วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 03:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 79 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2009, 07:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เพื่อไม่ให้คลุมเครือ (จนเกิดหลุมดำ ณ ภายใน :b9: ) ขอกล่าวเกี่ยวกับฐานในการเจริญสติต่อซักเล็กน้อยเพื่อให้เห็นเค้าโครงของเรื่อง

กาย - ตามดูรู้ทันกาย คือ อิริยาบถใหญ่ อิริยาบถย่อย (นี่ก็เป็นฐานเจริญสติ เป็นต้น)
เวทนา - ตามดูรู้ทันเวทนา (นี่ก็เป็นฐานเจริญสติ...)
จิต -ตามดูรู้ทันจิต (นี่ก็ฐานเจริญสติ...)
ธรรม - ตามดูรู้ทันธรรม ได้แก่นิวรณ์ธรรม (นี่ก็ฐานเจริญสติ...)

เฉพาะข้อ กาย (หรือรูป) - ในขณะนั่งใช้พอง-ยุบ + รูปนั่ง ก็นั่งกำหนดอาการพอง-ยุบ
เป็นหลัก (พ้นจากนั้นก็ใช้อิริยาบถอื่นๆ ที่เป็นปัจจุบันขณะเป็นฐานเจริญสติ...)

ส่วนข้อที่เหลือ กำหนดตามอาการเมื่อเกิด มิใช่ไล่ปฏิบัติหรือทำทีละข้อๆ ตามลำดับ :b42: :b38:



อันนี้ ทราบค่ะ ว่าไม่ใช่มาไล่ปฏิบัติหรือทำทีละข้อ :b16:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2009, 07:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:

ที่กล่าวมา อยู่ในขั้นแต่งองค์ทรงเครื่อง ยังทันออกเล่นหน้าเวทีเลย ยังยุ่งยากขนาดนั้น หากออกแสดงหน้าเวที (รบกับกิเลส) จะซักขนาดไหนนะคุณวลัยพร :b12:

ดูตัวอย่างผู้แสดงสักรายหนึ่งเอารายธรรมดาให้ดู



ดิฉันไปฝึกกรรมฐานมา 7 วัน ก็มีเดินจงกรม และ นั่งสมาธิ แล้วกลับมาทำที่บ้านเอง โดยจะใช้เวลาเดินจงกรม 1 ชั่วโมง และนั่งสมาธิ 1 ชั่วโมง และมีอาการดังนี้ค่ะ

1. เวลาเดินจงกรมเมื่อกำหนด "ยืนหนอ" จากหน้าผากไปสู่ปลายเท้า จากไปเท้าไปสูหน้าผาก รู้สึกว่าที่บริเวณหน้าผากจะหนัก ๆ เวลาหายใจรู้สึกว่าตรงที่มันหนัก ๆ มันไหลขึ้นไหลลงค่ะ ไม่แน่ใจว่าเกิดจากการเพ่งกายมากไปหรือปล่าวคะ แล้วจะต้องแก้ไขยังไง แต่เวลานั่งจะเป็นแต่ช่วงแรก ๆ ที่จะเข้าสมาธิใหม่ ๆ หลังจากนั้นก็จะไม่เป็นอะไร

2. ขณะที่เดินจงกรม มักมีอาการเวียนหัว ถ้าเดินช้ามากจะมีอาการเซ จะแก้ไขอย่างไรคะ



3. เวลานอนรู้สึกเหมือนตัวเบาหวิว ๆ และจะรู้สึกตัวเวลาที่นอนดิ้นค่ะ เลยต้องกำหนด "ยุบ-พองหนอ" ถูกหรือไม่คะ



ไปเพ่งทำไมที่หน้าผาก เพ่งมากมันก็มึนน่ะสิ

กำหนดยืนหนอ ให้กำหนดที่กระหม่อมไม่ใช่หรือคะ ทำไมไปกำหนดที่หน้าผาก กำหนดผิดที่มันก็มึนสิคะ

เคยเห็นเด็กแรกเกิดไหมคะ ไม่รู้ว่ามีใครเคยเห็นหรือเปล่า ตรงด้านหน้าของศรีษะเด็ก คือบนหัว แต่ด้านหน้า ไม่ต่ำลงมาถึงหน้าผาก จุดตรงนี้ เวลาเราคลำเบาๆ ( อันนี้เฉพาะเด็กแรกเกิดนะคะ ถึงจะคลำเจอ ผู้ใหญ่กระโหลกหนาแล้ว คลำยังไงก็ไม่เจอหรอกค่ะ ) หรือไม่ต้องคลำก็ได้ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มันจะเหมือนรู้ สามเหลี่ยม แล้วมันจะเต้นตุ้บๆเบาๆ อยู่ตลอดเวลา ตรงนี้แหละค่ะที่เรียกว่า กระหม่อม

เดินจงกรมแล้วมีอาการเวียน นี่ มัวก้มไปมองอยู่แต่ปลายเท้าหรือเปล่าล่ะคะ แล้วอาการเซนี่ ถ้าเวียนหัวหรือเซ เราก็หยุดเดิน แล้วกำหนดรู้ จนกว่าอาการที่เกิดนั้นๆหายไป แล้วค่อยเดินต่อ

ไม่กำหนดรู้หนอล่ะ ไปกำหนด พอง-ยุบ ทำไม

ไม่รู้สินะคุณกรัชกาย แล้วแต่ผู้ที่จะแนะนำเขา เราอาจจะใช้การกำหนดที่แตกต่างกันไป แต่มันก็คือ การเจริญสติ

นี่เอาสภาวะเขามาให้วิจารณ์หรือ :b32:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2009, 16:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
พอก่อน ไว้มาสนทนาใหม่ ไม่ได้เอาชนะ แต่มันน่าจะเคลียร์กว่านี้ ภาษาไทย
วันละคำ



คุณจะไปไหนครับ :b2: เท่าที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองระยะนี้ ไม่มีอะไรน่าลุ้น เพราะ
แถวสมุทรปราการเขาหยุดปาไข่กันแล้ว ตั้งแต่โปลิตบอกว่าไข่เป็นอาวุธ :b7:

คุณไปแล้วกรัชกายจะสนทนากับใครล่ะทีเนี้ย คุณคนเดียวที่พอจะสนทนาด้วยได้ :b32:
ถามว่า เพราะอะไร ?
...เพราะเราเห็นไม่ตรงกันเห็นแย้งกัน นี่ล่ะคนที่กรัชกายต้องการ แม้บางครั้งเราอาจจะโต้เถียงกันเสียงดังไปหน่อย จนบ้านใกล้เรือนเคียงรำคาญบ้าง แต่เมื่อเขาฟังว่าเราถกเถียงกันเรื่องการปฏิบัติกรรมฐาน ก็น่า
จะได้ประโยชน์มากกว่า ฟังด้วยดีย่อมได้ปัญญา

ส่วนคุณไม่น่าได้อะไร เพราะมีคติประจำใจ “รู้แค่ไหนก็ย่อมแนะนำได้แค่นั้น มันไม่ใช่เรื่องถูกหรือผิด”

viewtopic.php?f=1&t=19132&st=0&sk=t&sd=a&start=105
อ้างคำพูด:
ไม่รู้สินะคุณกรัชกาย แล้วแต่ผู้ที่จะแนะนำเขา เราอาจจะใช้การกำหนดที่แตกต่างกันไป
แต่มันก็คือ การเจริญสติ
นี่เอาสภาวะเขามาให้วิจารณ์หรือ


ความรู้ความเข้าใจระหว่างคนสองคน คือ โยคีผู้นั้น กับคนไม่เคยผ่านสภาวะดังกล่าวนั่น คนละอารมณ์ความรู้สึกกัน ผู้ประสบการณ์จริง รู้เห็นด้วยตน เพียงชี้แนะครั้งเดียวก็เข้าใจ ร้องอ้อเข้าใจแล้ว แล้วก็กลับไปทดลองฝึกหัดปฏิบัติต่อ :b8: :b42:

(นี่เอาสภาวะเขามาให้วิจารณ์หรือ) เปล่านะครับ ไม่ใช่ให้คุณวิจารณ์ แต่เอามาให้คุณดูว่า เมื่อรบกับกิเลสแล้วปัญหามีมากมายที่ต้องปรับต้องแก้ :b1: :b12:
ถึงให้คุณวิจารณ์ก็แบบเดิมๆ “….ไม่มีอะไรถูกไม่มีอะไรผิด”

แต่ครั้งนี้ฉีกแนวหน่อย (แล้วแต่ผู้ที่จะแนะนำเขา เราอาจจะใช้การกำหนดที่แตกต่างกันไป แต่มันก็ คือ การเจริญสติ)

แต่สติมีสองอย่างครับ คือ มิจฉาสติ กับสัมมาสติ :b1: :b38:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2009, 18:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
พอก่อน ไว้มาสนทนาใหม่ ไม่ได้เอาชนะ แต่มันน่าจะเคลียร์กว่านี้ ภาษาไทย
วันละคำ



คุณจะไปไหนครับ :b2: เท่าที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองระยะนี้ ไม่มีอะไรน่าลุ้น เพราะ
แถวสมุทรปราการเขาหยุดปาไข่กันแล้ว ตั้งแต่โปลิตบอกว่าไข่เป็นอาวุธ :b7:

คุณไปแล้วกรัชกายจะสนทนากับใครล่ะทีเนี้ย คุณคนเดียวที่พอจะสนทนาด้วยได้ :b32:
ถามว่า เพราะอะไร ?
...เพราะเราเห็นไม่ตรงกันเห็นแย้งกัน นี่ล่ะคนที่กรัชกายต้องการ แม้บางครั้งเราอาจจะโต้เถียงกันเสียงดังไปหน่อย จนบ้านใกล้เรือนเคียงรำคาญบ้าง แต่เมื่อเขาฟังว่าเราถกเถียงกันเรื่องการปฏิบัติกรรมฐาน ก็น่า
จะได้ประโยชน์มากกว่า ฟังด้วยดีย่อมได้ปัญญา

ส่วนคุณไม่น่าได้อะไร เพราะมีคติประจำใจ “รู้แค่ไหนก็ย่อมแนะนำได้แค่นั้น มันไม่ใช่เรื่องถูกหรือผิด”

viewtopic.php?f=1&t=19132&st=0&sk=t&sd=a&start=105
อ้างคำพูด:
ไม่รู้สินะคุณกรัชกาย แล้วแต่ผู้ที่จะแนะนำเขา เราอาจจะใช้การกำหนดที่แตกต่างกันไป
แต่มันก็คือ การเจริญสติ
นี่เอาสภาวะเขามาให้วิจารณ์หรือ


ความรู้ความเข้าใจระหว่างคนสองคน คือ โยคีผู้นั้น กับคนไม่เคยผ่านสภาวะดังกล่าวนั่น คนละอารมณ์ความรู้สึกกัน ผู้ประสบการณ์จริง รู้เห็นด้วยตน เพียงชี้แนะครั้งเดียวก็เข้าใจ ร้องอ้อเข้าใจแล้ว แล้วก็กลับไปทดลองฝึกหัดปฏิบัติต่อ :b8: :b42:

(นี่เอาสภาวะเขามาให้วิจารณ์หรือ) เปล่านะครับ ไม่ใช่ให้คุณวิจารณ์ แต่เอามาให้คุณดูว่า เมื่อรบกับกิเลสแล้วปัญหามีมากมายที่ต้องปรับต้องแก้ :b1: :b12:
ถึงให้คุณวิจารณ์ก็แบบเดิมๆ “….ไม่มีอะไรถูกไม่มีอะไรผิด”

แต่ครั้งนี้ฉีกแนวหน่อย (แล้วแต่ผู้ที่จะแนะนำเขา เราอาจจะใช้การกำหนดที่แตกต่างกันไป แต่มันก็ คือ การเจริญสติ)

แต่สติมีสองอย่างครับ คือ มิจฉาสติ กับสัมมาสติ :b1: :b38:



( กระซิบ .... ตาบ้า ) :b32:

ที่บอกว่า " พอก่อน ไว้มาสนทนาใหม่ ไม่ได้เอาชนะ แต่มันน่าจะเคลียร์กว่านี้ ภาษาไทย
วันละคำ " หมายถึงเรื่องนี้ คุณนี่จริงๆเลย ตีโพยตีพายไปได้ :b32:

" ไม่มีอะไรถูกไม่มีอะไรผิด ”

น่า ... ยอมรับหน่อยน่า มันเป็นอย่างนั้นจริงๆนี่นา เพียงแต่ว่า คุณอาจจะยังมองไม่เห็นมันเท่านั้นเอง ยอมรับเถอะนะ ..... กายจ๋า ..... :b32:

ส่วนคุณไม่น่าได้อะไร เพราะมีคติประจำใจ [color=#FF0000]“รู้แค่ไหนก็ย่อมแนะนำได้แค่นั้น มันไม่ใช่เรื่องถูกหรือผิด”

แหมๆๆๆ รู้ได้ไงว่าไม่ได้ ได้สิ ได้ในแง่การสื่อภาษาของปริยัติที่ชัดเจนมากขึ้น :b12:

แล้วมันจริงหรือเปล่าล่ะว่า ผู้ที่แนะนำผู้อื่นนั้น ตัวเองรู้แค่ไหนก็ย่อมแนะนำได้แค่นั้น ไม่งั้นคุณคงไม่มาพูดหรอกว่า " ความรู้ความเข้าใจระหว่างคนสองคน คือ โยคีผู้นั้น กับคนไม่เคยผ่านสภาวะดังกล่าวนั่น คนละอารมณ์ความรู้สึกกัน ผู้ประสบการณ์จริง รู้เห็นด้วยตน เพียงชี้แนะครั้งเดียวก็เข้าใจ ร้องอ้อเข้าใจแล้ว แล้วก็กลับไปทดลองฝึกหัดปฏิบัติต่อ " ถ้าไม่เคยผ่านสภาวะนั้น จะแนะนำเขาถูกได้ยังไง จริงไหม?

จริงไหมคะ เพราะมันก็ความหมายเดียวกัน เพียงแต่แตกต่างที่ตัวอักษรหรือการพูดที่ใช้สื่อเท่านั้น ดิฉันพูดสั้นๆ แต่คุณมาขยายข้อความที่ดิฉันพูด :b32:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 79 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร