วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 10:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 86 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2014, 18:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คำสอนของพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับอัตตา หรือตัวตนลักษณะนี้ ดูเหมือนง่ายๆ แต่เวลาปฏิบัติตามไม่ง่ายเลย แต่เราก็ชอบเล่นกับอนัตตา ซึ่งเป็นของสูงก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ :b1:


อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน

อตฺตทีปา อตฺตสรณา จงมีตนเป็นเกาะ จงมีตนเป็นที่พึ่ง

อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมฝึกตน

สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ ความบริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตน

อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา น นํ ปาเปน สํยุเช

หากรู้ว่าตัวนี้เป็นทีรักไซร้ ก็ไม่ควรเอาตัวนั้นไปเกลือกกลั้วกับความชั่ว

ฯลฯ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2014, 20:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ตน....ก็คือใจ...นี้แหละ..

ไม่ใช่..ตัว...รูปร่าง..body....matter...mass....อะไรที่ไหน

พระองค์ไม่ได้ให้ไปทำ..เพาะกล้าม...เล่นกีฬา...เล่นซิทแพ็ก...นี้นา
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2014, 20:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ตน....ก็คือใจ...นี้แหละ..

ไม่ใช่..ตัว...รูปร่าง..body....matter...mass....อะไรที่ไหน

พระองค์ไม่ได้ให้ไปทำ..เพาะกล้าม...เล่นกีฬา...เล่นซิทแพ็ก...นี้นา
:b32: :b32:



นั่นว่าเข้าไปนั่น :b32: บอกแล้วว่าง่ายๆ แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด คิกๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2014, 20:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พ้นจากจากนั้น ก็คงว่า ด้วยเรื่องทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ทำวัตรเข้า-เย็น ถวายสังฆทาน ร่วมสมทบทุนสร้างโบสถ์วิหารลานเจดีย์ ล้างห้องน้ำวัด ปิดทองเก้าวัด ปล่อยนก ปล่อยปลา ปลายเต่า เลี้ยงอาหารเด็กกำพร้า ฯลฯ แล้วละที่เนีี้ยะ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2014, 21:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ตน....ก็คือใจ...นี้แหละ..

ไม่ใช่..ตัว...รูปร่าง..body....matter...mass....อะไรที่ไหน

พระองค์ไม่ได้ให้ไปทำ..เพาะกล้าม...เล่นกีฬา...เล่นซิทแพ็ก...นี้นา



เห็นข้อคิดของกบนี่แล้ว นึกถึงบทความเต็มๆที่นี่ อ่านยากหน่อย

http://group.wunjun.com/whatisnippana/22881

เพื่อให้ง่ายจะตัดๆมาเท่าที่เห็นว่าง่าย โดยเฉพาะคำว่า กาย .... ร่างกาย ... หรือจะเรียกว่าอะไรก็แล้วที่มองเห็นๆนี่ล่ะ

เร่ิ่มข้อความนี้ก่อน

อ้างคำพูด:
เนื่องด้วยคำสอนในพระพุทธศาสนา เน้นสิ่งที่ปฏิบัติได้จริง และการลงมือทำให้รู้เห็นประจักษ์บังเกิดผลเป็นประโยชน์แก่ชีวิต หรือเน้นสิ่งที่ใช้ประโยชน์ได้ และการนำสิ่งนั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่สนับการคิดวาดภาพ และการถกเถียงหาเหตุผลในสิ่งที่พึงรู้เห็นได้ด้วยการลงมือทำนั้นให้เกินเพียงพอแก่ความเข้าใจที่จะเป็นพื้นฐานสำหรับการลงมือปฏิบัติ


แล้วก็ศัพท์และความหมายเหล่านี้

ภาวิตัตต์ พัฒนาพระองค์แล้ว

ภาวิตกาย ทรงเจริญกายแล้ว/มีกายที่ได้พัฒนาแล้ว

ภาวิตศีล ทรงเจริญศีลแล้ว/มีศีลที่ได้พัฒนาแล้ว

ภาวิตจิตต์ ทรงเจริญจิตแล้ว/มีจิตที่ได้พัฒนาแล้ว

ภาวิตปัญญา ทรงเจริญปัญญาแล้ว/มีปัญญาที่ได้พัฒนาแล้ว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2014, 21:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณบทคือคำแสดงพระคุณหรือคุณสมบัติของพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลายว่า เป็นภาวิตัตต์ คือ ผู้ได้พัฒนาตนแล้ว จบการฝึกอบรมตนแล้ว เมื่อกระจายความหมายออกไปเป็น
ภาวิตกาย (มีกายที่พัฒนาแล้ว)
ภาวิตศีล (มีศีลที่พัฒนาแล้ว)
ภาวิตจิตต์ (มีจิตที่พัฒนาแล้ว) และ
ภาวิตปัญญา (มีปํญญาที่พัฒนาแล้ว) ก็โยงหรือบ่งถึงหลักธรรมชุด ภาวนา ๔ อันได้แก่
กายภาวนา (การพัฒนากาย)
ศีลภาวนา (การพัฒนาศีล)
จิตตภาวนา (การพัฒนาจิต) และ
ปัญญาภาวนา (การพัฒนาปัญญา)

ขอทำความเข้าใจว่า ที่พูดนี้เป็นเรื่องของหลักภาษาบาลี คือภาวิต เป็นคุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์ แสดงคุณสมบัติของบุคคล ส่วนภาวนา เป็นคำนาม บอกถึงการกระทำ หลัก หรือข้อปฏิบัติ จึงได้ความสอดคล้องกันว่า ภาววิต - ก็คือผู้ที่ได้ทำภาวนาแล้ว และดังนั้น ภาวิตกาย ก็คือผู้ที่ได้ทำกายภาวนาแล้ว ภาวิตศีล คือผู้ที่ได้ทำศีลภาวนาแล้ว ภาวิตจิต ก็คือ ผู้ที่ได้ทำจิตตภาวนาแล้ว และ ภาวิตปัญญา คือผู้ที่ได้ทำปัญญาภาวนาแล้ว

นี่เท่ากับบอกว่า พระอรหันต์ คือ ท่านผู้ที่ได้ทำภาวนา ๔ เสร็จแล้ว คือ จบทั้งกายภาวนา ศีลภาวนา จิตตภาวนา และปัญญาภาวนา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2014, 21:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอาเท่านั้นก่อน รอแรงกระตุ้นในการกระทำหน่อย :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2014, 22:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


จะไปเล่นกล้าม..จริงๆด้วย..
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2014, 22:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คำสอนของพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับอัตตา หรือตัวตนลักษณะนี้ ดูเหมือนง่ายๆ แต่เวลาปฏิบัติตามไม่ง่ายเลย แต่เราก็ชอบเล่นกับอนัตตา ซึ่งเป็นของสูงก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ :b1:


อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน

อตฺตทีปา อตฺตสรณา จงมีตนเป็นเกาะ จงมีตนเป็นที่พึ่ง

อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมฝึกตน

สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ ความบริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตน

อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา น นํ ปาเปน สํยุเช

หากรู้ว่าตัวนี้เป็นทีรักไซร้ ก็ไม่ควรเอาตัวนั้นไปเกลือกกลั้วกับความชั่ว

ฯลฯ


ตน....ข้างต้น...นะกรัชกาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 00:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ม.ค. 2014, 08:17
โพสต์: 73

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทราบหรือไม่ ท่านทั้งหลาย
ควรพิจารณาอย่างแยบคาย
อตฺตา ดังที่ท่านได้ยกขึ้นมานี้
พระพุทธองค์ท่านทรงตรัสสอน สรรพสัตว์ ที่มีปัญญาในการเข้าถึงธรรมต่างกัน
ผู้มีดวงตา ย่อม เข้าใจ เข้าถึง สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัส ด้วยสัมมาฐิทิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 03:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คำสอนของพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับอัตตา หรือตัวตนลักษณะนี้ ดูเหมือนง่ายๆ แต่เวลาปฏิบัติตามไม่ง่ายเลย แต่เราก็ชอบเล่นกับอนัตตา ซึ่งเป็นของสูงก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ :b1:


อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน

อตฺตทีปา อตฺตสรณา จงมีตนเป็นเกาะ จงมีตนเป็นที่พึ่ง

อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมฝึกตน

สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ ความบริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตน

อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา น นํ ปาเปน สํยุเช

หากรู้ว่าตัวนี้เป็นทีรักไซร้ ก็ไม่ควรเอาตัวนั้นไปเกลือกกลั้วกับความชั่ว

ฯลฯ


ตนในที่นี้คือขันธ์5ครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 03:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ขันธ์5ก็เป็นอนัตตาอยู่แล้ว

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 03:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คำสอนของพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับอัตตา หรือตัวตนลักษณะนี้ ดูเหมือนง่ายๆ แต่เวลาปฏิบัติตามไม่ง่ายเลย แต่เราก็ชอบเล่นกับอนัตตา ซึ่งเป็นของสูงก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ :b1:


อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน

อตฺตทีปา อตฺตสรณา จงมีตนเป็นเกาะ จงมีตนเป็นที่พึ่ง

อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมฝึกตน

สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ ความบริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตน

อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา น นํ ปาเปน สํยุเช

หากรู้ว่าตัวนี้เป็นทีรักไซร้ ก็ไม่ควรเอาตัวนั้นไปเกลือกกลั้วกับความชั่ว

ฯลฯ


ตน....ข้างต้น...นะกรัชกาย...


ตน ข้างต้นไหน เอาชัดๆ

เมื่อมีตนข้างต้น แสดงว่า จะต้องมีตนอีกตนหนึ่ง กบ นำมาทั้งสองตนเอ้า :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 03:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
จะไปเล่นกล้าม..จริงๆด้วย..
:b32:



แผ่นเสียงตกร่องอีกคนเหมือนกับเช่นนั้น เน่าๆๆๆๆ นี่ก็เล่นกล้ามๆๆๆๆๆ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 08:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คุณบทคือคำแสดงพระคุณหรือคุณสมบัติของพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลายว่า เป็นภาวิตัตต์ คือ ผู้ได้พัฒนาตนแล้ว จบการฝึกอบรมตนแล้ว เมื่อกระจายความหมายออกไปเป็น
ภาวิตกาย (มีกายที่พัฒนาแล้ว)
ภาวิตศีล (มีศีลที่พัฒนาแล้ว)
ภาวิตจิตต์ (มีจิตที่พัฒนาแล้ว) และ
ภาวิตปัญญา (มีปํญญาที่พัฒนาแล้ว) ก็โยงหรือบ่งถึงหลักธรรมชุด ภาวนา ๔ อันได้แก่
กายภาวนา (การพัฒนากาย)
ศีลภาวนา (การพัฒนาศีล)
จิตตภาวนา (การพัฒนาจิต) และ
ปัญญาภาวนา (การพัฒนาปัญญา)

ขอทำความเข้าใจว่า ที่พูดนี้เป็นเรื่องของหลักภาษาบาลี คือภาวิต เป็นคุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์ แสดงคุณสมบัติของบุคคล ส่วนภาวนา เป็นคำนาม บอกถึงการกระทำ หลัก หรือข้อปฏิบัติ จึงได้ความสอดคล้องกันว่า ภาววิต - ก็คือผู้ที่ได้ทำภาวนาแล้ว และดังนั้น ภาวิตกาย ก็คือผู้ที่ได้ทำกายภาวนาแล้ว ภาวิตศีล คือผู้ที่ได้ทำศีลภาวนาแล้ว ภาวิตจิต ก็คือ ผู้ที่ได้ทำจิตตภาวนาแล้ว และ ภาวิตปัญญา คือผู้ที่ได้ทำปัญญาภาวนาแล้ว

นี่เท่ากับบอกว่า พระอรหันต์ คือ ท่านผู้ที่ได้ทำภาวนา ๔ เสร็จแล้ว คือ จบทั้งกายภาวนา ศีลภาวนา จิตตภาวนา และปัญญาภาวนา


เสริมให้เห็นภาพอีกหน่อยก่อน :b1:

“พระผู้มีพระภาค เป็น “ภาวิตัตต์” (พัฒนาตนแล้ว) อย่างไร ? คือ พระผู้มีพระภาค เป็น
”ภาวิตกาย” (เจริญกายแล้ว/มีกายทีได้พัฒนาแล้ว)
ภาวิตศีล” เจริญศีลแล้ว/มีศีลที่ได้พัฒนาแล้ว)
“ภาวิตจิตต์” (เจริญจิตแล้ว/มีจิตที่ได้พัฒนาแล้ว)
“ภวิตปัญญา” (เจริญปัญญาแล้ว/มีปัญญาที่ได้พัฒนาแล้ว)

(ขุ.จู.30/148/71)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 86 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร