วันเวลาปัจจุบัน 18 พ.ค. 2025, 06:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2012, 12:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2012, 08:44
โพสต์: 1


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอให้พวกเราช่วยกันนะคับ ช่วยกันรายงานหน้า แล้วแจ้งสแปมหรือหลอกลวง เพจนี้นะคับ

http://www.facebook.com/#!/PhraWesSandan

ซึ่งมีพฤติกรรมหมิ่นศาสนา อยากจะบอกนิดนึงนะคับว่าห้ามไปกดถูกใจหรือคอมเมนท์ เพราะเหมือนจะเป็นการยุให้พวกนั้นได้ใจ ร่วมกัน Report กันเยอะๆนะคับในที่สุดเพจนี้ก็จะได้ปิดตัวลงเองโดยอัตโนมัติ ย้ำนะคับว่าอย่ากดถูกใจหรือคอมเมนท์ใดๆลงไป สามารถคลิกตรง มุมบนขวานะคับ จะมีลูกศร ที่อยู่ติดกับข้อความ แล้วรายงานหน้าไปเลย .....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2012, 14:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2010, 09:54
โพสต์: 39

แนวปฏิบัติ: พุท-โธ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: โก้
อายุ: 23
ที่อยู่: จ.กาญจนบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอขอบคุณที่แบ่งปันข้อมูล
และช่วยเป็นหูเป็นตาให้ศาสนาเราดำรงอยู่ไปในทางที่ถูกที่ควรครับ
:b8: :b8:

.....................................................
สักวันผมจะดีพอ.....
และจะเดินตามปณิธานที่ได้ตั้งไว้.....

ขอขอบคุณความรักที่ทำให้...พบกับความทุกข์
และขอขอบคุณความทุกข์ที่ทำให้...พบกับธรรมะ
และขอขอบคุณธรรมะที่ทำให้...วันนี้ได้พบกับหาทางที่แท้จริง


ฝากบล็อกหน่อยนะครับ ลองทำเล่นๆดูนะครับ
http://madoodhumma.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2012, 14:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2012, 15:49
โพสต์: 20

ชื่อเล่น: ทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เขาคงคับข้องใจมากเลยเชียวครับ เพราะเขาแสดงความก้าวร้าว ขอให้เขาพ้นทุกข์ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2012, 17:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ยังไม่ได้เข้าไปอ่านครับ แต่อนุโมทนาครับที่อยากให้เขาพ้นทุกข์

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2012, 20:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านทั้งหลาย เราเป็นผู้เลื่อมใสในพุทธศาสนา มีหลักธรรมประจำใจ ให้วางเฉยซะบ้าง อย่าไปสนใจมัน เดี๋ยวมันก็เลิกไป
ใครกันที่ดูหมิ่นศาสนา ใครกันที่ยุยงยุแหย่ มันก็ไม่ต่างอะไรกันมากนักดอกขอรับ คนที่มันดูหมิ่นศาสนา มันอาจจะรับอามิสสินจ้างมา ก็คนไทยนั่นแหละ จะมีใคร จะเรียกว่า คนขายศาสนาก็ยังได้ขอรับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2012, 21:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


วู้...วู้.... rolleyes rolleyes

เข้าท่า..เข้าท่า...

พี่เท่..เข้าท่า :b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2012, 21:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


บางครั้งสิ่งที่ครูบาอาจารย์นำมาสอนย้ำแล้วย้ำอีก กลับกลายเป็นจุดอ่อนให้คนนอกศาสนานำมาโจมตีดูเหมิ่น จุดอ่อนของพุทธศาสนาจึงอยูู่ที่คำสอน

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2012, 22:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอาให้หนักนะครับ เอาให้หนัก

มาคำนวนว่ากี่กัปถึงจะตามแก้กันหมด

อยู่กับความมืด เขียน:
บางครั้งสิ่งที่ครูบาอาจารย์นำมาสอนย้ำแล้วย้ำอีก กลับกลายเป็นจุดอ่อนให้คนนอกศาสนานำมาโจมตีดูเหมิ่น จุดอ่อนของพุทธศาสนาจึงอยูู่ที่คำสอน

จริงอ่ะ

เริ่มที่เรื่องพระเวสก่อน ชาตินั้นถ้ามีคนมาขอชีวิตท่าน ท่านก็ให้นะ แต่บุญท่านหนักแล้วเลยไม่มีใครขอ ไปอ่านชาติที่ท่านทานอวัยวะหรือชีวิตมาสิ แล้วเทียบกับตัวเอง มีดปาดเลือดออกอย่าฝ่อไปก่อนก็แล้วกัน

สวดชยันโตให้ทหารปกป้องบ้านเมืองได้ ไม่ใช่สวดให้ไปฆ่าคน ถ้าพวกข้าศึกชนะ ลูกเด็กเล็กแดงผู้หญิง พระสงฆ์องค์เจ้า พวกข้าศึกคงจะดูแลให้อย่างดีหรอก

วิบากของอกุศลกรรมเป็นอย่างไร บุญให้ผลหมดก่อนก็พึงรู้ได้ด้วยตนเอง

เรื่องปิดถนนตักบาตร คนแข่งวิ่งแข่งเดินเขาก็ปิดให้อยู่แล้วนี่ แล้วนี้คนเขาทำบุญตักบาตรนะ จะปล่อยให้รถชนคนตักบาตรผมก็ว่าไม่ใช่แล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มี.ค. 2012, 22:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมว่า....เกิดจากการแปล...หรือไม่ก็...เกิดจากความไม่รู้ของผู้แต่งหนังสือ

พระเวสสันดร....รู้รึว่าจะต้องทานลูกทานเมียแล้ว...จะมีบุญบารมีได้เป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้า?

ผมว่า...ท่านไม่รู้หรอก...

ท่านรู้แต่ว่า..ท่านจะต้องเอาชนะ...อะไรบางอย่าง...ที่เกิดในใจท่านเมื่อถูกขอ..ต่างหาก
เพราะท่านคิดว่า..หากท่านชนะสิ่งนี้ได้...เท่านั้น...สิ่งประเสริฐที่จะนำความสุขมาให้กับทุกคนได้...จึงจะเกิดขึ้น...

เพื่อทุกคนที่อยู่ในขณะนั้น...นะ...ไม่ใช่เพื่อตัวท่านในอนาคต

ปัณหาเกิดจากหนังสือ..จริง ๆ ....

แม้แต่ผู้รักษาพระศาสนาตัวจริง...ก็ยังรู้สึก...ตะหงิด..ตะหงิด..แล้วก็ข้ามไปเสีย
s004 s004


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มี.ค. 2012, 01:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


คนที่ไม่เข้าใจวิถีของการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์และพระพุทธเจ้า
ก็เป็นธรรมดาที่จะมองพระเวสสันดรไปอย่างนั้น

พระธรรมของพระพุทธเจ้าในข้ออื่นๆมีมากมายมหาศาล
และไม่เหลือวิสัยที่จะใช้เหตุผลแบบคนธรรมดาในการทำความเข้าใจ
ถ้าเขาตั้งใจจะเข้าใจไปแบบนี้ ก็คงจะเข้าใจได้ไม่ยาก

พวกเราในที่นี้ ก็ไม่เคยเห็นสวรรค์ ไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากดาวดึงส์
แต่เราก็ยังศรัทธา เพราะอะไร

ก็เพราะเราศรัทธาในเรื่องที่เราพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง ใช้ได้จริง มีอยู่ในชีวิตจริง
ไม่มีอะไรเหนือวิสัยมนุษย์ พวกเรามองพระธรรมในแบบนั้น
แต่คนพวกนี้เขาไม่เห็นอย่างนั้น

เรื่องคล้ายๆพระเวสสันดรก็มีในนิกายอื่น อย่างแบบจีนมีเห้งเจียด้วย
ถ้าการพิสูจน์ศาสนาคือการพิสุจน์เรื่องพวกนี้ ก็ปล่อยให้เขาศรัทธาไปแบบนั้นเถิด
ชาวพุทธเรา ศรัทธามีไว้นำ แต่คนพวกนี้คิดว่าศรัทธาคือศาสนา ก็ต้องปล่อยเขาไป

อะไรที่พิสูจน์ได้เอง กลับไม่เอา มัวแต่ไปตามล่าสิ่งที่เขาไม่มีปัญญาพิสูจน์ ก็ต้องปล่อยเขาไป

ให้โตกว่านี้ มีหน้าที่การงานความรับผิดชอบจริงๆจังๆ เจอปัญหาชีวิตจริงๆ ถึงจะได้อยู่กับความเป็นจริง ช่วงวัยอย่างนี้ก็ฟุ้งซ่านอย่างนี้แหละ ปล่อยไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มี.ค. 2012, 07:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มี.ค. 2012, 08:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
อะไรที่พิสูจน์ได้เอง กลับไม่เอา มัวแต่ไปตามล่าสิ่งที่เขาไม่มีปัญญาพิสูจน์ ก็ต้องปล่อยเขาไป


พุทธศาสนาสอนไม่ให้เชื้ออะไรง่ายๆไม่ใช่หรอ ในหลักการามาสูตรท่านสอนว่าอย่างไง บางอย่างเราอ่านหรือฟังแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ท่านกลับย้ำแล้วย้ำอีก และบอกว่าสิ่งที่ท่านสอนหรือสิ่งที่เราศีกษาได้ยินได้ฟังมาอย่าเพิ่งเชื่อเลยทีเดียวต้องใช้ปัญญาพิจารณาก่อนถึงจะเชื่อ แต่พอเราใช้ปัญญาพิจารณาก็ทำให้เกิดความสงสัยตามมาอีกเพราะบางอย่างมันคัดค้านกันหรือไม่น่าจะเป็นไป พอเกิดความสงสัยก็ไม่สามารถที่จะเข้าถึงความจริงหรือบรรลุธรรมได้ เพราะเกิดวิจิกิจฉาขึ้น สรุปคือหลักการามาสูตรบัญญัติขึ้นมาก็เพื่อให้ศาสนาพุทธดูดีหรือเอาไปอวดศาสนาอื่นว่าศาสนาคุณไม่กล้าสอนแบบศาสนาเรา แต่สุดท้ายแล้วพุทธศาสนาก็บังคับให้เราเชื่อโดยปริยายเพราะถ้าใครไม่เชื่อสิ่งที่พุทธเจ้าสอนก็ไม่มีสิทธจะเข้าถึงหลักธรรม แล้วหลักการามาสูตรจะมีความหมายอะไร ผิดพลาดตรงใหนขอผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วย :b8: :b8:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มี.ค. 2012, 08:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยู่กับความมืด เขียน:
พุทธศาสนาสอนไม่ให้เชื้ออะไรง่ายๆไม่ใช่หรอ ในหลักการามาสูตรท่านสอนว่าอย่างไง บางอย่างเราอ่านหรือฟังแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ท่านกลับย้ำแล้วย้ำอีก และบอกว่าสิ่งที่ท่านสอนหรือสิ่งที่เราศีกษาได้ยินได้ฟังมาอย่าเพิ่งเชื่อเลยทีเดียวต้องใช้ปัญญาพิจารณาก่อนถึงจะเชื่อ แต่พอเราใช้ปัญญาพิจารณาก็ทำให้เกิดความสงสัยตามมาอีกเพราะบางอย่างมันคัดค้านกันหรือไม่น่าจะเป็นไป พอเกิดความสงสัยก็ไม่สามารถที่จะเข้าถึงความจริงหรือบรรลุธรรมได้ เพราะเกิดวิจิกิจฉาขึ้น สรุปคือหลักการามาสูตรบัญญัติขึ้นมาก็เพื่อให้ศาสนาพุทธดูดีหรือเอาไปอวดศาสนาอื่นว่าศาสนาคุณไม่กล้าสอนแบบศาสนาเรา แต่สุดท้ายแล้วพุทธศาสนาก็บังคับให้เราเชื่อโดยปริยายเพราะถ้าใครไม่เชื่อสิ่งที่พุทธเจ้าสอนก็ไม่มีสิทธจะเข้าถึงหลักธรรม แล้วหลักการามาสูตรจะมีความหมายอะไร ผิดพลาดตรงใหนขอผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วย :b8: :b8:

คำสอนไม่ว่าเนื้อหาจะพิศดาลหรือเรียบง่ายขนาดไหน ทุกอย่างก็เพื่อละกิเลส เพื่อให้จิตคลายความยึดมั่นถือมั่น

กาลามาสูตร อีกชื่อก็คือ เกสปุตตสูตร พระพุทธเจ้าท่านเป็นปรมครู ท่านได้พิจารณาแล้วว่าธรรมนี้เหมาะสำหรับชาวเกสปุตตในเวลานั้น

"สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ" ธรรมทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่น
ธรรมใดที่ให้ตนคลายความยึดมั่นถือมั่น ก็ใช้ธรรมนั้นแล

มีนะผู้ที่ไม่เชื่อพระพุทธเจ้าแล้วเข้าถึงหลักธรรม มีนะ พระปัจเจกพุทธเจ้ากับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์อื่นๆ
พระปัจเจก ใช้เวลาประมาณ สองอสงไขย
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใช้เวลาประมาณ ประมาณ ตั้งแต่ยี่สิบอสงไขย จนสี่สิบอสงไขย ถึงแปดสิบอสงไขย
:b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มี.ค. 2012, 11:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2012, 15:49
โพสต์: 20

ชื่อเล่น: ทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เคยศึกษาศาสนาคริสต์อยู่หลายปี เพราะอยู่ในประเทศตะวันตก ก็มีเรื่องใหญ่ที่พิสูจน์ไม่ได้อยู่หลายเรื่อง (พิสูจน์แบบวิทยาศาสตร์) ที่ใหญ่ที่สุดคือเรื่องพระเจ้ามีจริงใหม ในศาสนาพุทธก็มีมากเรื่องในพระไตรปิฏก เรื่องใหญ่ที่สุด น่าจะเป็นเรื่อง การเวียนว่ายตายเกิด แต่ทั้งสองศาสนาก็มีสิ่งดีๆที่เราเรียนรู้มาทำให้ชิวิตมีความสุขได้ เราก็เอาแค่นั้น คงไม่ต้องไปแบกภาระยืนยันกับใครว่า ทุกเรื่องในไบเบิ้ลเป็นจริง หรือทุกเรื่องในพระไตรปิฏกเป็นจริง เป็นจริงก็เป็นเรื่องของมัน ไม่เป็นจริง ก็เป็นเรื่องของมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มี.ค. 2012, 13:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สุรวุฒิ เขียน:
เคยศึกษาศาสนาคริสต์อยู่หลายปี เพราะอยู่ในประเทศตะวันตก ก็มีเรื่องใหญ่ที่พิสูจน์ไม่ได้อยู่หลายเรื่อง (พิสูจน์แบบวิทยาศาสตร์) ที่ใหญ่ที่สุดคือเรื่องพระเจ้ามีจริงใหม ในศาสนาพุทธก็มีมากเรื่องในพระไตรปิฏก เรื่องใหญ่ที่สุด น่าจะเป็นเรื่อง การเวียนว่ายตายเกิด แต่ทั้งสองศาสนาก็มีสิ่งดีๆที่เราเรียนรู้มาทำให้ชิวิตมีความสุขได้ เราก็เอาแค่นั้น คงไม่ต้องไปแบกภาระยืนยันกับใครว่า ทุกเรื่องในไบเบิ้ลเป็นจริง หรือทุกเรื่องในพระไตรปิฏกเป็นจริง เป็นจริงก็เป็นเรื่องของมัน ไม่เป็นจริง ก็เป็นเรื่องของมัน

พวกนี้ใช่พวกมีศาสนาที่ไหนกันครับ

เท่าที่อ่านดูแล้ว พวกเขาเป็นโรคตรรกะบกพร่องจากเทคโนโลยี เทคโนโลยีเจริญไปเท่าใด ใช่ว่าใจคนจะเจริญไปด้วยเท่านั้น บางท่านอาจจะเห็นเมืองแห่งอนาคตรออยู่ข้างหน้า แต่กระผมเห็นมิคสัญญีรออยู่ข้างหน้าครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร