ไม่รู้จะเริ่มต้นเล่าอย่างไรดี อยากบอกว่าไม่เคยเชื่อเรื่องคุณไสย์ มนต์ดำ แต่กลับโดนเข้ากับตนเอง ไม่กล้าบอกใครเพราะคนอื่นจะคิดว่าเราบ้า งมงาย จึงขอระบายทุกข์กับแสงทิพย์ เพราะต้องการที่จะขอคำแนะนำเพื่อหลุดพ้นจากอำนาจมนต์ดำที่ถูกกระทำอยู่ในขณะนี้

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 49 ไปบวชชีพรามห์ที่วัดแห่งหนึ่งมีพระนำผลไม้มาให้ทาน ก็รับไปทานแต่ปรากฎว่าตอนเช้ารู้สึกเนื้อตัวสั่น ใจสั่น เมื่อได้ยินเสียงพระที่นำผลไม้มาให้กิน ก็พยายามฝืนตัวเอง หลังจากกลับบ้านก็มีอาการแปลกๆนึกถึงแต่พระรูปนั้นแบบชู้สาว ซึ่งไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลย ทำให้รู้ว่าเราน่าจะถูกคุณไสย์เข้าแล้ว ก็พยายามทำบุญ อุทิศส่วนกุศลมาโดยตลอด ซึ่งปัจจุบันก็ไม่รู้ว่าจะหายหรือยัง

เพราะหลังจากนั้น ไม่นานก็มาถูกคนข้างบ้านทำคุณไสย์ ใส่อีก ที่รู้เพราะว่าอาการตัวสั่น ใจสั่นเหมือนที่ถูกพระรูปนั้นทำคุณไสย์ใส่ เขาทั้งเคาะข้างฝา เรียกแมวที่เขาเลี้ยงตรงหน้าบ้าน หลังบ้านเรา ชื่อแปลกๆ ทั้งยังสวดอะไรก็ไม่รู้ทั้งวันทั้งคืน โดยเฉพาะตอนกลางคืนสวดทุกวัน เป็นเช่นนี้มานานนับปีแล้ว หลังๆมีอาการเจ็บศีรษะมาตลอดเวลา เราก็พยายามทำบุญ อุทิศส่วนกุศล สวดมนต์ นั่งสมาธิ มาโดยตลอด แต่ก็ยังมีอาการใจสั่น เจ็บศีรษะอยู่ และยังมีกลิ่นตัวอีกด้วย ทั้งๆที่ไม่เคยมีกลิ่นตัวมาก่อนเลยแปลกมาก

จึงอยากถามผู้รู้ว่า

1.ทำอย่างไรจึงหลุดพ้นจากอำนาจคุณไสย์ได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องให้พระถอนคุณไสย์ออก เพราะเกรงว่า เวรกรรมจะไม่หมดสิ้นไป

2.ทำใมจึงถูกคุณไสย์กระทำได้ง่ายๆเช่นนี้ ควรมีวิธีป้องกันอย่างไร

3.เรากับเขาเคยมีเวรกรรมต่อกันใช่หรือไม่ ทำให้เราต้องมาเจอกับสิ่งเหล่านี้

4.ไม่เคยคุยกับคนข้างบ้านเกินสิบคำ ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนใดๆให้กับเขาเลย ไม่มีเลย แล้วมันใช่กรรมของเราหรือที่ต้องมาถูกกระทำเช่นนี้

กรุณาช่วยบอกที่ว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องเหล่านี้ดี....

ทำอนัตตาให้แจ้งครับ


มีเหตุ มีปัจจัย ให้มันเป็นเช่นนี้ วิธีป้องกันคือ ให้มีพระรัตนไตรเป็นที่พึ่ง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

ท่านแน่ใจได้อย่างไรว่าเป็นคนข้างบ้าน เหตุใดทำให้ท่านมั่นใจเช่นนั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นกับท่าน ย่อมเป็นผลมาจากกรรมที่ท่านกระทำไว้อย่างแน่นอน หากท่านเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม

แน่ใจมากๆ คิดว่าถ้าทนมะไหวก็จะจบด้วยการกระทืบให้จมบาทา...

ลองไปไหว้พระ ขอพร ขอความคุ้มครอง ขอให้ท่านช่วยถอนคุณไสย์ให้
เช่นพระแก้วมรกต ไหนจะมีวัดมีพระเลื่องชื่ออีกมากนะ ลองไปกราบไหว้บูชาขอพรดุ
หรือพระอาจารย์สอนวิปัสสนาทั้งหลาย ก็ลองตระเวณไปกราบไหว้ขอพร
ถ้ารูปไหนเราเข้าถึงท่านได้ ก็ลองถามท่านดู
น่าจะช่วยได้นะ

ตอบ

1. ทำทาน รักษาศีล ภาวนา สม่ำเสมอ
2. ถูกคุณไสยง่ายเพราะจิตใจอ่อนแอ ต้องฝึกจิตใจให้เข้มแข็ง โดยการภาวนา
และถ้าจิตยังอ่อน การพึ่งอำนาจพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสงฆคุณก็ยังจำเป็น
หาพระพุทธรูปองค์เล็กที่มีอานุภาพมาคล้องคอไว้
3. ใช่
4. ใช่

ถ้าถูกคุณไสยจริงๆ จะมีอาการร้อนวูบวาบเหมือนจะเป็นไข้ หน้าตาหมองคล้ำ มักนั่งก้มหน้า
ไม่สู้สายตาใคร นอนไม่หลับกระสับกระส่าย จะทรมาณจิตใจ
ถ้าจิตใจยังอ่อนแอ อย่างไรต้องพึ่งพระสงฆ์ที่มีภูมิธรรม มีบารมีช่วยแก้ไข

ว่ากันก่อน เรื่องมนต์ดำพวกนี้

ถ้าถามว่า มีจริงๆหรือไม่ ตอบว่ามี
แต่ปัจจุบัน สิ่งพวกนี้หาได้ยากมาก
สิ่งพวกนี้ถ้าเจอครูดี นั้นเรียนได้ไม่ยาก
แต่ที่ยากคือการ ทรงอาคมให้ขลังไว้ต่างหาก
เนื่องจากแต่ละสาย แต่ละสำนักก็จะมีเคล็ดต้องทำอย่างนั้น ห้ามทำอย่างนี้
กำกับไว้ตลอด ดังนั้นการทรงอาคมไว้เป็นเรื่องยาก

การจะส่งอาคมออกไปแต่ละครั้งนั้น ไม่ใช่ทำกันเล่นๆ
อยากจะสั่งจะจัดการกับใครก็ทำได้ตามสะดวกก็หาไม่
เพราะผู้มีอาคมจะรู้ว่าการออกอาคมไสยะ แต่ละครั้ง
ชีวิตตนเองจะสั้นลง ยิ่งทำผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีกรรมเกี่ยวพันกับตน
(รับจ้าง) ชีวิตยิ่งหดสั้น หาได้ตายดีเหมือนคนทั่วไปไม่ (ผู้เรียนจะรู้ตอนรับอาคม)

ส่วนการรักษาเมื่อถูกอาคมพวกนี้
มี 3 ทาง
1 ผู้ทำเป็นผู้แก้ (ยกเว้นมนต์ดำชั้นสูง ตายอย่างเดียว ไม่มีเวลาแก้)
2. ผู้มีอาคมเหนือกว่า บีบ บังคับ สะกดให้ออกได้
3. พระอริยเจ้า ผู้ทรงฌานสมาบัติ เมตตาช่วยเหลือ (โอกาสยากมาก)

แต่ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นและเจอมา มักจะไม่ใส่มนต์ดำดังกล่าว
ยกตัวอย่าง ป้าคนนึง อยู่ข้างบ้าน แกบอกว่าแกโดนน้าสาวผมทำของใส่แก
ทุกวันใครไปใครมา ก็บ่นแต่คำๆนี้ มีอยู่ครั้งนึง ผมกลับไปเยี่ยมบ้าน
ก็ไม่รู้ว่าแก เป็นไปได้อย่างนั้น จึงเข้าไปทักทายด้วยท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่
แก่เล่าเลย น้าท่านมันทำคุณไสยใส่ป้า ช่วยทีๆ ผมก็งงๆ ว่าน้าสาวแกไปเล่นของพวกนี้
จากไหน แต่พอดูป้าแก รู้สึกได้ชัดว่า จิตมีม่านหมอกคลุม สติไม่ได้ตั้งอยู่เหมือนคนทั่วไป
แต่จะเลื่อนลอยไปเหมือนคนเสียสติก็ไม่ไช่ แต่พอลองนึกดูแต่หนหลัง

ป้าแกเคยเล่นของพวกนี้เยอะมาก ปลูกผลไม้ริมถนน ก็ทำโจว ทำของให้เด็กกิน
แล้วท้องอืด ท้องฟอง หาร่างทรง หาของอยู่เนืองๆ ก็ได้แต่ปลงสังเวช

อดีตแม่ชีอีกท่านนึง ที่เจอมา ก็เดินวิปัสสนา ห่างไกลครูบาอาจารย์
จนสัญญาวิปปลาส เกิดวิปัสสนู ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมาก
ท่านมีอินทรีย์แก่กล้า รุดหน้าภาวนาได้เร็ว มาวันดีคืนดี ก็สติลอย จิตอยู่นอกๆ ตลอด
สุดท้ายยายชีท่านนี้ก็ เข้าศาสนาอื่น ฯ

ส่วนการป้องกันมีวิธี แต่ไม่ได้หมายถึงการไหว้พระ สวดมนต์ตามปกติ
เพราะถ้าเป็นไสยเวทย์จริงๆ ผู้ทรงอาคมจริงๆ ผู้ที่จะรอดได้ด้วย
พระปราการพระรัตนตรัย ก็คือ ผู้ตั้งมั่นอยู่ในพระรัตนตรัยอย่างไม่หวั่นไหวเท่านั้น
ที่จะมีเกราะคุ้มกาย นั่นคือ โสดาบันบุคคลขึ้นไป

คนทั่วไป ก็ต้องอาศัยอุปเท่ห์ของขลังจากครูบาอาจารย์มาถือครอง
ที่เป็นที่เล่าขานและรู้จักกันดีคือ ยันต์เกราะเพชร ของหลวงพ่อปาน ซึ่งมีลูกศิษย์ท่าน
สืบทอดมาอยู่ในปัจจุบันไม่แน่ใจยังมีอีกหรือไม่

เก็บมาบอกเล่ากันครับ

ดีแล้ว จบ

ภาพประกอบ น้ำมนต์วัดพระแก้ว

อยากให้คุณยอมรับในสองเรื่องก่อน

คือ หนึ่งเป็นคุณไสย
สอง เราเอง ป่วยทางจิต เป็นโรคที่เรียกว่า ระแวง หรือ พารานอยด์ Paranoid
ให้คำไว้ จะได้ไปค้นเองได้นะครับ

พารานอยมีได้หลายแบบ ระแวงว่า แฟนมีชู หรือมีคนจะฆ่าเรา หรือมีแต่คนด่าเรา
หรือมีคนปล่อยของใส่เรา เสมอ

ทีนี้ผมจะพยายามช่วยตอบนะครับ

1 ทำอย่างไรจึงหลุดพ้นจากอำนาจคุณไสย์ได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องให้พระถอนคุณไสย์ออก เพราะเกรงว่า เวรกรรมจะไม่หมดสิ้นไป
ด้วยตนเองคืออย่างที่เพื่อนบอกคือมีศีล และมั่นคงในพระรัตนตรัย

ยังมีอีกสององค์ ขอบารมีมาช่วยได้

องค์แรก คือ แม่พระธรณี ขอท่านช่วยเลยครับ ตั้งสติ จิตนึกถึงท่าน ท่านก็ถึงเรา
พระคาถา จะว่าตาม ของ หลวงพ่อโอภาสีก็ได้

อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคา ภุมมะเทวา ขะมามิหัง

หรือพระคาถา ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญก็ได้

นะเมติ นะเมติ นะเมติ นะเมติ
นะเมติ นะเมติ นะเมติ นะเมติ
นะเมติ นะเมติ นะเมติ นะเมติ
นะเมติ นะเมติ นะเมติ นะเมติ

คือ 12 ครั้งนั่นเอง

อีกองค์ คือท้าวเวสสุวรรณ เทพ ผู้รักษาพระศาสนา ท่านเป็นอริยบุคคลนะครับ
ขอบารมีท่านได้เลย

พระคาถาว่าตามของ สมเด็จโตก็ได้
อิติปิโสภควา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุรรณโณ มรณังสุขัง
อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ

ไม่ได้ให้ผมแนะนำพระสงฆ์ ก็จะไม่แนะนำครับ
น้ำมนต์ ก็ไปนำจากพระประธาน วัดไหนก็ได้ ขอบารมีพระรัตนตรัย มาพรม มาดื่ม
จากวัดพระแก้วก็ได้ครับ

ถ้ายังไม่หาย
คุณต้องไปหาจิตแพทย์นะครับ จำเป็นมาก ต้องยอมรับตรงนี้
ผมเห็นคนไข้ พารานอยด์ จากที่คิดว่า ตนโดนคุณไสย เยอะมากๆๆ ทุกวันนี้ก็ยังเห็นอยู่เลย
แก้ยาก เพราะไม่ยอมไปหาหมอกันเลยน่ะครับ
ถ้าน้อยๆ อย่างนี้ไม่เท่าไร บางรายจะมากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกว่า มีคนตั้งหลายคน ปล่อยคุณไสยใส่เรา
เมื่อไรคุณรู้สึกอย่างนี้ ใช่เลยนะครับ
อย่าลืม ต้องไปหาหมอด้วย


คำตอบที่เหลือ คือทุกอย่างเป็นกรรม ส่วนมากแต่ปางก่อน

ทำให้เราโดน หรือเราป่วยทางจิต ล้วนแต่กรรมทั้งนั้น

เราก็ทำปัจจุบันให้ดี แก้ไขให้ดี นั่นเองครับ

เห็นด้วยเกี่ยวกับการไปพบแพทย์ตรวจสุขภาพดู

มีสารพิษในร่างกายหรือปล่าว
เกือบทั้งหมดมากับอาหาร และอากาศ
บอกคนรู้จักไว้ว่าไม่ไว้ใจคนข้างบ้านกลัวมีการวางยา ดีกว่าไหมครับคำนี้ เป็นไปได้
หากมีอะไรเกิดขึ้นก็ใช่เลย มิจฉาชีพ

หากถือศีลปฏิบัติธรรม ตัวเองจะบอกได้ดีที่สุดว่าเราดีแค่ไหน
เรื่องกลิ่นตัว อย่างที่บอกว่าพบแพทย์ตรวจดีกว่าเป็นไปได้ว่ามีสารพิษหรือความผิดปรกติของร่างกายก่อนสายเกินแก้

เคยพบเห็นประสบการณ์คล้ายๆกันค่ะ
อยากเรียนถามว่า คุณ มีพระพุทธรูปประจำใจไหมคะ พระพุทธรูปประจำใจหมายถึง ไม่ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นให้ระลึกถึงท่านก่อนเป็นอันดับแรก
ถ้ารู้สึกใจสั่น เนื้อตัวสั่นอีก ให้สวดมนตร์ในใจทันทีค่ะ (จะสวดอิติปิโสก็ได้ค่ะ) ระลึกถึงพระพุทธคุณไว้ สวดมนตร์จนจบบท แล้ววนสวดมนตร์ใหม่อีก วนไปเรื่อยๆ จนรู้สึกดีขึ้น
ถ้าอาการรุนแรงมาก ก็สวดไปสัก 20 เที่ยว แล้วหาทางเดินออกจากจุดที่ตัวเองยืนอยู่ เดินไปหามุมสงบ หรือถ้าเกิดเหตุจำเป็นลุกออกไปไหนไม่ได้ ก็ให้สวดมนตร์ต่อไป
หาพระพุทธรูปมาคล้องคอสักองค์นะคะ เวลาเกิดอาการใดๆขึ้น ก็แตะที่พระพุทธรูปนั้น และสวดมนตร์ไปด้วย
ที่สำคัญ รักษาศีล5 ให้เคร่งครัดด้วยค่ะ ศีล 5 และพระพุทธคุณ จะเป็นเกราะป้องกันภัยให้คุณค่ะ
ถ้ารู้สึกตัวเองมีอาการดีขึ้นก็แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายด้วย

จิตที่คิดอาฆาต พยาบาท ยากนักที่จะหลุดพ้นจากสิ่งชั่วร้าย

แล้วสาเหตุใดที่ทำให้ท่านแน่ใจ....

โดนของ มีอาการคลา้ยคนบ้า ได้ยินเสียงคนนั้นคนนี้พูดตลอดเวลา ซึ่งเหมือนคนสั่งให้ได้ยินเสียงทุกคนที่เราคุยด้วย
เหมือนจะทำให้เราสับสน บางครั้งสั่งให้เราหายใจไม่ออก ปวดหัว ตัวร้อน มีอาการเจ็บปวดตามที่ที่มันสั่ง ทั้งที่หาสาเหตุไม่ได้ จนนึกว่าตัวเองเป็นบ้ารึป่าว ถึงกับไปพบจิตแพทย์ ไปหาหมอก้หาสาเหตุไม่เจอบางทีเรานอนหลับแต่เหมือนคนอดหลับอดนนอ หน้าตาจากคนที่ผิวขาวแต่เหมือนหน้าเราหมองคล้ำใครเห็นก้ทัก ว่าไปอดหลับอดหนอนที่ไหนมา บางสั่งให้เราคิดตามที่มเสียงที่เราได้ยิน ใครบอกได้ว่าคุณไสย์ประเภทนี้เขาเรียกว่าอะไร คืออาการแบบนี้เป็นตั้งแต่ เดือน มกราคม 2554 จนถึงทุกวันนี้ช่วงเแรกที่เป็นงงมาก คือรู้ว่าเราอยู่ไหน ทำอะไร แล้วลงทุนจ้างคนอื่นมาเล่นละครตบตาเรา โทรไปหาญาติพี่น้องเรา แอบบเปลี่ยนรหัสอีเมลล์ เฟสบุค ทั้งที่ปกติแล้วมันทำได้ที่ไหนล่ะแล้วไม่ใช่เจ้าจัวทำเอง รู้ข้อมูลทุกอย่าง รู้แม้กระทั่งว่าทำอะไร กินอะไร ใส่เสื้อสีไหน อยู่กับคราย แล้วให้คนรู้จักเราโทรหาแกล้วปั่นหัสเรา คนที่อยู่คนล่ะที่แต่รู้เหน เรื่องของเรา สั่งเราได้ อยากรู้ค่ะ ว่าคุณไสย์ประเภทนี้เขาเรียกว่าอะไร เพราะปกติไม่เชื่อเรื่องแบบนี้

คล้องพระ สวดมนต์ ถือศีล5 เป็นคีย์เวิร์ดของทำให้คุนไสยอ่อนกำลังลง และควรไปไหว้พระประธานตามวัดใหญ่
เพื่อขอพรให้มารักษาเราด้วยครับ แล้วอโหสิกรรมให้คนที่คิดว่าทำเราและแผ่เมตตาไปให้เขาด้วย
(มันก้เปนเรื่องของเวรกรรมที่เคยทำไม่ดีไว้ในอดีตด้วยครับ ให้อโหสิกรรมไปเสียได้จะดีมากๆ)