ประเพณีใครเป็นผู้กำหนดคะ ใช้หลักอะไรในการกำหนด หากคุณบอกว่ามนุษย์เป็นผู้กำหนด
ทำกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ดิฉันก็จะถามต่อว่า บรรพบุรุษรุ่นที่เท่าไหร่คะที่เป็นผู้กำหนดประเพณี
ต่างๆเหล่านี้ หากคุณตอบมาว่าบรรพบุรุษรุ่นนั้นรุ่นนี้ ดิฉันก็จะถามต่อว่าแล้วบรรพบุรุษก่อนหน้านั้นล่ะ
ทำไมเขาไม่ได้กำหนด ทำไมเพิ่งมากำหนดเอาในยุคของบรรพบุรุษรุ่นหลังๆ

แทนที่ดิฉันจะตอบคำถามของคุณ ดิฉันกลับมาถามคุณซะงั้น แต่ดิฉันก็จะถามต่ออีกนิดว่า

สิ่งใดๆก็ตามที่มนุษย์กำหนดขึ้น มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ให้มีความเหมาะสมได้มั้ยคะ

ดิฉันขอตอบแรงๆว่า

หากการละเว้นจากการเบียดเบียนหรือพรากชีวิตผู้อื่นแล้วมันกลับทำให้ตัวดิฉันเองต้องตาย
ดิฉันก็ยอมตายโดยไม่ปริปากพูดซักคำ ให้มันรู้ไปว่าคิดจะทำดีแล้วต้องตาย

แล้วดิฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าบรรพบุรุษหน้าไหนจะกล้ามาหักคอลูกหลานเพราะไม่พอใจ
ลูกหลาน ก็เอาสิ่คะ มาหักคอเลยค่ะ หากอยากให้ตระกูลของตนเองสูญพันธ์ก็ลองดูแล้วกัน
จะได้หมดเวรหมดกรรมกันไปอีกชาตินึง

เฮ่อ เหนื่อยค่ะ ตอบแรงๆก็งี้แหละค่ะ ขอไปพักก่อนนะคะ

ก็ลองพิจารณาดูนะคะ

ประเพณีใครเป็นผู้กำหนดคะ ใช้หลักอะไรในการกำหนด หากคุณบอกว่ามนุษย์เป็นผู้กำหนด
ทำกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ดิฉันก็จะถามต่อว่า บรรพบุรุษรุ่นที่เท่าไหร่คะที่เป็นผู้กำหนดประเพณี
ต่างๆเหล่านี้ หากคุณตอบมาว่าบรรพบุรุษรุ่นนั้นรุ่นนี้ ดิฉันก็จะถามต่อว่าแล้วบรรพบุรุษก่อนหน้านั้นล่ะ
ทำไมเขาไม่ได้กำหนด ทำไมเพิ่งมากำหนดเอาในยุคของบรรพบุรุษรุ่นหลังๆ

แทนที่ดิฉันจะตอบคำถามของคุณ ดิฉันกลับมาถามคุณซะงั้น แต่ดิฉันก็จะถามต่ออีกนิดว่า

สิ่งใดๆก็ตามที่มนุษย์กำหนดขึ้น มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ให้มีความเหมาะสมได้มั้ยคะ

ดิฉันขอตอบแรงๆว่า

หากการละเว้นจากการเบียดเบียนหรือพรากชีวิตผู้อื่นแล้วมันกลับทำให้ตัวดิฉันเองต้องตาย
ดิฉันก็ยอมตายโดยไม่ปริปากพูดซักคำ ให้มันรู้ไปว่าคิดจะทำดีแล้วต้องตาย

แล้วดิฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าบรรพบุรุษหน้าไหนจะกล้ามาหักคอลูกหลานเพราะไม่พอใจ
ลูกหลาน ก็เอาสิ่คะ มาหักคอเลยค่ะ หากอยากให้ตระกูลของตนเองสูญพันธ์ก็ลองดูแล้วกัน
จะได้หมดเวรหมดกรรมกันไปอีกชาตินึง

เฮ่อ เหนื่อยค่ะ ตอบแรงๆก็งี้แหละค่ะ ขอไปพักก่อนนะคะ

ก็ลองพิจารณาดูนะคะ

คุณหญิงไทย ใช่ที่บรรพบุรุษไม่มาหักคอคุณ แต่คนเป็นๆนี้แหละที่จะหักคอคุณ พูดอะไรก็หัดใช้สมองคิดหน่อย เห็นดีเจเอฟไหมที่ท้าให้พระเจ้ามาหักคอ แต่คนนี้แหละที่จะหักคอมันก่อน สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องออกมาขอโทษ คุณก้เหมือนกันพูดอะไรก็หัดใช้สมองคิดหน่อย

อ่ออีกอย่าไปสงสัยมากละว่าทำไมชาวมุสลิมเวลาละมาดต้องเปิดลำโพงเสียงดังด้วย เดียวเขาจะไม่พอใจเอา

คะ ดิฉันพูดไม่ใช้สมองตรงไหนคะ ดีเจเอฟมาเกี่ยวอะไรคะ แล้วเกี่ยวอะไรกับมุสลิมคะ

ดิฉันรู้นะคะว่าคุณกำลังทำอะไร ความมืดมิด เมื่อปล่อยให้มันกัดกร่อนหัวใจ มันก็จะหลง
อยู่ในวังวน หาทางออกไม่เจอ ก็ระวังนะคะ อย่าไปเล่นกับความมืด

เรื่องของพระพุทธรูปนี่เถียงกันไปจนถึงชาติหน้าก็เถียงไม่จบหรอกค่ะ ดิฉันว่าใครเชื่อยังไงก็ปฏิบัติแบบที่ตัวเองคิดว่าดี คิดว่าเหมาะสมก็แล้วกันนะคะ

แต่สำหรับดิฉัน ดิฉันไม่กราบพระพุทธรูปค่ะ จะกราบก็ต่อเมื่ออยู่ในสถานที่ชุมนุมชน หรือสถานที่ที่มีการประกอบพิธีทางศาสนาค่ะคือดูโอกาสและกาละเทศะให้เหมาะสมน่ะค่ะ(คือไม่อยากเป็นจุดสังเกตน่ะค่ะ) แต่ถ้าอยู่เป็นส่วนตัวดิฉันจะไม่กราบค่ะ เพราะดิฉันไม่เชื่อว่าพระพุทธรูปเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าค่ะ สำหรับดิฉันตัวแทนของพระพุทธเจ้ามีเพียงสิ่งเดียวนั่นคือคำสอนของพระพุทธองค์ค่ะ(ตามที่บัญญัติไว้ในพระไตรปิฎก) ส่วนพระพุทธรูปสำหรับดิฉันเป็นเพียงสัญลักษณ์ทางศาสนาค่ะ สร้างขึ้นให้รู้ว่านี่คือศาสนาที่เรียกว่าศาสนาพุทธเท่านั้นเองค่ะ แต่ถ้าใครจะคิดต่างไปจากนี้ดิฉันก็ไม่ขัดศรัทธาของคุณค่ะ

ก็เหมือนๆกับศาสนาคริสต์ ไม้กางเขนก็ไม่ใช่ตัวแทนของพระเจ้าค่ะ แต่เป็นเพียงสัญลักษณ์บอกให้รู้ว่านี่คือศาสนาคริสต์ ที่มาต้องไปถามคนที่ถือคริสต์นะคะ

ศาสนาอิสลามก็เหมือนกันค่ะ ดาวเดือน ไม่ใช่ตัวแทนของอัลเลาห์ค่ะ แต่เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาเพื่อให้ผู้คนได้รู้ว่า ศาสนานี้เรียกว่าศาสนาอิสลามส่วนที่มาเป็นอย่างไรต้องลองถามเพื่อนที่เป็นอิสลามค่ะ(ดิฉันไม่อยากแตะศาสนานี้ค่ะ กลัวงานเข้า เพราะดิฉันเคยไปถามคนรู้จักที่นับถืออิสลามว่าทำไมเวลาละหมาดต้องเปิดลำโพงเสียงดัง ถามแค่นี้แหละค่ะ เขาเลิกคบกับดิฉันเลยค่ะ เขาหาว่าดิฉันไปหมิ่นประมาทเขาเข้า ดิฉันนี่งงไปหลายวันเลยค่ะ นึกไม่ออกว่าเราไปหมิ่นประมาทเขายังไง แค่ถามว่า "คุณป้าคะ คือหนูสงสัยว่าเวลาอิสลามทำพิธีละหมาดทำไมต้องเปิดลำโพงโทรโข่งเสียงดังคะ" แค่นี้แหละค่ะงานเข้าทันที คราวหลังมาเลยไม่ยุ่งด้วยค่ะ)


อย่ามาเปลี่ยนแปลงความคิดและความเชื่อของดิฉันนะคะ คุณคิดคุณเชื่อยังไงก็ปฏิบัติในแบบของคุณต่อไปนะค่ะ ดิฉันไม่ขัดค่ะ ส่วนดิฉันก็ปฏิบัติตามที่ดิฉันเชื่อและคิดว่าเหมาะสม คุณอย่ามาขัดดิฉันเช่นกันนะคะ ต่างคนต่างปฏิบัติค่ะ

ขออนุโมทนานะคะ

คุณหญิงไทยก่อนที่คุณจะไปดูถูกคนอื่นคุณไปศึกษาให้ความกระจ่างชัดในหลักธรรมดีกว่าไหม เพราะสิ่งที่คุณแสดงออกมาสามารถบ่งบอกถึงตัวคุณได้อย่างดีเลย............

สงสัยสมองจะเสื่อมจริงๆด้วย

ขอเก็บไว้เป็นบันทึกประจำวันนะคะ

นี้ยังจะกล่าวหาว่าผมแต่งคำพูดแล้วยัดเยียดให้งั้นหรอ อยากจะบ้าตายจริงๆๆๆ คนอะไร

คะ ดิฉันพูดไม่ใช้สมองตรงไหนคะ ดีเจเอฟมาเกี่ยวอะไรคะ แล้วเกี่ยวอะไรกับมุสลิมคะ

ดิฉันรู้นะคะว่าคุณกำลังทำอะไร ความมืดมิด เมื่อปล่อยให้มันกัดกร่อนหัวใจ มันก็จะหลง
อยู่ในวังวน หาทางออกไม่เจอ ก็ระวังนะคะ อย่าไปเล่นกับความมืด

เรื่องของพระพุทธรูปนี่เถียงกันไปจนถึงชาติหน้าก็เถียงไม่จบหรอกค่ะ ดิฉันว่าใครเชื่อยังไงก็ปฏิบัติแบบที่ตัวเองคิดว่าดี คิดว่าเหมาะสมก็แล้วกันนะคะ

แต่สำหรับดิฉัน ดิฉันไม่กราบพระพุทธรูปค่ะ จะกราบก็ต่อเมื่ออยู่ในสถานที่ชุมนุมชน หรือสถานที่ที่มีการประกอบพิธีทางศาสนาค่ะคือดูโอกาสและกาละเทศะให้เหมาะสมน่ะค่ะ(คือไม่อยากเป็นจุดสังเกตน่ะค่ะ) แต่ถ้าอยู่เป็นส่วนตัวดิฉันจะไม่กราบค่ะ เพราะดิฉันไม่เชื่อว่าพระพุทธรูปเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าค่ะ สำหรับดิฉันตัวแทนของพระพุทธเจ้ามีเพียงสิ่งเดียวนั่นคือคำสอนของพระพุทธองค์ค่ะ(ตามที่บัญญัติไว้ในพระไตรปิฎก) ส่วนพระพุทธรูปสำหรับดิฉันเป็นเพียงสัญลักษณ์ทางศาสนาค่ะ สร้างขึ้นให้รู้ว่านี่คือศาสนาที่เรียกว่าศาสนาพุทธเท่านั้นเองค่ะ แต่ถ้าใครจะคิดต่างไปจากนี้ดิฉันก็ไม่ขัดศรัทธาของคุณค่ะ

ก็เหมือนๆกับศาสนาคริสต์ ไม้กางเขนก็ไม่ใช่ตัวแทนของพระเจ้าค่ะ แต่เป็นเพียงสัญลักษณ์บอกให้รู้ว่านี่คือศาสนาคริสต์ ที่มาต้องไปถามคนที่ถือคริสต์นะคะ

ศาสนาอิสลามก็เหมือนกันค่ะ ดาวเดือน ไม่ใช่ตัวแทนของอัลเลาห์ค่ะ แต่เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาเพื่อให้ผู้คนได้รู้ว่า ศาสนานี้เรียกว่าศาสนาอิสลามส่วนที่มาเป็นอย่างไรต้องลองถามเพื่อนที่เป็นอิสลามค่ะ(ดิฉันไม่อยากแตะศาสนานี้ค่ะ กลัวงานเข้า เพราะดิฉันเคยไปถามคนรู้จักที่นับถืออิสลามว่าทำไมเวลาละหมาดต้องเปิดลำโพงเสียงดัง ถามแค่นี้แหละค่ะ เขาเลิกคบกับดิฉันเลยค่ะ เขาหาว่าดิฉันไปหมิ่นประมาทเขาเข้า ดิฉันนี่งงไปหลายวันเลยค่ะ นึกไม่ออกว่าเราไปหมิ่นประมาทเขายังไง แค่ถามว่า "คุณป้าคะ คือหนูสงสัยว่าเวลาอิสลามทำพิธีละหมาดทำไมต้องเปิดลำโพงโทรโข่งเสียงดังคะ" แค่นี้แหละค่ะงานเข้าทันที คราวหลังมาเลยไม่ยุ่งด้วยค่ะ)


อย่ามาเปลี่ยนแปลงความคิดและความเชื่อของดิฉันนะคะ คุณคิดคุณเชื่อยังไงก็ปฏิบัติในแบบของคุณต่อไปนะค่ะ ดิฉันไม่ขัดค่ะ ส่วนดิฉันก็ปฏิบัติตามที่ดิฉันเชื่อและคิดว่าเหมาะสม คุณอย่ามาขัดดิฉันเช่นกันนะคะ ต่างคนต่างปฏิบัติค่ะ

ขออนุโมทนานะคะ

ขอขอบพระคุณ ญาติธรรมทุกท่านที่ช่วยชี้ทางสว่าง ให้คำแนะนำกระผมด้วยความเคารพครับ
ผมและพ่อแม่ ได้ตัดสินใจยืดมั่นความตั้งใจที่จะงดการนำชีวิตผู้ใดมาทำพิธี และจะใช้อาหารเจ หรือมัง
สะวิรัส ตามที่ได้ตั้งใจไว้อย่างแน่นอน ซึ่งก็ได้มีสหาย/ญาติธรรม และญาติพี่น้องบางส่วนที่พร้อมจะช่วยเหลือในการทำพิธีในครั้งนี้ ขอขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งและขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม และเข้าสู่นิพพานทุกท่านนะครับ (ถ้ามีโอกาสจะได้เข้ามาร่วมสนทนาธรรมกันอีก)

ดิฉันถือว่านี่คำสารภาพของคุณแสงแห่งพระธรรม นะคะ ที่คุณแสงแห่งพระธรรมยอมรับแล้วว่าคุณแสงแห่งพระธรรมคือบุคคลคนเดียวกับคนที่ใช้ชื่อ USER ว่า อยู่กับความมืด อันนี้ Admin เป็นพยานได้ค่ะ แถมเป็นพยานคนสำคัญด้วยนะ และคุณก็กำลังตามรังแกดิฉันอยู่ โดยการกล่าวใส่ร้าย เสียดสี ดิฉันขอเก็บไว้เป็นบันทึกประจำวันนะคะ

พ่อแม่ผมก็ทำตามประเพณีมาตลอดมีการฆ่าไก่บูชาบรรพบุรุษไม่เห็นว่าจะต้องตกนรกเลย ไม่เห็นมียมบาลคนไหมมาหักคอเลย ที่จริงนรกไม่มีหรอ ไม่เห็นมีพระสูตรใหนที่พุทธเจ้าตรัสถึงนรก ที่มีก็เพราะคนรุ่นหลังแต่งเติมขึ้นมาทั้งนั้น จินตนาการขึ้นมาเพื่อให้คนกลัวต่อบาปไม่กล้ากระทำบาป ส่วนใครที่เชื่อว่านรกมีจริง คนพวกนี้โง่ งมงายสิ้นดี และหลงว่าตัวเองฉลาดกว่าคนอื่น และอีกอย่างพระไตรปิฏกมีส่วถูกแค่20%เท่านั้น เชื่ออะไรมากไม่ได้หรอก และอีกอย่างถ้าใครว่านรกมีจริงก็พิสูตรออกมาดิ พอพิสูตรไม่ได้หรือเจอคำถามจนมุงก็อ้างว่าคำถามไม่เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ รู้ไปก็ไม่ช่วยให้พ้นทุกข์ได้ ที่จริงตอบไม่ได้ต่างหากละ.........