วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 06:41  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 33 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2012, 17:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b1:
ปัตติปิตา เขียน:
ธรรมดา ความอยากเป็นตัณหา ไม่ว่าจะอยาก ในกาม ในภวะ หรือวิภวะ
ถามว่า การอยากได้บุญจัดเป็นตัณหาหรือไม่ เพราะอยากได้บุญก็เป็นความอยากมีอยากเป็น(ภวะ)
ถามว่า ถ้าเช่นนั้นแล้ว การอยากได้บุญเป็นบาปหรือไม่??

...ตามความคิดและความเข้าใจของข้าพเจ้า...จะถูกหรือผิดอย่างไรขอผู้รู้ำพิจารณาชี้แนะด้วยนะคะ...
...กามตัณหาคือความปรารถนาในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสเป็นไปตามสิ่งที่มากระทบทางกายและใจ...
...ภวตัณหาคือความอยากได้อยากมีอยากเป็นในสิ่งที่น่าพอใจ เช่น อยากมั่งมีร่ำรวย อยากสวย เป็นต้น...
...วิภวตัณหาคือความไม่อยากได้ไม่อยากมีไม่อยากเป็นในสิ่งที่ไม่น่าพอใจ เช่น ไม่อยากตาบอด เป็นต้น...
...จิตใจที่คิดนึกมีทั้งจิตใจที่ใฝ่ดีและไม่ดี...เมื่อใดจิตคิดดีก็เป็นกุศล...และเมื่อใดจิตคิดไม่ดีก็เป็นอกุศล...
...ขณะที่อยากได้บุญขณะนั้นมีจิตใจคิดใฝ่ดีไม่คิดชั่ว...คิดเป็นกุศลก็ย่อมไม่เกิดอกุศล...ก็ไม่บาปค่ะ...
:b44: :b44:
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2012, 23:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


จากพระอภิธรรมปิฎก วิภังคปกรณ์

ตัณหา ๓ เป็นไฉน
กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา

บรรดาตัณหา ๓ นั้น ภวตัณหา เป็นไฉน

ความกำหนัด ความกำหนัดนัก ฯลฯ ความกำหนัดนักแห่งจิตอันสหรคต
ด้วยภวทิฏฐิ นี้เรียกว่า ภวตัณหา

วิภวตัณหา เป็นไฉน
ความกำหนัด ความกำหนัดนัก ฯลฯ ความกำหนัดนักแห่งจิตอันสหรคต
ด้วยอุจเฉททิฏฐิ นี้เรียกว่า วิภวตัณหา ตัณหาที่เหลือนอกนั้น เรียกว่า กามตัณหา

บรรดาตัณหา ๓ นั้น กามตัณหา เป็นไฉน
ความกำหนัด ความกำหนัดนัก ฯลฯ ความกำหนัดนักแห่งจิตอันประกอบ
ด้วยกามธาตุ นี้เรียกว่า กามตัณหา

ความกำหนัด ความกำหนัดนักแห่งจิต ฯลฯ อันประกอบด้วยรูปธาตุและ
อรูปธาตุ เรียกว่า ภวตัณหา

ความกำหนัด ความกำหนัดนัก ฯลฯ ความกำหนัดนักแห่งจิตอันสหรคต
ด้วยอุจเฉททิฏฐิ นี้เรียกว่า วิภวตัณหา
เหล่านี้เรียกว่า ตัณหา ๓


ตัณหา ๓ แม้อีกนัยหนึ่ง เป็นไฉน
กามตัณหา รูปตัณหา อรูปตัณหา

บรรดาตัณหา ๓ นั้น กามตัณหา เป็นไฉน
ความกำหนัด ความกำหนัดนัก ฯลฯ ความกำหนัดนักแห่งจิตอันประกอบ
ด้วยกามธาตุ นี้เรียกว่า กามตัณหา

รูปตัณหา เป็นไฉน
ความกำหนัด ความกำหนัดนัก ฯลฯ ความกำหนัดนักแห่งจิตอันประกอบ
ด้วยรูปธาตุ นี้เรียกว่า รูปตัณหา

อรูปตัณหา เป็นไฉน
ความกำหนัด ความกำหนัดนัก ฯลฯ ความกำหนัดนักแห่งจิตอันประกอบ
ด้วยอรูปธาตุ นี้เรียกว่า อรูปตัณหา
เหล่านี้เรียกว่า ตัณหา ๓


ตัณหา ๓ แม้อีกนัยหนึ่ง เป็นไฉน
รูปตัณหา อรูปตัณหา นิโรธตัณหา

บรรดาตัณหา ๓ นั้น รูปตัณหา เป็นไฉน
ความกำหนัด ความกำหนัดนัก ฯลฯ ความกำหนัดนักแห่งจิตอันประกอบ
ด้วยรูปธาตุ นี้เรียกว่า รูปตัณหา

อรูปตัณหา เป็นไฉน
ความกำหนัด ความกำหนัดนัก ฯลฯ ความกำหนัดนักแห่งจิตอันประกอบ
ด้วยอรูปธาตุ นี้เรียกว่า อรูปตัณหา

นิโรธตัณหา เป็นไฉน
ความกำหนัด ความกำหนัดนัก ฯลฯ ความกำหนัดนักแห่งจิตอันสหรคต
ด้วยอุจเฉททิฏฐิ นี้เรียกว่า นิโรธตัณหา
เหล่านี้เรียกว่า ตัณหา ๓


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2012, 22:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 20:54
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บุญกับบาปเขียนหรือออกเสียงก็ต่างกันแล้ว ความหมายย่อมต่างกัน
แต่บุญกับบาปนั้นมันเป็นตัวกิเลส จริงๆแล้วพุทธศาสนาสอนให้ละกิเลส เจริญกุศลทำลายอกุศล


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 33 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร