ใครขอรับที่คิดหลายวัน สิ่งที่คุณเขียนมา ข้าพเจ้าตอบทันที่ได้อ่าน
แล้วสิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนสอนไป คุณอ่านแล้วเข้าใจหรือไม่ ค
หรือว่า ในสมองสติปัญญาของคุณ เป็นประเภท คนพาล ยังมีหน้ามากล่าวศัพท์ภาษาแบบคนปัญญาต่ำ ข้าพเจ้าสอนไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ไม่กระดิกเลยนะคุณ
อย่างคุณผู้ใช้ชื่อว่า "มิตรตัวน้อย" ในที่สุดก็แสดงออกถึงความสติเฟื่อง ปัญญาต่ำ ออกมให้เห็น
นั่นเพราะคุณได้รับการขัดเกลามาผิดๆ แทนที่คุณจะทำความเข้าใจในสิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนไป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ แต่คุณกลับแสดงธาตุแท้ของคุณออกมา

ไม่เป็นไร ข้าพเจ้าจะโปรดสัตว์อย่างผู้ใช้ชื่อว่า "มิตรตัวน้อย"เอาไว้ว่า
[b]บุคคลใดใดก็ตาม หากแม้นฝึกปฏิบัติ จนกลายเป็นกลไกอัตโนมัติแล้ว บุคคลผู้นั้นก็จักบรรลุธรรมในชั้น อรหันต์ขึ้นไป และฉัพพรรณรังสีที่เปล่งออกมา ในขณะขจัดอาสวะแห่งกิเลสนั้น ย่อมมีอยู่ได้นิรันดร์ เพราะระบบการทำงานของสรีระร่างกาย เป็นอัตโนมัติ ไปแล้ว และบุคคลที่ใกล้ชิดในขณะนั้น ก็สามารถมองเห็นฉัพพรรณรังสีได้ด้วยตาของเขา สำหรับในเรื่องการขจัดอาสวะนี้ยังมีรายละเอียดมากมาย จะไม่กล่าวถึง เพราะขนาดเขียนสั้นๆ ยังอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง

การเจ็บป่วย เป็นเรื่องธรรมดา ตราบใดที่บุคคลใดใด ยังไม่สามารถสำเร็จ นิพพาน ได้
นิพพานไม่ใช่การตาย แต่บุคคลใดใดผู้บรรลุธรรมชั้นอรหันต์ขึ้น ไป ย่อมสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ของตัวเอง ได้ตามความรู้ ที่มีอยู่ ถ้าไม่มีความรู้หรือรู้ไม่แจ้ง ก็ไปโรงพยาบาล หายเจ็บหายไข้เป็นปลิดทิ้ง เร็วกว่าบุคคลทั่วๆไป อย่างน้อย 100 เท่า

ถ้าคุณอยากพิสูจน์ก็ได้นะขอรับ แจ้งความประสงค์มาได้เลยขอรับ จะพิสูจน์ให้เห็นว่ามีจริง เป็นจริง ตามที่ข้าพเจ้ากล่าวไปอย่างแน่นอน

แม้แต่ ธรรมหรือคำสั่งสอนของพระสุปฏิปันโน ยังเอามาวิพากวิจารณ์ เพื่อให้เห็นว่าความคิดตนเองถูก

ต่อนี้ไป กระทู้ของผู้ใชนามว่า Buddha ก็จะมีแต่คำเหล่านี้
“นี่คือ หลักการของข้าพเจ้า “นี่คือ คำสอนของข้าพเจ้า” “ธรรมนี้ ข้าพเจ้าคิดได้เอง”

เมื่อผู้ให้ความเชื่อถือมากขึ้น ได้สาวกเพิ่มขึ้น สุดท้ายก็จะเป็น
“นี่คือ ธรรมของข้าพเจ้า” “นี่คือ ศาสดาของท่าน”

พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ใช้เวลานับจากทรงเป็น “พระสุเมธดาบส” สี่อสงขัย แสนมหากัปล์ จึงได้ตรัสรู้ “ธรรม” อันแสดงไว้ เรียกว่า “สวาขาตธรรม” ธรรมที่ตรัสไว้ชอบแล้ว

แต่ก็มีอีกหลายท่าน หลายคนใช้ “ธรรมนึก ธรรมคิด” ธรรมที่ “นึกขึ้นเอง คิดเอาเอง” มาแสดง "โวหาร" ลบล้าง สัจจธรรม ที่ทรงแสดงไว้

ถ้าเป็นพระท่านเรียก “อวดอุตริมนุษยธรรม” หนึ่งในสี่ “ปาราชิก” ที่ทรงห้าม ทั้งยัง
“บัญญัติ (คำสั่งสอน) สิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติ
เพิกถอนสิ่งที่พระพุธเจ้า บัญญัติ (คำสั่งสอน) ไว้ดีแล้ว”

น่าเสียดาย ยังมีผู้ศรัทธาเลื่อมใสอยู่...

[b]ตอบ...
ผู้มีจิตใจสกปรก ความรู้ ความเข้าใจต่ำ ปัญญา ก็ย่อมต่ำตาม ความคิดอ่านก็ต่ำตามไปด้วย คงเนื่องจาก กรรมพันธุ์ที่ต่ำๆ
คำกล่าวของคุณดูเหมือนจะปกป้อง พระสงฆ์ และ พระพุทธเจ้า แต่ความจริงแล้ว คุณกำลังทำลายศาสนาอย่างเห็นได้ชัด คุณว่าใครอวดอุตริฯกันบ้างละ ข้าพเจ้า อวดอุตริฯ หรือว่า พระสงฆ์ บางกลุ่ม บางคน ที่อวดอ้าง บิดเบือน คิดกันเอง ทำกันเอง เป็นสำนักต่างๆ อวดอุตริฯ คุณใช้สมองสติปัญญาคิดพิจารณาบ้างไหม แล้วสิ่งที่คุณกล่าวว่าพระพุทธเจ้าบัญญัติไว้นั้ัน พระพุทธเจ้าพระองค์ใดบัญญัติไว้ละขอรับ
[b]แล้วถ้าข้าพเจ้าจะบัญญัติ หลักธรรม หลักการ หลักวิชชา ให้เป็นบรรทัดฐาน ต่อศาสนา มันเป็นการอวดอุตริฯ หรือขอรับ คุณพิสูจน์ ตัวข้าพเจ้าแล้วหรือขอรับ หลักธรรมที่มีอยู่เดิม เป็นเพียงรายละเอียด สามารถสอนบุคคลให้รู้แจ้งเห็นจริง ตามหลักความจริง ตามหลักธรรมชาติ หรือ ตามหลักสรีระร่างกายของมนุษย์ได้หรือไม่
ตัวข้าพเจ้า กล้าให้ทุกท่านพิสุจน์ตัวข้าพเจ้ามานานตั้งแต่เริ่มเข้ามาเผยแพร่อยู่แล้ว อีกประการหนึ่ง "หลักธรรม หรือหลักการ หรือหลักวิชชา ซึ่งข้าพเจ้าได้ศึกษา ค้นคว้า วิจัย และทดลองปฏิบัติ จนได้ผลดีแล้ว " ก็ได้ยื่นต่อสำนักงานพาณิชย์ เพื่อสงวนลิขสิทธิไว้ ตั้งหลายปีแล้ว
แล้วคุณว่า คุณมีจิตใจสกปรก ความรู้ ความเข้าใจต่ำ ปัญญาต่ำ ความคิดอ่านต่ำ แถมยังอวดทำเป็นรักษศาสนา แต่ความจริงแล้ว กำลังทำลายศาสนา เพราะความเขลาเบาปัญญาของคุณผู้ใช้ชื่อว่า "มิตรตัวน้อย"[/b]