วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 16:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2010, 17:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2010, 10:36
โพสต์: 32

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้คนหลุดพ้นจากความทุกหรือไม่
ชาวพุทธควรยึดถือสิ่งเหล่านี้หรือไม่
ข้าน้อยด้อยปัญญา ขอความคิดเห็นจากท่านสมาชิดด้วยครับ ขอบคุณครับ :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2010, 17:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อมีธรรมะที่"แข็งแรง"แล้ว ย่อมไม่ขวนขวายหาสิ่ง"นอกตัว"ใดๆมาเกาะยึดอีก เพราะ้เข้าใจดีในเรื่องของ"เหตุและผล" มีกัมมสกตาปัญญามั่นคง ไม่ไขว้เขวว่ามีอะไรเกิดได้เองแม้ด้วยฤทธิ์แลปาฏิหาริย์ ...

ส่วนผู้ไม่แข็งแรงเพราะไม่เคยสดับคำสอนของพระพุทธเจ้ามาก็ย่อมยังหาที่พึ่งภายนอกเพราะอำนาจความกลัวภัยที่ตนไม่รู้ และตัณหาโลภะอยากได้อยากมีอยากเป็นนั้นเป็นธรรมดา โดยไม่ทราบเลยว่า ใครๆจะบันดาลเสกเป่่าอะไรๆให้ใครได้ย่อมไม่มี แท้จริงตนนั่นแหละทำเหตุต่างๆมาเพื่อผลต่างๆกันแก่ตนทั้งสิ้น ... ข้อนี้พึงพิจารณาว่า หากใครเสกเป่าอะไรให้ใครได้แล้ว พระพุทธเจ้าผู้มีอิทธิฤทธิ์กว่าใครๆก็คงทรงเสกเป่าให้สรรพสัตว์พ้นทุกข์จนหมดสิ้นไม่เหลือให้มานั่งส่งข้อความกันในเว็บจนบัดนี้เลย... :b1: :b46: :b47: :b48:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2010, 18:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4147

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


กล่าวกันว่าเครื่องรางของขลังนั้น
มีทั้งวัตถุอาถรรพ์ทั้งที่เป็นของธรรมชาติ ทั้งที่เป็นของประดิษฐ์ขึ้น

แต่แรกเริ่มเดิมทีนั้น

เครื่องรางของขลังมีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อสร้างเสริมพลังบำรุงขวัญนักรบ
ให้ห้าวหาญ จนมีชัยชนะในการสงคราม
สำเร็จขึ้นจากการอธิษฐานฤทธิ์ของพระเกจิอาจารย์
ที่ทรงอภิญญาสมาธิแก่กล้าแต่ครั้งโบราณ
โดยการนำพลังพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ บรรจุลงในวัตถุนั้น
แล้วอธิษฐานจิตให้สิ่งนั้นมีคุณานุภาพทางคงกระพันชาตรีด้วยวิถีแห่งฌานสมาบัติ


แต่ปัจจุบันได้มีวิวัฒนาการตามความเปลี่ยนแปลงของกระแสโลก
วัตถุเครื่องรางของขลังเดิมที่เป็นวัสดุธรรมชาติ
ที่อยู่ในรูปพืชพันธุ์แปลกตา ของหายากจากสัตว์ป่า
ก็เปลี่ยนมาเป็นสิ่งประดิษฐ์ อาทิ เสื้อยันต์ ผ้าประเจียด ตระกรุด รูปประติมากรรม ฯลฯ
แล้วแต่พระเกจิอาจารย์ท่านจะสร้างขึ้นตามอุปเท่ห์วิธีของแต่ละท่าน
วัตถุประสงค์เริ่มปรับเปลี่ยนไปมากกว่า

“ แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี “ ไปสู่ "เมตตามหานิยม"

ผู้ที่พกพาอารธนาขึ้นบูชาต้องมีศรัทธาเป็นที่ตั้ง
และที่สำคัญกว่านั้นต้องเป็นผู้ประพฤติถูกทำนองคลองธรรม
ละเสียซึ่งการเบียดเบียน รักษาศีล
เพื่อศีลธรรมจะได้เป็นเครื่องรักษาตน จึงจะพ้นภัย

อย่างไรก็ตาม..สิ่งเหล่านี้มิใช่สิ่งยึ่ดเหนี่ยวและนำพาไปสู่การหลุดพ้นแต่อย่างใด

สิ่งที่พุทธศาสนิกชนควรยึดเหนี่ยวมีเพียงพระรัตนตรัย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งธรรมจากพระบริสุทธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ
ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่ทรงให้ไว้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
เพื่อเป็นแนวทางนำไปสู่การหลุดพ้น

ที่สำคัญ...ต้องประกอบไปด้วยการลงมือปฏิบัติของตนตามแนวทางนั้น
ที่จะนำไปสู่การหลุดพ้นอย่างแท้จริงค่ะ
:b8:


แก้ไขล่าสุดโดย กุหลาบสีชา เมื่อ 27 มี.ค. 2010, 18:29, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2010, 21:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ

มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งก็เพียงพอแล้วค่ะ ถ้าให้ดีก็ถือศีลทำสมาธิด้วย ที่พึ่งอันศักดิ์สิทธิ์แผ่พุทธา/ธัมมา/สังฆา/นุภาพกว้างไพศาลค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2010, 22:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


เจตนาของคนรุ่นก่อนในการสร้างพระเครื่อง ไม่เหมือนกับในสมัยนี้

สมัยก่อน เจตนาท่านบริสุทธิ์


ลองพิจารณาดู

ที่ถือกันว่า...เป็น สุดยอดของพระเครื่อง

คือ สมเด็จวัดระฆัง ...ใช่ไหม?



ประวัติผู้สร้างคือ สมเด็จพระพุทธาจารย์(โต พรหมรังสี) ท่านเป็นเช่นใด?


ลองไปหาอ่านดูประวัติท่านก่อน...

โดยเฉพาะตอนที่ท่านกราบไหว้พระกองปูนที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ....ท่านกราบแม้นกระทั่งกองปูน เพราะท่านถือว่า ผู้ที่กำลังสร้างพระนั้น เขาเจตนาจะสร้างพระพุทธรูปให้คนกราบไหว้ เป็น พุทธานุสติ

ลองหาอ่าน ตอนที่ท่านถวายวิสัชชนาเหตุผลที่ท่านปฏิเสธ ร.4 ไม่ขอเข้าร่วมสังคายนาพระไตรปิฎก ...อยากให้คนในปัจจุบันที่วันๆเอาแต่จะมุ่งแก้ไขพระไตรปิฎกอ่านบ้าง :b32:


นั้น...ยอดคนของแผ่นดิน...




เกี่ยวกับพระเครื่องของท่าน ท่านยังกล่าวเอาไว้เอง ว่า ....

อยากได้ ก็ไม่ได้...
แม้นมีบุญไซร้ ก็จะมา...
ดิ้นรนค้นเสาะหา ก็ เปล่าไปพานพบ....
ถ้าทำดีครบแล้วไซร้ ก็จะมาอย่างสงสัย




สุดยอดของพระเครื่อง กลับเป็นพระเครื่อง ที่ท่านสร้างของท่านคนเดียว เงียบๆ....ไม่มีการเชิญใครมาปลุกเสก ลงข่าวกันอึกทึกครึกโครม เหมือนปัจจุบัน...

วัสดุ ก็ หาเอาแถวๆวัดของท่านนั้นละ
ข้าวสุกก้นบาต ก้านธูป เศษจีวร เศษตะไคร้ใยเสมาตามระเบียงวัด มาผสมกับ ปูนเปลือกหอย น้ำมันตังอิ๊ว ผงวิเศษห้าประการที่ท่านอธิษฐานเดี่ยว...

เป็น พระเครื่องชนิดปลุกเสกเดี่ยว ไม่มีพิธีรีตรองอะไรเลย...

ไม่ได้คิดตีค่าเป็นราคาค่างวดอะไรเลย แจกไปเรื่อยๆ


เจตนาของท่าน คือ เป็นพุทธานุสติ .... เป็นเครื่องระลึกถึงพระพุทธเจ้า...

แต่ ด้วยอำนาจของเมตตาฌาน ของท่าน พระสมเด็จๆ จึงมีเรื่องราวที่ถือว่า"แปลก" ปรากฏให้เห็นบ่อยๆ




อย่างไรก็ตาม.... พระเครื่อง ย่อมไม่อาจทดแทน พระธรรม ได้

ต่อให้ แขวนสมเด็จๆของแท้ ... แต่ ถ้าผิดศีลผิดธรรม ก็ตายโหงทั้งๆที่พระคล้องคออยู่

หรือ แม้นให้ปีนไปนั่งบนตักพระประธานในวัดดังๆก็ตาม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2010, 23:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4147

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


ตรงประเด็น เขียน:
ลองหาอ่าน ตอนที่ท่านถวายวิสัชชนาเหตุผลที่ท่านปฏิเสธ ร.4 ไม่ขอเข้าร่วมสังคายนาพระไตรปิฎก ...อยากให้คนในปัจจุบันที่วันๆเอาแต่จะมุ่งแก้ไขพระไตรปิฎกอ่านบ้าง

นั้น...ยอดคนของแผ่นดิน...


:b8: :b8: :b8:

สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี
ถวายวิสัชนา รัชกาลที่ ๔ เกี่ยวกับการสังคายนาพระไตรปิฎก


วันเดือนปีไม่ปรากฏ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีพระราชดำริจัดสังคายนาพระไตรปิฎก รัชกาลที่ ๔
โปรดให้ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ (โต) เข้าร่วมสัมมนาด้วย
แต่ท่านไม่ยอมไปเป็นดังนี้ถึง ๓ ครั้ง

รัชกาลที่ ๔ ทรงเรียกท่านเจ้าประคุณสมเด็จไปในวัง ตรัสถามว่า

"เพราะเหตุใดขรัวโตจึงไม่ยอมเข้าร่วมสัมมนาในการปรับปรุงพระไตรปิฎก"

ท่านจึงกราบทูลว่า

"ขอถวายพระพรมหาบพิตร

ขรัวโตนี้เกิดในยุครัตนโกสินทร์
ขรัวโตนี้ยังไม่ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์

ถ้าในพระไตรปิฎกนั้น
บางคำพูดเป็นขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าที่แท้จริง
สันดานขรัวโตเกิดว่าไอ้นี่มันไม่ไพเราะ ไม่เพราะพริ้ง ตัดมันออกไป
เติมคำหวาน ๆ สละสลวยลงไป ฟังแล้วน้ำลายไหล

อาตมภาพหรือจะหนีพ้นการลงนรก
การที่อาตมภาพไม่มาก็เพราะกลัวตกนรกพระเจ้าค่ะ"


รัชกาลที่ ๔ ตรัสว่า จริงของขรัวโต
จึงเลิกสัมมนาแต่นั้นมา และไม่เอาเรื่องกับท่าน


:b8: :b8: :b8:

นามธรรมเป็นปัจจัยให้มีขันธ์ ขันธ์เป็นปัจจัยให้ถึงธรรม ธรรมเป็นปัจจัยให้ถึงนิพพาน
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี


(คัดลอกบางตอนมาจาก : "อมตเถระ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี")


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 00:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4147

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


พ ร ะ เ ค รื่ อ ง : หลวงปู่หล้า เขมปัตโต :b8:
viewtopic.php?f=7&t=30425


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 02:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 23:02
โพสต์: 157

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เท่าที่อ่านมา ผมเพิ่งเห็นด้วยกับ chulapinan ที่ตอบกระทู้นี้

. . ขออนุโมทนาด้วย

.....................................................
มาตามหา เพื่อนร่วมทาง

ประโยชน์สูง-ประหยัดสุด > > ต้องทำให้ได้ คือแก้ไขตนเอง > > ฝึกหยุด-ไม่หยุดฝึก >
ไม่มีเวลาสำหรับความชั่วบาปอีกแล้ว. ." ทุกวินาทีเป็นวินาทีแห่งบุญ "
เราจะฝึกฝนตนเพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 22:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


อานุภาพ พระปิดทวาร


ปากเป็นปู หูตระกร้า ตาตะแกรง

ปากไม่แยง หูไม่อ้า ตาไม่เห็น

เป็นธรรมะ ทำให้ หัวใจเย็น

คนควรเป็น เช่นนี้บ้าง ในบางคราว

(กลอนเก่า ไม่ทราบผู้แต่ง)





ปิดทวาร ไม่ได้หมายถึง ให้ปิดหู ตา ปาก แบบสนิท...อย่างนั้นมันเป็นไปไม่ได้

แต่ ปิดทวาร หมายถึง มีสติ ในการฟัง ดู พูด



พระปิดทวาร มีพุทธานุภาพทางมหาอุตม์แน่นอน...เพราะ คงไม่มีใครอยากมาทำร้าย คนที่ ฟังเป็น ดูเป็น พูดเป็น...มีแต่ คนรัก ...โอม มะรุมมะตุ้มมารุมรัก :b32:

พระปิดทวาร มีพุทธานุภาพทางมหาลาภแน่นอน.... เพราะ ส่วนใหญ่ที่อับจนกัน ก็เพราะ ไม่รู้จักฟัง ไม่รู้จักดู ไม่รู้จักพูด



เห็นกระทู้เกี่ยวกับ พระเครื่อง.... เลยนำ ความหมายของพระเครื่องในเจตนาดั้งเดิมของคนโบราณมาลงประกอบ



(ขออนุญาต นำรูปพระออกน่ะครับ คุยเฉพาะเนื้อหากระทู้ดีกว่า)


แก้ไขล่าสุดโดย ตรงประเด็น เมื่อ 29 มี.ค. 2010, 22:38, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 22:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


เขาเรียกสำรวมอายตนะ! ประวัติว่าพระควัมปติ องค์นี้เป็นศิลปะหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูง :b6: :b32:


องค์นี้ที่คุณตรงประเด็นเอามาลงศิลปะเป็นอุต มหาลาภ(หลวงปู่โต๊ะเป็นมหาลาภ) ไม่ใช่อุด หยุดปืน!
ศิลปะอุด หยุดปืนจะผอม(หลวงพ่อครน บางแซะมาเลย์เซีย) หรือปาฏิหารย์ หลายมืออุดอายตนะทั้ง6ทวารทั้ง6(สายเขาอ้อมีทั้ง2ศิลป์)
แต่ปิดตาตระกูลวัดสะพานสูง ท่านจะลงคงกระพันไว้ด้วยจนมาถึงยุคหลวงพ่อทองสุข
:b13:

ตามตำนานว่ากันว่า พระพุทธองค์ให้พระสังกัจจายนะเดินธุดงค์ไปแทนพระสิวลีเพราะมีบารมีลาภมากคล้ายกันพระสังกัจจายน์จึงนั่งปิดตาเข้าสมาธิไปดูบุพกรรมในอดีต

อีกตำนาน ว่า เป็นพระควัมปติผู้มีฤทธิ์ห้ามน้ำได้


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 29 มี.ค. 2010, 22:52, แก้ไขแล้ว 8 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 22:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




.jpg
.jpg [ 44.78 KiB | เปิดดู 5663 ครั้ง ]
วิธีปลุกเสก :b13:



ในพระปิดตาบางองค์ บางสำนัก เกจิอาจารย์ที่มีพลังจิตจะลงพระคาถา พระพุทธเจ้าหยุดศาตราวุธ บางที่ก็ลงพุทธสังมังคะลังโลเกๆ (บารมี30ทัศ)แล้วแต่ว่าใครจะลง(พลังจิต)ไม่มีสมาธิก็ จบ!

ส่วนบางที่ที่จะลงเมตตามหานิยม(มีหลาายแบบ) ก็จะลงเป็นมิจฉาสมาธิ มิจฉาสติ เน้นกามๆเข้าว่า....(บางที่มีครูบาอาจารย์ในสายของ ไสยเวทย์นั้นที่ไม่ได้อยู่ในโลกมนุษย์นี้ มาช่วยลงให้ด้วย)

คนโบราณเขาถือกันผิดๆว่าหากมีพระปิดตาไว้จะคลอดลูกยาก! จึงต้องมีคาถาพระองคุลีมาล(คลอดบุตรง่ายไว้ด้วย)


ยังมีอีกเยอะ

เหรียญด้านบนเป็นด้านหลังของพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ ซึ่งเหรียญนี้ ออกแนวคงกระพัน มหาอุด และมหากำบังด้วย(รุ่นนี้แจกทหาร ตำรวจปี 2506) ซึ่ง ปกติประสบการณ์ของวัตถุมงคลของพ่อท่านคล้ายจะออกแนวแคล้วคลาด

ดูคาถาที่ลง ไว้ได้ว่าเขาเขียนว่าอะไร พระปิดตาปาฏิหารย์มืออุดทวาร นั่งทับปืน


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 29 มี.ค. 2010, 22:57, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 22:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ตรงประเด็น เขียน:







พระปิดทวาร มีพุทธานุภาพทางมหาอุตม์แน่นอน...เพราะ คงไม่มีใครอยากมาทำร้าย คนที่ ฟังเป็น ดูเป็น พูดเป็น...มีแต่ คนรัก ...โอม มะรุมมะตุ้มมารุมรัก :b32:

พระปิดทวาร มีพุทธานุภาพทางมหาลาภแน่นอน.... เพราะ ส่วนใหญ่ที่อับจนกัน ก็เพราะ ไม่รู้จักฟัง ไม่รู้จักดู ไม่รู้จักพูด



เห็นกระทู้เกี่ยวกับ พระเครื่อง.... เลยนำ ความหมายของพระเครื่องในเจตนาดั้งเดิมของคนโบราณมาลงประกอบ







ผมคิดเดาดูแล้วว่า คนเสกตามนี้ที่คุณตรงๆตีประเด็นความ คงเป็นมิจฉาสมาธิ มิจฉาสติ หรือไม่ก็เสียสติเสกหรือเปล่าครับ :b22: :b32: :b22: :b32: :b22: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 29 มี.ค. 2010, 22:59, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 23:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




gl.bmp
gl.bmp [ 142.05 KiB | เปิดดู 5630 ครั้ง ]
เชิญตามลิงค์นี้ได้ครับ จำไม่ได้ว่าอยู่ตรงไหน อ เสถียร โพธินันทะ ก็เคยเล่นเครื่องรางของขลังมาก่อน จับพลังได้ด้วย :b35: :b35: :b35:


www.ybat.org/media%5Csatien%5Cdhamma_talk_satien.html




กระแสมนตรยานในนิกายเถรวาท

เสถียร โพธินันทะ




๑. ปฐมเหตุของโลก


๒. กำเนิดโลก กำเนิดชีวิต

๓.สุนทรียถาพในพระพุทธศาสนา

๔. พุทธวิธีในการปฏิรูป
๕. อาการจิต
๖. ขันธวาที
๗.สุญญตา
๘.หลักของสุญญตา
๙.ปกติวาที - สมยวาที
๑๐.ปรปัจจัย
๑๑.ปฏิจจสมุปบาท ๑
๑๒.ปฏิจจสมุปบาท ๒
๑๓.ปฏิจจสมุปบาท ๓
๑๔.ปฏิจจสมุปบาท ๔
๑๕.ตรรกวิทยา
๑๖.เหตุการณ์ก่อนพุทธปรินิพพาน
๑๗.เหตุการณ์หลังพุทธปรินิพพาน
๑๘.ทุติยสีงคายนา ๑
๑๙.ทุติยสีงคายนา ๒
๒๐.ประวัติพุทธศาสนา
๒๑.งานพระธรรมฑูต ๑
๒๒.งานพระธรรมฑูต ๒
๒๓.พุทธศาสนาในอินเดีย ๑
๒๔.พุทธศาสนาในอินเดีย ๒
๒๕.พุทธศาสนาในอิหร่าน-อินเดีย ๑
๒๖.พุทธศาสนาในอิหร่าน-อินเดีย ๒
๒๗.ลัทธิลังกาวงศ์ในสุวรรณภูมิ ๑
๒๘.ลัทธิลังกาวงศ์ในสุวรรณภูมิ ๒
๒๙.พุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ
๓๐.ศาสนาสมัยอยุธยารัตนโกสินทร์
๓๑.พุทธศาสนาในธิเบต
๓๒.พุทธศาสนาในประเทศจีน ๑
๓๓.พุทธศาสนาในประเทศจีน ๒
๓๔.พุทธศิลป์ในประเทศจีน
๓๕.พระถังซำจั๋ง ๑
๓๖.พระถังซำจั๋ง ๒
๓๗.พุทธศาสนาในญี่ปุ่น
๓๘.นิกายมหายาน ๑
๓๙.นิกายมหายาน ๒
๔๐.พระไตรปิฎกมหายาน
๔๑.อภิธรรมมหายาน
๔๒.คัมภีร์กถาวัตถุ ๑
๔๓.คัมภีร์กถาวัตถุ ๒
๔๔.วิจัยคัมภีร์กถาวัตถุ ๑
๔๕.วิจัยคัมภีร์กถาวัตถุ ๒
๔๖.วิจัยคัมภีร์กถาวัตถุ ๓
๔๗.วิจัยคัมภีร์กถาวัตถุ ๔
๔๘.วิจัยเวสสันดรชาดก
๔๙.ตอบปัญหาเรื่องพระเจ้า
๕๐.สารพัดปัญหา ๑
๕๑.สารพัดปัญหา ๒
๕๒.สารพัดปัญหา ๓
๕๓.สารพัดปัญหา ๔
๕๔.สารพัดปัญหา ๕
๕๕.สารพัดปัญหา ๖
๕๖.สารพัดปัญหา ๗
๕๗.สารพัดปัญหา ๘
๕๘.สารพัดปัญหา ๙
๕๙.สารพัดปัญหา ๑๐
๖๐.สารพัดปัญหา ๑๑


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 29 มี.ค. 2010, 23:55, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 10:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b1:
...ในครั้งพุทธกาลหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน...
...จึงมีการหล่อพระพุทธรูปเพื่อสร้างองค์แทนพระพุทธเจ้า...
...เพื่อกันลืมพระองค์...การได้กราบพระพุทธรูปก็ได้กราบพระพุทธเจ้า...
...และมีการตั้งจิตระลึกถึงพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นที่ตรัสรู้นานมาแล้วด้วย...
:b20:
...โดยให้พนมมือกราบ 3 ครั้งแล้วตั้งจิตตั้งใจกล่าวนะโม 3 จบ...
...นะโมตัสสะ...ภะคะวะโต...อะระหะโต...สัมมาสัมพุทธัสสะ...
...นะโมตัสสะ...ภะคะวะโต...อะระหะโต...สัมมาสัมพุทธัสสะ...
...นะโมตัสสะ...ภะคะวะโต...อะระหะโต...สัมมาสัมพุทธัสสะ...
:b8: แปลว่า
...ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น...
...ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส...ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง...
...ย้ำถึง 3 หนเพื่อให้จิตมีความระลึกที่ตั้งมั่นแน่วแน่...
:b6:
...ระยะหลัง...ในยุคปัจจุบันผู้คนมีความเชื่อในสิ่งที่เหนือธรรมชาติ...
...การสร้างวัตถุมงคลต่างๆ จึงมีให้เห็นอยู่มากมายตามความเชื่อนั้นๆ...
...ผลก็คือมีการตามกระแส...แบบเห่อตามๆกัน...ทำในเชิงการพาณิชย์ไปเลย...
...อย่างไรก็ตามขึ้นชื่อว่าได้ห้อยพระแขวนคอก็เรียกได้ว่ามีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจอย่างนึง...
...มีพระเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ...ดีกว่ามีใจจดจ่อกับการเล่นหวยรวยเบอร์ที่จะพาไปสู่อบายอ่ะนะ...
:b12:
:b9: :b32:
:b55: :b55: :b55: :b55: :b55:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 30 มี.ค. 2010, 10:54, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 11:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


พราหมณ์ กับ ปริพาชก มีมานานแล้ว... :b6:

พวกพราหมณ์ที่ไปเกิดเป็นพรหม เกิดความรังเกียจว่า พวก จัณฑาล บำเพ็ญเพียรแล้วไปเป็นพรหมอยู่ใกล้กันกับตนในชั้นพรหม จึงบันดาลให้พวกพราหมณ์หนึ่งๆนั้นๆ มาสอนความเชื่อผิดๆ ให้นับถือ เสือ นับถือ จระเข้ ปลักขิก(ศิวะลึงค์) หนักเข้าก็ทำเซ็กซ์หมู่บูชายันต์(ลัทธิเจ้าแม่กาลีอุบาทว์มากๆ) :b7: :b32:
ในอียิปต์ก็นับถือหมาถือแมวก็ว่ากันไป ๆลๆ ว่าไปตามเรื่อง เพื่อไม่ให้ พวกที่มี วรรณะต่ำกว่าตน บำเพ็ญเพียรบำเพียร เมื่อตายแล้วไปเกิดเป็นพรหม ใกล้ๆกันกับพวกตน
:b7:


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 30 มี.ค. 2010, 11:20, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร