วันเวลาปัจจุบัน 02 พ.ค. 2025, 19:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 35 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2012, 21:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พี่สาวผมเป็นอาสาสมัครสอนภาษาไทยให้กับเด็กไทย ลูกครึ่ง หรือผู้สนใจทั่วไป ที่วัดไทยแห่งหนึ่งในยุโรป
วันหนึ่งพระที่ทำหน้าที่บรรยายพุทธศาสนาแก่ฝรั่งที่มาทัศนาจรที่วัดได้สึกตามแหม่มไป ทางวัดมอบให้พี่สาวผมทำหน้าที่แทน
เวลาบรรยายประวัติพระพุทธเจ้า ประสูติแล้วเดินได้ 7 ก้าว ฝรั่งก็หัวเราะ
การเดินได้ 7 ก้าวมีความหมายว่าอย่าง ตอนเรียนประถมผมเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอธิบายความหมายนี้แล้ว แต่นานมากจำได้เพียงว่าเป็นลำดับขั้นตอนการพัฒนาของศาสนาโดยมี ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน รวมอยู่ใน 7 ขั้นตอนด้วย

ท่านผู้รู้ช่วยหาคำตอบให้ด้วย ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2012, 21:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


ตถาคตในอรรถว่าเสด็จไปอย่างนั้น


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า ตถาคต เพราะเสด็จไปอย่างนั้นเป็นอย่างไร? เหมือนอย่างพระผู้มีพระภาคเจ้าองค์ก่อนๆ ประสูติในบัดเดี๋ยวนั้นก็เสด็จไป.

ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าเหล่านั้นเสด็จไปอย่างไร?

จริงอยู่ พระผู้มีพระภาคเจ้าเหล่านั้นประสูติในบัดเดี๋ยวนั้นเอง ประทับยืนบนปฐพีด้วยพระยุคลบาทอันเสมอกัน บ่ายพระพักตร์ไปเบื้องทิศอุดร เสด็จไปโดยย่างพระบาท ๗ ก้าว ดังพระบาลีที่ตรัสไว้ว่า :-

ดูก่อนอานนท์ พระโพธิสัตว์ประสูติบัดเดี๋ยวนั้น ก็ประทับยืนด้วยพระยุคลบาทอันเสมอกัน บ่ายพระพักตร์ไปเบื้องทิศอุดร เสด็จไปโดยย่างพระบาท ๗ ก้าว. เมื่อท้าวมหาพรหมกั้นพระเศวตฉัตร ทรงเหลียวดูทั่วทิศ ทรงเปล่งอาสภิวาจาว่า เราเป็นผู้เลิศในโลก, เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก การเกิดครั้งนี้เป็นการเกิดครั้งสุดท้าย, บัดนี้ ภพใหม่ไม่มีต่อไป ดังนี้.

และการเสด็จไปของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นก็เป็นอาการอันแท้ ไม่แปรผัน ด้วยความเป็นบุพนิมิตแห่งการบรรลุคุณวิเศษหลายประการคือ ข้อที่พระองค์ประสูติในบัดเดี๋ยวนั้นเอง ก็ได้ประทับยืนด้วยพระยุคลบาทอันเสมอกัน นี้เป็นบุพนิมิตแห่งการได้อิทธิบาท ๔ ของพระองค์.

อนึ่ง ความที่พระองค์บ่ายพระพักตร์ไปเบื้องทิศอุดร เป็นบุพนิมิตแห่งความเป็นโลกุตตรธรรมทั้งปวง, การย่างพระบาท ๗ ก้าว เป็นบุพนิมิตแห่งการได้รัตนะ คือโพชฌงค์ ๗ ประการ.
---------------------------------------------------------------
อรรถกถา ขุททกนิกาย มหานิทเทส อัฏฐกวัคคิกะ
๒. คุหัฏฐกสุตตนิทเทส



@@@@@



บทว่า สพฺพา จ ทิสา นี้ ท่านกล่าวดุจพระโพธิสัตว์ประทับยืนหลังจากเสด็จย่างพระบาท ๗ ก้าวแล้ว ทรงเหลียวมองดูทิศทั้งหมด ไม่ควรเห็นอย่างนั้นเลย.

ความจริง พระโพธิสัตว์ทรงพ้นจากมือของพวกมนุษย์แล้วประดิษฐานบนแผ่นดิน ทรงแลดูทิศตะวันออก. หลายพันจักรวาฬได้เป็นเนินเดียวกัน.

ณ ที่นั้น พวกเทวดาและมนุษย์ต่างบูชาด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น พากันกล่าวว่า ข้าแต่พระมหาบุรุษ ในโลกนี้แม้คนเช่นพระองค์ก็ไม่มี จะหาคนยิ่งกว่าพระองค์ได้แต่ไหน.

พระโพธิสัตว์ทรงเหลียวแลดูทิศใหญ่ ๔ ทิศน้อย ๔ ทิศเบื้องล่างเบื้องบน ไม่ทรงเห็นแม้คนเช่นพระองค์ทรงดำริว่า นี้ทิศเหนือ แล้วทรงบ่ายพระพักตร์ไปทางเหนือได้เสด็จโดยอย่างพระบาท ๗ ก้าว.

พึงทราบความในบทนี้อย่างนี้.

บทว่า อาสภึ คือ สูงสุด. บทว่า อคฺโค คือ เป็นที่หนึ่งของชนทั้งหมดด้วยคุณธรรมทั้งหลาย. อีก ๒ บทเป็นไวพจน์ของบทนี้.

พระโพธิสัตว์ทรงพยากรณ์พระอรหัตอันพระองค์พึงบรรลุในอัตตภาพนี้ด้วยบททั้งสองว่า นี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา บัดนี้ ภพใหม่ของเราไม่มีอีกแล้ว ดังนี้.

ก็ในบทนี้ พึงทราบว่า การประดิษฐานบนแผ่นดินด้วยพระบาทเสมอกันเป็นบุพนิมิตแห่งการได้อิทธิบาท ๔ การบ่ายพระพักตร์ไปทางทิศเหนือเป็นบุพนิมิตแห่งการเสด็จไปครอบงำปราบปรามมหาชน การเสด็จย่างพระบาท ๗ ก้าวเป็นบุพนิมิตแห่งการได้รตนะคือโพชฌงค์ ๗ การกั้นเศวตฉัตรทิพย์เป็นบุพนิมิตแห่งการได้ฉัตรประเสริฐคือวิมุติ การได้ราชกุกกุฏภัณฑ์ ๕ เป็นบุพนิมิตแห่งการพ้นด้วยวิมุติ ๕ การเหลียวแลดูทิศเป็นบุพนิมิตแห่งการได้อนาวรณญาณ การเปล่งอาสภิวาจาเป็นบุพนิมิตแห่งการเป็นไปแห่งธรรมจักรที่ยังไม่ได้เป็นไป การเปล่งสีหนาทว่า นี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา เป็นบุพนิมิตแห่งการปรินิพพานโดยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ดังนี้. วาระเหล่านี้มาแล้วในบาลี. แต่หลายวาระยังไม่มา ควรนำมาแสดง.
---------------------------------------------------------------
อรรถกถา ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปทานสูตร
โพธิสตฺตธมฺมตาวณฺณนา

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2012, 21:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


แกงได เขียน:
พี่สาวผมเป็นอาสาสมัครสอนภาษาไทยให้กับเด็กไทย ลูกครึ่ง หรือผู้สนใจทั่วไป ที่วัดไทยแห่งหนึ่งในยุโรป
วันหนึ่งพระที่ทำหน้าที่บรรยายพุทธศาสนาแก่ฝรั่งที่มาทัศนาจรที่วัดได้สึกตามแหม่มไป ทางวัดมอบให้พี่สาวผมทำหน้าที่แทน
เวลาบรรยายประวัติพระพุทธเจ้า ประสูติแล้วเดินได้ 7 ก้าว ฝรั่งก็หัวเราะ
การเดินได้ 7 ก้าวมีความหมายว่าอย่าง ตอนเรียนประถมผมเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอธิบายความหมายนี้แล้ว แต่นานมากจำได้เพียงว่าเป็นลำดับขั้นตอนการพัฒนาของศาสนาโดยมี ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน รวมอยู่ใน 7 ขั้นตอนด้วย

ท่านผู้รู้ช่วยหาคำตอบให้ด้วย ขอบคุณครับ


อ้าว ตอนแรกดิฉันก็รออ่าน นึกว่าคุณแกงได จะเล่าให้ฟังซะอีก cool


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2012, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธฏีกา เขียน:
ตถาคตในอรรถว่าเสด็จไปอย่างนั้น


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า ตถาคต เพราะเสด็จไปอย่างนั้นเป็นอย่างไร? เหมือนอย่างพระผู้มีพระภาคเจ้าองค์ก่อนๆ ประสูติในบัดเดี๋ยวนั้นก็เสด็จไป.

ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าเหล่านั้นเสด็จไปอย่างไร?

จริงอยู่ พระผู้มีพระภาคเจ้าเหล่านั้นประสูติในบัดเดี๋ยวนั้นเอง ประทับยืนบนปฐพีด้วยพระยุคลบาทอันเสมอกัน บ่ายพระพักตร์ไปเบื้องทิศอุดร เสด็จไปโดยย่างพระบาท ๗ ก้าว ดังพระบาลีที่ตรัสไว้ว่า :-

ดูก่อนอานนท์ พระโพธิสัตว์ประสูติบัดเดี๋ยวนั้น ก็ประทับยืนด้วยพระยุคลบาทอันเสมอกัน บ่ายพระพักตร์ไปเบื้องทิศอุดร เสด็จไปโดยย่างพระบาท ๗ ก้าว. เมื่อท้าวมหาพรหมกั้นพระเศวตฉัตร ทรงเหลียวดูทั่วทิศ ทรงเปล่งอาสภิวาจาว่า เราเป็นผู้เลิศในโลก, เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก การเกิดครั้งนี้เป็นการเกิดครั้งสุดท้าย, บัดนี้ ภพใหม่ไม่มีต่อไป ดังนี้.

และการเสด็จไปของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นก็เป็นอาการอันแท้ ไม่แปรผัน ด้วยความเป็นบุพนิมิตแห่งการบรรลุคุณวิเศษหลายประการคือ ข้อที่พระองค์ประสูติในบัดเดี๋ยวนั้นเอง ก็ได้ประทับยืนด้วยพระยุคลบาทอันเสมอกัน นี้เป็นบุพนิมิตแห่งการได้อิทธิบาท ๔ ของพระองค์.

อนึ่ง ความที่พระองค์บ่ายพระพักตร์ไปเบื้องทิศอุดร เป็นบุพนิมิตแห่งความเป็นโลกุตตรธรรมทั้งปวง, การย่างพระบาท ๗ ก้าว เป็นบุพนิมิตแห่งการได้รัตนะ คือโพชฌงค์ ๗ ประการ.
---------------------------------------------------------------
อรรถกถา ขุททกนิกาย มหานิทเทส อัฏฐกวัคคิกะ
๒. คุหัฏฐกสุตตนิทเทส



@@@@@



บทว่า สพฺพา จ ทิสา นี้ ท่านกล่าวดุจพระโพธิสัตว์ประทับยืนหลังจากเสด็จย่างพระบาท ๗ ก้าวแล้ว ทรงเหลียวมองดูทิศทั้งหมด ไม่ควรเห็นอย่างนั้นเลย.

ความจริง พระโพธิสัตว์ทรงพ้นจากมือของพวกมนุษย์แล้วประดิษฐานบนแผ่นดิน ทรงแลดูทิศตะวันออก. หลายพันจักรวาฬได้เป็นเนินเดียวกัน.

ณ ที่นั้น พวกเทวดาและมนุษย์ต่างบูชาด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น พากันกล่าวว่า ข้าแต่พระมหาบุรุษ ในโลกนี้แม้คนเช่นพระองค์ก็ไม่มี จะหาคนยิ่งกว่าพระองค์ได้แต่ไหน.

พระโพธิสัตว์ทรงเหลียวแลดูทิศใหญ่ ๔ ทิศน้อย ๔ ทิศเบื้องล่างเบื้องบน ไม่ทรงเห็นแม้คนเช่นพระองค์ทรงดำริว่า นี้ทิศเหนือ แล้วทรงบ่ายพระพักตร์ไปทางเหนือได้เสด็จโดยอย่างพระบาท ๗ ก้าว.

พึงทราบความในบทนี้อย่างนี้.

บทว่า อาสภึ คือ สูงสุด. บทว่า อคฺโค คือ เป็นที่หนึ่งของชนทั้งหมดด้วยคุณธรรมทั้งหลาย. อีก ๒ บทเป็นไวพจน์ของบทนี้.

พระโพธิสัตว์ทรงพยากรณ์พระอรหัตอันพระองค์พึงบรรลุในอัตตภาพนี้ด้วยบททั้งสองว่า นี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา บัดนี้ ภพใหม่ของเราไม่มีอีกแล้ว ดังนี้.

ก็ในบทนี้ พึงทราบว่า การประดิษฐานบนแผ่นดินด้วยพระบาทเสมอกันเป็นบุพนิมิตแห่งการได้อิทธิบาท ๔ การบ่ายพระพักตร์ไปทางทิศเหนือเป็นบุพนิมิตแห่งการเสด็จไปครอบงำปราบปรามมหาชน การเสด็จย่างพระบาท ๗ ก้าวเป็นบุพนิมิตแห่งการได้รตนะคือโพชฌงค์ ๗ การกั้นเศวตฉัตรทิพย์เป็นบุพนิมิตแห่งการได้ฉัตรประเสริฐคือวิมุติ การได้ราชกุกกุฏภัณฑ์ ๕ เป็นบุพนิมิตแห่งการพ้นด้วยวิมุติ ๕ การเหลียวแลดูทิศเป็นบุพนิมิตแห่งการได้อนาวรณญาณ การเปล่งอาสภิวาจาเป็นบุพนิมิตแห่งการเป็นไปแห่งธรรมจักรที่ยังไม่ได้เป็นไป การเปล่งสีหนาทว่า นี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา เป็นบุพนิมิตแห่งการปรินิพพานโดยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ดังนี้. วาระเหล่านี้มาแล้วในบาลี. แต่หลายวาระยังไม่มา ควรนำมาแสดง.
---------------------------------------------------------------
อรรถกถา ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปทานสูตร
โพธิสตฺตธมฺมตาวณฺณนา


กราบอนุโมทนาค่ะพระคุณเจ้าที่กรุณาเอื้อเฟื้อข้อมูล อันนี้ดิฉันก็เคยสงสัยนะคะเรื่องประสูตรแล้วเดินได้เลย กราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าพุทธฎีกาที่ช่วยให้ความกระจ่างนะเจ้าคะ สาธุเจ้าค่ะ

แล้วก็ขอบอบคุณคุณแกงไดนะคะที่ถามคำถามนี้ อนุโมทนานะคะ

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2012, 22:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมไม่เข้าใจคำตอบ ช่วยอธิบายเป็นภาษาธรรมดา
เรียงลำดับข้อด้วยครับ
แต่ถ้าเชื่อว่าพระพุทธเดินได้จริง
ไม่ต้องตอบก็ได้ครับ
ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2012, 22:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แกงได เขียน:
ผมไม่เข้าใจคำตอบ ช่วยอธิบายเป็นภาษาธรรมดา
เรียงลำดับข้อด้วยครับ
แต่ถ้าเชื่อว่าพระพุทธเดินได้จริง
ไม่ต้องตอบก็ได้ครับ
ขอบคุณครับ

เจ็ดก้าวก็หมายความว่าท่านเดินได้อย่างนั้นจริงๆ ไม่ต้องแปลเป็นอื่น :b12:

บางครั้งก็ไม่ต้องสงสัยพุทธคุณให้มาก

พระพุทธเจ้าพระองค์นี้บำเพ็ญมายี่สิบอสงไขยแถมกำไรแสนมหากัป เพื่อความสุขของสรรพสัตว์ ปาฏิหาริย์ที่เกิดจึงสมควรแก่ท่าน

ลองคิดสิว่าเป็นเราทนทุกข์สักร้อยปีเราจะทนได้ไหม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2012, 00:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


din เขียน:
แกงได เขียน:
ผมไม่เข้าใจคำตอบ ช่วยอธิบายเป็นภาษาธรรมดา
เรียงลำดับข้อด้วยครับ
แต่ถ้าเชื่อว่าพระพุทธเดินได้จริง
ไม่ต้องตอบก็ได้ครับ
ขอบคุณครับ

เจ็ดก้าวก็หมายความว่าท่านเดินได้อย่างนั้นจริงๆ ไม่ต้องแปลเป็นอื่น :b12:

บางครั้งก็ไม่ต้องสงสัยพุทธคุณให้มาก

พระพุทธเจ้าพระองค์นี้บำเพ็ญมายี่สิบอสงไขยแถมกำไรแสนมหากัป เพื่อความสุขของสรรพสัตว์ ปาฏิหาริย์ที่เกิดจึงสมควรแก่ท่าน

ลองคิดสิว่าเป็นเราทนทุกข์สักร้อยปีเราจะทนได้ไหม


เวลาที่กล่าวมารู้ไหมว่านานเท่าไร
โลกเกิดพร้อมดวงอาทิตย์เมื่อ 4500 ล้านปี
คนรู้ร่างคล้ายลิงเกิดเมื่อประมาณ 2 ล้านปี
มนุษย์สมัยใหม่เกิดเมื่อ 200000 ปี
เริ่มมีพฤติกรรมคล้ายมนุษย์ปัจจุบันเมื่อ 50000 ปี

อสงไขย คุณเขียนเลข 1 แล้วเติม 0 เพิ่มอีก 125 ตัว
แล้วเอาอายุโลกหาร
จะได้จำนวนครั้งที่โลกเกิดแล้วดับกี่รอบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2012, 02:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แกงได เขียน:
เวลาที่กล่าวมารู้ไหมว่านานเท่าไร
โลกเกิดพร้อมดวงอาทิตย์เมื่อ 4500 ล้านปี
คนรู้ร่างคล้ายลิงเกิดเมื่อประมาณ 2 ล้านปี
มนุษย์สมัยใหม่เกิดเมื่อ 200000 ปี
เริ่มมีพฤติกรรมคล้ายมนุษย์ปัจจุบันเมื่อ 50000 ปี

อสงไขย คุณเขียนเลข 1 แล้วเติม 0 เพิ่มอีก 125 ตัว
แล้วเอาอายุโลกหาร
จะได้จำนวนครั้งที่โลกเกิดแล้วดับกี่รอบ

ผมไม่แน่ใจเพราะตัวเลขข้างต้นยังเป็นแค่การคาดการณ์

ที่ฝรั่งเขาหัวเราะเพราะปาฏิหาริย์สมัยมันเกิดยาก ถ้าเกิดได้บ่อยๆ กันทั่วไปก็เรียกว่าฤทธิ์
ด้วยความที่ต่างวัฒนธรรมกัน เขาไม่เชื่อก็ไม่ใช่สาระอะไร พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ว่าด้วยการดับทุกข์ ให้เราบอกตรงนี้ไป ก็แล้วแต่เขาจะสนใจหรือไม่ มันบังคับกันไม่ได้ ถ้าเขายังสนใจจะถามเรื่องที่ไม่ใช่การดับทุกข์ เป็นผมจะปล่อยเขาไป ถึงเขาจะว่าเราตอบไม่ได้ก็ช่างเถอะ เพราะสาระจริงๆ อยู่ที่ทุกข์และการดับทุกข์

เนื้อจริงๆ อยู่ที่ทุกข์และการดับทุกข์ ต่างหาก ปาฏิหาริย์สำหรับผมแล้วเป็นเหมือนของแถม คือซื้อของเพราะตัวของ ส่วนถ้ามีของแถมดีก็ก็ถือว่าได้กำไรสองชั้นไป :b11:

ปล.อาจไม่ได้มาสนทนาด้วยสักพักใหญ่ๆ เน้อ ตอนเช้าจะไปตจว.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2012, 19:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


แกงได เขียน:
พี่สาวผมเป็นอาสาสมัครสอนภาษาไทยให้กับเด็กไทย ลูกครึ่ง หรือผู้สนใจทั่วไป ที่วัดไทยแห่งหนึ่งในยุโรป
วันหนึ่งพระที่ทำหน้าที่บรรยายพุทธศาสนาแก่ฝรั่งที่มาทัศนาจรที่วัดได้สึกตามแหม่มไป ทางวัดมอบให้พี่สาวผมทำหน้าที่แทน
เวลาบรรยายประวัติพระพุทธเจ้า ประสูติแล้วเดินได้ 7 ก้าว ฝรั่งก็หัวเราะ
การเดินได้ 7 ก้าวมีความหมายว่าอย่าง ตอนเรียนประถมผมเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอธิบายความหมายนี้แล้ว แต่นานมากจำได้เพียงว่าเป็นลำดับขั้นตอนการพัฒนาของศาสนาโดยมี ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน รวมอยู่ใน 7 ขั้นตอนด้วย

ท่านผู้รู้ช่วยหาคำตอบให้ด้วย ขอบคุณครับ


หมายถึง ในกาลต่อไปในภายภาคหน้า ศีลในพุทธศาสนา จะมีข้อศีล 7 ข้อขอรับ ไม่ใช่ 5 ข้อ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2012, 22:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถา้ผมเป็นฝรั่งคนนั่นผมก็คงหัวเราะเหมือนกัน
เพราะศาสนาพุทธอ้างว่าเป็น
ศาสนาแบบอเทวนิยม
คือศาสนาที่ไม่มีเทพเจ้า ศาสดาเป็นมนุษย์ธรรมดา
ค้นพบความจริงของธรรมชาติ
เป็นศาสนาแห่งปัญญา มีเหตุมีผล
กาลามสูตร ได้ยินได้ฟังอะไรมาต้องคิดก่อนจึงจะเชื่อ
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
เราจำเป็นต้องมีสิ่งเหนือธรรมชาติอีกหรือ
ผมมองว่าเป็นเพียงเครื่องประดับที่แต่งเติมตามยุคสมัยที่ต้องแข่งกับศาสนาอื่นในเวลานั้น
ถ้าเอาเครื่องประดับออก ผมเชื่อว่า ความเป็นศาสนาพุทธยังคงอยู่ครบถ้วนสมบูญ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2012, 23:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


sriariya เขียน:
หมายถึง ในกาลต่อไปในภายภาคหน้า ศีลในพุทธศาสนา จะมีข้อศีล 7 ข้อขอรับ ไม่ใช่ 5 ข้อ


ขอโทษ....จะมีศีล 10 ข้อครับ...ไม่ใช่ 7 :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2012, 23:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แกงได เขียน:
ถ้าเอาเครื่องประดับออก ผมเชื่อว่า ความเป็นศาสนาพุทธยังคงอยู่ครบถ้วนสมบูญ


:b17: :b17:

กระพี้...มันปกปิดซะมิดชิด...ศาสนาก็เลยเป็นแค่ประเพณีไป
rolleyes


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 00:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


แก้ไขล่าสุดโดย อยู่กับความมืด เมื่อ 15 เม.ย. 2012, 01:38, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 00:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านว่าคนในโลกนี้...คนโง่หรือคนฉลาด..ที่มากกว่ากัน..
ฮ่า..ฮ่า...ฮ่า....อาจารย์สัญชัยพูดถูก... :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2012, 00:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


:b16:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


แก้ไขล่าสุดโดย อยู่กับความมืด เมื่อ 15 เม.ย. 2012, 01:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 35 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร