ส่วนมากกระผมจะศึกษาธรรมะจากการอ่านหนังสือเป็นส่วนใหญ่เพราะไม่มีเวลา อ่านแล้วสงสัยตรงไหนก็จะจดบันทึกไว้จะได้ถามท่านผู้รู้เมื่อมีโอกาส คำถามของกระผมมีหลายเรื่องที่สงสัยอาจปนเปกันขออย่าได้รำคาญเลยอยากรู้จึงถามครับ จึงขอถามท่านผู้รู้ตามที่สงสัยและได้จดบันทึกไว้ ดังนี้ครับ
(1) คำว่า “ตายแล้วเกิดทันทีจะไม่มีเรื่องเวลาหลังความตายเกิดขึ้น” ช่วยอธิบายด้วยครับ
(2) (2) การสร้างกรรมดี(บารมี)หรือกรรมชั่วจะทำด้ในเฉพาะตอนเป็นมนุษย์เท่านั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นอย่างสุนัขตำรวจ หรือสุนัขที่ช่วยคนตกน้ำนั้นไม่เรียกว่าทำดีหรือครับ
(3) ร่างกายที่จะให้จิตวิญญาณอยู่ได้จิตวิญญาณก็จะไปแต่ผู้เดียว ไม่มีรูปร่าง ไม่มีจุดหมายเวียนไปเรื่อยๆ จนหมดอำนาจการเดินทางของจิตวิญญาณ แล้วกลับมาเกิดใหม่อยู่มนรูปของนามหรือร่างกายใหม่แต่จะอยู่ในภพใดภูมิใดแล้วแต่วิบากกรรม.................จากคำกล่าวข้างบนกระผมสงสัยข้อความที่ว่า “ถ้าตายแล้วไม่มีรูปนามหรือร่างกายที่จะให้จิตวิญญาณอยู่ได้จิตวิญญาณก็จะไปแต่ผู้เดียว ไม่มีรูปร่าง ไม่มีจุดหมายเวียนไปเรื่อยๆ จนหมดอำนาจการเดินทางของจิตวิญญาณ “ เหตุที่สงสัยเพราะตามที่ได้อ่านมาเขาบอกว่าวิญญาณจะอยู่ตาม
(4) ลำพังไม่ได้ วิญญาณต้องอาศัยที่อยู่ในรูปใดรูปหนึ่งมิใช่หรือ หรือว่ากระผมอ่านมาผิดเองครับ
(5) เท่าที่อ่านมาทราบว่าสวรรค์มี 6 ชั้น แต่ไปอ่านอีกเล่มหนึ่งบอกว่ามี 16 ชั้น เรื่องสวรรค์นี้ขอคำตอบที่ถูกต้องด้วยครับ ถามเป็นความรู้ครับเพราะอ่านมาอย่างนั้น

คำถามของกระผมอาจสะเปะสะปะ ต้องยอมรับว่ากระผมศึกษาธรรมะอย่างสะเปะสะปะเห็นหนังสือธรรมะเป็นต้องอ่าน เมื่อสงสัยก็นำมาถามนี่แหละครับ อย่ารำคาญเลยกำลังศึกษาครับ ขอขอบคุณครับ

(1) คำว่า “ตายแล้วเกิดทันทีจะไม่มีเรื่องเวลาหลังความตายเกิดขึ้น” ช่วยอธิบายด้วยครับ
ครับจิตคิดถึงสิ่งไหนตอนตายจิตก็แล่นไปเกิดในที่อย่างนั้น..ท่านถึงให้นึกถึงแต่สิ่งดีๆจะสังเกตุได้จากหลายๆเรื่องจริงที่เอามาทำเป็นหนังตอนเกี่ยวกับกรรม..ว่าคนที่ก่อกรรมมากมายตอนจะตายก็มีอาการแปลกประหลาดดังสัตว์ที่ตนเคยฆ่าเอาไว้.

(2) การสร้างกรรมดี(บารมี)หรือกรรมชั่วจะทำด้ในเฉพาะตอนเป็นมนุษย์เท่านั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นอย่างสุนัขตำรวจ หรือสุนัขที่ช่วยคนตกน้ำนั้นไม่เรียกว่าทำดีหรือครับ
เป็นเดรัจฉานก็ทำกีได้บุญครับ..ดังพระพุทธเจ้าเคยเทศนาเอาไว้ในชาติที่เป็นกระต่ายยอมโดดเข้ากองไฟเพื่อเอาร่างกายถวยเป็นเนื้อให้ผู้รักษาศีลได้กิน..เกิดมาในอีกชาติก็เป็นเทพบุตร.

(3) ร่างกายที่จะให้จิตวิญญาณอยู่ได้จิตวิญญาณก็จะไปแต่ผู้เดียว ไม่มีรูปร่าง ไม่มีจุดหมายเวียนไปเรื่อยๆ จนหมดอำนาจการเดินทางของจิตวิญญาณ แล้วกลับมาเกิดใหม่อยู่มนรูปของนามหรือร่างกายใหม่แต่จะอยู่ในภพใดภูมิใดแล้วแต่วิบากกรรม.................จากคำกล่าวข้างบนกระผมสงสัยข้อความที่ว่า “ถ้าตายแล้วไม่มีรูปนามหรือร่างกายที่จะให้จิตวิญญาณอยู่ได้จิตวิญญาณก็จะไปแต่ผู้เดียว ไม่มีรูปร่าง ไม่มีจุดหมายเวียนไปเรื่อยๆ จนหมดอำนาจการเดินทางของจิตวิญญาณ “ เหตุที่สงสัยเพราะตามที่ได้อ่านมาเขาบอกว่าวิญญาณจะอยู่ตาม
(4) ลำพังไม่ได้ วิญญาณต้องอาศัยที่อยู่ในรูปใดรูปหนึ่งมิใช่หรือ หรือว่ากระผมอ่านมาผิดเองครับ
เหมือนกับคำถามข้อ 3/4 นี้รวมกันมามากกว่านะครับ ขอตอบที่สงสัยว่าจิตเมื่อออกจากร่างแล้วก็แล่นไปตามกรรมที่เคยทำไว้ "คำที่ว่า-แล้วกลับมาเกิดใหม่อยู่มนรูปของนามหรือร่างกายใหม่แต่จะอยู่ในภพใดภูมิใดแล้วแต่วิบากกรรม" ก็หมายความว่าหมดกรรมก็กลับมาเกิดในภพภูมิที่เหมาะกับกรรมที่เคยทำไว้จร้า.

(5) เท่าที่อ่านมาทราบว่าสวรรค์มี 6 ชั้น แต่ไปอ่านอีกเล่มหนึ่งบอกว่ามี 16 ชั้น เรื่องสวรรค์นี้ขอคำตอบที่ถูกต้องด้วยครับ ถามเป็นความรู้ครับเพราะอ่านมาอย่างนั้น
16ชั้นน่าจะมาจากเวลาเราไปไหว้เทวดาฟ้าดินจะมีคำอธิษฐานที่ว่าบูชา 16ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินมากกว่า...อันนี้น่าจะแล้วแต่ความเชื่อนะครับ.อย่างศาสนาพุทธ คริส อิสลาม เต๋า ฮินดูก็ล้วนกล่าวถึงเรื่องสวรรค์แต่ก็ไม่เท่ากันเลยซักที่..เอาตามพระพุทธเจ้าแหละครับดีที่สุด..^^

ขอให้ความเห็นตามกำลังปัญญานะคะ



ตายแล้วเกิดทันทีแต่เป็นที่ร่างไหนภพไหนนั้นสุดแต่กรรมที่ทำมา แต่มีอีกอย่างที่ไม่มีร่างก็พวกวิญญาณเร่ร่อนค่ะ จุฬาภินันท์เข้าใจว่าเวลาหลังความตายก็ีคงใช้กับพวกวิญญาณเร่ร่อน พวกเร่ร่อนเป็นภพนึงที่กรรมกำหนดไว้ค่ะต้องรอส่วนบุญส่วนกุศลจากคน พวกเร่ร่อนนั้นยังไงก็ไม่มีร่างและปรากฏให้เห็นไม่ได้



มนุษย์เป็นภพที่สามารถทำบุญและบาปได้มากที่สุดค่ะ สัตว์ก็ทำได้แต่ก็น้อยมากเมื่อเทียบกับคน สัตว์เมื่อตายแล้วก็จะได้มาเกิดเป็นคนทันทีค่ะ




ยังไงวิญญาณก็ต้องไปเกิดค่ะแม้จะเป็นแบบเร่ร่อนก็เรียกว่าเกิด เกิดอยู่ในภพไหนก็เป็นไปตามกรรมตามที่ว่าค่ะ จิตวิญญาณไม่มีอำนาจการเดิกทางค่ะกรรมต่างหากเป็นผู้กำหนดให้




อย่างที่บอกค่ะวิญญาณต้องอยู่ในภพใดภพนึง พวกไม่มีรูปก็เรียกว่าเป็นภพของพวกเร่ร่อน พวกเร่ร่อนนี้มักจะเป็นพวกที่ยึดติดกับอดีตที่เป็นมาค่ะ จะได้ไปเกิดก็ต่อเมื่อได้บุญได้กุศลมากพอที่กรรมจะช่วย



ข้อนี้ไม่รู้ค่ะ

ก็ตามนั้นไง จุติจิตเกิด ก็ตามด้วยปฏิสนธิจิตทันที


มนุษย์มีโอกาสทำดี ทำชั่วได้เต็มที่ สัตว์ทำดีได้บ้าง แล้วแต่ชนิด... เช่น ปลาโลมาช่วยคนจมน้ำกลางทะเล แต่โดยทั่วไปจะถือว่า สัตว์ทำดีไม่ค่อยได้
สุนัขตำรวจ ก็น่าจะถือว่าทำดี แต่ไม่มากหรอก เพราะไม่มีเจตนา มันอาจจะหายาเสพติดได้ แต่มันไม่รู้หรอกว่า มันกำลังทำอะไร มันรู้แค่ว่า ถ้ามันหาเจอ แล้วมันจะได้ของกิน


จิตและวิญญาณ เป็นคนละตัวกัน วิญญาณก็คือรูปปรมัตถ์หลายๆ รูป ซึ่งจะสลายไปพร้อมกับร่างกายที่ตายลง
เมื่อจิตไปปฏิสนธิในภูมิใหม่ รูปในภพนั้นก็จะสร้างวิญญาณขึ้นมาอีก เพื่อควบคุมร่างสังขาร (ในกรณีมนุษย์และสัตว์) เข้าใจในตอนนี้ว่า โดยอาศัยพลังงานจากจิต
หากพลังงานจากจิตมีไม่พอ ตัวอ่อนอาจแท้ง หรือหากบกพร่องบางอย่าง (วิบาก) ก็อาจขึ้นรูปได้ไม่สมบูรณ์ (พิการ)


การแบ่งก็แล้วแต่ว่าจะแบ่งกันแบบใด แต่ทางพุทธ แบ่งออกเป็น 6 ชั้น ตามอำนาจจิต

(1) คำว่า “ตายแล้วเกิดทันทีจะไม่มีเรื่องเวลาหลังความตายเกิดขึ้น” ช่วยอธิบายด้วยครับ

ในแต่ละวัน จะมีดวงจิตผุดขึ้นมารับอารมณ์ทางทวารหกสืบเนื่องต่อกันไป (วิถีจิต)
เป็น ภวังคจิต-วิถีจิต-ภวังคจิต-วิถีจิต..
เมื่อใดไม่มีจิตรับอารมณ์ ภวังคจิตก็จะเกิดขึ้นเพื่อรักษาสภาพ
ภวังคจิตจะทำหน้าที่เก็บอารมณ์ก่อนตายไว้
และอารมณ์ก่อนตายนี่เองที่จะเป็นตัวส่งให้ภวังคจิตเปลี่ยนเป็นจุติจิต เพื่อเคลื่อนย้ายภพชาติ

เมื่อรูปใกล้จะแตกสลาย ส่วนของนามซึ่งเป็นข้อมูลของกรรมจะถูกนำมาเก็บไว้ที่ภวังคจิต
และภวังคจิตจะถ่ายทอดส่วนของนามทั้งหมดไปสู่จุติจิต ซึ่งเป็นจิตดวงสุดท้าย
และจุติจิตจะสลายตัวส่งพลังงานแห่งกรรมไปสร้างจิตดวงใหม่ที่เรียกว่า ปฏิสนธิจิต
เข้ารวมกับรูปใหม่ ภพใหม่

กระบวนการเปลี่ยนจากภวังคจิต เป็นจุติจิต เป็นปฏิสนธิจิตไวมาก ไวกว่าหนึ่งส่วนล้านล้านของวินาที
จนเรียกได้ว่า คนเราเมื่อตายแล้วจะเกิดใหม่ทันทีไม่มีช่วงเวลาใดใดมาคั่น

(ในบางครั้งคนเราก็เสียชีวิตในช่วงของวิถีจิต เช่น ขณะดูโทรทัศน์อยู่แล้วหัวใจวายตายกระทันหัน
ขณะนั้นไม่ได้อยู่ในช่วงของภวังคจิต วิถีจิตจะเปลี่ยนเป็นจุติจิตทันทีได้เหมือนกัน)

คนใกล้ตาย เพราะฆ่าสัตว์ มามาก ตัวอย่างเช่นหมู ก่อนตายก็ร้อง เป็นเสียงหมู นี่ อายตนะมันไปแล้ว ส่วนนึงนะ (ยังไม่ตาย)
อีกอันคนใกล้ตาย ก่อนตาย หิวน้ำ กินไป ตั้งมากมายก็ไม่หายอยาก ลิ้นมันไม่รับอายตนะทางนี้แต่ไปรับอายตนะในภพที่มันกระหายน้ำ ซึ่งก็ไม่รูว่าภพภูมิไหน แต่เป็นภพภูมิที่ไม่ดีแน่นอน

กาย มี ใจ มี ธรรม มี ธาตุ มี ขันธ์ มี