สรุปเอาเอง มโนเอาเองนะกรัชกาย

อโศกะเจริญมาตามช่องทาง ปริยัติ ปฏิบัติและปฏิเวทอย่างแน่นอนไม่มั่วนิ่มอย่างกรัชกาย ที่ได้แต่มากปริยัติ ปฏิบัติน้อย ปฏิเวทยังไม่มีและไม่ชัด

บ้านธรรมะของอโศกะสร้างเสร็จเป็นรูปร่างยังค้างแต่งานตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์เกือบพร้อมที่จะเข้าอาศัยอยู่ได้อย่างสุขสบายกายสบายใจแล้ว

บ้านธรรมะของอโศกะสร้างเสร็จเป็นรูปร่างยังค้างแต่งานตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์เกือบพร้อมที่จะเข้าอาศัยอยู่ได้อย่างสุขสบายกายสบายใจแล้ว

ท่านกรัชกาย เพื่อให้ถึงสุญญตาจริงๆก็พิสูจน์เริ่มต้นง่ายๆ จากการสละปัจจัยให้ทานนี้ก่อนเป็นปฐม จะได้เห็นหรือรู้ว่า อัตตา ตัวกูของกูมันยังมีเหลืออยู่มากสักเท่าไหร่ จะได้เร่งรัดชำระทิ้งให้หมดหรือลดน้อยลงได้ถูกต้อง

:b12:
บ้านธรรมะของอโศกะเป็นบ้านตัวอย่างยินดีมอบแบบแปลนและสนับสนุนทุนและวัสดุการก่อสร้างทั้งหมดให้กับทุกๆท่านตามที่คุณกรัชกายแนะนำครับ ขอให้ติดต่อไปก็แล้วกัน

:b12:
ดูตามภาพข้างบนนี้ครับ

ผมสร้างบ้านธรรมะในใจผมตามแปลนนี้แหละครับ

:b7:
เป็นเพราะกบไม่เคยแก้ปัญหาผู้ปฏิบัติจริงๆในสนามหรือสถานฝึกปฏิบัติจริงๆ จึงมาแนะให้เขาไปพบจิตเวช

อาจารย์สอนธรรมศิษย์ของพระพุทธเจ้าที่ชำนาญแล้วนั้นท่านมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาทางจิตอย่างนี้ดีกว่าจิตเวชเสียอีก

คนที่ปวดหัวหรือมีอาการแปลกๆในกายอย่างที่ว่ามานี้ยังไม่จำเป็นต้องออกกรรมฐานกลางคันเพื่อไปหาจิตเวช ส่วนใหญ่พอปรับแก้ไขวิธีภาวนาให้ตรงกับอารมณ์และจริตได้แล้วเขาก็ผ่านด่านเหล่านี้ไปได้ ขนาดผู้ป่วยไมเกรน ลมบ้าหมูหรือโรคอุปาทานหลายๆอย่างก็หายได้ในระหว่างปฏิบัติกรรมฐานหรือเจริญวิปัสสนาภาวนา เห็นมามากต่อมากแล้ว

คนมันหมกหมุ่น...อยากมี(ผล)..อยากได้(ผล)...เคร่งเครียด..เกินไป...เป็นอัตตกิลมัตถานุโยค

แทนที่อโสกะ..จะรู้...แนะนำให้ผ่อนคลายด้วยอุบายที่ดี...

กลับ..อิอิ

สู้ เป็นคำพูดที่รู้และเข้าใจง่ายในความรู้สึกของคนธรรมดาสามัญทั่วไป อย่างเรามักจะได้ยินทั่วไปว่า เราต้องสู้แลเอาชนะกิเลสตัณหาให้ได้จึงจะพ้นจากทุกข์ถึงสุข

การเจริญสติ สมาธิ ปัญญา ไปค้นหาเหตุทุกข์เพื่อถอนเหตุทุกข์ออกเสียให้ได้นั้น เราอาจจะพูดเป็นภาษาสามัญว่า

การเอามรรค ไปต่อสู้สมุทัย หรือ

การเอาเหตุสุขไปต่อสู้กับเหตุทุกข์ หรือ

การเอาความเห็นถูกต้องไปต่อสู้กับความเห็นผิดหรือ

การเอาสัมมาทิฏฐิไปต่อสู้กับมิจฉาทิฏฐิ หรือ

การเอาอนัตตาไปต่อสู้กับอัตตา

คุณกรัชกายลองพยายามแปลความหมายจากภาพที่ให้มาดีๆจะเห็นว่ามันทำให้ง่ายมากๆในการที่จะทำให้ผู้คนเข้าใจอริยสัจ 4

ยิ่งถ้าหากคุณกรัชกายจะได้มีโอกาสขึ้นไปฟังการบรรยายเรื่องอริยสัจ 4 โดยการวางสิ่งของลงแทนภาพที่เขียนมาให้ดูนี้ ยิ่งจะเข้าใจง่าย เห็นจริงและจดจำได้แม่นยำกว่าการพิจารณาจากภาพ และแน่นอนจะเข้าใจอริยสัจ 4 ได้ลึกซึ้งกว่าการอ่านจากตำรา ฟังเทศน์หรือแม้แต่การแปลความจากภาพ

สู้ เป็นคำพูดที่รู้และเข้าใจง่ายในความรู้สึกของคนธรรมดาสามัญทั่วไป อย่างเรามักจะได้ยินทั่วไปว่า เราต้องสู้แลเอาชนะกิเลสตัณหาให้ได้จึงจะพ้นจากทุกข์ถึงสุข

การเอามรรค ไปต่อสู้สมุทัย หรือ

การเอาเหตุสุขไปต่อสู้กับเหตุทุกข์ หรือ

การเอาความเห็นถูกต้องไปต่อสู้กับความเห็นผิดหรือ

การเอาสัมมาทิฏฐิไปต่อสู้กับมิจฉาทิฏฐิ หรือ

การเอาอนัตตาไปต่อสู้กับอัตตา

เมตตาให้ผู้คนหลุดพ้นไว จึงบอกใบ้ สรุปธรรม ให้ทำกัน

แต่มีผู้ไม่เข้าใจคอยกันท่า เพราะกลัวว่าคนมากหลายหลุดพ้นได้
สมุนมารทาสรับใช้จะขาดไป จึงขัดขวางเป็นการใหญ่ไม่ให้ดี

นี่แหละโลกปัจจุบันอันวิจิตร ศัตรูในคราบมิตรมีมากหลาย
หลอกเราหลงให้เชื่อจนตายใจ ผลสุดท้ายพาเราออกนอกทางธรรม