วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 03:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2013, 07:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


เหตุ-การคาดเดา

มีหลายครั้ง ที่ผู้มาใหม่และคนเก่า เกิดความสำคัญผิด กับ สิ่งที่เรียกว่า สนทนา

เหตุจาก ความไม่รู้ที่มีอยู่ และ ไม่รู้ว่า เป็นความปกติของหลายๆคน ที่เข้ามาสนทนาในเว็บบอร์ดนี้

เว็บบอร์ดนี้ มีกฏกติกาตั้งไว้ เพื่อจัดการ ในกรณีที่ การสนทนาเลยเถิด ไม่อยู่นกรอบที่กำหนดไว้


ผล-นิวรณ์

บางครั้ง เราก็ดูตัวเองไม่ออก

การที่เรายังชอบเข้าไปอ่าน ในถ้อยคำที่คนอื่นๆ สนทนากัน

แล้วเก็บไปเป็นนิวรณ์ เกิดการวิตก วิจารณ์ขึ้นมา

เมื่อเก็บนิวรณ์นั้นไม่อยู่ จึงปล่อยออกมาทางวจีกรรม กายกรรม โดยการกล่าวเพ่งโทษผู้อื่น

คนนั้น เป็นอย่างนั้น คนนี้ เป็นอย่างนี้ แต่ไม่ใช่ตามความเป็นจริง ของสิ่งที่เกิดขึ้น

คนอื่นๆ ไม่ผิด ที่ผิดน่ะคือ คนที่ไปวิพากย์ วิจารณ์ ทำนองว่า จะต้องเป็นอย่างนั้น จะต้องเป็นอย่างนี้

ยึดติดในอุปทาน ตามเหตุปัจจัยที่มีอยู่ หลงนำนิวรณ์ไปสร้างเหตุใหม่ ให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ก็ยังไม่รู้สึกตัว



บางคนเข้ามาอ่าน แล้วคิดว่า เป็นคู่กรณีกัน
เกิดจาก การคาดเดา ตัวหนังสือ ที่โพสตอบกันไปมา


เมื่อนำตัวเอง เข้าไปข้องเกี่ยว ในสิ่งที่เกิดขึ้น
การปรุงแต่งต่างๆ ย่อมเกิดขึ้น ตามเหตุปัจจัย

ทั้งๆที่ ไม่ใช่ตามความเป็นจริง แต่เกิดจากการนึกคิดเอาเอง ของคนนั้น
คิดเอง เออเอง คนที่ทุกข์ ก็คือ ตัวเอง




ทุกสิ่งล้วนเกิดจากการคาดเดา จากผู้ที่มีเหตุปัจจัยร่วมกัน


ท่ามกลางการสนทนา ที่บางครั้ง คนอื่นที่เข้ามาอ่าน คิดว่า เป็นการวิวาทะกัน
หารู้ไม่ว่า ผู้ที่ได้ประโยชน์ คือ คู่สนทนา เพราะ ต่างคน ต่างชำแหละกัน ตามความรู้ที่ตนมีอยู่

ฝ่ายหนึ่ง อาจรู้แบบหนึ่ง

อีกฝ่าย อาจรู้แบบหนึ่ง

ต่างคนต่างรู้ เหมือนแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น

แต่ภาพที่มองเห็น ในข้อสนทนานั้น

ผู้ใด ให้ค่า คาดเดาว่าอย่างไร ขึ้นอยู่กับ เหตุปัจจัย ที่มีต่อกัน


ส่วนพฤติกรรม ที่แสดงออกมาทางตัวหนังสือ

อาจจะใช่ หรือ ไม่ใช่ ก็ได้

เพราะล้วนเป็นความมารยาของจิต ที่แสดงออกมาทางตัวหนังสือ
เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง และเป็นอยู่จริง ของคนๆนั้น ผู้ที่ยังมีกิเลส

อย่าทำตัวเหมือนคนหมดกิเลส แต่ยังเข้ามาในเว็บบอร์ดนี้อยู่

คนที่หมดแล้ว ไม่เข้ามาหรอก



หนึ่งนิ้ว ชี้ว่า คนอื่น

สี่นิ้วที่เหลือ ทิ่มหน้าตัวเอง


เหมือนในกรณีนี้ ใครจะคิดอย่างไร วลัยพร ไม่สนใจ

แค่อยากเขียนให้รู้ว่า อย่าไปคิดว่า คนนั้น เป็นอย่างนี้ คนนี้ เป็นอย่างนั้น

ที่เห็นเขาสนทนากัน จะด้วยสำนวนอย่างไร

ล้วนเกิดจากเหตุปัจจัย ที่มีต่อกัน


ทราบแล้วเปลี่ยน

จะได้ไม่เก็บ ไปสร้างเหตุใหม่ให้เกิดขึ้น(นิวรณ์) กับตัวเองกัน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ธ.ค. 2013, 11:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2013, 17:07
โพสต์: 39

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
เหตุ-การคาดเดา

มีหลายครั้ง ที่ผู้มาใหม่และคนเก่า เกิดความสำคัญผิด กับ สิ่งที่เรียกว่า สนทนา

เหตุจาก ความไม่รู้ที่มีอยู่ และ ไม่รู้ว่า เป็นความปกติของหลายๆคน ที่เข้ามาสนทนาในเว็บบอร์ดนี้

เว็บบอร์ดนี้ มีกฏกติกาตั้งไว้ เพื่อจัดการ ในกรณีที่ การสนทนาเลยเถิด ไม่อยู่นกรอบที่กำหนดไว้


ผล-นิวรณ์

บางครั้ง เราก็ดูตัวเองไม่ออก

การที่เรายังชอบเข้าไปอ่าน ในถ้อยคำที่คนอื่นๆ สนทนากัน

แล้วเก็บไปเป็นนิวรณ์ เกิดการวิตก วิจารณ์ขึ้นมา

เมื่อเก็บนิวรณ์นั้นไม่อยู่ จึงปล่อยออกมาทางวจีกรรม กายกรรม โดยการกล่าวเพ่งโทษผู้อื่น

คนนั้น เป็นอย่างนั้น คนนี้ เป็นอย่างนี้ แต่ไม่ใช่ตามความเป็นจริง ของสิ่งที่เกิดขึ้น

คนอื่นๆ ไม่ผิด ที่ผิดน่ะคือ คนที่ไปวิพากย์ วิจารณ์ ทำนองว่า จะต้องเป็นอย่างนั้น จะต้องเป็นอย่างนี้

ยึดติดในอุปทาน ตามเหตุปัจจัยที่มีอยู่ หลงนำนิวรณ์ไปสร้างเหตุใหม่ ให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ก็ยังไม่รู้สึกตัว



บางคนเข้ามาอ่าน แล้วคิดว่า เป็นคู่กรณีกัน
เกิดจาก การคาดเดา ตัวหนังสือ ที่โพสตอบกันไปมา


เมื่อนำตัวเอง เข้าไปข้องเกี่ยว ในสิ่งที่เกิดขึ้น
การปรุงแต่งต่างๆ ย่อมเกิดขึ้น ตามเหตุปัจจัย

ทั้งๆที่ ไม่ใช่ตามความเป็นจริง แต่เกิดจากการนึกคิดเอาเอง ของคนนั้น
คิดเอง เออเอง คนที่ทุกข์ ก็คือ ตัวเอง




ทุกสิ่งล้วนเกิดจากการคาดเดา จากผู้ที่มีเหตุปัจจัยร่วมกัน


ท่ามกลางการสนทนา ที่บางครั้ง คนอื่นที่เข้ามาอ่าน คิดว่า เป็นการวิวาทะกัน
หารู้ไม่ว่า ผู้ที่ได้ประโยชน์ คือ คู่สนทนา เพราะ ต่างคน ต่างชำแหละกัน ตามความรู้ที่ตนมีอยู่

ฝ่ายหนึ่ง อาจรู้แบบหนึ่ง

อีกฝ่าย อาจรู้แบบหนึ่ง

ต่างคนต่างรู้ เหมือนแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น

แต่ภาพที่มองเห็น ในข้อสนทนานั้น

ผู้ใด ให้ค่า คาดเดาว่าอย่างไร ขึ้นอยู่กับ เหตุปัจจัย ที่มีต่อกัน


ส่วนพฤติกรรม ที่แสดงออกมาทางตัวหนังสือ

อาจจะใช่ หรือ ไม่ใช่ ก็ได้

เพราะล้วนเป็นความมารยาของจิต ที่แสดงออกมาทางตัวหนังสือ
เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง และเป็นอยู่จริง ของคนๆนั้น ผู้ที่ยังมีกิเลส

อย่าทำตัวเหมือนคนหมดกิเลส แต่ยังเข้ามาในเว็บบอร์ดนี้อยู่

คนที่หมดแล้ว ไม่เข้ามาหรอก



หนึ่งนิ้ว ชี้ว่า คนอื่น

สี่นิ้วที่เหลือ ทิ่มหน้าตัวเอง


เหมือนในกรณีนี้ ใครจะคิดอย่างไร วลัยพร ไม่สนใจ

แค่อยากเขียนให้รู้ว่า อย่าไปคิดว่า คนนั้น เป็นอย่างนี้ คนนี้ เป็นอย่างนั้น

ที่เห็นเขาสนทนากัน จะด้วยสำนวนอย่างไร

ล้วนเกิดจากเหตุปัจจัย ที่มีต่อกัน


ทราบแล้วเปลี่ยน

จะได้ไม่เก็บ ไปสร้างเหตุใหม่ให้เกิดขึ้น(นิวรณ์) กับตัวเองกัน


ขอน้อมรับคำสั่งสอน สิ่งไหนไม่ถูกจะปรับปรุงแก้ไขจะเอาคำสั่งสอนมาย้อนดูตัวเองให้มากๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2013, 09:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




Prayim_resize.jpg
Prayim_resize.jpg [ 86.69 KiB | เปิดดู 2238 ครั้ง ]
walaiporn เขียน:
เหตุ-การคาดเดา

มีหลายครั้ง ที่ผู้มาใหม่และคนเก่า เกิดความสำคัญผิด กับ สิ่งที่เรียกว่า สนทนา

เหตุจาก ความไม่รู้ที่มีอยู่ และ ไม่รู้ว่า เป็นความปกติของหลายๆคน ที่เข้ามาสนทนาในเว็บบอร์ดนี้

เว็บบอร์ดนี้ มีกฏกติกาตั้งไว้ เพื่อจัดการ ในกรณีที่ การสนทนาเลยเถิด ไม่อยู่นกรอบที่กำหนดไว้


ผล-นิวรณ์

บางครั้ง เราก็ดูตัวเองไม่ออก

การที่เรายังชอบเข้าไปอ่าน ในถ้อยคำที่คนอื่นๆ สนทนากัน

แล้วเก็บไปเป็นนิวรณ์ เกิดการวิตก วิจารณ์ขึ้นมา

เมื่อเก็บนิวรณ์นั้นไม่อยู่ จึงปล่อยออกมาทางวจีกรรม กายกรรม โดยการกล่าวเพ่งโทษผู้อื่น

คนนั้น เป็นอย่างนั้น คนนี้ เป็นอย่างนี้ แต่ไม่ใช่ตามความเป็นจริง ของสิ่งที่เกิดขึ้น

คนอื่นๆ ไม่ผิด ที่ผิดน่ะคือ คนที่ไปวิพากย์ วิจารณ์ ทำนองว่า จะต้องเป็นอย่างนั้น จะต้องเป็นอย่างนี้

ยึดติดในอุปทาน ตามเหตุปัจจัยที่มีอยู่ หลงนำนิวรณ์ไปสร้างเหตุใหม่ ให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ก็ยังไม่รู้สึกตัว



บางคนเข้ามาอ่าน แล้วคิดว่า เป็นคู่กรณีกัน
เกิดจาก การคาดเดา ตัวหนังสือ ที่โพสตอบกันไปมา


เมื่อนำตัวเอง เข้าไปข้องเกี่ยว ในสิ่งที่เกิดขึ้น
การปรุงแต่งต่างๆ ย่อมเกิดขึ้น ตามเหตุปัจจัย

ทั้งๆที่ ไม่ใช่ตามความเป็นจริง แต่เกิดจากการนึกคิดเอาเอง ของคนนั้น
คิดเอง เออเอง คนที่ทุกข์ ก็คือ ตัวเอง




ทุกสิ่งล้วนเกิดจากการคาดเดา จากผู้ที่มีเหตุปัจจัยร่วมกัน


ท่ามกลางการสนทนา ที่บางครั้ง คนอื่นที่เข้ามาอ่าน คิดว่า เป็นการวิวาทะกัน
หารู้ไม่ว่า ผู้ที่ได้ประโยชน์ คือ คู่สนทนา เพราะ ต่างคน ต่างชำแหละกัน ตามความรู้ที่ตนมีอยู่

ฝ่ายหนึ่ง อาจรู้แบบหนึ่ง

อีกฝ่าย อาจรู้แบบหนึ่ง

ต่างคนต่างรู้ เหมือนแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น

แต่ภาพที่มองเห็น ในข้อสนทนานั้น

ผู้ใด ให้ค่า คาดเดาว่าอย่างไร ขึ้นอยู่กับ เหตุปัจจัย ที่มีต่อกัน


ส่วนพฤติกรรม ที่แสดงออกมาทางตัวหนังสือ

อาจจะใช่ หรือ ไม่ใช่ ก็ได้

เพราะล้วนเป็นความมารยาของจิต ที่แสดงออกมาทางตัวหนังสือ
เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง และเป็นอยู่จริง ของคนๆนั้น ผู้ที่ยังมีกิเลส

อย่าทำตัวเหมือนคนหมดกิเลส แต่ยังเข้ามาในเว็บบอร์ดนี้อยู่

คนที่หมดแล้ว ไม่เข้ามาหรอก



หนึ่งนิ้ว ชี้ว่า คนอื่น

สี่นิ้วที่เหลือ ทิ่มหน้าตัวเอง


เหมือนในกรณีนี้ ใครจะคิดอย่างไร วลัยพร ไม่สนใจ

แค่อยากเขียนให้รู้ว่า อย่าไปคิดว่า คนนั้น เป็นอย่างนี้ คนนี้ เป็นอย่างนั้น

ที่เห็นเขาสนทนากัน จะด้วยสำนวนอย่างไร

ล้วนเกิดจากเหตุปัจจัย ที่มีต่อกัน


ทราบแล้วเปลี่ยน

จะได้ไม่เก็บ ไปสร้างเหตุใหม่ให้เกิดขึ้น(นิวรณ์) กับตัวเองกัน

:b8: :b8: :b8: :b8:
Kiss Kiss Kiss Kiss
"เจริญสุข เจริญธรรม"
smiley smiley smiley
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2013, 09:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดู อ่าน ฟัง เพื่อศึกษาเพือความรู้ เก็บไว้ในคลังสมอง (ต้องการใช้ก็หยิบมาใช้ ไม่ใช่ก็อยู่ในห้อง) จิตใจก็เปิดกว้าง คิดอ่านอะไรได้มากมาย ไม่ติดไม่ตัน แต่ถ้าดู อ่าน ฟัง เพื่ออะไรสักอย่างหนึ่งเนี่ย จิตใจจะติดจะตัน เพราะไปสะดุดสิ่งที่ชอบใจบ้าง ไม่ชอบใจบ้าง คิดวนไปวนมาแต่เรื่องเดิมๆ (ชอบใจ,ไม่ชอบใจ) คิดความคิดซ้ำๆหมุนวนอยู่นั่น อาการของมันซึ่งก็คือลักษณะวงจรปฏิจจสมุปบาทสมุทัยวาร :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร