ถ้าเราแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน ก็จะได้ กายกับใจ หรือ รูปกับนาม
กายก็หมายถึงรูป ๒๘ ที่เรียกว่า รูปขันธ์ เป็นรูปขันธ์ ทั้งหมด

กายอะไร ?

กายานุปัสสนา ไม่ว่าจะพิจารณาตรงก็เป็นกายทั้งหมด
ธาตุดินก็เป็นกาย ธาตุน้ำก็เป็นกาย ธาตุไฟก็เป็นกาย ธาตุลมก็เป็นกาย
กายก็คือ ธาตุทั้ง ๔ นั่นแหละ หรือรูป ๒๘ ทั้งหมด
ลองไปศึกษาพระอภิธรรมดูบ้างซิ แล้วจะไม่มาเถียงกันเลย

คิกๆๆ ลุงหมานรู้ได้ไงว่ากรัชกายไม่ศึกษาอภิธรรม

กั๊กๆๆ ก็ไม่จักเรื่องรูป ๒๘ ไม่จักเรื่องธาตุ ๔

กรัชกายจะว่าบ้างนะ แล้วให้ลูงค้าน ไม่เห็นด้วยตรงไหนค้านได้เลย

พูดถึงกาย หรือร่างกาย เป็นการเรียกรวม เหมือนเราเรียก "รถ" "ต้นไม้" "บ้าน" รวมอุปกรณ์ทุกๆอย่างที่ประกอบกันเข้าเป็น "รถ" ต้นไม้ ก็เรียกรวม ยังไม่แยกส่วนประกอบ ถ้าแยกมีเปลือก ใบ กิ่งเป็นต้น บ้าน ก็ทำนองเดียวกัน

รูป หรือรูปธรรม ก็เป็นการเรียกรวม แต่ถ้าแยก ก็เป็น 28 ดังว่า มีอะไรบ้างก็ว่าไป

หุบแล้วก็บานเป็น บานแล้วก็หุบมาที่เดิมให้ได้

จ้าพ่อลงหมาน เก่งจุงเบย

เอาของจริงบ้าง



ลุงหมาน กายอะไร ?

การแยกรถนั้นเป็นการแยกออกไม่ให้เห็นตัวรถ หรือเรียกอีกอย่างว่ามันไม่ใช่ รถ
แท้จริงนั้นรถไม่มี มีเพียงส่วนประกอบเท่านั้นแต่ถ้ามารวมกันก็เรียกมันว่ารถอีก
เช่น เอาล้อออก ก็ไม่ใช่รถ เรียกว่าล้อรถ เอาประตูออกมาก็ไม่ใช่รถเรียกว่าประตูรถ เป็นต้น

ความมุ่งหมายของการศึกษาพระอภิธรรมก็เพื่อละ ตัวตน บุคคล สัตว์

ตัวตนไม่ใช่กิเลส จะไปละได้ยังไงล่ะลุงสมาน

โดยปรมัตถ์ตัวตนมันไม่มี เกิดจากความเข้าใจผิดว่ามีตัวตน เข้าใจผิดก็เข้าใจสะให้ถูกตัวตนก็หายวับ

กาย ก็คือ กาย
มนุษย์ เทวดา สัตว์เดรัจฉาน นั้นก็มีกาย แล้วจะถามหากายอะไรอีก

ไม่ได้ถามหา แต่อยากรู้ ว่าเขาเป็นอะไร ? จึงถามลุงหมาน

จริงอยู่ตัวตนที่ถูกคิดมันไม่ใช่กิเลส
แต่เจ้าตัวเข้าไปยึดว่าเป็นตัวเป็นตน นั่นแหละกิเลส
เขาให้ละเจ้าตัวกิเลสที่เข้าไปคิดว่าเป็นตัวตนต่างหาก

ทิฏฐิความเห็นผิด เป็นมิจฉาทิฏฐิ เมื่อเห็นถูก(สัมมาทิฏฐิ) ตัวตนก็หายวับ คิกๆๆ

ตอบอย่างนี้จะเข้าใจไหม ... กายคือเป็นที่อาศัยเกิดของจิต