช้มือปัดโดนมดตาย[/b]


และ
[b]องค์ของศิลข้อปาณาติบาตร
๑.สัตว์มีชีวิต ๒.รู้ว่ามีชีวิต ๓.มีจิตคิดฆ่า ๔.พยายามทำกิจการฆ่านั้น ๕.สัตว์ตาย





กรณีภิกษุใช้มือปัดแล้วมดตาย ท่านตอบว่า คันที่แขน เลยเอามือไปเกาและปัด

ท่านไม่รู้ว่าตรงนั้นมีสัตว์ องค์ประกอบเลยไม่ครบทั้ง 5 ข้อ

แต่คุณกระเพราไก่
รู้อยู่แก่ใจว่า นั่นเป็นปลวกและปลวกมันก็มีชีวิต องค์ประกอบมีแล้ว 2 ข้อแรก ส่วนอีก 3 ข้อหลังไม่มี สรุปก็คือ ยังไงก็เป็นกรรมปาณาติบาตแน่นอน แต่ไม่ครบ 100 % ก็เท่านั้น
แก้ไขได้ด้วยการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขามากๆๆๆๆๆและขออโหสิกรรมเขาด้วยความจริงใจ เมื่อเขาได้รับบุญแล้วได้เกิดขึ้นในภพภูมิที่ดีขึ้นอันเป็นผลมาจากบุญของเราที่อุทิศไปให้อย่างเหมาะสมและเขาพอใจ จนไม่ถือเอาโทษกับเราและก็อโหสิกรรมให้ นั่นถือว่า หมดเวรหมดกรรมต่อกันโดยสิ้นเชิง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 12:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


บัว 4 เหล่า เขียน:
อ้างถึง
ในครั้งพุทธกาลเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับศีลธรรม หรือพระวินัย แล้วมีผู้ไปถามพระพุทธเจ้า เช่น มีภิกษุไปตัดไม้ ไม้ตกลงมาโดนเพื่อนภิกษุตาย หรือ มีภิกษุใช้มือปัดโดนมดตาย[/b]


และ
[b]องค์ของศิลข้อปาณาติบาตร
๑.สัตว์มีชีวิต ๒.รู้ว่ามีชีวิต ๓.มีจิตคิดฆ่า ๔.พยายามทำกิจการฆ่านั้น ๕.สัตว์ตาย





กรณีภิกษุใช้มือปัดแล้วมดตาย ท่านตอบว่า คันที่แขน เลยเอามือไปเกาและปัด

ท่านไม่รู้ว่าตรงนั้นมีสัตว์ องค์ประกอบเลยไม่ครบทั้ง 5 ข้อ

แต่คุณกระเพราไก่
รู้อยู่แก่ใจว่า นั่นเป็นปลวกและปลวกมันก็มีชีวิต องค์ประกอบมีแล้ว 2 ข้อแรก ส่วนอีก 3 ข้อหลังไม่มี สรุปก็คือ ยังไงก็เป็นกรรมปาณาติบาตแน่นอน แต่ไม่ครบ 100 % ก็เท่านั้น
แก้ไขได้ด้วยการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขามากๆๆๆๆๆและขออโหสิกรรมเขาด้วยความจริงใจ เมื่อเขาได้รับบุญแล้วได้เกิดขึ้นในภพภูมิที่ดีขึ้นอันเป็นผลมาจากบุญของเราที่อุทิศไปให้อย่างเหมาะสมและเขาพอใจ จนไม่ถือเอาโทษกับเราและก็อโหสิกรรมให้ นั่นถือว่า หมดเวรหมดกรรมต่อกันโดยสิ้นเชิง


1. แล้วหมอที่ให้ยาฆ่าเชื้อโรคกับคนไข้ หรือให้ยาฆ่าพยาธิกับคนไข้ หมอรู้ชัดๆว่า หมอได้ฆ่าสัตว์เหล่านั้นจำนวนมหาศาล ทำไมเราไม่บอกว่านั่นเป็นปาณาติบาตรล่ะครับ....ตอบว่าเพราะเราไม่เอาอกุศลจิต และหมอก็ไม่เอาอกุศลจิตเข้ามาปรุงแต่งในใจยังไงล่ะครับ บาปจึงไม่เกิด

2. แล้วพระพุทธเจ้าไปบิณฑบาตรทุกวัน ตลอดชีวิตพระพุทธเจ้า ท่านได้ฆ่ามด หนอน และสิ่งมีชีวิตเล็กๆ จำนวนมากมายมหาศาลนับไม่ถ้วน ทำไมพระพุทธเจ้าไม่บอกว่านั่นบาปล่ะครับ? พระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญู ท่านต้องรู้มากกว่าคนอื่นว่าสัตว์ต้องตายลงจากการที่ท่านเดินไปบิณฑบาตรทุกวัน แต่ท่านยังมีเจตนาทางกายเดินไปอีก และยังเที่ยวสอนว่า การฆ่าสิ่งที่มองไม่เห็นไม่เป็นบาปอีก

....ตอบว่าเพราะพระพุทธเจ้าไม่เอาอกุศลเข้าไปในจิตน่ะซิ บาปจึงไม่เกิด เจตนาคือตัวกรรม เจตนานี้คือเจตนาในใจ ไม่ใช่เจตนาของกายและของวาจา เพราะใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ บาป-บุญ-นิพพาน ไม่ได้สำเร็จด้วยกายและวาจาแต่อย่างใด แต่สำเร็จที่ใจและด้วยใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 12:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณกระเพราไก่ ครับ - อย่าไปสงสัยในการทำความดีของคุณเลยครับ แล้วอย่าไปเชื่อผู้ที่ไม่รู้แก่นแท้ของศีล 5 เอาบาปมาใส่ตนเองเลยครับ แม้แต่สมมุติสงฆ์ก็อย่าไปเชื่อ พระพวกนี้เป็นผู้ปฏิบัติไม่ถึงขั้น หรือไม่ปฏิบัติ จะไปตีความเรื่องศีล 5 ได้ถูกต้องได้ยังไง


คุณผู้ดูแลเว็บ ครับ- ผมไม่ได้เขียนสิ่งใดที่เป็นการละเมิดกฎและระเบียบที่คุณตั้งไว้นะครับ กรุณาอย่าลบข้อความใดๆของผมทิ้งอีก ถ้าท่านมีความสงสัยในข้อเขียนของผม หรือสงสัยในธรรมะของพระพุทธองค์เรื่องใด ควรจะใช้วิธีถามนะครับ อย่าหลงยึดติดว่า ตนเองเป็นครู และจำพระไตรปิฎกได้มากกว่า เยอะกว่า

พระไตรปิฎกของแท้ไม่ได้อยู่ที่การท่องจำนะครับ อยู่ที่การปฏิบัติ คนที่ละกิเลสได้มากกว่า แม้เป็นเณรหรือเป็นเด็กก็สอนธรรมแก่ผู้ยึดติดว่าตนเองเป็นครูได้นะครับ


แก้ไขล่าสุดโดย พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เมื่อ 21 พ.ค. 2009, 12:51, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 12:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1150079d83gc3lmkv.gif
1150079d83gc3lmkv.gif [ 81.09 KiB | เปิดดู 4152 ครั้ง ]
ถามคุณพลศักดิ์หน่อยครับ
ระยะนี้ไม่เห็นคุณตั้งกระทู้เองเลยครับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 13:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ถามคุณพลศักดิ์หน่อยครับ
ระยะนี้ไม่เห็นคุณตั้งกระทู้เองเลยครับ :b1:


คุณต้องถามผู้ดูแลเว็บว่า ทำไมถ้าผมใช้ชื่อว่า พลศักดิ์ ทำไมช่องตั้งกระทู้ใหม่ไม่มีให้ผม แต่ถ้าผมใช้ชื่ออื่นเครื่องคอม.อื่น จะมีช่องตั้งกระทู้ใหม่ให้ เมื่อเขาไม่ให้ตั้งกระทู้ ผมก็ไม่ตั้ง ตอบกระทู้อย่างเดียว แต่ตอบไป 5 ผู้ดูแลเว็บเซ็นเซ่อร์เสีย 2 แล้วจะคุยเรื่องธรรมะกันได้อย่างใด ผมก็เลยต้องตอบเพิมไปอีก 2

ผมตอบความจริงออกไป ก็ไม่รู้ว่าผู้ดูแลเว็บเขาจะลงข้อความให้ผมหรือเปล่า

ผมมีกระทู้ดีๆอีกมาก แต่เมื่อตั้งกระทู้ที่นี่เว็บธรรมจักรไม่ได้ ผมก็ต้องไปตั้งกระทู้ในเว็บอื่น ตอนนี้ผมตั้งกระทู้อยู่ที่เว็บ http://www.dhammakaya.org/forum/ เป็นกระทู้สูงสุดทั้งนั้น เช่น

1.ความแตกต่างระหว่างนิพพานจิต และจิต ในพระอภิธรรม หรือในปฏิจจสมุปบาท หรือจิตสังขาร http://www.dhammakaya.org/forum/index.php?topic=215.0

2.ธรรมกาย=อายตนะนิพพาน และ นิพพาน http://www.dhammakaya.org/forum/index.php?topic=217.0

3.มหายาน และเถรวาท ให้ความหมายของคำว่า "จิต" แตกต่างกัน http://www.dhammakaya.org/forum/index.php?topic=213.0


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 13:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ถามคุณพลศักดิ์หน่อยครับ
ระยะนี้ไม่เห็นคุณตั้งกระทู้เองเลยครับ :b1:


คุณต้องถามผู้ดูแลเว็บว่า ทำไมถ้าผมใช้ชื่อว่า พลศักดิ์ ทำไมช่องตั้งกระทู้ใหม่ไม่มีให้ผม แต่ถ้าผมใช้ชื่ออื่นเครื่องคอม.อื่น จะมีช่องตั้งกระทู้ใหม่ให้ เมื่อเขาไม่ให้ตั้งกระทู้ ผมก็ไม่ตั้ง ตอบกระทู้อย่างเดียว แต่ตอบไป 5 ผู้ดูแลเว็บเซ็นเซ่อร์เสีย 2 แล้วจะคุยเรื่องธรรมะกันได้อย่างใด ผมก็เลยต้องตอบเพิมไปอีก 2

ผมตอบความจริงออกไป ก็ไม่รู้ว่าผู้ดูแลเว็บเขาจะลงข้อความให้ผมหรือเปล่า

ผมมีกระทู้ดีๆอีกมาก แต่เมื่อตั้งกระทู้ที่นี่เว็บธรรมจักรไม่ได้ ผมก็ต้องไปตั้งกระทู้ในเว็บอื่น ตอนนี้ผมตั้งกระทู้อยู่ที่เว็บ http://www.dhammakaya.org/forum/ เป็นกระทู้สูงสุดทั้งนั้น เช่น

1.ความแตกต่างระหว่างนิพพานจิต และจิต ในพระอภิธรรม หรือในปฏิจจสมุปบาท หรือจิตสังขาร http://www.dhammakaya.org/forum/index.php?topic=215.0

2.ธรรมกาย=อายตนะนิพพาน และ นิพพาน http://www.dhammakaya.org/forum/index.php?topic=217.0

3.มหายาน และเถรวาท ให้ความหมายของคำว่า "จิต" แตกต่างกัน http://www.dhammakaya.org/forum/index.php?topic=213.0



ครับ ตั้งกระทู้ที่นี่ไม่ได้ก็ไปตั้งที่อื่นเอา คนที่สนใจข้อความของคุณก็ตามไปอ่านเอง ไม่ยากเย็นอะไรนะครับ แค่คลิกก็ถึงแล้ว
กรัชกายยังเคยแอบดูบอร์ดที่คุณยกมานะครับ นั่นแหละเอาให้เต็มที่เลย ไม่ต้องกลัวใครว่า หรือลบอีก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 13:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ กรัชกาย ครับ


ผมรู้มาหลายปีแล้วว่า ทำไมกระทู้ที่ผมตั้งในเว็บต่างๆ เช่น manager พันทิพย์ พลังจิต ธรรมะไทย ฯลฯ จึงมักโดนก่อกวนจากทีมงานผู้ดูเว็บศาสนานั้น เหตุผลก็คือ มารเขาไมต้องการให้ผู้รู้ธรรมจริงๆ เข้ามาชี้แนะธรรมะของพระพุทธเจ้าในเว็บพุทธศาสนา เพราะมารไม่ต้องการให้ใครเข้าถึงโลกุตรธรรม เนื่องจากอาณาจักรของมารจะสั่นคลอนได้

ผมกำลังจะบอกว่า เรากำลังอยู่ในสงครามระหว่างพุทธะและมารครับ

อ้อ! อีกอย่าง ตั้งแต่เดือนหน้า ผมจะไปตั้งกระทู้ในเว็บพลังจิตอีกครั้งหนึ่ง ในชื่อ นโมโพธิสัตว์ ชื่ออื่นๆ เช่น ในไม้นอกกำมือ คนดีโลกลืม โดนแบนหมดแล้ว เว็บพลังจิตนี่เป็นที่ชุมนุมของหมู่มาร มารเขาชอบใช้วิธีสิงใจผู้ดูแลเว็บ เพราะได้ผลชะงักที่สุด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 13:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
คุณ กรัชกาย ครับ

ผมรู้มาหลายปีแล้วว่า ทำไมกระทู้ที่ผมตั้งในเว็บต่างๆ เช่น manager พันทิพย์ พลังจิต ธรรมะไทย ฯลฯ จึงมักโดนก่อกวนจากทีมงานผู้ดูเว็บศาสนานั้น
เหตุผลก็คือ มารเขาไมต้องการให้ผู้รู้ธรรมจริงๆ เข้ามาชี้แนะธรรมะของพระพุทธเจ้าในเว็บพุทธศาสนา
เพราะมารไม่ต้องการให้ใครเข้าถึงโลกุตรธรรม เนื่องจากอาณาจักรของมารจะสั่นคลอนได้

ผมกำลังจะบอกว่า เรากำลังอยู่ในสงครามระหว่างพุทธะและมารครับ

อ้อ! อีกอย่าง ตั้งแต่เดือนหน้า ผมจะไปตั้งกระทู้ในเว็บพลังจิตอีกครั้งหนึ่ง ในชื่อ นโมโพธิสัตว์ ชื่ออื่นๆ เช่น ในไม้นอกกำมือ คนดีโลกลืม โดนแบนหมดแล้ว เว็บพลังจิตนี่เป็นที่ชุมนุมของหมู่มาร มารเขาชอบใช้วิธีสิงใจผู้ดูแลเว็บ เพราะได้ผลชะงักที่สุด



ครับ ก็ในเมื่อมารต้องการอย่างนั้น และมารนั้นก็อยู่ในใจคนอื่นปล่อยเค้าเถอะครับ ใจเค้าใจเรา ใจใครใจมัน ดูแลกันเอาเอง อย่าห่วงเค้าเลยครับ เป็นทุกข์เปล่าๆ

ฟังเพลงดีกว่าครับ :b1:

"มารหัวใจ"

http://www.imeem.com/people/rMsZ3iG/music/5GihvY1M//


หรอ จะไปพลังจิตอีกหรือครับ เดี๋ยวก็ถูกมารเล่นงานเอาอีกหรอก
เห็นคุณขันธ์ ถูกมารผจญจนหน้าตาบวมนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่กระมัง เห็นหายไปจากวงการยุทธจักร
แล้ว :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 15:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ กรัชกาย ครับ



พวกมารทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ มารเป็นพวกไม่มีการพัฒนา ใช้วิธีเก่าๆเสมอคือ ด่า ว่า ตำหนิ ติเตียน ใส่ร้ายป้ายสี หรือไม่ก็แบนกระทู้ ระงับสมาชิก มารเขาจะไม่ถกปัญหาทางธรรม

เมื่อผมไม่ใส่ใจต่อคำด่า ว่า ตำหนิ ติเตียน ใส่ร้ายป้ายสี เหล่านั้น และจะแบนกระทู้ ระงับสมาชิก ก็ระงับไป ผมมีบัตรประชาชน และอีเมล์ที่คนให้มาเป็นสิบๆใบ และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ 3 เครื่อง มารทำอะไรผมไม่ได้อยู่แล้ว เว็บศาสนาก็มีเยอะ ส่วนใหญ่พอผมไปอยู่เว็บอื่น คนจะตามผมไปด้วย ไม่สังเกตหรือครับว่า เว็บนี้สมาชิกเพิ่มขึ้นมาก

คุณขันธ์ พอเขารู้ว่าผมอยู่เว็บนี้ เขาก็ตามผมมาจากเว็บพลังจิต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 16:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
คุณกามโภคี ครับ


พิจารณาการตอบของผมก่อนครับ พิจารณามากๆ จะเข้าใจว่าผมตอบเชิงไหน
แล้วค่อยมาอ้างอิงถึงคำตอบกระทู้ผม คำตอบกระทู้ผมไม่ต้องยกตัวอย่าง
แค่หลักๆยังเอาไปวิเคราะห์ตัดสินได้เลย
ส่วนเรื่องหมอนั้นหรือการรักษานั้น ใครจะว่าไม่ผิดผมไม่รู้ คำตอบผมมีในใจอาจตรงกันกับ
ความเห็นคุณ

สัตว์มีปาณะ เข้าใจแบบไหน
รู้ว่าสัตว์มีชีวิต เข้าใจแบบไหน
มีจิตฆ่า เข้าใจแบบไหน
พยายามฆ่า เข้าใจแบบไหน
และสัตว์ตาย เข้าใจแบบไหน

ถ้าเข้าใจถูก ผมว่า คุณอาจไม่มาพูดแบบนี้หรอกครับ

ว่างๆลองอธิบายครับ ขอสาระที่อ้างอิงได้ ที่สำคัญ ห้ามพูดว่ามารเข้าสิง

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 16:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




q1.jpg
q1.jpg [ 30.13 KiB | เปิดดู 4071 ครั้ง ]
อ้างคำพูด:
เมื่อผมไม่ใส่ใจต่อคำด่า ว่า ตำหนิ ติเตียน ใส่ร้ายป้ายสี เหล่านั้น และจะแบนกระทู้ ระงับสมาชิก
ก็ระงับไป ผมมีบัตรประชาชน และอีเมล์ที่คนให้มาเป็นสิบๆใบ และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ 3 เครื่อง มารทำอะไรผมไม่ได้อยู่แล้ว เว็บศาสนาก็มีเยอะ
ส่วนใหญ่พอผมไปอยู่เว็บอื่น คนจะตามผมไปด้วย ไม่สังเกตหรือครับว่า เว็บนี้สมาชิกเพิ่มขึ้นมาก

คุณขันธ์ พอเขารู้ว่าผมอยู่เว็บนี้ เขาก็ตามผมมาจากเว็บพลังจิต



หรอ ครับงั้นถามอีกนิดว่า ทำไมอะคับคุณถึงอึดถึงทนขนาดเนี่ย ถูกแบบ ถูกบล็อก ถูกตำหนิ
ติติง ฯลฯ สารพัด คุณทนได้ไงขอรับ เป็นบางคนเปิดก้นไปแล้ว :b32:
กรัชกายยังรู้สึกแปลบๆ แทนคุณเลยนะครับ คิดว่าหากเป็นเราโดนขนาดเนี่ย คงขึ้นเขาเข้าถ้ำ
ฝึกวิทยายุทธ์ใช้ปราบมารใหม่ แต่คุณไม่บ่นเลย เพียงแต่รำพึงรำพันแบบน้อยใจนิดๆ หน่อยๆ พอเป็นกระสาย



ส่วนใหญ่พอผมไปอยู่เว็บอื่น คนจะตามผมไปด้วย ไม่สังเกตหรือครับว่า เว็บนี้สมาชิกเพิ่มขึ้นมาก
คุณขันธ์ พอเขารู้ว่าผมอยู่เว็บนี้ เขาก็ตามผมมาจากเว็บพลังจิต



หรอครับไม่ทันสังเกต ถึงว่าเว็บพลังจิตว่ามีสมาชิกเป็นแสนๆ คน เพราะคุณเคยอยู่ที่นั่นมาก่อนด้วย แต่ที่ลานแห่งนี้ มีหมื่นต้นๆเอง คุณว่าพอเป็นไปได้ไหม ว่าลานนี้จะมีสมาชิกเป็นแสนๆ คนกะเขาบ้าง :b3: :b41: :b38:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 18:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 16:59
โพสต์: 79

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็สนุกดีนะครับ
ได้รู้ได้เข้าใจความคิดเห็นของหลายๆ ท่าน ดีครับงัดความรู้กันออกมาเยอะๆ แต่ก็อย่าลืม เอาเฉพาะความรู้ที่มีหลักฐานอ้างอิงชัดเจนนะครับและควรจะเป็นข้อมูลจริงจาก พระไตรปิฎกนะครับ เผื่อผู้ที่ไม่เคยอ่านพระไตรปิฎกเขาสนใจจะได้ไปอ่านเพิ่มเติมได้ง่ายๆ สืบค้นได้ง่ายๆ ครับ

ส่วนที่เป็นความคิดเห็นของของอาจารย์ทั้งหลายอย่าเอามาเลยครับ เอาคำของพุทธองค์จากพระไตรปิฎกมาตีแผ่กันไปเลยท่านว่าอย่างไร ท่านบัญญัติว่าอย่างไร ท่านอนุญาตอะไร ห้ามอะไรก็เอาตามนั้นหละครับ ส่วนใครจะทำได้หรือไม่ก็แล้วแต่เพราะเป็นเรื่องของบุคคลไป แต่ขอไว้ว่าอย่าเอาความคิดเห็นส่วนตัว เอาความคิดเห็นของอาจารย์มาเป็นบรรทัดฐานนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 18:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความหมายและขอบเขตของศีล 5 และศีลจำพวกเดียวกันนั้น ที่จำกันมามักว่าตามที่อธิบายสืบๆ กันมาใน
ชั้นหลัง
ในที่นี้ จึงขอนำพุทธพจน์มาเสนอให้พิจารณาบ้าง

“คหบดีทั้งหลาย เราจักแสดงธรรมบรรยายสำหรับน้อมเข้ามาเทียบตัว

1. อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า เราเองอยากมีชีวิต ไม่อยากตาย รักสุข เกลียดทุกข์
ถ้าใครจะปลงชีวิตเรา ผู้อยากอยู่ ไม่อยากตาย รักสุข เกลียดทุกข์ ก็จะไม่เป็นข้อที่ชื่นชอบที่พอใจแก่เรา
ก็ถ้าเรา จะปลงชีวิตคนอื่นผู้อยากอยู่ ไม่อยากตาย รักสุข เกลียดทุกข์ ก็จะไม่เป็นข้อที่ชื่นชอบที่พอใจแก่คนอื่นเหมือนกัน
สิ่งใด ตัวเราเองไม่ชื่นชอบ ไม่พอใจ ถึงคนอื่นเขาก็ไม่ชื่นชอบ ไม่พอใจเหมือนกัน
สิ่งใด ตัวเราเองก็ไม่ชอบ ไม่พอใจ ไฉนจะพึงเอาไปผูกใส่ ให้คนอื่นเล่า
อริยสาวกนั้น พิจารณาเห็นดังนี้ ย่อมงดเว้นจากปาณาติบาต ด้วยตนเองด้วย
ย่อมชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากปาณาติบาตด้วย ย่อมกล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นจากปาณาติบาตด้วย กายสมาจาร ของอริยสาวกนั้น ย่อมบริสุทธิ์ทั้งสามด้านอย่างนี้


2. อีกประการหนึ่ง อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า ถ้าใคร จะถือเอาสิ่งของที่มิได้ให้ด้วยอาการขโมย
ก็จะไม่เป็นข้อที่ชื่นชอบที่พอใจแก่เรา
ก็ถ้าเรา จะถือเอาของที่ผู้อื่นมิได้ให้ด้วยอาการขโมย ก็จะไม่เป็นข้อที่ชื่นชอบที่พอใจแก่คนอื่น เหมือนกัน.


3.อีกประการหนึ่ง อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า ก็ถ้าใคร จะประพฤติผิดในภรรยาของเรา ก็จะไม่เป็นข้อ
ที่ชื่นชอบ ที่พอใจแก่เรา
ก็ถ้าเรา จะประพฤติผิดในภรรยาของคนอื่น ก็จะไม่เป็นข้อที่ชื่นชอบ ที่พอใจแก่คนอื่น เหมือนกัน

4. อีกประการหนึ่ง อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า ก็ถ้าใคร จะทำลายประโยชน์ของเราด้วยการกล่าวเท็จ ก็จะไม่เป็นข้อ ที่ชื่นชอบที่พอใจแก่เรา
ก็ถ้าเรา จะทำลายประโยชน์ของคนอื่นด้วยการกล่าวเท็จก็จะไม่เป็นข้อ ที่ชื่นชอบที่พอใจแก่คนอื่น เหมือนกัน


5. อีกประการหนึ่ง อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า ถ้าใครจะยุยงเราให้แตกจากมิตร ด้วยคำส่อเสียด
ก็จะไม่เป็นข้อที่ ชื่นชอบที่พอใจแก่เรา
ก็ถ้าเรา จะยุยงคนอื่นให้แตกจากมิตร ด้วยคำส่อเสียด ก็จะไม่เป็นข้อ ที่ชื่นชอบ ที่พอใจแก่คนอื่น เหมือนกัน

6. อีกประการหนึ่ง อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า ถ้าใคร จะพูดจากะเราด้วยคำหยาบ ก็จะไม่เป็นข้อ
ที่ชื่นชอบที่พอใจแก่เรา
ก็ถ้าเรา จะพูดจากะคนอื่นด้วยคำหยาบ ก็จะไม่เป็นข้อที่ชื่นชอบที่พอใจ แก่คนอื่น เหมือนกัน

7. อีกประการหนึ่ง อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า ถ้าใคร จะพูดจากะเราด้วยถ้อยคำเพ้อเจ้อ ก็จะไม่เป็นข้อที่ชื่นชอบที่พอใจแก่เรา
ก็ถ้าเรา จะพูดจากะคนอื่นด้วยคำเพ้อเจ้อ ก็จะไม่เป็นข้อที่ชื่นชอบ ไม่พอใจเหมือนกัน
สิ่งใดตัวเราเอง ก็ไม่ชอบ ไม่พอใจ ไฉนจะพึงเอาไปผูกใส่ ให้คนอื่นเล่า
อริยสาวกนั้น พิจารณาเห็นดังนี้แล้ว ย่อมงดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ ด้วยตนเองด้วย
ย่อมชักชวนผู้อื่นให้งดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อด้วย
ย่อมกล่าวสรรเสริญคุณแห่งการพูดเพ้อเจ้อด้วย วจีสมาจารของอริยสาวกนั้น ย่อมบริสุทธิ์ ทั้งสามด้านอย่างนี้

(สํ.ม.19/1458-1465/442-6)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 18:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


-สำหรับคนทั่วไป ท่านย่อมผ่อนเบา เอาสาระของศีลพื้นฐานนี้ มาแสดงเป็นข้อกำหนดอย่างต่ำที่สุด
ในทางความประพฤติของมนุษย์ เท่าที่จำเป็น พอที่จะให้สังคมมนุษย์อยู่กันโดยปกติสุข และแต่ละคนมีชีวิตที่ไม่เป็นโทษภัย เรียกข้อกำหนดนี้ว่า สิกขาบท (ข้อฝึกความประพฤติ) 5 หรือ ที่มานิยมเรียกกันเป็น
สามัญว่า ศีล 5 (บางครั้งเรียก นิจศีล ตามอรรถกถา)
ได้แก่

1. เว้นจากปาณาติบาต คือ ไม่ทำลายชีวิต
จับเอาสาระว่า ความประพฤติหรือการดำเนินชีวิตที่ปราศจากการเบียดเบียนผู้อื่นทางด้านชีวิตร่างกาย

2. เว้นจากอทินนาทาน คือ ไม่เอาสิ่งของที่เข้ามิได้ให้ หรือ ไม่ลักขโมย
จับเอาสาระว่า ความประพฤติหรือดำเนินชีวิตที่ปราศจากการเบียดเบียนผู้อื่นทางด้านทรัพย์สินและกรรมสิทธิ์

3. เว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร คือ ไม่ประพฤติผิดในกามทั้งหลาย
จับเอาสาระว่า ความประพฤติหรือดำเนินชีวิตที่ปราศจากการเบียดเบียนผู้อื่นทางด้านคู่ครอง บุคคลที่รักหวงแหน ไม่ผิดประเพณีทางเพศ ไม่นอกใจคู่ครองของตน

4. เว้นจากมุสาวาท คือ ไม่พูดเท็จ
จับเอาสาระว่า ความประพฤติหรือดำเนินชีวิตที่ปราศจากการเบียดเบียนผู้อื่นด้วยวาจาเท็จโกหกหลอกลวงตัดรอน
ประโยชน์หรือแกล้งทำลาย

5. เว้นจากของเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท คือ ไม่เสพของมึนเมา
จับเอาสาระว่า ความประพฤติ หรือ ดำเนินชีวิตที่ปราศจากความประมาทพลั้งพลาดมัวเมาเนื่องจากการใช้
สิ่งเสพติดที่ทำให้เสียสติสัมปชัญญะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 19:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ กรัชกาย ครับ


หรอ ครับงั้นถามอีกนิดว่า ทำไมอะคับคุณถึงอึดถึงทนขนาดเนี่ย ถูกแบบ ถูกบล็อก ถูกตำหนิ
ติติง ฯลฯ สารพัด คุณทนได้ไงขอรับ เป็นบางคนเปิดก้นไปแล้ว
กรัชกายยังรู้สึกแปลบๆ แทนคุณเลยนะครับ คิดว่าหากเป็นเราโดนขนาดเนี่ย คงขึ้นเขาเข้าถ้ำ
ฝึกวิทยายุทธ์ใช้ปราบมารใหม่ แต่คุณไม่บ่นเลย เพียงแต่รำพึงรำพันแบบน้อยใจนิดๆ หน่อยๆ พอเป็นกระสาย


คนเราทำกรรมมาต่างกัน ผมทำกรรมด้วยปาก ด่าว่า ตำหนิ ติเตียนผู้อื่นมาตลอดชีวิตตั้งแตเป็นเด็ก ขนาดพระพุทธเจ้าผมยังด่าพ่อด่าแม่เลย นึกว่าท่านเอาเรื่องไร้สาระอะไรมาสอนวะ ถ้าผมไม่ต้องรับกรรมจากการต้องถูกคนอื่นด่าว่า ติเตียน ใส่ร้ายป้ายสี กฎแห่งกรรมก็ไม่มีจริงสิครับ

แล้วถ้าผมไม่โดนคนอื่นด่าว่า ติเตียน ใส่ร้ายป้ายสี ฯลฯ ผมก็จะมองไม่เห็นความจริงว่า:

"แท้จริงไม่มีใครด่าว่า ติเตียน ใส่ร้ายป้ายสี ฯลฯ เราเลย เราดันเสือกไปเอาถ้อยคำของเขาไปคิดปรุงแต่งเอาเอง เมื่อไม่คิดปรุงแต่ง ความทุกข์มันก็ไม่มี"

พระพุทธองค์ท่านยังบอกผมในนิมิตเลย ในนิมิตของผม

"มีคนแจวเรือไปส่งผมในนิพพาน ผมโชคดีกว่าคนอื่น มีคนนำที่นั่งอย่างดีให้ผมนั่ง หลวงพ่อหลวงปู่ท่านอื่น ท่านต้องเผชิญสัตว์ร้าย และวิบากกรรมหนักอื่นๆ กว่าจะไปถึงฝั่งได้"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 61 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร