วันเวลาปัจจุบัน 19 มิ.ย. 2025, 16:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 52 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 23:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:

ท่านชาติสยามงับ ตายแล้วสูญเป็นมิจฉาทิฏฐินะงับ


ถูกแล้วครับ แต่กระผมยังไม่ทันได้พูดเลยนะคับนี่ :b34:
ผมเพียงแต่บอกว่า "ตายแล้วไม่สูญ" เป็นเรื่องเลอะเทอะ

ที่สำคัญ นี่ขนาดนิพพานไปแล้วยังมาเทศน์ได้เฉย
แถมใส่ชุดพระเจ้าจักรพรรดิ์อีก
เข้ารกเข้าพงกันใหญ่


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:
อันนี้ช่วยแก้นะงับ
เคยได้ยินว่ามีพระพุทธรูปปางนี้นิงับ
ตอนพระพุทธเจ้าทรงโปรดท้าว อะไรไม่รุงิ จำไม่ได้แล้ว
55+



เปล่าครับ ผมไม่ได้หมายถึงปางจักพรรรดิว่ามีหรือไม่มี

แต่ผมหมายถึงพระพุทธเจ้าเรานั้น
มีผู้ทำนายว่า ถ้าออกบวช จะเป็นศาสดา ถ้าไม่บวชจะเป็นเจ้าจักรพรรดิ์
แต่ท่านเลือกถอดชุดเจ้าชายออก เลือกถอดอนาคตพระเจ้าจักรพรรดิ์ออก "ด้วยองค์เอง"
แล้วไปนุ่งผ้าห่อศพ แม้กระทั่งวันดับขันธ์ปรินิพพานก็ทรงชุดผ้าย้อมน้ำฝาดแบบนี้

การที่เมื่อดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว กลับไปสวมชุดเจ้าจักรพรรดิ์นั้น
เป็นความวิปลาสของคนที่เห็นพระพุทธเจ้าทรงชุดจักรพรรดิ์
ที่เคยถูกปลูกฝังมาว่าจะเห้นอย่างนั้นจะเห็นอย่างนี้


แต่แม้จะพูดถึงพระพุทธรูปปางเจ้าจักรพรรดิก็ตาม
อย่างน้อยๆก็ 300 ปีหลังเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ถึงจะมีพระพุทธรูปเกิดขึ้น
เกิดเพราะจิตของคนนี่แหละปรุงขึ้น แล้วก็สร้างวัตถุขึ้นเป็นพระพุทธรูปปางต่างๆ
ถ้าจะว่าไปแล้ว พระพุทธรูปเป็นรูปบัญญัติของจิตเช่นเดียวกัน

เสมอกันกับนิมิตเพราะเป้นบัญญัติ
ต่างแค่อันหนึ่งรูป อันหนึ่งนาม แต่เป้นบัญญัติทั้งคู่

ท่านขงว่างั้นไหมล่ะ


ปล. นี่ผมยังไม่ด่าอีกประเด็นนึงนะ ลองไปอ่านกระทู้ดูสิ
พูดมาได้ พระพุทธเจ้าอะไรบอกให้เอาพระเครื่องมาห้อยคอ แล้วให้นับถือจริงใจ
แล้วรับรองจะปลอดภัยจากภัยพิบัติ

พระพุทธเจ้าประเทศไหนบอกให้ไปเอาวัตถุภายนอกมาพึ่ง

ตบท้ายกลัวคนวิจารณ์ ยังมาว่า อย่าวิจารณ์ที่พร่ำเพ้อนะ
เดี่ยวจะเป็นปรามาสพระรัตนตรัย

โอย ตัวเองนั่นแหละ ไม่ใช่ปรามาสนะ ทำลายเลย
ทำลายพระรัตนตรัยภายนอกไม่เท่าไหร่ แต่ทำลายพระรัตนไตรในตัวเองไปหมด
ปากสวดพุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
แต่ใจดันไปเอานิมิตัง สรณัง คัจฉามิ

พระพุทธเจ้าที่เขาเห็นน่ะ ก็ฉลาดได้เท่าตัวเขานั่นแหละ
เพราะมาจากสัญญาของผู้เห็นนิมิต


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 13 ม.ค. 2010, 23:44, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2010, 15:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2008, 17:25
โพสต์: 62


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: อนุโมทนาค่ะ คุณชาติสยาม

เจอของจริง-พูดจริงซะบ้าง
เปลือก-โคลนตมจะได้กระเทาะออก ทิ้งไป

ลัทธิเช่นนี้มีเยอะ
ต้องฉันซิ-ฉันเท่านั้น
ฉันติดต่อสื่อสารถึง....เบื้องบนได้
เบื้องบนท่านบอกว่าต้องทำอย่างนี้....ต้องถวายของอย่างนั้น
ปีนี้ต้องเซ่นบวงสรวงอย่างนี้ๆ

นี่มิใช่คำสอนของพระพุทธองค์
นี่เป็นลัทธินอกศาสนาพุทธ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2010, 19:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2009, 18:41
โพสต์: 46

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องการตอบกระทู้ ของคุณขงเบ้งใช้ภาษาทางการนิดหนึ่งดีไหมคะ คือ ครับ ก็ให้ครับ งับหน่ะจะงับหูใครคะ ตอบกระทู้ธรรม น่าจะใช้ภาษาทางการนะคะ ขอโทษค่ะถ้าก้าวก่ายเกินไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2010, 21:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


owi เขียน:
เรื่องการตอบกระทู้ ....... คือ ครับ ก็ให้ครับ งับหน่ะจะงับหูใครคะ


cry :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2010, 21:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2009, 12:55
โพสต์: 36

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้ามีจริง พระธรรมมีจริง พระอริยะสงฆ์มีจริง
นิมิตมีจริง แต่นิมิตไม่ใช่ของจริง :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2010, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ต.ค. 2009, 22:05
โพสต์: 80

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ในการตอบกระทู้นี้มีเรื่องการทรงเจ้าเข้ามาแทรกด้วย ส่วนตัวเข้าใจว่าการทรงเจ้าหรือการเข้าทรงเป็นเรื่องจริง แต่การทรงเจ้าไม่เกี่ยวข้องกับทางศาสนาเลยมันเป็นคนละเรื่องกัน ขอออกความเห็นเท่านั้นเองครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2010, 19:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


owi เขียน:
เรื่องการตอบกระทู้ ของคุณขงเบ้งใช้ภาษาทางการนิดหนึ่งดีไหมคะ คือ ครับ ก็ให้ครับ งับหน่ะจะงับหูใครคะ ตอบกระทู้ธรรม น่าจะใช้ภาษาทางการนะคะ ขอโทษค่ะถ้าก้าวก่ายเกินไป



ขอบคุงงับ 555+

ภาษาเป็นสมมุติอันหนึ่ง

ที่ไม่เป็นทางการหรือทางการ มันมีอัตตา ความเป็รเราแฝงมานะงับ

อย่าหลงสมมุติเลย 55

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2010, 19:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:

ท่านชาติสยามงับ ตายแล้วสูญเป็นมิจฉาทิฏฐินะงับ


ถูกแล้วครับ แต่กระผมยังไม่ทันได้พูดเลยนะคับนี่ :b34:
ผมเพียงแต่บอกว่า "ตายแล้วไม่สูญ" เป็นเรื่องเลอะเทอะ

ที่สำคัญ นี่ขนาดนิพพานไปแล้วยังมาเทศน์ได้เฉย
แถมใส่ชุดพระเจ้าจักรพรรดิ์อีก
เข้ารกเข้าพงกันใหญ่


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:
อันนี้ช่วยแก้นะงับ
เคยได้ยินว่ามีพระพุทธรูปปางนี้นิงับ
ตอนพระพุทธเจ้าทรงโปรดท้าว อะไรไม่รุงิ จำไม่ได้แล้ว
55+



เปล่าครับ ผมไม่ได้หมายถึงปางจักพรรรดิว่ามีหรือไม่มี

แต่ผมหมายถึงพระพุทธเจ้าเรานั้น
มีผู้ทำนายว่า ถ้าออกบวช จะเป็นศาสดา ถ้าไม่บวชจะเป็นเจ้าจักรพรรดิ์
แต่ท่านเลือกถอดชุดเจ้าชายออก เลือกถอดอนาคตพระเจ้าจักรพรรดิ์ออก "ด้วยองค์เอง"
แล้วไปนุ่งผ้าห่อศพ แม้กระทั่งวันดับขันธ์ปรินิพพานก็ทรงชุดผ้าย้อมน้ำฝาดแบบนี้

การที่เมื่อดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว กลับไปสวมชุดเจ้าจักรพรรดิ์นั้น
เป็นความวิปลาสของคนที่เห็นพระพุทธเจ้าทรงชุดจักรพรรดิ์
ที่เคยถูกปลูกฝังมาว่าจะเห้นอย่างนั้นจะเห็นอย่างนี้


แต่แม้จะพูดถึงพระพุทธรูปปางเจ้าจักรพรรดิก็ตาม
อย่างน้อยๆก็ 300 ปีหลังเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ถึงจะมีพระพุทธรูปเกิดขึ้น
เกิดเพราะจิตของคนนี่แหละปรุงขึ้น แล้วก็สร้างวัตถุขึ้นเป็นพระพุทธรูปปางต่างๆ
ถ้าจะว่าไปแล้ว พระพุทธรูปเป็นรูปบัญญัติของจิตเช่นเดียวกัน

เสมอกันกับนิมิตเพราะเป้นบัญญัติ
ต่างแค่อันหนึ่งรูป อันหนึ่งนาม แต่เป้นบัญญัติทั้งคู่

ท่านขงว่างั้นไหมล่ะ


ปล. นี่ผมยังไม่ด่าอีกประเด็นนึงนะ ลองไปอ่านกระทู้ดูสิ
พูดมาได้ พระพุทธเจ้าอะไรบอกให้เอาพระเครื่องมาห้อยคอ แล้วให้นับถือจริงใจ
แล้วรับรองจะปลอดภัยจากภัยพิบัติ

พระพุทธเจ้าประเทศไหนบอกให้ไปเอาวัตถุภายนอกมาพึ่ง

ตบท้ายกลัวคนวิจารณ์ ยังมาว่า อย่าวิจารณ์ที่พร่ำเพ้อนะ
เดี่ยวจะเป็นปรามาสพระรัตนตรัย

โอย ตัวเองนั่นแหละ ไม่ใช่ปรามาสนะ ทำลายเลย
ทำลายพระรัตนตรัยภายนอกไม่เท่าไหร่ แต่ทำลายพระรัตนไตรในตัวเองไปหมด
ปากสวดพุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
แต่ใจดันไปเอานิมิตัง สรณัง คัจฉามิ

พระพุทธเจ้าที่เขาเห็นน่ะ ก็ฉลาดได้เท่าตัวเขานั่นแหละ
เพราะมาจากสัญญาของผู้เห็นนิมิต



อ้างคำพูด:
ผมเพียงแต่บอกว่า "ตายแล้วไม่สูญ" เป็นเรื่องเลอะเทอะ


อธิบายด้วยงับ

ไม่เข้าใจเลย โง่ไปนิดงับ 55+


อ้างคำพูด:
เปล่าครับ ผมไม่ได้หมายถึงปางจักพรรรดิว่ามีหรือไม่มี

แต่ผมหมายถึงพระพุทธเจ้าเรานั้น
มีผู้ทำนายว่า ถ้าออกบวช จะเป็นศาสดา ถ้าไม่บวชจะเป็นเจ้าจักรพรรดิ์
แต่ท่านเลือกถอดชุดเจ้าชายออก เลือกถอดอนาคตพระเจ้าจักรพรรดิ์ออก "ด้วยองค์เอง"
แล้วไปนุ่งผ้าห่อศพ แม้กระทั่งวันดับขันธ์ปรินิพพานก็ทรงชุดผ้าย้อมน้ำฝาดแบบนี้

การที่เมื่อดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว กลับไปสวมชุดเจ้าจักรพรรดิ์นั้น
เป็นความวิปลาสของคนที่เห็นพระพุทธเจ้าทรงชุดจักรพรรดิ์
ที่เคยถูกปลูกฝังมาว่าจะเห้นอย่างนั้นจะเห็นอย่างนี้


แต่แม้จะพูดถึงพระพุทธรูปปางเจ้าจักรพรรดิก็ตาม
อย่างน้อยๆก็ 300 ปีหลังเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ถึงจะมีพระพุทธรูปเกิดขึ้น
เกิดเพราะจิตของคนนี่แหละปรุงขึ้น แล้วก็สร้างวัตถุขึ้นเป็นพระพุทธรูปปางต่างๆ
ถ้าจะว่าไปแล้ว พระพุทธรูปเป็นรูปบัญญัติของจิตเช่นเดียวกัน

เสมอกันกับนิมิตเพราะเป้นบัญญัติ
ต่างแค่อันหนึ่งรูป อันหนึ่งนาม แต่เป้นบัญญัติทั้งคู่

ท่านขงว่างั้นไหมล่ะ



ว่าเช่นเดียวกับท่านชาติสยามงับ

อ้างคำพูด:
ปล. นี่ผมยังไม่ด่าอีกประเด็นนึงนะ ลองไปอ่านกระทู้ดูสิ
พูดมาได้ พระพุทธเจ้าอะไรบอกให้เอาพระเครื่องมาห้อยคอ แล้วให้นับถือจริงใจ
แล้วรับรองจะปลอดภัยจากภัยพิบัติ

พระพุทธเจ้าประเทศไหนบอกให้ไปเอาวัตถุภายนอกมาพึ่ง

ตบท้ายกลัวคนวิจารณ์ ยังมาว่า อย่าวิจารณ์ที่พร่ำเพ้อนะ
เดี่ยวจะเป็นปรามาสพระรัตนตรัย

โอย ตัวเองนั่นแหละ ไม่ใช่ปรามาสนะ ทำลายเลย
ทำลายพระรัตนตรัยภายนอกไม่เท่าไหร่ แต่ทำลายพระรัตนไตรในตัวเองไปหมด
ปากสวดพุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
แต่ใจดันไปเอานิมิตัง สรณัง คัจฉามิ

พระพุทธเจ้าที่เขาเห็นน่ะ ก็ฉลาดได้เท่าตัวเขานั่นแหละ
เพราะมาจากสัญญาของผู้เห็นนิมิต


อันนี้รูปสึกจะตรงประเด็นอีกนะงับ

พระพุทธเจ้าไม่สนับสนุนพระเครื่องนะงับ

พระเครื่องเป็น รูปูปาทานขันโธ

เป็นเดรัจฉานวิชา ไม่พ้นทุกข์ ท่านไม่สนับสนุนแน่นอนงับ

แล้วอีกอย่างงับ ภัยพิบัติมาจากกรรมนะงับ ใครมีกรรมหนียังไงก็ไม่พ้น

เอาพระมาห้อยไม่มีประโยชน์งับ

แล้วก็พระพุทธเจ้าท่านเชื่อกรรมนะงับ ท่านไม่สอนแบบนี้แน่

แล้วก็คนเอามาเขียนก็เกิดสังขารขันธ์มาหลอกผู้ชอบธรรม มันไม่มีประโยชน์งับ

เพราะไม่ใช่ความจริง มีพระพุทธเจ้าไหนที่สอนให้ยึดรูป

ท่านสอนให้ละ เพราะมันยึดไม่ได้

อิอิ

คนเอามาแพร่ทำสัทธรรมปฏิรูป กล่าวตู่ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ได้ย้ายบ้านไปอเวจีมหานรกแน่เลย ชัวร์

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2010, 17:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ย. 2009, 07:32
โพสต์: 95

แนวปฏิบัติ: หลักวิถีธรรมชาติ - อานาปานสติ,บริกรรมภาวนา
ชื่อเล่น: นุ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นการเตือนสติอย่างนึง ให้หมั่นกระทำความเพียรให้ทาน รักษาศีล เจริญจิตภาวนา
...ส่วนจะจริงหรือไม่อย่างไรนั้น คิดซะ่ว่าเป็นความฝัน อาจจะมีสิ่งใดสิ่งนึง มาเตือนสติเรา ให้สร้างกุศลกรรม

.....................................................
จงทำศีลให้เป็น อธิศีล
ทำจิตให้เเป็น อธิจิต
ทำปัญญาให้เป็น อธิปัญญา


พื้นฐานคุณธรรมความเป็นมนุษย์คือ ศีล๕ กุศลกรรมบถ๑๐ หิริโอตัปปะ และความกตัญญู กตเวทิตา

จุดสูงสุดของการรู้ธรรม เห็นธรรม ก็คือ
...สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ...สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา


แก้ไขล่าสุดโดย ภาวิตา-พหุลีกตา เมื่อ 16 ม.ค. 2010, 17:34, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2010, 20:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2009, 13:40
โพสต์: 26

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอโอกาสพ่อแม่ครูอาจารย์ทุกท่าน
รู้น้อยเห็นน้อยอย่างผมออกความเห็นอันใดได้น้อ...
ตามหาพุธ - โธ ที่หลวงปู่ครูอาจารย์ท่านสอนไว้ให้หาเจอเมื่อไหร่จะกลับมาออกความเห็นด้วยคนครับ

.....................................................
นโม เม สพฺพอริยสํฆานํ
ขอผูกขาดจองขาดในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไปทุกภพทุกชาติ
จนกว่าจะสิ้นภพสิ้นชาติ
ขอนอบน้อมนมัสการธรรม องค์หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต ด้วยเศียรเกล้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2010, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความโศกทั้งหลาย
ย่อมไม่มีแก่ผู้มีจิตมั่นคง ไม่ประมาท
เป็นมุนีผู้ศึกษาในทางแห่งมโนปฏิบัติ ผู้คงที่
สงบระงับแล้วมีสติในกาลทุกเมื่อ



เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2010, 23:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ม.ค. 2010, 23:37
โพสต์: 31

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมะ คือ ธรรมชาติ
ธรรมะ พูดด้วยภาษาใจและการปฏิบัติที่รู้ได้เฉพาะตน
ธรรมะ คือ กฏของความเป็นธรรมดา
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพราะ นั่นคือ กฏธรรมชาติ ซึ่งเป็นของธรรมดานั่นเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ม.ค. 2010, 01:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ม.ค. 2010, 01:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าไม่ทำอะไรสะเลย...คงมีแต่กรรมเก่า..ที่ให้ผล

หากทำอะไรดี ๆ ใหม่ ๆ สะบ้าง..กรรมเก่า..กรรมใหม่..คลุกเคล้าหมุนเวียนกันไป

หากทำอรหันตผลให้เกิดได้...กรรมเก่า..กรรมใหม่..บาป..บุญ..อะไร ๆ ก็เป็นโมฆะ

:b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ม.ค. 2010, 01:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:
พระเครื่องเป็น รูปูปาทานขันโธ

เป็นเดรัจฉานวิชา ไม่พ้นทุกข์ ท่านไม่สนับสนุนแน่นอนงับ

แล้วอีกอย่างงับ ภัยพิบัติมาจากกรรมนะงับ ใครมีกรรมหนียังไงก็ไม่พ้น

เอาพระมาห้อยไม่มีประโยชน์งับ



คนฉลาด..เขามองพระเครื่อง..เป็นพุทธานุสติ..
ตายขณะที่จิตเป็นพุทธานุสติ..แล้วจะไปเกิดที่ไหนละ?
คนฉลาด..จึงให้พระเครื่อง..กับคนยังไม่ฉลาด

คนโง่..เขามองพระเครื่อง..เป็นพระเครื่อง..
:b12: :b12:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 52 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร