วันเวลาปัจจุบัน 20 พ.ค. 2025, 08:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2024, 08:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5335


 ข้อมูลส่วนตัว


พวกเราทุก ๆ ท่านนะ บวชเข้ามาคราวนี้อย่าให้พลาดโอกาส พยายามภาวนาให้สม่ำเสมอ การภาวนาก็อย่างที่ผมได้กล่าวให้หมู่พวกเพื่อนได้ทราบ กรรมฐานหลัก ก็คือ อานาปานสติ กำหนดลมหายใจเข้าหายใจออก อันนี้ก็คือกรรมฐานหลักที่จะทำจิตให้สงบ

กรรมฐานรองลงไปก็สุดแท้แต่เทคนิคในการที่จะทำจิตให้สงบได้ อย่างที่ผมได้เรียนให้พวกเราท่านทั้งหลายทราบ เรานับหายใจเข้านับ ๑ หายใจออกนับ ๒ หายใจเข้านับ ๓ หายใจออกนับ ๔ อย่างนี้ ก็คือวิธีหนึ่ง จากนั้นบริกรรม พุทโธ พุทโธ พุทโธ ไม่ให้มีช่องว่าง ให้จิตใจของเราจะมีความรู้สึกเล็ดลอดออกไป ให้มีความรู้สึกถี่ยิบในความรู้สึกของเรา อันนี้ก็เป็นวิธีการหนึ่ง

หรือเราจะบริกรรม หายใจเข้าพุทโธ หายใจออก ธัมโม หายใจเข้าพุทโธ หายใจออก ธัมโม อย่างนี้ก็ได้นะ หรือเราจะบริกรรมอย่างองค์หลวงปู่หล้าสอนลูกศิษย์ หรือสอนผมสมัยผมเป็นเณรหลวงปู่ท่านก็บอกให้บริกรรมว่า หายใจเข้าเกิด หายใจออกดับ คือเกิดตาย เกิดตาย เกิดตาย เกิดดับ เกิดดับเกิดดับ ให้เห็นอนิจจังไปด้วย อย่างนี้ก็ได้นะ

สรุปแล้วก็คือวิธีการที่จะทำให้จิตสงบมีหลายวิธี พระพุทธเจ้าจึงบัญญัติวิธีการสมถะ เครื่องยึดเหนี่ยวทางใจที่เป็นเครื่องกำหนดของใจ ที่จะทำจิตให้สงบก็คือกรรมฐานเช่น พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ สีลานุสติ จาคานุสติ เทวตานุสติ อันนี้ก็คือทำจิตให้สงบ แต่ถึงยังไงก็ตามจักกรรมฐานใดก็ตาม แต่ก็อยากจะให้หมู่พวกเพื่อนตั้งใจ แล้วก็ทำให้สม่ำเสมอ ทำให้ต่อเนื่องอย่าให้ขาดตกบกพร่อง อันนี้สำคัญนะต่อเนื่องนี้สำคัญ

เราจะยึดอันไหน กรรมฐานไหนพยายามให้อยู่กับกรรมฐานนั้น อย่าไปเปลี่ยนกรรมฐานบ่อย หมู่เพื่อนว่ากรรมฐานนี้ดีก็เปลี่ยน วันหนึ่งเปลี่ยนอันหนึ่ง วันหนึ่งเปลี่ยนอันหนึ่งอันนั้นไม่ดี เหมือนกับเราปลูกต้นไม้ย้ายบ่อย ย้ายทุกวันต้นไม้จะเจริญเติบโตได้ยาก เพราะมันกระทบกระเทือนรากของมันอยู่ตลอด

พระธรรมเทศนาโดย หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “ยึดกรรมฐานหลักและพิจารณาปักลงที่ใจ”
แสดงธรรม เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๐(ค่ำ)






#สัจจบารมี
"..การนอนเป็นเวลา การตื่นเป็นเวลา การรับประทานเป็นเวลา ทำอะไรให้ตรงต่อเวลา ก็ให้มีสัจจะไว้ในใจว่า เราจะทำอะไรให้มันจริงใจสักอย่างหนึ่ง ให้เป็นวิหารธรรมเครื่องอยู่ของใจ ที่คือแผนการสร้างพลังจิตพลังใจ การทำอะไรเป็นเวลาตรงไปตรงมา เป็นการสร้างสัจจบารมี ถ้าใครมีสัจจะบารมี มีสัจจะบารมี ใกล้ต่อการตรัสรู้ ถ้าขาดสัจจะความจริงใจแล้วยังห่างพระพุทธเจ้า ผิดรู้ตัวว่าผิด ถูกรู้ตัวว่าถูก ไม่โกหกใคร ผิดรับไปตามผิด ถูกรับไปตามถูก นั่นเป็นการสร้างสัจจบารมี เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายก็ควรจะได้ฝึกตัวเองให้มีสัจจบารมีบ้าง.."

พระธรรมคำสอนโดย
พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
(พ.ศ.๒๔๖๔–๒๕๔๒)







"...เป็นผู้มีสติอยู่สม่ำเสมอ ไม่มีความบกพร่อง
ถึงแม้ว่าไม่ได้ เดินจงกรม ไม่ได้นั่งสมาธิ ก็ไม่
มีอะไรจะเสียหาย นี่พูดถึงอาการ มันก็ต้องเป็น
อย่างนั้น. ถ้าเราทำเข้าไปถึงจุดนี้ มันจะเป็น
ของมัน อย่างนั้น. มันจะดีใจก็รู้จักมัน จะเสียใจ
ก็รู้จัก เมื่ออารมณ์มาประสบ มันก็รู้ขึ้นมาพร้อม
กัน และก็ดับพร้อมกัน ถ้าพูดตามเรื่องก็เรียกว่า มรรค มันฆ่ากิเลส เกิด ดับ กลับพร้อมกันเลย
พอมีปัญหาก็มีเฉลยพร้อม ภาษาครูบาอาจารย์
ท่านว่า มันมีแต่เรื่องเกิดดับ เท่านั้น..."

หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron