วันเวลาปัจจุบัน 02 พ.ค. 2025, 15:31  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 18:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 16:15
โพสต์: 21


 ข้อมูลส่วนตัว


อยากขอคำแนะนำเรื่องการปฏิบัติธรรมในช่วงที่ชีวิตพบวิกฤตค่ะ ล่าสุดทำธุรกิจก็ต้องเลิกทำเพราะเลิกกับแฟนที่ทำธุรกิจร่วมกันเนื่องจากเขามีคนใหม่ ผ่านมา 6 เดือนยังหาอะไรทำไม่ได้เลย อายุก็เยอะใกล้จะเลขสี่แล้ว ยังไม่มีอนาคตอะไรเลย เสียใจเรื่องแฟนแล้วยังต้องมาเครียดเรื่องตกงานอีก เงินเก็บก็มีไม่เท่าไหร่ ไม่รู้ทำเวรทำกรรมอะไรถึงต้องมาเป็นแบบนี้ จะปฏิบัติธรรมก็ฟุ้งซ่านเหลือเกิน ไม่ค่อยมีสมาธิ คอยแต่จะคิดมาก แต่ก็พยายามปฏิบัติมาตลอดถึงแม้ว่าจะกระท่อนกระแท่นก็ตาม อยากขอคำแนะนำทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะว่าเราควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรในช่วงนี้เพราะเครียดมาก มีวิธีทำให้อะไรอะไรมันดีขึ้นบ้างไหมคะ กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นบ้าไปโดยไม่รู้ตัว (เพราะคนบ้าก็ไม่รู้ตัวอยู่แล้วว่าตัวเองบ้า) ขอบคุณมากค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 18:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พัดชา เขียน:
อยากขอคำแนะนำเรื่องการปฏิบัติธรรมในช่วงที่ชีวิตพบวิกฤตค่ะ ล่าสุดทำธุรกิจก็ต้องเลิกทำเพราะเลิกกับแฟนที่ทำธุรกิจร่วมกันเนื่องจากเขามีคนใหม่ ผ่านมา 6 เดือนยังหาอะไรทำไม่ได้เลย อายุก็เยอะใกล้จะเลขสี่แล้ว ยังไม่มีอนาคตอะไรเลย เสียใจเรื่องแฟนแล้วยังต้องมาเครียดเรื่องตกงานอีก เงินเก็บก็มีไม่เท่าไหร่ ไม่รู้ทำเวรทำกรรมอะไรถึงต้องมาเป็นแบบนี้ จะปฏิบัติธรรมก็ฟุ้งซ่านเหลือเกิน ไม่ค่อยมีสมาธิ คอยแต่จะคิดมาก แต่ก็พยายามปฏิบัติมาตลอดถึงแม้ว่าจะกระท่อนกระแท่นก็ตาม อยากขอคำแนะนำทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะว่าเราควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรในช่วงนี้เพราะเครียดมาก มีวิธีทำให้อะไรอะไรมันดีขึ้นบ้างไหมคะ กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นบ้าไปโดยไม่รู้ตัว (เพราะคนบ้าก็ไม่รู้ตัวอยู่แล้วว่าตัวเองบ้า) ขอบคุณมากค่ะ


:b1:ก็มองให้เห็นความจริงในชีวิต ว่านี่แหละชีวิตจริงความสุขสมหวังในชีวิตคู่มีอยู่น้อยมาก

อย่างพระพุทธองค์ท่านตรัสว่าชีวิตคู่เป็นทุกข์ มีตัวอย่างให้เห็นมากมายไม่เชื่อลองมองรอบข้าง

จะเห็นว่าชีวิตคู่ที่ดูเหมือนมีสุข ล้วนซุ่มซ่อนด้วยปัญหา(ภาระค่าใช้จ่าย เมา เอาแต่ใจ เจ้าชู้ มีกิ๊ก ฯลฯ)

อย่างผมมีครอบครัวครั้งแรก มีลูกก็ต้องเลิกรากันไปแรกๆแทบฆ่ากัน

แต่ผ่านมาหลายปีต่างคนต่างมีครอบครัวใหม่ ทุกวันนี้ก็หายโกรธกัน

มาคุยช่วยกันส่งเสียดูแลลูกที่เข้าสู่วัยรุ่น ยังคิดอยู่ว่าถ้าตอนนั้นตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง

วันนี้คงเสียใจตลอดชีวิต

ส่วนเรื่องงานคงต้องหางานที่เราถนัดหรือเราพอทำได้ทำไปก่อน ประคองตัวไป

ผมว่าคุณคงมีประสบการณ์ที่จะตัดสินใจเรื่องงานได้ ความกลุ้มอาจทำให้มองอะไรก็พร่ามัว

เพียงแต่ต้องค่อยๆมอง ใจเย็นๆ

ส่วนเรื่องคู่อย่าเครียดเลยครับถ้าคนเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อกันไม่เลิกกันวันนี้วันหน้าก็เลิกกันอยู่ดี

ดีที่รู้วันนี้จะได้เริ่มชีวิตใหม่เร็ว การอยู่คนเดียวผมว่าดีกว่ามีคู่ครองเสียอีก(ทุกวันนี้ยังเสียดาย :b9: )

อย่างพระพุทธองค์ท่านตรัสว่าชีวิตคู่เป็นทุกข์ อยู่คนเดียวสุขกว่า เอาใจช่วยครับ :b8:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 18:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 16:15
โพสต์: 21


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณมากค่ะ คุณขณะจิต :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 19:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


เสียใจด้วยอย่างยิ่งครับ
ทำไงดีละ ร้องไห้ให้เต็มที่ แล้วว่า เห็นมั้ยละเกิดมา เป็นทุกข์จริงๆ เป็นทุกข์จริงๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ฉันขอเกิด ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายๆๆๆ
ผมมีแค่ มนต์ป้องกันใจให้เท่านั้น ผมใช่ตอนเริ่มปฏิบัติ เห็นทุกข์แรกๆ เพื่อจางคลายมัน คือ "ไม่มีตัวกูของกู จริงแท้ในโลกนี้ " พร้อมกับฟังธรรมของท่านพุทธทาส และหลวงพ่อชา และท่านอื่นตามมาเรื่อยๆ
ฟังธรรม คิดตามธรรม
เมื่อใจเบาลง เรื่องทางโลก ก็จะได้สว่างขึ้น แก้ไขไปตามสถานะการไปเรื่อยๆ
เวลาจะช่วยท่านได้

ขอให้โชคดีครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 19:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันก็เคยเจอสภาวะเช่นเดียวกับคุนพัดชา ยอมรับว่าเป็นทุกข์มาก แต่ก็หลุดออกมาได้เพราะหันหน้าเข้าหาธรรมมะ ดิฉันก็ไม่มีสามี และอยู่กับลูกชายวัยกำลังซน แต่ดิฉันก็ไม่ได้รู้สึกทุกข์ใจเลยนะมีความสุขดี ลองปฏิบัติธรรม เอาธรรมมะไปปรับใช้ในสภาวะสิ่งแวดล้อมที่ตัวเองอาศัยอยู่ ลองดูเจ้าค่ะ คุนพัดชาจะได้เจอความสุขที่แท้จริง บนโลกมนุษย์ไม่มีอะไรแน่นอน มีคนรักไม่จากเป็นก็จากตาย แล้วความรักของเราจะรักแบบไหนไม่ให้ต้องทุกข์.. รักด้วยความเมตตา รักด้วยความปราถนาให้เค้ามีความสุข แล้วเราจะไปยึดติดกับสิ่งนั้นทำไม จริงไหมเจ้าค่ะ :b1: :b43:
:b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 20:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


พัดชา เขียน:
อยากขอคำแนะนำเรื่องการปฏิบัติธรรมในช่วงที่ชีวิตพบวิกฤตค่ะ ล่าสุดทำธุรกิจก็ต้องเลิกทำเพราะเลิกกับแฟนที่ทำธุรกิจร่วมกันเนื่องจากเขามีคนใหม่ ผ่านมา 6 เดือนยังหาอะไรทำไม่ได้เลย อายุก็เยอะใกล้จะเลขสี่แล้ว ยังไม่มีอนาคตอะไรเลย เสียใจเรื่องแฟนแล้วยังต้องมาเครียดเรื่องตกงานอีก เงินเก็บก็มีไม่เท่าไหร่ ไม่รู้ทำเวรทำกรรมอะไรถึงต้องมาเป็นแบบนี้ จะปฏิบัติธรรมก็ฟุ้งซ่านเหลือเกิน ไม่ค่อยมีสมาธิ คอยแต่จะคิดมาก แต่ก็พยายามปฏิบัติมาตลอดถึงแม้ว่าจะกระท่อนกระแท่นก็ตาม อยากขอคำแนะนำทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะว่าเราควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรในช่วงนี้เพราะเครียดมาก มีวิธีทำให้อะไรอะไรมันดีขึ้นบ้างไหมคะ กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นบ้าไปโดยไม่รู้ตัว (เพราะคนบ้าก็ไม่รู้ตัวอยู่แล้วว่าตัวเองบ้า) ขอบคุณมากค่ะ


คุณขอรับ ข้าพเจ้าจะแนะนำให้คุณได้คิดพิจารณาด้วยตัวของคุณเองว่า ความทุกข์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นความพลัดพราก ความอยากมีอยากได้ ความอยากอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบ ความไม่อยากอยู่กับสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ รวมไปถึง ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ล้วนเกิดจาก การคิด การระลึกนึกถึงของตัวคุณเองทั้งนั้น ถ้าคุณ คิด คุณระลึกนึกถึง มันก็จะเกิดความเศร้าหมองในจิตใจ นั่นก็มายถึงเกิด อารมณ์ เกิดความรู้สึก ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ
แต่ถ้าคุณ คิดแลระลึกนึกถึงว่า สิ่งต่างๆเหล่านั้น เป็นเพียงปัจจัยในการดำเนินชีวิต เป็นปัจจัยก่อให้เกิด อารมณ์ ความรู้สึก เป็นเรื่องธรรมดา ที่ต้องมีการพลัดพราก ต้องมีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ฯลฯ แลคุณต้องคิดต้องท่องไว้ทุกครั้งที่เกิด อารมณ์ ความรู้สึก ที่ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ
ข้าพเจ้าแนะนำได้ดีที่สุดเท่านี้ขอรับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 22:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


sriariya เขียน:
คุณขอรับ ข้าพเจ้าจะแนะนำให้คุณได้คิดพิจารณาด้วยตัวของคุณเองว่า ความทุกข์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นความพลัดพราก ความอยากมีอยากได้ ความอยากอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบ ความไม่อยากอยู่กับสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ รวมไปถึง ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ล้วนเกิดจาก การคิด การระลึกนึกถึงของตัวคุณเองทั้งนั้น ถ้าคุณ คิด คุณระลึกนึกถึง มันก็จะเกิดความเศร้าหมองในจิตใจ นั่นก็มายถึงเกิด อารมณ์ เกิดความรู้สึก ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ
แต่ถ้าคุณ คิดแลระลึกนึกถึงว่า สิ่งต่างๆเหล่านั้น เป็นเพียงปัจจัยในการดำเนินชีวิต เป็นปัจจัยก่อให้เกิด อารมณ์ ความรู้สึก เป็นเรื่องธรรมดา ที่ต้องมีการพลัดพราก ต้องมีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ฯลฯ แลคุณต้องคิดต้องท่องไว้ทุกครั้งที่เกิด อารมณ์ ความรู้สึก ที่ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ
ข้าพเจ้าแนะนำได้ดีที่สุดเท่านี้ขอรับ


การที่ท่านเข้ามาร่วมให้คำแนะนำ/แสดงน้ำใจต่อผู้ที่กำลังทุกข์ใจ นั่นก็ดีที่สุดแล้ว

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 22:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

ขอบคุณทุก ๆ ท่าน
ที่เทใจเข้ามาร่วมให้คำแนะนำที่ให้กำลังใจคุณพัดชา

ขอให้คุณพัดชาประสบผล ได้พบทางอันจะทำให้ความทุกข์ที่ปรากฎนั้นจางคลาย
และพบทางอันจะนำความสุขมาสู่...ตามพรที่ได้รับจากทุก ๆ ท่านได้โดยเร็ววัน

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2012, 00:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


พัดชา เขียน:
อยากขอคำแนะนำเรื่องการปฏิบัติธรรมในช่วงที่ชีวิตพบวิกฤตค่ะ ล่าสุดทำธุรกิจก็ต้องเลิกทำเพราะเลิกกับแฟนที่ทำธุรกิจร่วมกันเนื่องจากเขามีคนใหม่ ผ่านมา 6 เดือนยังหาอะไรทำไม่ได้เลย อายุก็เยอะใกล้จะเลขสี่แล้ว ยังไม่มีอนาคตอะไรเลย เสียใจเรื่องแฟนแล้วยังต้องมาเครียดเรื่องตกงานอีก เงินเก็บก็มีไม่เท่าไหร่ ไม่รู้ทำเวรทำกรรมอะไรถึงต้องมาเป็นแบบนี้ จะปฏิบัติธรรมก็ฟุ้งซ่านเหลือเกิน ไม่ค่อยมีสมาธิ คอยแต่จะคิดมาก แต่ก็พยายามปฏิบัติมาตลอดถึงแม้ว่าจะกระท่อนกระแท่นก็ตาม อยากขอคำแนะนำทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะว่าเราควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรในช่วงนี้เพราะเครียดมาก มีวิธีทำให้อะไรอะไรมันดีขึ้นบ้างไหมคะ กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นบ้าไปโดยไม่รู้ตัว (เพราะคนบ้าก็ไม่รู้ตัวอยู่แล้วว่าตัวเองบ้า) ขอบคุณมากค่ะ


หากเป็นตลาดหุ้น.....มันตกสุดเมื่อไร....มันจะไม่ตกไปกว่านี้อีกแล้ว....ต่อไปมันมีแต่จะขึ้น....ให้เตรียมช้อนซื้อได้เลย..

ไม่ได้พูดเล่นนะครับ....เคยผ่านจุดนี้มาแล้ว...(แต่อาจจะเป็นคนละเรื่องกัน)

ต่อรองกับเทวดา...ก็ยังเคย...

เทวดาเอ้ยย...การเป็นคนดีนี้มันลำบากนะ...ลำบากมาก..มาก...มันจะรักษาความดีใว้ไม่อยู่แล้ว(นะโว้ย).. .(เตรียมจะทำชั่ว...หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ..เลวแล้วเดียวจะหาว่าหล่อไม่เตือน...ว่างั้นเถอะ)

เวลามันทุกข์สุด สุด....มันก็มีอะไรแผล่ง ๆ ไปก็มี....

และแล้ว...การอดทนรักษาความดี...ไม่ชั่วไม่โกง...ก็เห็นผลมาจนทุกวันนี้....มีคนช่วยเหลือ...ก็ไม่รู้มาได้งั้ย...งง..งง..เหมือนกัน

พอใจเริ่มดีขึ้นมาหน่อย....ก็เข้าทางธรรม..มาจนทุกวันนี้..(ดู ค.ศ. ที่สมัครเข้าเวปนี้ได้..นั้นแหละ...นับถอยหลังไป 2 ปี..นั้นแหละช่วงที่ทุกข์..สุด..สุด)

ทุกวันนี้...ยังกะหน้ามือ..กับ..หลังเท้า...มีเกือบครบทุกอย่าง...ทุก ๆ อย่างต้องยกให้เป็นผลของพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์....อย่างเดียวเลยครับ... :b20: :b20:

ขอเพียง..อย่าท้อในความดี...อย่าหนีลงทางต่ำ...วันพรุ่งนี้..ดีแน่นอน..ครับผม

ปล. เวลาที่มันทุกข์มาก..มาก.....บางทีมันก็ปฏิบัติธรรมไม่ได้หรอก...ต้องผ่านไปซักนิด

สู้...ไม่สู้....สู้...สู้ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2012, 00:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกคนมีกรรมเป็นของของตน....นะคุณพัดชา...จึงไม่มีอะไรไม่เกิดจากเหตุ...พระพุทธองค์ตรัสสอนมาอย่างนี้

แล้วเหตุอันนั้น...ก็เป็นเราเอง...ทำมันมากับมือ

เอาละ...มันจะเป็นกรรมแต่ชาติไหน....ก็เรื่องของมัน

เมื่อเราได้ชดใช้มันไป...ใช้ไปทุกวัน...ทุกวัน...มันก็มีวันหมดลงได้

ให้เราจะรับความยากลำบากนี้..โดยดุษฎี...แล้วพิจารณาให้เห็นโทษภัยของการเวียนว่ายตายเกิด..อย่าไปโทษกิ๊ก...อย่าไปโทษสามี...ขอให้โทษวัฎฎะสงสาร

เกิดแต่ละครั้ง...ก็หลงทำบาปกรรมด้วยความไม่รู้...เหมือนเด็กที่ไม่รู้ว่าถ่านไฟทำร้ายเราเจ็บได้เพียงไหน...หลงไปกำถ่านไฟ...อะไรจะเกิดขึ้น

เรา ๆ....ไม่มีใคร...ไม่เคยทำบาป

พวก..เรา..เรา..ในที่นี้...จะต้องรับผลบาปอันที่ตนทำใว้....ทุกคน

ยกเว้น....เราไม่เกิดอีก....
มาเป็นพวกที่ไม่มีวันเกิด....กันดีมั้ย..คุณพัดชา

อย่า...ไปหาความสุขในโลกนี้เลย...สุขจริง ๆ ในโลกนี้..พระพุทธองค์ก็บอกแล้วว่า...มันไม่มี

ต่อให้ร่ำรวยเป็นเศรษฐี...มหาเศรษฐี...เป็นราชา...มหาราชา...คำว่า..ไม่ทุกข์เป็นไม่มี...

มีแต่ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น...ที่จะนำสุขอันไพบูลย์มาให้ได้
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2012, 01:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ทุกคนมีกรรมเป็นของของตน....นะคุณพัดชา...จึงไม่มีอะไรไม่เกิดจากเหตุ...พระพุทธองค์ตรัสสอนมาอย่างนี้

แล้วเหตุอันนั้น...ก็เป็นเราเอง...ทำมันมากับมือ

เอาละ...มันจะเป็นกรรมแต่ชาติไหน....ก็เรื่องของมัน

เมื่อเราได้ชดใช้มันไป...ใช้ไปทุกวัน...ทุกวัน...มันก็มีวันหมดลงได้

ให้เราจะรับความยากลำบากนี้..โดยดุษฎี...แล้วพิจารณาให้เห็นโทษภัยของการเวียนว่ายตายเกิด..อย่าไปโทษกิ๊ก...อย่าไปโทษสามี...ขอให้โทษวัฎฎะสงสาร

เกิดแต่ละครั้ง...ก็หลงทำบาปกรรมด้วยความไม่รู้...เหมือนเด็กที่ไม่รู้ว่าถ่านไฟทำร้ายเราเจ็บได้เพียงไหน...หลงไปกำถ่านไฟ...อะไรจะเกิดขึ้น

เรา ๆ....ไม่มีใคร...ไม่เคยทำบาป

พวก..เรา..เรา..ในที่นี้...จะต้องรับผลบาปอันที่ตนทำใว้....ทุกคน

ยกเว้น....เราไม่เกิดอีก....
มาเป็นพวกที่ไม่มีวันเกิด....กันดีมั้ย..คุณพัดชา

อย่า...ไปหาความสุขในโลกนี้เลย...สุขจริง ๆ ในโลกนี้..พระพุทธองค์ก็บอกแล้วว่า...มันไม่มี

ต่อให้ร่ำรวยเป็นเศรษฐี...มหาเศรษฐี...เป็นราชา...มหาราชา...คำว่า..ไม่ทุกข์เป็นไม่มี...

มีแต่ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น...ที่จะนำสุขอันไพบูลย์มาให้ได้
:b8: :b8: :b8:



กล่าวได้ดี เป็นธรรมแล้ว สาธุ ๆๆ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2012, 13:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 16:15
โพสต์: 21


 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องขอขอบพระคุณทุกๆ ท่านที่มาให้กำลังใจ ให้แง่คิด และช่วยเตือนสติค่ะ ดิฉันรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย และรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากในน้ำใจของทุกๆ ท่าน ดิฉันจะสู้ต่อไปค่ะ แม้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ก็จะพยายามสร้างเหตุปัจจัยในวันนี้ให้ดีที่สุด ที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไป เริ่มต้นใหม่วันนี้ก็ยังไม่สาย ต้องขอขอบพระคุณทุกๆ ท่านอีกครั้งด้วยใจจริงค่ะ ท้ายนี้ดิฉันขออวยพรให้ทุกๆ ท่านมีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมตราบจนเข้าสู่พระนิพพานเทอญ สาธุ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2012, 00:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


มารับพร...ครับ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2012, 15:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ส.ค. 2011, 15:12
โพสต์: 190


 ข้อมูลส่วนตัว


ตั้งใจไปทางไหน ถ้าตั้งใจจริง จริงใจ ดำเนินตามทางนั้นก็ย่อมสำเร็จเป็นผล ดังพระพุทธพจน์ที่พระองค์ตรัสว่า บุคคลต้องการไม้ ก็ย่อมแสวงหาไม้ บุคคลต้องการหญ้าก็ย่อมแสวงหาหญ้า ดังนี้เป็นอาทิ จะเอาอะไร ประสงค์สิ่งใด ก็ทำสิ่งนั้นด้วยชอบธรรม นี้ผู้แสวงหาสิ่งอันมีอยู่ในโลก ส่วนที่อยู่เหนือโลกพึงแสวงหาด้วยความไม่ยินดีต่อสิ่งอันมีอยู่ในโลก วางภาระอันเป็นอุปสรรค ตั้งตนตั้งใจต่อธรรมนั้นเถิด ....เคยอ่านคำเทศนาของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ท่านกล่าวชี้นำทางได้ดีพอได้ความว่า เวทนานั้นเป็นครู ครูมาสอนไม่เรียนก็ไม่จบ(เมื่อย เลิก ฟุ้งซ่านเลิก ปวดเลิก ) อย่างนี้ท่านจะไม่ได้อะไร ท่านว่าอย่างนั้นนะ ลองนำคำสอนของท่านไปฏิบัติก็ดีนะครับ อย่าเพิ่งท้อ มุ่งมั่นต่อสิ่งที่กระทำ ถ้าเป็นความดีเป็นกุศลก้ดีหมดแหละครับ อะไรมันวิกฤต รอบตัวมันวิกฤตอย่าไปวิกฤตตามรอบตัว ให้สติมันอยู่ภายในใจ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2012, 16:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8564


 ข้อมูลส่วนตัว


พัดชา เขียน:
อยากขอคำแนะนำเรื่องการปฏิบัติธรรมในช่วงที่ชีวิตพบวิกฤตค่ะ ล่าสุดทำธุรกิจก็ต้องเลิกทำเพราะเลิกกับแฟนที่ทำธุรกิจร่วมกันเนื่องจากเขามีคนใหม่ ผ่านมา 6 เดือนยังหาอะไรทำไม่ได้เลย อายุก็เยอะใกล้จะเลขสี่แล้ว ยังไม่มีอนาคตอะไรเลย เสียใจเรื่องแฟนแล้วยังต้องมาเครียดเรื่องตกงานอีก เงินเก็บก็มีไม่เท่าไหร่ ไม่รู้ทำเวรทำกรรมอะไรถึงต้องมาเป็นแบบนี้ จะปฏิบัติธรรมก็ฟุ้งซ่านเหลือเกิน ไม่ค่อยมีสมาธิ คอยแต่จะคิดมาก แต่ก็พยายามปฏิบัติมาตลอดถึงแม้ว่าจะกระท่อนกระแท่นก็ตาม อยากขอคำแนะนำทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะว่าเราควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรในช่วงนี้เพราะเครียดมาก มีวิธีทำให้อะไรอะไรมันดีขึ้นบ้างไหมคะ กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นบ้าไปโดยไม่รู้ตัว (เพราะคนบ้าก็ไม่รู้ตัวอยู่แล้วว่าตัวเองบ้า) ขอบคุณมากค่ะ


ขอแนะนำดังนี้ เรื่องที่คุณเล่ามานี้เป็นเรื่องที่มีอยู่แล้วด้วยกันทุกคนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
พระพุทธองค์สอนให้เรารู้เข้าใจ รู้ซึ้งถึงสัจจะทั้ง ๔ คือ
ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
เราทุกคนมีประจำอยู่แล้ว คือ ทุกข์ กับ สมุทัย เป็นทุน
แต่เราควรแสวงหา นิโรธ กับมรรค ตามที่พระพุทธองค์ทรงชี้แนะไว้
เมื่อทุกข์เกิดควรกำหนดรู้ว่าทุกข์เกิด ควรแสวงหาตัวเป็นเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์เพื่อกำหนดละ
ก็ได้แก่สมุทัยนั่นเอง ทุกข์เป็นผล สมุทัยเป็นเหตุ พระพุทธองค์สอนให้ละที่เหตุเสียได้
ผลก็ย่อมไม่เกิดขึ้นจริงไหม?
ท่านสอนว่าทุกข์ดับก็คือนิโรธ ซึ่งคือพระนิพพานนั่นเอง ท่านก็ยังชี้ทางดับทุกข์ไว้ด้วยคือมรรคมีองค์ ๘
ทุกข์ที่คุณประสบอยู่นี้ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลย เพียงทุกข์เขาเกิดเพื่อให้เรากำหนดรู้ นี่เป็นสภาวะของจริงที่เกิดขึ้น ก็จงเอาวิกฤตให้เป็นโอกาสเถิด ทุกข์ก็ย่อมไม่เที่ยงเช่นกันย่อมดับไปเองเป็นธรรมดา เมื่อทุกข์ดับสุขอีกอย่างหนึ่งก็ต้องเกิดขึ้นได้แน่นอน ขอให้โชคดีครับ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร