พระพทธศาสนาคือคำสอนของผู้ตรัสรู้ความจริงสิ้นอวิชชาหมดจดจากกิเลสก่อนแสดงพระธรรมเทศนา
การเป็นสาวกคือผู้บรรลุตามการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่ไปคิดค้นด้นเดาทำเองโดยไม่ได้ศึกษา
ศึกษาแปลตรงบาลีว่าสิกขาเป็นความรู้ขั้นบรรลุการรู้ความจริงตรงลักษณะตามที่กำลังปรากฏมีในขณะนี้
ไม่ใช่เพียงการคิดเอาว่ารู้แต่เป็นการประจักษ์แจ้งลักษณะนั้นตามเป็นจริงที่รู้อารมณ์จริงจริงแบบนั้นมาแล้ว
เช่นการรู้อารมณ์นั้นโดยหายสงสัยจึงจำได้หมายรู้สิ่งที่เคยเข้าถึงความจริงนั้นทำให้จดจำอารมณ์เหล่านั้นได้
เพราะได้เคยสะสมเหตุปัจจัยในอดีตตรงตามธรรมมาก่อนเมื่อเกิดมาอีกก็มารับวิบากกรรมสืบต่อมาให้ผลเกิด
ไม่สามารถเอาอัตตาไปบังคับคาดคั้นเอาได้ตามที่ใจคาดคิดหรือต้องการเจาะจงให้เป็นอย่างที่ใจต้องการได้
ขณะนี้คือผลในอดีตมาปรากฏว่าตาไม่บอดหูไม่หนวกจึงจะฟังพระธรรมรู้เรื่องต้องทำเหตุฟังใหม่ปรุงแต่งจิต
ฟังให้รู้รายละเอียดไปตามลำดับปัญญา3ขั้นเพื่อปรุงแต่งปัญญาถูกจากหยาบไปกลางไปละเอียดไม่ข้ามสุตะ
เหตุตรงกับผลเกิดดับเร็วมากถ้าไม่ฟังเพื่อเข้าใจจิตตนเองให้ตรงปัจจุบันก็เข้าไม่ถึงสัจจะธรรมที่กำลังปรากฏ
การบำเพ็ญบารมีคือคุณความดีทุกประการก็เป็นไปตามลำดับหยาบกลางละเอียดเช่นกันดังนั้นบารมี10ทัศ
จึงต้องเป็นบารมี10ทัศดับกิเลสตามลำดับขั้นหยาบกลางละเอียดจึงต้องคูณ3จึงเป็นการบรรลุบารมี30ทัศ
คือการบรรลุธรรมตามลำดับทั้ง3แบบคือ1)พระพุทธเจ้า2)พระปัจเจกพุทธเจ้า3)พระอนุพุทธะ(สาวกอรหันต์)
จะต้องมีปัญญาดับอวิชชาตามลำดับที่สะสมมาแต่อดีตดับกิเลสจากหยาบไปกลางไปละเอียดทุกรูปทุกนาม
แม้พระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้าก็ข้ามขั้นไม่ฟังพระธรรมไม่ได้จนกว่าจะถึงชาติสุดท้ายจึงไม่ต้องฟัง
ส่วนพระอนุพุทธะ(สาวกอรหันต์)ต้องได้ฟังพระธรรมทุกชาติคือสาวกบารมีบรรลุได้จากฟังในชาติสุดท้ายค่ะ
ชาตินี้รู้แล้วว่าตนเองไม่ใช่ชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้าต้องเงี่ยโสตลงสดับพระธรรม
https://youtu.be/VAxVkGtstmk