วันเวลาปัจจุบัน 19 พ.ค. 2025, 21:10  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2010, 08:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


สงสัยค่ะ..........ขอความรู้จากท่านๆด้วยค่ะ

คือประมาณ2อาทิตย์ที่ผ่านมา เราฝันว่าเราสวดคำว่า
<พุทธะมะอะอุ...อะโมพุทธายะ>
คือเห็นตัวเองนั่งสวดคำนี้ทั้งคืน พอรู้สึกตัวก็เลยรู้ว่า จริงๆแล้ว
ตัวเราก็นอนสวดด้วย เพราะตอนรู้สึกตัวตื่น เราได้ยินเสียงของเรา
สวดคำว่า <ธายะ>
เราก็เลยคิดว่า เราไม่ได้ฝันว่าเรานั่งสวดอย่างเดียว
เรานอนอยู่เราก็สวดด้วย พอตอนเช้าเราก็คิดว่าคำสวดนี้
ไม่น่าจะมีแค่2ประโยค น่าจะต้องมีคำข้างหลังอีก
เราก็เลยไปหาในgoogle
เราก็เจอ เราก็จดคำสวดมา


เราก็มานั่งสวด โดยดูคำสวดใแผ่นกระดาษ เรามีความรู้สึกว่า 2 ประโยคแรก(คือจำได้แม่น)
สวดแล้วเสียงดูดีน่ะ แต่ประโยคหลังๆ เหมือนเสียงแข็งๆ เราก็เลยหยุดก่อน

คือพอดีช่วงนั้น ใจเราจะไปอยู่กับการนั่งสมาธิมากกว่า ถ้าว่างก็จะนั่งสมาธิ
จนมีอยู่วันหนึ่ง เราไปนั่งเล่นอยู่ขางนอกบ้าน เราก็คิดว่าถ้าเราหยิบกระดาษ
ที่เราจดคำสวดออกมาด้วยก็ดีน่ะ จะได้มาฝึกนั่งสวด

คือเราจำได้2ประโยคแรก เราก็เลยสวด ทีนี้พอเราสวดถึงคำว่า<อะโมพุทธายะ> เราสวดคำหลังต่อได้เองเลยค่ะ
คือ<วิระทะโย_วิระโทนายัง>เราสวดจนจบได้เลย เราก็
เอ๊ะ!ทำไมเราสวดได้ เราก็ลองสวดครั้งที่2-3อีก
เราก็เอ๊ะ!ทำไมเราสวดได้ เราสวดถูกหรือปล่าว เราก็เข้าบ้านมาดูในแผ่นกระดาษ
ที่เราจดไว้ พอเราดู เราก็ อุ๊ย!เราสวดถูกหมดเลย
เป็นไปได้ไงอ่ะ!

พอตอนกลางคืน เราก็ฝันว่า มีผู้ชายคนหนึ่งมาหาเรา แล้วบอกว่า
"เธอสวดมนต์คาถานี้น่ะ"
แล้วก็บอกว่าเราอยู่ในทีมของเค้า แต่ไม่ได้อธิบายอะไร
ว่าเรพาะอะไร แล้วก็บอกว่าไปแล้วน่ะ
เพราะคืนนี้ เค้าจะต้องไปบอกหลายคน แล้วเค้าก็ยื่นกระดาษ
ขนาดแผ่นA4ให้เราดู เราก็เห็นชื่อเต็มกระดาษแผ่นนั้นค่ะ

แล้วเค้าก็บอกว่า " คนที่มีชื่อในนี้ทั้งหมด จะต้องสวดมนต์คาถานี้"



ทีนี้มาถึงข้อสงสัยของเราแล้วน่ะค่ะ คือบางครั้งเราก็นั่งสวดคาถานี้อย่างเดียว
โดยไม่ได้ทำอะไร บางครั้งเราเล่นคอมพ์ เราก็สวดคาถานี้ไปด้วย

บางครั้งเราพาสุนัขไปเดินเล่น ข้างนอกช่วงเช้ากับช่วงเย็น
เราก็สวดคาถานี้ด้วย ถ้าเราปลูกต้นไม้เราก็สวด

ทีนี้เราขอถามว่า การที่เราทำอะไรอยู่ แล้วเราสวดไปด้วย ถูกหรือผิดค่ะ
การสวดมนต์นี่ ต้องนั่งพนมมือไปด้วยทุกครั้งเหรอค่ะ
แล้วถ้าเรานั่งสวดเป็นชั่วโมง ก็ต้องนั่งพนมมือเหรอค่ะ

เราสงสัยมา2อาทิตย์แล้วล่ะค่ะ แต่หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้
เราขอความรู้ เรื่องนี้จากท่านๆด้วยน่ะค่ะขอบคุณค่ะ :b8: :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2010, 09:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 พ.ค. 2010, 12:55
โพสต์: 26

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวดมนต์บทไหนก็ดีทั้งนั้น ถ้าสวดแบบมีสติไปด้วย ไม่สวดแบบนกแก้วนกขุนทอง
ส่วนเรื่องฝันอย่าไปปักใจเชื่ออะไรมาก
แต่ฝันว่าได้สวดมนต์ก็เป็นมงคล ทำให้จิตใจดี มีกำลังใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2010, 09:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
ทีนี้เราขอถามว่า การที่เราทำอะไรอยู่ แล้วเราสวดไปด้วย ถูกหรือผิดค่ะ

ไม่มีถูกผิดหรอกครับ ถ้ามันทำแล้วได้ผล(เกิดสมาธิ)ก็เรียกว่าถูก แต่ถ้าไม่ได้ผล ก็เรียกว่าผิด
อ้างคำพูด:
การสวดมนต์นี่ ต้องนั่งพนมมือไปด้วยทุกครั้งเหรอค่ะ

แล้วถ้าเรานั่งสวดเป็นชั่วโมง ก็ต้องนั่งพนมมือเหรอค่ะ

ถ้าใช้กายสวดก็ต้องทำเช่นนั้น แต่ถ้าใช้ใจสวดก็ไม่ต้องครับเพราะใจไม่มีมือให้พนม :b32: :b32:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2010, 02:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


แปลกจัง ฝันแบบนั้นมีเหตุมาจากอะไรหนอ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2010, 11:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2008, 08:18
โพสต์: 24

ที่อยู่: นครปฐม

 ข้อมูลส่วนตัว


:b48: ฝันว่าได้สวดมนต์นั้น ก็เป็นมงคลดีแล้วครับ
การสวดมนต์ก็มีอานิสงส์หลายอย่าง เช่นทำให้จิตเป็นสมาธิเป็นต้น ฯลฯ
ถ้าคุณชอบสวดมนต์ก็ควรศึกษาดูครับจะได้รู้ความหมายและใช้อย่างถูกต้อง ในเว็บธรรมะมีเรื่องเกี่ยวกับการสวดมนต์แทบทุกเว็บ
คำว่า "อะโม"นั้นน่าจะเป็น "นะโม" มากกว่านะครับ คำเต็มคือ " นะโมพุทธายะ "ครับ

.....................................................
ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง คงแต่บาปบุญยังเที่ยงแท้

สัพเพธัมมาอนัตตา

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2010, 12:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby:

อ้างคำพูด:
ทีนี้มาถึงข้อสงสัยของเราแล้วน่ะค่ะ คือบางครั้งเราก็นั่งสวดคาถานี้อย่างเดียว
โดยไม่ได้ทำอะไร บางครั้งเราเล่นคอมพ์ เราก็สวดคาถานี้ไปด้วย

บางครั้งเราพาสุนัขไปเดินเล่น ข้างนอกช่วงเช้ากับช่วงเย็น
เราก็สวดคาถานี้ด้วย ถ้าเราปลูกต้นไม้เราก็สวด

ทีนี้เราขอถามว่า การที่เราทำอะไรอยู่ แล้วเราสวดไปด้วย ถูกหรือผิดค่ะ


เรื่องราวในความฝันนั้น น่าจะมาจากสัญญาเก่าที่ท่าน bbby เคยสะสมไว้ก่อน และด้วยอัธยาศัยที่ฝักใฝ่ในการสวดมนตร์ ทั้งการที่เคยรับรู้เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการสวดมนตร์มา จิตจึงปรุงเป็นเรื่องราวคือฝันได้..ที่ว่าไม่เคยพบหรือสวดมาก่อน แต่สามารถสวดได้นั้น ขออธิบายว่า จิตนั้นมีเจตสิกที่เข้าประกอบตัวหนึ่งรียกว่าสัญญา คือความจำได้หมายรู้ แม้เคยเห็นมานานมากจนคิดว่าลืมไปแล้ว แต่สัญญาได้บันทึกไว้แล้วย่อมไม่สูญหายไปไหน ยังเรียกกลับมาได้ด้วยกำลังของสติ..เข้าใจว่าท่าน bbby เจริญสมาธิอยู่เนืองๆย่อมเป็นปัจจัยสนับสนุนให้สติมั่นคงขึ้น จึงสามารถท่องบทสวดฯนี้ที่อาจเคยผ่านตามาในสมัยเมื่อนานมาแล้วหรือแม้จากอดีตชาติก็ย่อมเป็นได้..

ส่วนคำถามที่ข้างบน เรื่องถูกผิดในอาการสวดนั้น ขอให้ท่าน bbby สำรวจ/ถามตนเอง(ไม่ต้องตอบมาในที่นี้)..ว่าประสงค์หรือมีเจตนาอะไรในการสวดเช่นนั้น หากปรารภว่าคุณของบทสวดมีพิศดาร สามารถป้องกันภยันตราย ให้มีความเจริญแก่ธุรกิจแลสรรพวิเศษสิ่งทั้งปวง ก็พึงทราบว่า ในขณะสวดนั้นจิตเป็นไปกับโลภะและโมหะเป็นพื้น เมื่ิอกล่าวถึงโลภะและโมหะก็ย่อมหมายถึงอกุศลแต่ถ่ายเดียว ไม่อาจเป็นกุศลไปได้..

แต่หากปรารภว่า เราจะสวดเพื้อระลึกถึงคุณของพระพุทธพระธรรมหรือพระสงฆ์ หรือเพื่อสาระแห่งธรรม จิตย่อมเป็นไปกับศรัทธาและเพราะทราบความหมายของบทสวด ปัญญาก็ย่อมแล่นไปด้วย ดังนี้จิตจึงเป็นกุศลในขณะสวดนั้น..หรือหากคิดว่าต้องการให้จิตเป็นสมาธิ ก็พิจารณาว่า ขณะสวดแล้วทำกิจกรรมอื่นๆนั้นจิตจะเป็นสมาธิได้จริงหรือเปล่า เพราะกิจกรรมอื่นๆพร้อมกับการสวดมนตร์ย่อมไม่อาจรวมลงสู่สมาธิได้จริง เพราะจุดหมายต่างกัน ต้องอาศัยความปรุงแต่งของจิตที่ต่างกัน มีการสลับชวนะอย่างว่องไว หากทำได้ก็คงเป็นคุณสมบัติของพระอริยบุคคล หรือพระพุทธเจ้าเท่านั้น .... เช่นเมื่อต้องจูงสุนัขไปเดิน ใจย่อมส่งไปเพื่อดูบ้างฟังบ้าง ว่าสุนัขจะไปทางใด ต้องระวังมิให้ไปถ่ายในที่อันไม่ควร ต้องดูว่าจะไปไกลถึงไหน กลับเมื่อใด หรือสุนัขไปขุดคุ้ยตามกอหญ้า ฯลฯเป็นต้น แล้วจะสวดมนตร์ได้ต่อเนื่ิองหรือไม่ อย่างไร..ตรงนี้ท่าน bbbyพิจารณาความถูกผิดด้วยตัวเองย่อมได้คำตอบที่ถูกต้องครับ..

เรื่องการพนมมือสวดมนตร์ก็มิได้มีหลักระเบียบอะไร หากไม่สะดวกพนมมือก็ไม่ต้องพนม ที่พนมก็เป็นกุศลคือกายกรรมที่เป็นไปด้วยความเคารพนอบน้อม มีอานิสงค์เพิ่มเติมนอกเหนือไปจากการสวดมนตร์เท่านั้นเอง..

การทำสิ่งใดๆ ขอให้พิจารณาประโยชน์ว่ามีประการใด มีเหตุผลถูกต้องรองรับหรือไม่ อย่างไร..ไม่ทำเพราะไม่รู้หรือเชื่อดายตามเขาไป สอบทานกับกัลยาณชนให้ถ่องแท้ ... หากใครๆสวดมนตร์แล้วปลอดภัยได้ดีจริง คนส่วนมากคงไม่พบอุบัติเหตุ และร่ำรวยแ่้ล้ว เพราะทำได้ง่าย ไม่ต้องขวนขวายกุศลอื่นใดอีก ..นี่คือการขาดเหตุผลและงมงายนะครับ..


:b47: :b46: :b47:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2010, 14:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


หายไปไหนมาค่ะคุณdd
งานยุ่งหรือไม่สบายค่ะ :b1: :b38: :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2010, 15:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


แขนไม่รักดี :b2: ครับคุณ bbby เจ็บแขนเวลาจิ้มดีดน่ะครับเลยพักนาน :b7:
คุณbbby คงสบายดีนะครับ :b12: :b47: :b48: :b49:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2010, 19:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมว่าดีนะครับ เอาคำว่า นะโมพุทธายะ มองท่องในใจหรือท่องออกเสียงเป็นประจำ ก็เหมือนภาวนา
พุทโธ คือเอาพระมาสถิตย์ไว้ใน ให้ใจนึกแต่คำว่าพระ พุทโธ หรือพุทธะ ก้คงมีความหมายเฉกเช่น
เดียวกัน คือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน แต่จิตจะเบิกบาน ต้องหัดบริกรรมภาวนานึกถึงพระพุทธอย่ในใจตลอด
เวลาก้อย่างที่ผู้เล่าเล่ามานี่แหละ พอทำเป็นอัตโนมัติจิตใต้สำนึกก้นึกถึงโดยอัติโนมัติและท่องออกมา
ถูกต้องด้วย จริงๆคำภาวนาเหล่าเป็นหลักหรือให้จิตเกาะ เมื่อจิตมีที่เกาะมันก็จะสงบแล้วนิ่ง จากนิ่งก้
กลายเป็นความว่าง ความว่างของจิตมีผลมากในการพัฒนาจิต เพราะจุดหมายของสมถะคือทำให้จิต
ว่างเพื่อทำให้จิตมีคุณภาพหรือใช้ประโยชน์อย่างอื่นๆต่อไป :b39:

ดังนั้นที่จขกท. เล่ามาผมเหนด้วย เรียกว่าเป็นบริหารเวลาและควบคุมจิตด้วยการภาวนาให้คุ้นกับ
คำว่านะโมพุทธายะ ซึ่งเป็นประโยชน์การทำให้จิตเป็นสมาธิขึ้นและทำอะไรก้จะง่ายขึ้นด้วย ดังนั้น
หากภาวนาจนจิตสบายและเกิดสมาธิจริงๆแล้ว นั่นแหละครับถึงจะเหนความหมายของคำ นะ-โม-
พุท-ธา-ยะ :b40:

ถ้าสายของหลวงพ่อฤาษีฯ คำภาวนาคำนี้จะทำให้เกิดมโนยิทธิได้ง่าย ใช้ภาวนาเพื่อสร้างฤทธิทางใจ
โดยอาศัยอำนาจของปิติอย่างแรงกล้า+สมาธิช่วงสั้นๆเปนแรงส่ง แล้วอธิษฐานจิตหรืออยากเห็นโดยน้อมจิตไปยังสิ่งที่อยากรู้อยากเห็น ดังนั้นคำภาวนี้จึงเป็นที่นิยมใช้กันในสายของการเน้นอภิญญาสมาธิ :b48:

อีกคำที่ผมลืมพูดถึง คำว่า พุทธะมะอะอุ มาจากคำว่าพุทธะหรือพุทโธ + คำว่า มะอะอุหรืออุอะมะ
พุทธะคือรู้แจ้งและมีความไม่ประมาทอยู่ตลอดเวลากาล ส่วนคำว่า."มะอะอุ"นี้ ถ้าเคยสวดยอดพระกัณ
ณ์ ของหลวงปู่แสง จะพบคำนี้บ่อยมาก คำๆนี้เป็นหัวใจพระรัตนตรัย หมายถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นี่เอง :b41:


แก้ไขล่าสุดโดย อินทรีย์5 เมื่อ 11 ส.ค. 2010, 20:00, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2010, 20:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกๆท่านมากน่ะค่ะ ที่ให้ความรู้กับเรา คนละนิดคนละหน่อย
คือที่เราสงสัย คือคำว่า พุทธะ
นี่เป็นคำใหญ่น่ะ เราก็เลยคิดว่าเราทำถูกหรือปล่าว

แล้วทีนี้เราทำอะไรเราก็สวด คือเหมือนติดคำนี้ไปเลย คือขับรถก็สวด
นั่งรออาหารก็สวดแต่สวดในใจ ถ้าอยู่ในบ้านจะสวดออกเสียง

เวลาสวด เราจะรู้สึกเหมือนจิตเรานิ่งค่ะ ยิ่งถ้าสวดโดยไม่ออกเสียงน่ะค่ะ(สวดในใจ)
เหมือนเรานั่งสมาธิ แต่รับรู้น่ะ แต่จิตนิ่งแบบ
เราก็บอกไม่ถูกค่ะ คุณอินทรีย์5

ตอนแรกเราก็สงสัยน่ะ ว่าทำไมเรานอนสวดคำนี้ทั้งคืน
ก็คงจะใช่แบบที่คุณddพูดน่ะค่ะ

เรื่องภพชาติเรื่องอดีตชาติของคนเรานี่ เหมือนเราเดินตามเส้นวงกลมน่ะค่ะ
พอเราเดินๆไป เราก็ต้องกลับไปสู่เหตุการณ์อย่างเก่าต่อ
พวกคุณคิดแบบที่เราคิดหรือปล่าวค่ะ :b8: :b41: :b55: :b48:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร