....รบกวน..... ทุกท่าน..... คุยกันแบบสบายๆ...... ร่วมแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ ว่าแท้จริงแล้ว....

ธรรมะคืออะไร?

.... ไม่ว่าคุณๆ พี่ๆ น้องๆ ท่านๆ พระคุณเจ้าทั้งหลาย...

ต่างก็เป็นผู้ศึกษาในคำสั่งสอนของพระพุทธองค์........ ณ กาลเวลา บัดนี้.... ท่าน

ตอบคำถามนี้ได้แล้วหรือยัง......เพื่อ....

..... เป็นการสร้างความเข้าใจร่วมกัน
..... ทบทวนคุณธรรมในใจของตนเอง
..... ตรวจสอบเส้นทางเดินของตัวเอง ทางสายเอก.....
......เป็นธรรมทาน
......ความรู้ที่รู้แล้ว จะได้รู้ยิ่งๆ ขึ้น...


เจริญในธรรม ทุกๆ ท่านครับ

สัญญาสักว่าสัญญา ผิด ถูก ชอบ ชั่ง ฉันทะ ปฏิฆะ โมหะ เป็นได้หมด
อาศัยสัญญาเป็นสมุฐานจึงเกิดความดำริ(ความคิด) โดยมีทิฏฐิเป็นตัวนำทาง ท่านสอนให้เราทำความรู้ให้ถูกต้อง ก่อนจะเชื่อในสิ่งที่รับรู้
การพัฒนาสัญญา คือ ความจำ คือ ความรู้ ให้เกิดเป็นปัญญา คือ การพิจารณาเหตุ ผล ต้น ปลาย ประโยชน์ มิใช่ประโยชน์ ด้วยใจปกติและจิตตั้งมั่น(สมาธิ)

ธรรมะคือธรรมชาติ มีทั้งหยาบ ละเอียด มีทั้งสิ่งเจือปน และไร้สิ่งเจือปน
และอีกเยอะแย่ะมากมายถ้าจะอธิบายไม่มีรู้จักจบ
แต่จุดมุงหมายสูงสุดพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลายได้ก้าวพ้นแล้ว
และพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ไพศาล
ได้นำเอาธรรมะที่พระองค์ค้นพบมาประกาศไว้ จวบจนถึงปัจจุบันนี้
จึงทำให้เราๆท่านๆทั้งหลาย ผู้ใฝ่ศึกษา รู้ว่าธรรมะที่ถูกต้องที่สุดเป็นเช่นไร
ณ ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับสติปัญญาของละแต่คนละ ว่าจะดำเนินการเช่นไรดี
ถ้าไร้ซึ่งธรรมะที่พระองค์ทรงประกาศเอาไว้ก่อนแล้ว
ยากมากรึอาจจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่ปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป
จะคิดค้นขึ้นเอง ว่า สติ ปัญญา ขันติ มานะ ความไม่ประมาท ฯลฯ
เป็นรูปร่างเช่นไร มีลักษณะแบบไหน
ถึงเราจะไม่ใช่ผู้ที่โชคดีที่สุด แต่ถือได้ว่าโชคดีไม่น้อย
ที่ได้มาศึกษาเล่าเรียนธรรมะที่พระองค์ทรงประกาศเอาไว้
สุดท้ายก็อยู่ที่ตัวเราเอง จะนำไปประพฤติปฎิบัติให้เหมาะสมกับตนเองได้มากน้อยแค่ไหน

ขอบคุณ ภยังค์ ที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นครับ
..... ธรรมะ คือ......สัญญา.....
------ สัญญา+ทิฎฐิ = ความดำริ (ความคิด).....
........ สัญญา สามารถพัฒนาไปเป็นปัญญา.......

เจริญในธรรมครับ

ขอบคุณ ท่านสุทธจิตติ์ ที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

...........ธรรมะคือธรรมชาติ มีทั้งทั้งหยาบ ละเอียด มีทั้งสิ่งเจือปน และไร้สิ่งเจือปน
และอีกเยอะแย่ะมากมาย........

...........ธรรมมะของพุทธองค์ คือ สติ ปัญญา ขันติ มานะ ความไม่ประมาท ฯลฯ......

เจริญในธรรม ครับ

ธรรมะคือ ความจริง
พระไตรลักษณ์ คือ ความจริงอันประเสริฐ
ธรรมะ มีทั้ง กุศลธรรม และ อกุศลธรรม
ทุกสิ่งในจักรวาลอยู่ภายใต้กฎของธรรมที่มีสภาพเป็นเหมือนห่วงและโซ่คล้องกัน
นิพพาน เป็น ธรรมที่เป็นอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับอะไร ไม่มีสิ่งเจือปน

ขอบคุณท่าน student ที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นครับ
ว่าธรรมะคืออะไร

ธรรมะคือ ความจริง....... มีทั้ง... กุศลธรรม.... อกุศลธรรม.....

ทุกสิ่งในจักรวาลอยู่ภายใต้กฎของธรรมที่มีสภาพเป็นเหมือนห่วงและโซ่คล้องกัน
นิพพาน เป็น ธรรมที่เป็นอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับอะไร ไม่มีสิ่งเจือปน
พระไตรลักษณ์ คือ ความจริงอันประเสริฐ

เจริญในธรรมครับ

ธรรม คือ ธรรมชาติ อะไรคือธรรมชาติ อันนั้นก็คือธรรม
เข้าใจง่ายดี

คือ ตน

ธรรม คือ ธรรมดา คร้าบบ

มีลาภ ก็ เสื่อมลาภ
มียศ ก็ เสื่อมยศ
มีสุข ก็ มีทุกข์
มีสรรเสริญ ก็มี นินทา
เป็นเรื่องธรรมดา

สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นก็ดับไป
สรรพสิ่งล้วนเกิดดับ
เป็นเรื่อง ธรรมดา

ถามมาก็ตอบไป เป็นเรื่องธรรมดานะ ขอรับ..
สาธุ

ธรรมะ

...การปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ

: ...ธรรมชาติ.....ก็คือ......ธรรม
...ตัวกฏธรรมชาติ......ก็คือ...ธรรม
....การปฏิบัติตามกฏธรรมชาติ....ก็คือ...ธรรม
. ...ผลที่ได้รับจากการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฏของธรรมชาติ..ก็คือ...ธรรม

ขอเจริญในธรรม

ธรรมะคือหลักการจัดการกับธรรมชาติของตัวตนที่พระพุทธองค์ทรงเผยแพร่ กว้างมากและเยอะในรายละเอียด เข้าถึงได้ด้วยวิธีเดียวคือถือศีลทำสมาธิค่ะ

ธรรมมะ คือความจริง
ธรรมมะที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้ดีแล้วนั้น (สวากขาโต ภควตาธัมโม)
คือสิ่งที่ใครก็ตามหากทำความเห็น(ทิฐิ) ให้ถูกต้อง
(สัมมาทิฐิ)สมบูรณ์ดีแล้ว จักรู้ได้ด้วยตนเอง (สันทิฐิโก)