วันเวลาปัจจุบัน 07 มิ.ย. 2025, 10:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 59 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 10:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ต้องปฏิบัติธรรม,ปฏิบัติกรรมฐาน (ตั้งชื่ออะไรอีกก็ตั้งเอาได้) ให้เห็นสภาวะนั่น จิตจึงหยุดฟุ้งซ่านคลายความสงสัยได้บ้าง อ้าวทำไมเป็นงั้นล่ะ? ก็เพราะเขาเห็นสัจจะแล้วน่าซี่

cool
เดี๋ยวนี้คือต้องเดี๋ยวนี้เลยก็มีกิเลสเพราะกิเลสแปลว่าไม่รู้
ไปไหนๆเพราะอยากไปติดข้องในสถานที่ที่ไปเห็นอะไรๆ
ก็ติดข้องไปหมดดอกไม้สวยต้นไม้ร่มรื่นพอกลิ่นส้วมเหม็น
กิเลสตลอดเวลาชอบใจคือโลภะไม่ชอบใจคือโทสะไม่พ้นไม่รู้
และกำลังไม่รู้ว่าตนไม่รู้เพราะอยู่ในรูปภพที่ติดในกามคุณ5มีหมด
ยกเว้นปัญญาที่ไม่มีและปัญญาจะเกิดได้ต้องไม่ข้ามสุตมยปัญญาคร่า
ปัญญาเกิดตามลำดับเจริญขึ้นจากการฟังแม้แต่ฌานก็เจริญขึ้นตามลำดับ
ฌานนี่ต้องหลับตาทำใช่ไหมคะแต่วิปัสสนาคือปัญญารู้แยกแยะทุกอย่างตอนตื่นรู้แจ้งค่ะ


ฌานคือสมาธิ คือจิตที่ตั้งมั่น วิปัสสนา คือ ปัญญาที่รู้รูปนามตามที่มันเป็น

แต่วิปัสสนาคุณโรสกับแม่สุจินบัญญัติเอาเอง คิกๆๆ

กิเลส ไม่ใช่แปลว่าไม่รู้ บอกไม่จำ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 11:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7516

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อไม่มีใครเอากิเลสออกได้ นั่นแสดงว่าคุณโรสคิดว่า พระอรหันต์ยังมีกิเลส

อ้างคำพูด:
Rosarin
จะเอาอะไรมิทราบคะทุกอย่างมันดับหมดแล้วนี่
ไปได้แต่กิเลส/กรรม/วิบากคือจิต+เจตสิก+รูปพาเกิด
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มีเพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา
นิพพานไม่เกิดเพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก
แต่คำตถาคตที่กำลังมีคนอื่นกล่าวให้เข้าใจความจริงคือสิ่งที่กำลังมี
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย
เพราะสิ่งที่กำลังมีกำลังทำตามๆกันด้วยความไม่รู้คือกิเลสกรรมวิบาก
พาเวียนว่ายตายเกิดไม่หยุดที่ทำมาแล้วแก้ไขไม่ได้มีแต่ต้องฟังเพื่อ
เข้าใจทุกข์ที่ทุกข์เพราะไม่รู้ที่หายทุกข์เพราะรู้ความจริงถูกตามได้
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ
viewtopic.php?f=1&t=56183&p=423758#p423758

คคห. คุณโรสที่ขีดเส้นใต้นั้น ไม่รู้คุณโรสหมายถึงอะไร คือ ไปเอาศัพท์แสงทางธรรมของเขามาแล้วก็ใส่ความคิดความเห็นของตัวเองลงไป เช่น

อ้างคำพูด:
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ


อ้างคำพูด:
นิพพานไม่เกิด เพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก


อ้างคำพูด:
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มี เพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา


อะไรของคุณโรสนะ ไม่เข้าใจ

:b12:
จิตเกิดดับทีละ1ขณะนั้นน่ะ
อายตนะแต่ละทางรู้กระทบผัสสะเจตสิกทีละ1แล้วดับทันทีเขียนคำอ่านนะจักขายะตะนะกระทบสี1สีดับ
ทันทีมีภวังค์คั่นส่งต่อมโนทวารผ่านภวังค์อีกทีจึงเกิดอายตนะทางอื่นต่อ...จิตเกิดดับเร็วจนปรากฏเห็นนิมิตสี
ที่เห็นเป็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตของสีหลากสีที่ดับไปนับไม่ถ้วนคืออดีตสีค่ะ...คิดผิดจำผิดสัญญาเลยวิปลาส
เพราะมีทิฏฐิวิปลาสดังนั้นจึงทำให้จิตวิปลาสเป็นกิเลสอาสาวะไหลครบ6ทางอายตนะตั้งแต่จิตดับแค่3ขณะ
อุปมาเหมือนจุดธูป1ดอกแค่จุดเดียวแกว่งเร็วๆกลายเป็นวงกลมลืมตาดูจิตเกิดดับทีละ1สลับกันครบ6ทางน๊า


เปรียบเหมือนคนไม่เคยเห็นผี แต่ก็พูดถึงผีวาดภาพผีไปตามจินตนาการในใจของตัว ฉันใด คุณโรสก็ฉันนั้นอ่านตำราอภิธรรมมาบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เคยเห็นความเป็นเช่นนั้นของมันจริงๆ ก็จึงได้แต่วาดภาพความเป็นเช่นนั้นไปตามมโนคติของตัวแล.

จบข่าว :b32:



มีอ่านรายละเอียดบางอย่างน้อยมาก จากเว็บลานธรรมจักร และเว็บบ้านธัมมะน้อยมากจริงๆค่ะ
ขอโทษนะคะ ไม่เคยอ่านพระอภิธรรมด้วยตนเอง ที่เอามาสนทนานั้นศึกษาจากการฟังพระพุทธพจน์จากคลิปวิดีโอบ้านธัมมะอย่างเดียวค่ะ


ว่าแล้วนั่นไง :b16:

ผู้ปฏิบัติธรรมเป็นต้น จะหายฟุ้ง คลายความสงสัย ขั้นต้นจิตต้องดำเนินไปถึงวิสุทธิข้อนี้

กังขาวิตรณวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ด้วยหมดสงสัยในนามรูป คือ กำหนดรู้ปัจจัยแห่งนามรูปได้ว่า เพราะอะไรเกิด นามรูปจึงเกิด เพราะอะไรดับ นามรูปจึงดับ

ดังกระทู้ตั้งนี่

viewtopic.php?f=1&t=56409

ขั้นเริ่มต้นนะ ยังต้องไปอีกไกลทีเดียว


:b32:
ก็เขานั่งพุทโธจนคำบริกรรมหายหมดกายหายหมดแล้ว
ออกทางวิปัสสนาจากฟังอภิธรรมไม่รู้เรื่องเลยจนชำนาญ
ในการระลึกตรงสัจจะที่กายใจกำลังมีตอนกำลังฟังไงคะ
ถึงพยายามมาบอกให้ระลึกตามวิสยรูป7ตลอดเวลาและ
ฟังพระพุทธพจน์ไปด้วยเป็นความตั้งมั่นสมาธิลืมตาตื่นรู้


คนเป็นไม่ใช่คนตายแล้ว :b32:

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เห็นเขาพูดกันทั่วๆไป :b32: นั่นไงมันแสดงให้ดูแล้วไงล่ะ บ้างก็ว่าอนัตตาบังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ของเรา ฯลฯ มันปรากฏให้เห็นแล้วไงล่ะ ทำไมรับไม่ได้ล่ะ

หน้าที่ของเราคือดูมันตามที่มันเป็น ดูการทำงานของมัน มันไม่ได้หายไปไหนหรอกนั่งหัวโด่อยู่ตรงที่นั่งนั่นแหละ :b13: แต่รู้สึกว่ามันหาย

:b12:
เวลาเขาพูดเราก็ฟังและรู้ตัวที่กายใจตนเองก็รู้แล้วก็ดับแล้วพอคิดเองต่อก็ตามเห็นผิดไงยังไม่รู้หราเห็นผิด
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 11:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กิเลส สิ่งที่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง, ความชั่วที่แฝงอยู่ในความรู้สึกนึกคิด ทำให้จิตใจขุ่นมัวไม่บริสุทธิ์ และเป็นเครื่องปรุงแต่งความคิดให้ทำกรรมซึ่งนำไปสู่ปัญหาความยุ่งยากเดือดร้อนและความทุกข์

กิเลส ๑๐ (ในบาลีเดิม เรียกว่ากิเลสวัตถุ คือสิ่งก่อความเศร้าหมอง ๑๐) ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ อโนตตัปปะ


วิปัสสนา ความเห็นแจ้ง คือเห็นตรงต่อความเป็นจริงของสภาวธรรม; ปัญญาที่เห็นไตรลักษณ์อันให้ถอนความหลงผิดรู้ผิดในสังขารเสียได้, การฝึกอบรมปัญญาให้เกิดความเห็นแจ้งรู้ชัดภาวะของสิ่งทั้งหลายตามที่มันเป็น


สมาธิ ความมีใจตั้งมั่น, ความตั้งมั่นแห่งจิต, การทำให้ใจสงบแน่วแน่ ไม่ฟุ้งซ่าน, ภาวะที่จิตตั้งเรียบแน่วอยู่ในอารมณ์คือสิ่งอันหนึ่งอันเดียว, มักใช้เป็นคำเรียกง่ายๆ สำหรับอธิจิตตสิกขา


ฌาน การเพ่งอารมณ์จนใจแน่วแน่เป็นอัปปนาสมาธิ, ภาวะจิตสงบประณีต ซึ่งมีสมาธิเป็นองค์ธรรมหลัก


องค์ฌาน (บาลี ว่า ฌานงฺค) องค์ประกอบของฌาน, องค์ธรรมทั้งหลายที่ประกอบกันเข้าเป็นฌานขั้นหนึ่ง เช่น ปีติ สุข เอกัคคตา รวมกันเรียกว่า ฌานที่ ๒ หรือทุติยฌาน; องค์ฌานทั้งหมดในฌานต่างๆ นับแยกเป็นหน่วยๆ ไม่ซ้ำกัน มีทั้งหมด ๖ อย่าง คือ วิตก ความตรึก วิจาร ความตรอง ปีติ ความอิ่มใจ สุข ความสุข อุเบกขา ความมีจิตเรียบสมดุลเป็นกลาง และเอกัคคตา ความมีอารมณ์หนึ่งเดียว


ยถาภูตญาณ ความรู้ตามความเป็นจริง, รู้ตามที่มันเป็น


ยถาภูตญาณทัสสนะ ความรู้ความเห็นตามเป็นจริง


คิดไปได้ฌานหลับตา วิปัสสนาลืมตา สูตรเดียวกับสำนักอ้อมน้อยของ อ.แนบเลย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 11:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อไม่มีใครเอากิเลสออกได้ นั่นแสดงว่าคุณโรสคิดว่า พระอรหันต์ยังมีกิเลส

อ้างคำพูด:
Rosarin
จะเอาอะไรมิทราบคะทุกอย่างมันดับหมดแล้วนี่
ไปได้แต่กิเลส/กรรม/วิบากคือจิต+เจตสิก+รูปพาเกิด
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มีเพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา
นิพพานไม่เกิดเพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก
แต่คำตถาคตที่กำลังมีคนอื่นกล่าวให้เข้าใจความจริงคือสิ่งที่กำลังมี
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย
เพราะสิ่งที่กำลังมีกำลังทำตามๆกันด้วยความไม่รู้คือกิเลสกรรมวิบาก
พาเวียนว่ายตายเกิดไม่หยุดที่ทำมาแล้วแก้ไขไม่ได้มีแต่ต้องฟังเพื่อ
เข้าใจทุกข์ที่ทุกข์เพราะไม่รู้ที่หายทุกข์เพราะรู้ความจริงถูกตามได้
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ
viewtopic.php?f=1&t=56183&p=423758#p423758

คคห. คุณโรสที่ขีดเส้นใต้นั้น ไม่รู้คุณโรสหมายถึงอะไร คือ ไปเอาศัพท์แสงทางธรรมของเขามาแล้วก็ใส่ความคิดความเห็นของตัวเองลงไป เช่น

อ้างคำพูด:
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ


อ้างคำพูด:
นิพพานไม่เกิด เพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก


อ้างคำพูด:
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มี เพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา


อะไรของคุณโรสนะ ไม่เข้าใจ

:b12:
จิตเกิดดับทีละ1ขณะนั้นน่ะ
อายตนะแต่ละทางรู้กระทบผัสสะเจตสิกทีละ1แล้วดับทันทีเขียนคำอ่านนะจักขายะตะนะกระทบสี1สีดับ
ทันทีมีภวังค์คั่นส่งต่อมโนทวารผ่านภวังค์อีกทีจึงเกิดอายตนะทางอื่นต่อ...จิตเกิดดับเร็วจนปรากฏเห็นนิมิตสี
ที่เห็นเป็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตของสีหลากสีที่ดับไปนับไม่ถ้วนคืออดีตสีค่ะ...คิดผิดจำผิดสัญญาเลยวิปลาส
เพราะมีทิฏฐิวิปลาสดังนั้นจึงทำให้จิตวิปลาสเป็นกิเลสอาสาวะไหลครบ6ทางอายตนะตั้งแต่จิตดับแค่3ขณะ
อุปมาเหมือนจุดธูป1ดอกแค่จุดเดียวแกว่งเร็วๆกลายเป็นวงกลมลืมตาดูจิตเกิดดับทีละ1สลับกันครบ6ทางน๊า


เปรียบเหมือนคนไม่เคยเห็นผี แต่ก็พูดถึงผีวาดภาพผีไปตามจินตนาการในใจของตัว ฉันใด คุณโรสก็ฉันนั้นอ่านตำราอภิธรรมมาบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เคยเห็นความเป็นเช่นนั้นของมันจริงๆ ก็จึงได้แต่วาดภาพความเป็นเช่นนั้นไปตามมโนคติของตัวแล.

จบข่าว :b32:



มีอ่านรายละเอียดบางอย่างน้อยมาก จากเว็บลานธรรมจักร และเว็บบ้านธัมมะน้อยมากจริงๆค่ะ
ขอโทษนะคะ ไม่เคยอ่านพระอภิธรรมด้วยตนเอง ที่เอามาสนทนานั้นศึกษาจากการฟังพระพุทธพจน์จากคลิปวิดีโอบ้านธัมมะอย่างเดียวค่ะ


ว่าแล้วนั่นไง :b16:

ผู้ปฏิบัติธรรมเป็นต้น จะหายฟุ้ง คลายความสงสัย ขั้นต้นจิตต้องดำเนินไปถึงวิสุทธิข้อนี้

กังขาวิตรณวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ด้วยหมดสงสัยในนามรูป คือ กำหนดรู้ปัจจัยแห่งนามรูปได้ว่า เพราะอะไรเกิด นามรูปจึงเกิด เพราะอะไรดับ นามรูปจึงดับ

ดังกระทู้ตั้งนี่

viewtopic.php?f=1&t=56409

ขั้นเริ่มต้นนะ ยังต้องไปอีกไกลทีเดียว


:b32:
ก็เขานั่งพุทโธจนคำบริกรรมหายหมดกายหายหมดแล้ว
ออกทางวิปัสสนาจากฟังอภิธรรมไม่รู้เรื่องเลยจนชำนาญ
ในการระลึกตรงสัจจะที่กายใจกำลังมีตอนกำลังฟังไงคะ
ถึงพยายามมาบอกให้ระลึกตามวิสยรูป7ตลอดเวลาและ
ฟังพระพุทธพจน์ไปด้วยเป็นความตั้งมั่นสมาธิลืมตาตื่นรู้


คนเป็นไม่ใช่คนตายแล้ว :b32:

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เห็นเขาพูดกันทั่วๆไป :b32: นั่นไงมันแสดงให้ดูแล้วไงล่ะ บ้างก็ว่าอนัตตาบังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ของเรา ฯลฯ มันปรากฏให้เห็นแล้วไงล่ะ ทำไมรับไม่ได้ล่ะ

หน้าที่ของเราคือดูมันตามที่มันเป็น ดูการทำงานของมัน มันไม่ได้หายไปไหนหรอกนั่งหัวโด่อยู่ตรงที่นั่งนั่นแหละ :b13: แต่รู้สึกว่ามันหาย

:b12:
เวลาเขาพูดเราก็ฟังและรู้ตัวที่กายใจตนเองก็รู้แล้วก็ดับแล้วพอคิดเองต่อก็ตามเห็นผิดไงยังไม่รู้หราเห็นผิด


นั่งลืมตาฟังเขาพูดๆแล้วมโนตามไปนั่นแหละเห็นผิด คิกๆๆ

นั่นมโนแล้ว คุณโรสเห็นไหมว่ามันดับ แล้วอะไรดับ อ้าวๆ

มโนทั้งเพสำนักนี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 11:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฯลฯ

คุณสมบัติฝ่ายหมด และฝ่ายมี (ของโสดาบัน) ว่าโดยสาระสำคัญ ก็เป็นอย่างเดียวกัน กล่าวคือ จะละสักกายทิฏฐิได้ ก็เพราะมีปัญญาหยั่งรู้สภาวธรรมที่เป็นไปตามเหตุปัจจัยพอสมควร เมื่อเกิดปัญญาเข้าใจชัดขึ้นอย่างนี้ วิจิกิจฉา คือ ความสงสัยคลางแคลงใจก็หมดไป ศรัทธาที่อาศัยปัญญาก็แน่นแฟ้น

พร้อมนั้น ก็รักษาศีลได้ถูกต้องตามหลักการ ตามความมุ่งหมาย กลายเป็นอริยกันตศีล คือ ศีลที่อริยชนชื่นชมยอมรับ สีลัพพตปรามาสก็พลอยสิ้นไป เมื่อจาคะเจริญขึ้น มัจฉริยะก็หมดไป เมื่อราคะ โทสะ โมหะเบาบางลง ก็ไม่ตกไปในอำนาจของอคติ และราคะ โทสะ โมหะเบาบางลง ก็เพราะปัญญาที่มองเห็นความจริงของโลกและชีวิต ทำให้คลายความยึดติด เมื่อสิ้นยึดติด ถือมั่นน้อยลง ความทุกข์ก็ผ่อนคลาย และรู้จักความสุขที่ประณีตยิ่งขึ้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 14:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7516

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เมื่อไม่มีใครเอากิเลสออกได้ นั่นแสดงว่าคุณโรสคิดว่า พระอรหันต์ยังมีกิเลส

อ้างคำพูด:
Rosarin
จะเอาอะไรมิทราบคะทุกอย่างมันดับหมดแล้วนี่
ไปได้แต่กิเลส/กรรม/วิบากคือจิต+เจตสิก+รูปพาเกิด
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มีเพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา
นิพพานไม่เกิดเพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก
แต่คำตถาคตที่กำลังมีคนอื่นกล่าวให้เข้าใจความจริงคือสิ่งที่กำลังมี
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย
เพราะสิ่งที่กำลังมีกำลังทำตามๆกันด้วยความไม่รู้คือกิเลสกรรมวิบาก
พาเวียนว่ายตายเกิดไม่หยุดที่ทำมาแล้วแก้ไขไม่ได้มีแต่ต้องฟังเพื่อ
เข้าใจทุกข์ที่ทุกข์เพราะไม่รู้ที่หายทุกข์เพราะรู้ความจริงถูกตามได้
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ
viewtopic.php?f=1&t=56183&p=423758#p423758

คคห. คุณโรสที่ขีดเส้นใต้นั้น ไม่รู้คุณโรสหมายถึงอะไร คือ ไปเอาศัพท์แสงทางธรรมของเขามาแล้วก็ใส่ความคิดความเห็นของตัวเองลงไป เช่น

อ้างคำพูด:
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ


อ้างคำพูด:
นิพพานไม่เกิด เพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก


อ้างคำพูด:
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มี เพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา


อะไรของคุณโรสนะ ไม่เข้าใจ

:b12:
จิตเกิดดับทีละ1ขณะนั้นน่ะ
อายตนะแต่ละทางรู้กระทบผัสสะเจตสิกทีละ1แล้วดับทันทีเขียนคำอ่านนะจักขายะตะนะกระทบสี1สีดับ
ทันทีมีภวังค์คั่นส่งต่อมโนทวารผ่านภวังค์อีกทีจึงเกิดอายตนะทางอื่นต่อ...จิตเกิดดับเร็วจนปรากฏเห็นนิมิตสี
ที่เห็นเป็นคนสัตว์วัตถุคือนิมิตของสีหลากสีที่ดับไปนับไม่ถ้วนคืออดีตสีค่ะ...คิดผิดจำผิดสัญญาเลยวิปลาส
เพราะมีทิฏฐิวิปลาสดังนั้นจึงทำให้จิตวิปลาสเป็นกิเลสอาสาวะไหลครบ6ทางอายตนะตั้งแต่จิตดับแค่3ขณะ
อุปมาเหมือนจุดธูป1ดอกแค่จุดเดียวแกว่งเร็วๆกลายเป็นวงกลมลืมตาดูจิตเกิดดับทีละ1สลับกันครบ6ทางน๊า


เปรียบเหมือนคนไม่เคยเห็นผี แต่ก็พูดถึงผีวาดภาพผีไปตามจินตนาการในใจของตัว ฉันใด คุณโรสก็ฉันนั้นอ่านตำราอภิธรรมมาบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เคยเห็นความเป็นเช่นนั้นของมันจริงๆ ก็จึงได้แต่วาดภาพความเป็นเช่นนั้นไปตามมโนคติของตัวแล.

จบข่าว :b32:



มีอ่านรายละเอียดบางอย่างน้อยมาก จากเว็บลานธรรมจักร และเว็บบ้านธัมมะน้อยมากจริงๆค่ะ
ขอโทษนะคะ ไม่เคยอ่านพระอภิธรรมด้วยตนเอง ที่เอามาสนทนานั้นศึกษาจากการฟังพระพุทธพจน์จากคลิปวิดีโอบ้านธัมมะอย่างเดียวค่ะ


ว่าแล้วนั่นไง :b16:

ผู้ปฏิบัติธรรมเป็นต้น จะหายฟุ้ง คลายความสงสัย ขั้นต้นจิตต้องดำเนินไปถึงวิสุทธิข้อนี้

กังขาวิตรณวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ด้วยหมดสงสัยในนามรูป คือ กำหนดรู้ปัจจัยแห่งนามรูปได้ว่า เพราะอะไรเกิด นามรูปจึงเกิด เพราะอะไรดับ นามรูปจึงดับ

ดังกระทู้ตั้งนี่

viewtopic.php?f=1&t=56409

ขั้นเริ่มต้นนะ ยังต้องไปอีกไกลทีเดียว


:b32:
ก็เขานั่งพุทโธจนคำบริกรรมหายหมดกายหายหมดแล้ว
ออกทางวิปัสสนาจากฟังอภิธรรมไม่รู้เรื่องเลยจนชำนาญ
ในการระลึกตรงสัจจะที่กายใจกำลังมีตอนกำลังฟังไงคะ
ถึงพยายามมาบอกให้ระลึกตามวิสยรูป7ตลอดเวลาและ
ฟังพระพุทธพจน์ไปด้วยเป็นความตั้งมั่นสมาธิลืมตาตื่นรู้


คนเป็นไม่ใช่คนตายแล้ว :b32:

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เห็นเขาพูดกันทั่วๆไป :b32: นั่นไงมันแสดงให้ดูแล้วไงล่ะ บ้างก็ว่าอนัตตาบังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ของเรา ฯลฯ มันปรากฏให้เห็นแล้วไงล่ะ ทำไมรับไม่ได้ล่ะ

หน้าที่ของเราคือดูมันตามที่มันเป็น ดูการทำงานของมัน มันไม่ได้หายไปไหนหรอกนั่งหัวโด่อยู่ตรงที่นั่งนั่นแหละ :b13: แต่รู้สึกว่ามันหาย

:b12:
เวลาเขาพูดเราก็ฟังและรู้ตัวที่กายใจตนเองก็รู้แล้วก็ดับแล้วพอคิดเองต่อก็ตามเห็นผิดไงยังไม่รู้หราเห็นผิด


นั่งลืมตาฟังเขาพูดๆแล้วมโนตามไปนั่นแหละเห็นผิด คิกๆๆ

นั่นมโนแล้ว คุณโรสเห็นไหมว่ามันดับ แล้วอะไรดับ อ้าวๆ

มโนทั้งเพสำนักนี้

rolleyes
จิต.มโน.มนัส.หทย.หฤทัย.ก็คือจิตใจไม่ใช่เหรอคะ
คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นตรงมากตรงที่สุดนะคะ
ฟังแล้วเข้าใจถูกทันทีดับคิดเห็นผิดทันทีดีไหม
เพราะดีตามคำสอนคือสะสมโสภณเจตสิก
ทีละ1ขณะตอนมีการประชุมรวมกันของ
สภาวะต่างๆครบทั้งตาหูจมูกลิ้นกายใจ
คือมีจิตใจและร่างกายลืมตาดูอยู่ด้วย
ก็นั่งยืนเดินนอนฟังเสียงตามปกติก็คือ
รู้ความจริงที่กำลังคิดตามคำสอนได้
ตามปกติเป็นปกติฟังทุกอิริยาบทไง
ความจริงตามคำสอนมีหมดแล้วค่ะ
ไม่ไปไหนเลยก็มีฟังในส้วมก็ได้
ก็เปิดเสียงดังลั่นบ้านเลยนี่คะ
ส่วนอันนั่งหลับตาก็เข้าใจ
ความจริงที่ไม่มีกายแล้ว
เพียงฟังคำสอนเพิ่ม
ทุกวันก็คิดเห็นถูก
เข้าใจความปกติ
ของพฤติกรรม
ที่ทุกคนมีไงคะ
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 17:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:


จิต.มโน.มนัส.หทย.หฤทัย.ก็คือจิตใจไม่ใช่เหรอคะ
คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นตรงมากตรงที่สุดนะคะ
ฟังแล้วเข้าใจถูกทันทีดับคิดเห็นผิดทันทีดีไหม
เพราะดีตามคำสอนคือสะสมโสภณเจตสิก
ทีละ1ขณะตอนมีการประชุมรวมกันของ
สภาวะต่างๆครบทั้งตาหูจมูกลิ้นกายใจ
คือมีจิตใจและร่างกายลืมตาดูอยู่ด้วย
ก็นั่งยืนเดินนอนฟังเสียงตามปกติก็คือ
รู้ความจริงที่กำลังคิดตามคำสอนได้
ตามปกติเป็นปกติฟังทุกอิริยาบทไง
ความจริงตามคำสอนมีหมดแล้วค่ะ
ไม่ไปไหนเลยก็มีฟังในส้วมก็ได้
ก็เปิดเสียงดังลั่นบ้านเลยนี่คะ
ส่วนอันนั่งหลับตาก็เข้าใจ
ความจริงที่ไม่มีกายแล้ว
เพียงฟังคำสอนเพิ่ม
ทุกวันก็คิดเห็นถูก
เข้าใจความปกติ
ของพฤติกรรม
ที่ทุกคนมีไงคะ


อ้างคำพูด:
เวลาเขาพูดเราก็ฟังและรู้ตัวที่กายใจตนเองก็รู้แล้วก็ดับแล้วพอคิดเองต่อก็ตามเห็นผิดไงยังไม่รู้หราเห็นผิด


อ้างคำพูด:
นั่งลืมตาฟังเขาพูดๆแล้วมโนตามไปนั่นแหละเห็นผิด คิกๆๆ

นั่นมโนแล้ว คุณโรสเห็นไหมว่ามันดับ แล้วอะไรดับ อ้าวๆ

มโนทั้งเพสำนักนี้

เขาถามว่า เห็นจิตมันเกิดดับหรอ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 18:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7516

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


จิต.มโน.มนัส.หทย.หฤทัย.ก็คือจิตใจไม่ใช่เหรอคะ
คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นตรงมากตรงที่สุดนะคะ
ฟังแล้วเข้าใจถูกทันทีดับคิดเห็นผิดทันทีดีไหม
เพราะดีตามคำสอนคือสะสมโสภณเจตสิก
ทีละ1ขณะตอนมีการประชุมรวมกันของ
สภาวะต่างๆครบทั้งตาหูจมูกลิ้นกายใจ
คือมีจิตใจและร่างกายลืมตาดูอยู่ด้วย
ก็นั่งยืนเดินนอนฟังเสียงตามปกติก็คือ
รู้ความจริงที่กำลังคิดตามคำสอนได้
ตามปกติเป็นปกติฟังทุกอิริยาบทไง
ความจริงตามคำสอนมีหมดแล้วค่ะ
ไม่ไปไหนเลยก็มีฟังในส้วมก็ได้
ก็เปิดเสียงดังลั่นบ้านเลยนี่คะ
ส่วนอันนั่งหลับตาก็เข้าใจ
ความจริงที่ไม่มีกายแล้ว
เพียงฟังคำสอนเพิ่ม
ทุกวันก็คิดเห็นถูก
เข้าใจความปกติ
ของพฤติกรรม
ที่ทุกคนมีไงคะ


อ้างคำพูด:
เวลาเขาพูดเราก็ฟังและรู้ตัวที่กายใจตนเองก็รู้แล้วก็ดับแล้วพอคิดเองต่อก็ตามเห็นผิดไงยังไม่รู้หราเห็นผิด


อ้างคำพูด:
นั่งลืมตาฟังเขาพูดๆแล้วมโนตามไปนั่นแหละเห็นผิด คิกๆๆ

นั่นมโนแล้ว คุณโรสเห็นไหมว่ามันดับ แล้วอะไรดับ อ้าวๆ

มโนทั้งเพสำนักนี้

เขาถามว่า เห็นจิตมันเกิดดับหรอ คิกๆๆ

:b32:
มโนคือแบบนี้...อ่านคำว่านิพพานคิดอะไรอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ตนมีคือมโนไม่ออกเลย
แต่ฟังว่าเห็นมีและเห็นดับแล้วไม่ได้เห็นแค่สีคือความเห็นผิดนี่คือจริงของตนเดี๋ยวนี้
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2018, 21:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


จิต.มโน.มนัส.หทย.หฤทัย.ก็คือจิตใจไม่ใช่เหรอคะ
คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นตรงมากตรงที่สุดนะคะ
ฟังแล้วเข้าใจถูกทันทีดับคิดเห็นผิดทันทีดีไหม
เพราะดีตามคำสอนคือสะสมโสภณเจตสิก
ทีละ1ขณะตอนมีการประชุมรวมกันของ
สภาวะต่างๆครบทั้งตาหูจมูกลิ้นกายใจ
คือมีจิตใจและร่างกายลืมตาดูอยู่ด้วย
ก็นั่งยืนเดินนอนฟังเสียงตามปกติก็คือ
รู้ความจริงที่กำลังคิดตามคำสอนได้
ตามปกติเป็นปกติฟังทุกอิริยาบทไง
ความจริงตามคำสอนมีหมดแล้วค่ะ
ไม่ไปไหนเลยก็มีฟังในส้วมก็ได้
ก็เปิดเสียงดังลั่นบ้านเลยนี่คะ
ส่วนอันนั่งหลับตาก็เข้าใจ
ความจริงที่ไม่มีกายแล้ว
เพียงฟังคำสอนเพิ่ม
ทุกวันก็คิดเห็นถูก
เข้าใจความปกติ
ของพฤติกรรม
ที่ทุกคนมีไงคะ


อ้างคำพูด:
เวลาเขาพูดเราก็ฟังและรู้ตัวที่กายใจตนเองก็รู้แล้วก็ดับแล้วพอคิดเองต่อก็ตามเห็นผิดไงยังไม่รู้หราเห็นผิด


อ้างคำพูด:
นั่งลืมตาฟังเขาพูดๆแล้วมโนตามไปนั่นแหละเห็นผิด คิกๆๆ

นั่นมโนแล้ว คุณโรสเห็นไหมว่ามันดับ แล้วอะไรดับ อ้าวๆ

มโนทั้งเพสำนักนี้

เขาถามว่า เห็นจิตมันเกิดดับหรอ คิกๆๆ

:b32:
มโนคือแบบนี้...อ่านคำว่านิพพานคิดอะไรอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ตนมีคือมโนไม่ออกเลย
แต่ฟังว่าเห็นมีและเห็นดับแล้วไม่ได้เห็นแค่สีคือความเห็นผิดนี่คือจริงของตนเดี๋ยวนี้
:b32: :b32:


นิพพานเป็นที่อื่นหรอคะ จิตที่บริสุทธ์ปราศจากอาสวะ ไม่อาจหาได้จากจิตหรอคะ ต้องไปหาที่อื่น ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2018, 02:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7516

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


จิต.มโน.มนัส.หทย.หฤทัย.ก็คือจิตใจไม่ใช่เหรอคะ
คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นตรงมากตรงที่สุดนะคะ
ฟังแล้วเข้าใจถูกทันทีดับคิดเห็นผิดทันทีดีไหม
เพราะดีตามคำสอนคือสะสมโสภณเจตสิก
ทีละ1ขณะตอนมีการประชุมรวมกันของ
สภาวะต่างๆครบทั้งตาหูจมูกลิ้นกายใจ
คือมีจิตใจและร่างกายลืมตาดูอยู่ด้วย
ก็นั่งยืนเดินนอนฟังเสียงตามปกติก็คือ
รู้ความจริงที่กำลังคิดตามคำสอนได้
ตามปกติเป็นปกติฟังทุกอิริยาบทไง
ความจริงตามคำสอนมีหมดแล้วค่ะ
ไม่ไปไหนเลยก็มีฟังในส้วมก็ได้
ก็เปิดเสียงดังลั่นบ้านเลยนี่คะ
ส่วนอันนั่งหลับตาก็เข้าใจ
ความจริงที่ไม่มีกายแล้ว
เพียงฟังคำสอนเพิ่ม
ทุกวันก็คิดเห็นถูก
เข้าใจความปกติ
ของพฤติกรรม
ที่ทุกคนมีไงคะ


อ้างคำพูด:
เวลาเขาพูดเราก็ฟังและรู้ตัวที่กายใจตนเองก็รู้แล้วก็ดับแล้วพอคิดเองต่อก็ตามเห็นผิดไงยังไม่รู้หราเห็นผิด


อ้างคำพูด:
นั่งลืมตาฟังเขาพูดๆแล้วมโนตามไปนั่นแหละเห็นผิด คิกๆๆ

นั่นมโนแล้ว คุณโรสเห็นไหมว่ามันดับ แล้วอะไรดับ อ้าวๆ

มโนทั้งเพสำนักนี้

เขาถามว่า เห็นจิตมันเกิดดับหรอ คิกๆๆ

:b32:
มโนคือแบบนี้...อ่านคำว่านิพพานคิดอะไรอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ตนมีคือมโนไม่ออกเลย
แต่ฟังว่าเห็นมีและเห็นดับแล้วไม่ได้เห็นแค่สีคือความเห็นผิดนี่คือจริงของตนเดี๋ยวนี้
:b32: :b32:


นิพพานเป็นที่อื่นหรอคะ จิตที่บริสุทธ์ปราศจากอาสวะ ไม่อาจหาได้จากจิตหรอคะ ต้องไปหาที่อื่น ?

:b32:
คำสอนของพระพุทธเจ้าจะฟังเข้าใจเมื่อยอมรับความจริงคือคิดให้ตรงสิ่งที่ตนกำลังมีก่อน
คือเดี๋ยวนี้กำลังเห็นแค่สีเพียง1สีหรือยังคะถ้ายังไม่เคยเห็นสีแค่1สีเลยมาต้องแต่เกิดจนเดี๋ยวนี้
แปลว่าตั้งแต่เกิดมาจนเดี๋ยวนี้ไม่เคยเห็นถูกเลยเพราะนึกไม่ออกเลยว่าเป็นไปได้ยังไงที่จะเห็นแค่1สี
เห็นสีคือทศพลญาณทั้งจักรวาลมีแค่1คนที่ทรงปรินิพพานไปแล้วและจะเห็นสีคนต่อไปคือพระศรีอาริย์ฯ
ที่ยังเกิดอยู่นี้เพราะโง่คือมีอวิชชากันทุกคนคือเป็นปะทะปะระมะถ้ายังดื้อไม่ฟังบอกได้คำเดียวว่าหนาวแน่
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2018, 02:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


จิต.มโน.มนัส.หทย.หฤทัย.ก็คือจิตใจไม่ใช่เหรอคะ
คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นตรงมากตรงที่สุดนะคะ
ฟังแล้วเข้าใจถูกทันทีดับคิดเห็นผิดทันทีดีไหม
เพราะดีตามคำสอนคือสะสมโสภณเจตสิก
ทีละ1ขณะตอนมีการประชุมรวมกันของ
สภาวะต่างๆครบทั้งตาหูจมูกลิ้นกายใจ
คือมีจิตใจและร่างกายลืมตาดูอยู่ด้วย
ก็นั่งยืนเดินนอนฟังเสียงตามปกติก็คือ
รู้ความจริงที่กำลังคิดตามคำสอนได้
ตามปกติเป็นปกติฟังทุกอิริยาบทไง
ความจริงตามคำสอนมีหมดแล้วค่ะ
ไม่ไปไหนเลยก็มีฟังในส้วมก็ได้
ก็เปิดเสียงดังลั่นบ้านเลยนี่คะ
ส่วนอันนั่งหลับตาก็เข้าใจ
ความจริงที่ไม่มีกายแล้ว
เพียงฟังคำสอนเพิ่ม
ทุกวันก็คิดเห็นถูก
เข้าใจความปกติ
ของพฤติกรรม
ที่ทุกคนมีไงคะ


อ้างคำพูด:
เวลาเขาพูดเราก็ฟังและรู้ตัวที่กายใจตนเองก็รู้แล้วก็ดับแล้วพอคิดเองต่อก็ตามเห็นผิดไงยังไม่รู้หราเห็นผิด


อ้างคำพูด:
นั่งลืมตาฟังเขาพูดๆแล้วมโนตามไปนั่นแหละเห็นผิด คิกๆๆ

นั่นมโนแล้ว คุณโรสเห็นไหมว่ามันดับ แล้วอะไรดับ อ้าวๆ

มโนทั้งเพสำนักนี้

เขาถามว่า เห็นจิตมันเกิดดับหรอ คิกๆๆ

:b32:
มโนคือแบบนี้...อ่านคำว่านิพพานคิดอะไรอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ตนมีคือมโนไม่ออกเลย
แต่ฟังว่าเห็นมีและเห็นดับแล้วไม่ได้เห็นแค่สีคือความเห็นผิดนี่คือจริงของตนเดี๋ยวนี้
:b32: :b32:


นิพพานเป็นที่อื่นหรอคะ จิตที่บริสุทธ์ปราศจากอาสวะ ไม่อาจหาได้จากจิตหรอคะ ต้องไปหาที่อื่น ?

:b32:
คำสอนของพระพุทธเจ้าจะฟังเข้าใจเมื่อยอมรับความจริงคือคิดให้ตรงสิ่งที่ตนกำลังมีก่อน
คือเดี๋ยวนี้กำลังเห็นแค่สีเพียง1สีหรือยังคะถ้ายังไม่เคยเห็นสีแค่1สีเลยมาต้องแต่เกิดจนเดี๋ยวนี้
แปลว่าตั้งแต่เกิดมาจนเดี๋ยวนี้ไม่เคยเห็นถูกเลยเพราะนึกไม่ออกเลยว่าเป็นไปได้ยังไงที่จะเห็นแค่1สี
เห็นสีคือทศพลญาณทั้งจักรวาลมีแค่1คนที่ทรงปรินิพพานไปแล้วและจะเห็นสีคนต่อไปคือพระศรีอาริย์ฯ
ที่ยังเกิดอยู่นี้เพราะโง่คือมีอวิชชากันทุกคนคือเป็นปะทะปะระมะถ้ายังดื้อไม่ฟังบอกได้คำเดียวว่าหนาวแน่
:b32: :b32: :b32:


คุณยายนี่ดื้อจริงๆแหละค่ะ
หนูบอกให้คลายความยึดมั่นถือมั่นได้แล้วค่ะ
ไปนิพพานได้แล้วค่ะ






โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2018, 02:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7516

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


จิต.มโน.มนัส.หทย.หฤทัย.ก็คือจิตใจไม่ใช่เหรอคะ
คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นตรงมากตรงที่สุดนะคะ
ฟังแล้วเข้าใจถูกทันทีดับคิดเห็นผิดทันทีดีไหม
เพราะดีตามคำสอนคือสะสมโสภณเจตสิก
ทีละ1ขณะตอนมีการประชุมรวมกันของ
สภาวะต่างๆครบทั้งตาหูจมูกลิ้นกายใจ
คือมีจิตใจและร่างกายลืมตาดูอยู่ด้วย
ก็นั่งยืนเดินนอนฟังเสียงตามปกติก็คือ
รู้ความจริงที่กำลังคิดตามคำสอนได้
ตามปกติเป็นปกติฟังทุกอิริยาบทไง
ความจริงตามคำสอนมีหมดแล้วค่ะ
ไม่ไปไหนเลยก็มีฟังในส้วมก็ได้
ก็เปิดเสียงดังลั่นบ้านเลยนี่คะ
ส่วนอันนั่งหลับตาก็เข้าใจ
ความจริงที่ไม่มีกายแล้ว
เพียงฟังคำสอนเพิ่ม
ทุกวันก็คิดเห็นถูก
เข้าใจความปกติ
ของพฤติกรรม
ที่ทุกคนมีไงคะ


อ้างคำพูด:
เวลาเขาพูดเราก็ฟังและรู้ตัวที่กายใจตนเองก็รู้แล้วก็ดับแล้วพอคิดเองต่อก็ตามเห็นผิดไงยังไม่รู้หราเห็นผิด


อ้างคำพูด:
นั่งลืมตาฟังเขาพูดๆแล้วมโนตามไปนั่นแหละเห็นผิด คิกๆๆ

นั่นมโนแล้ว คุณโรสเห็นไหมว่ามันดับ แล้วอะไรดับ อ้าวๆ

มโนทั้งเพสำนักนี้

เขาถามว่า เห็นจิตมันเกิดดับหรอ คิกๆๆ

:b32:
มโนคือแบบนี้...อ่านคำว่านิพพานคิดอะไรอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ตนมีคือมโนไม่ออกเลย
แต่ฟังว่าเห็นมีและเห็นดับแล้วไม่ได้เห็นแค่สีคือความเห็นผิดนี่คือจริงของตนเดี๋ยวนี้
:b32: :b32:


นิพพานเป็นที่อื่นหรอคะ จิตที่บริสุทธ์ปราศจากอาสวะ ไม่อาจหาได้จากจิตหรอคะ ต้องไปหาที่อื่น ?

:b32:
คำสอนของพระพุทธเจ้าจะฟังเข้าใจเมื่อยอมรับความจริงคือคิดให้ตรงสิ่งที่ตนกำลังมีก่อน
คือเดี๋ยวนี้กำลังเห็นแค่สีเพียง1สีหรือยังคะถ้ายังไม่เคยเห็นสีแค่1สีเลยมาต้องแต่เกิดจนเดี๋ยวนี้
แปลว่าตั้งแต่เกิดมาจนเดี๋ยวนี้ไม่เคยเห็นถูกเลยเพราะนึกไม่ออกเลยว่าเป็นไปได้ยังไงที่จะเห็นแค่1สี
เห็นสีคือทศพลญาณทั้งจักรวาลมีแค่1คนที่ทรงปรินิพพานไปแล้วและจะเห็นสีคนต่อไปคือพระศรีอาริย์ฯ
ที่ยังเกิดอยู่นี้เพราะโง่คือมีอวิชชากันทุกคนคือเป็นปะทะปะระมะถ้ายังดื้อไม่ฟังบอกได้คำเดียวว่าหนาวแน่
:b32: :b32: :b32:


คุณยายนี่ดื้อจริงๆแหละค่ะ
หนูบอกให้คลายความยึดมั่นถือมั่นได้แล้วค่ะ
ไปนิพพานได้แล้วค่ะ





:b12:
พระพุทธเจ้าตรัสพระพุทธพจน์45พรรษาเพื่อให้คนฟังเข้าใจใครไม่ฟังก็ขอให้เข้าใจได้เลยไม่มีปัญญา
กิเลสเกิดตลอดแหละที่ลืมตาเห็นแล้วไม่รู้ว่ากิเลสเกิดเมื่อไหร่ไม่รู้ด้วยว่ามีกิเลสเพราะไม่พึ่งการฟังไงคะ
สุตมยปัญญาไม่เจริญก่อนปัญญาทุกชนิดก็ไม่เกิดเข้าใจไหมคะข้ามปัญญาแรกไม่ได้ต้องบรรลุตามลำดับ
:b12:
ขำคนไม่รู้จักกิเลส...น้องเมโลกสวยปรุงรสก๊วยเตี๋ยวไหมคะคริคริคริหรืกินแบบรสน้ำเปล่า
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2018, 04:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


จิต.มโน.มนัส.หทย.หฤทัย.ก็คือจิตใจไม่ใช่เหรอคะ
คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นตรงมากตรงที่สุดนะคะ
ฟังแล้วเข้าใจถูกทันทีดับคิดเห็นผิดทันทีดีไหม
เพราะดีตามคำสอนคือสะสมโสภณเจตสิก
ทีละ1ขณะตอนมีการประชุมรวมกันของ
สภาวะต่างๆครบทั้งตาหูจมูกลิ้นกายใจ
คือมีจิตใจและร่างกายลืมตาดูอยู่ด้วย
ก็นั่งยืนเดินนอนฟังเสียงตามปกติก็คือ
รู้ความจริงที่กำลังคิดตามคำสอนได้
ตามปกติเป็นปกติฟังทุกอิริยาบทไง
ความจริงตามคำสอนมีหมดแล้วค่ะ
ไม่ไปไหนเลยก็มีฟังในส้วมก็ได้
ก็เปิดเสียงดังลั่นบ้านเลยนี่คะ
ส่วนอันนั่งหลับตาก็เข้าใจ
ความจริงที่ไม่มีกายแล้ว
เพียงฟังคำสอนเพิ่ม
ทุกวันก็คิดเห็นถูก
เข้าใจความปกติ
ของพฤติกรรม
ที่ทุกคนมีไงคะ


อ้างคำพูด:
เวลาเขาพูดเราก็ฟังและรู้ตัวที่กายใจตนเองก็รู้แล้วก็ดับแล้วพอคิดเองต่อก็ตามเห็นผิดไงยังไม่รู้หราเห็นผิด


อ้างคำพูด:
นั่งลืมตาฟังเขาพูดๆแล้วมโนตามไปนั่นแหละเห็นผิด คิกๆๆ

นั่นมโนแล้ว คุณโรสเห็นไหมว่ามันดับ แล้วอะไรดับ อ้าวๆ

มโนทั้งเพสำนักนี้

เขาถามว่า เห็นจิตมันเกิดดับหรอ คิกๆๆ

:b32:
มโนคือแบบนี้...อ่านคำว่านิพพานคิดอะไรอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ตนมีคือมโนไม่ออกเลย
แต่ฟังว่าเห็นมีและเห็นดับแล้วไม่ได้เห็นแค่สีคือความเห็นผิดนี่คือจริงของตนเดี๋ยวนี้
:b32: :b32:


นิพพานเป็นที่อื่นหรอคะ จิตที่บริสุทธ์ปราศจากอาสวะ ไม่อาจหาได้จากจิตหรอคะ ต้องไปหาที่อื่น ?

:b32:
คำสอนของพระพุทธเจ้าจะฟังเข้าใจเมื่อยอมรับความจริงคือคิดให้ตรงสิ่งที่ตนกำลังมีก่อน
คือเดี๋ยวนี้กำลังเห็นแค่สีเพียง1สีหรือยังคะถ้ายังไม่เคยเห็นสีแค่1สีเลยมาต้องแต่เกิดจนเดี๋ยวนี้
แปลว่าตั้งแต่เกิดมาจนเดี๋ยวนี้ไม่เคยเห็นถูกเลยเพราะนึกไม่ออกเลยว่าเป็นไปได้ยังไงที่จะเห็นแค่1สี
เห็นสีคือทศพลญาณทั้งจักรวาลมีแค่1คนที่ทรงปรินิพพานไปแล้วและจะเห็นสีคนต่อไปคือพระศรีอาริย์ฯ
ที่ยังเกิดอยู่นี้เพราะโง่คือมีอวิชชากันทุกคนคือเป็นปะทะปะระมะถ้ายังดื้อไม่ฟังบอกได้คำเดียวว่าหนาวแน่
:b32: :b32: :b32:


คุณยายนี่ดื้อจริงๆแหละค่ะ
หนูบอกให้คลายความยึดมั่นถือมั่นได้แล้วค่ะ
ไปนิพพานได้แล้วค่ะ





:b12:
พระพุทธเจ้าตรัสพระพุทธพจน์45พรรษาเพื่อให้คนฟังเข้าใจใครไม่ฟังก็ขอให้เข้าใจได้เลยไม่มีปัญญา
กิเลสเกิดตลอดแหละที่ลืมตาเห็นแล้วไม่รู้ว่ากิเลสเกิดเมื่อไหร่ไม่รู้ด้วยว่ามีกิเลสเพราะไม่พึ่งการฟังไงคะ
สุตมยปัญญาไม่เจริญก่อนปัญญาทุกชนิดก็ไม่เกิดเข้าใจไหมคะข้ามปัญญาแรกไม่ได้ต้องบรรลุตามลำดับ
:b12:
ขำคนไม่รู้จักกิเลส...น้องเมโลกสวยปรุงรสก๊วยเตี๋ยวไหมคะคริคริคริหรืกินแบบรสน้ำเปล่า
:b32: :b32:


ไม่รู้จักเรยค่ะ กิเลสเป็นยังไงคะคุณยาย

ความอยากได้ อยากมี อยากฟัง ความไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากฟัง
หรือได้ให้หู ทำหน้าที่หูไป แต่ได้ฟังแล้วแต่ไม่มีวิญญานส่งต่ออะไรไปติดค้างคาใจ

อ่อ ที่เมกินก๋วยเตี๋ยวแล้วปรุงนะคะ เพราะว่าเมแสดงให้คุณยายได้เห็นตามจริง ว่ากินรสต่างๆที่มีในโลก
กินแล้วก็อึออกมาเหมือนกัน ค่ะ หอมมั๊ยคะคุณยาย

หรือคุณยายทานก๋วยเตี๋ยวแล้วอึไม่ออกหรอคะ อย่างนี้ต้องสวนทวารนะคะ คิคิ



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2018, 10:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


น่าจะมวยถูกคู่กัน เราถอยดีฝ่า :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 59 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร