อยากทราบวิธีเพิกบัญญัติอย่างง่ายในชีวิตประจำวัน

อยากทราบเพื่ออะไรครับ เพื่อนำไปปฏิบัติหรือครับ

เพิกถอน เพื่ออะไร

ต้องนำไปปฏิบัติอยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็ปฏิบัติอยู่ แต่ก็ยากมาก
น่าจะมีอาจารย์หรือผู้รู้มีวิธีที่ง่ายกว่านี้ เพราะการเพิกบัญญัติสู่ปรมัตธรรมนั้น
เป็นการปฏิบัติธรรมชั้นสูงอันจะนำไปสู่การหลุดพ้นบ่วงแห่งทุกข์

แล้วที่ผ่านมาปฏิบัติยังไงครับ

อืมห์ ถ้าไม่ปฏิบัติธรรมชั้นสูง จะไม่มีทางหลุดพ้นบ่วงแห่งทุกข์ได้เลยหรือครับ

บัญญัติคือสมมุติ ชื่อ คน สัตว์ สิ่งของ ซ้าย ขวา อื่นๆ แยก รูป นาม เสียงที่ได้ยินอะไรเป็นรูป อะไรเป็นนาม ปรมัต กำหนด เย็น ร้อน อ่อน แข็ง เป็นต้น

ครับ แล้วคุณฝึกแยกมันยังไงอยู่

อธิบายยากครับ ลองไปฟังธรรมบรรยายของพระครูเกษมธรรมทัต หมวดกรรมฐานดูนะครับ

ในพระศาสนาแห่ง พระพุทธเจ้าพระองค์นี้
ไม่มีการสอนเพิกบัญญัติ


ผู้สอนเพิกบัญญัติ เป็นไปตามมติตนเอง หรือตามมติของอาจารย์เองทั้งสิ้น

ที่ผ่านมา ยังมีการสอนธรรมเกี่ยวกับ บัญญัติ ปรมัต และเน้นเกี่ยวกับการละบัญญัติเข้าสู่ปรมัต ซึ่งสาธุชนคนธรรมดาอย่างเราๆ คงจะเข้าถึงยาก แต่กระนั้น ยังมีผู้ปฏิบัติได้ โดยอาศัยความเพียรอย่างยิ่ง และเป็นพระธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาแห่งนี้ ขอบพระคุณท่านผู้รู้ที่สนใจในธรรมที่เข้ามาเสวนา

อ้างอิง คุณ เช่นนั้น ...พระศาสนาแห่งนี้ พระพุทธเจ้าองค์นี้ ไม่มีการสอนเพิก บัญญัติ" สงสัยพระพุทธเจ้าคงจะมีหลายองค์ซะกระมัง แท้จริงพระพุทธเจ้าของเราสอนการเจริญสติ กำหนดสมมุติ บัญญัติ (สติปัฏฐาน) แล้วค่อย เพิกบัญญัติออก แต่ก็นั่นแหละ บางท่านที่ยังไม่มีปัญญาพอก็ต้องดูบัญญัติไปเรื่อยๆ ก่อน พอฝึกดูไป ดูไป จนเห็นทางสว่างแห่งปัญญา แล้วค่อยละบัญญัติเข้าสู่ปรมัตเพราะอยู่ดีๆ จะเข้าสู่ปรมัตเลยนั้นเราๆ อาจจะยังไม่เป็น ไม่เข้าใจ พระพุทธเจ้าจึงสอนให้เราดูกาย(สติปัฏฐาน) ดูสมมุติ บัญญัติก่อน แล้วค่อยเชื่อมมาสู่ปรมัต เพราะเป็นสิ่งเนื่องกันอยู่ เอาสมมุติ บัญญัติเป็นฐาน เพื่อก้าวขึ้นสู่ปรมัต(ธรรมอันประเสริฐ) หากสาธุชนท่านใดจะแย้งว่าไม่ใช่คำสอนของพระศาสนานี้หรือพระพุทธเจ้าองค์นี้ ก็สุดแล้วแต่สติปัญญาของแต่ละคน แล้วแต่เวร กรรม มันเป็นเช่นนั้นเอง.

สาธุ..ครับ ท่านอัศวโฆษ เป็นคำตอบกระทู้ที่สมบูรณ์ และให้ความกระจ่างต่อตัวกระผมที่สุด ถึงแม้ผมจะพยายามปฏิบัติอยู่เท่าที่มีเวลาหลังงาน แต่ก็ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ก็จะพยายามสะสมหน่วยกิจไปเรื่อยๆ ขอขอบพระคุณมากครับ.

ฝึกสติทำได้ตลอดเวลาครับ

ไม่ต้องนั่งหลับตาก็ได้

รู้การเคลื่อนไหว เป็นปัจจุบัน ให้สติอยู่ในร่างกายเรา รู้ทั่วร่างกายไปเรื่อย ๆ
ลองทำดูครับ ทำเล่น ๆ ไป อย่าเครียด อย่าหวังผล ได้มั่ง ไม่ได้มั่ง

หรือ ถ้านั่งอยู่กับที่ ก็ไม่ต้องหลับตา ดูลมหายใจ หายใจเข้า ออก
"สะสมหน่วยกิต" ถูกต้องครับ สติจะค่อย ๆ มั่นคงขึ้น อินทรีย์ ๕ จะเกิดมากขึ้น

สติที่ได้ตอนลืมตา จะมั่นคงมาก เวลาไปนั่งหลับตา จะสงบง่าย ตั้งมั่นได้ไวและนาน

ขออนุโมทนาครับ

อัศวโฆษ