สำหรับผมตอนนี้ ตอนที่ได้รับความสูญเสียคนที่รักไปอย่างนี้ จะผมนั้นว่างมงายหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เมื่อถึงคราวสูญเสียไม่ถึงคราวใครจะไม่รู้ เอาธรรมะเป็นที่พึ่งก็แล้ว เพื่อความสบายใจของผมท้ายที่สุดไปหาคนทรงเจ้า ผมไป 3 แห่ง สองแห่งแรกบอกว่าวิญญาณผู้ตายไปอยู่ชั้น 4 หมายถึงชั้นของอะไรผมไม่รู้ ผมจึงไปอีกที่หนึ่งเป็นแห่งที่สามท่านก็บอกตรงกันกับสองแห่งแรกว่าวิญญาณของผู้ตายไปอยู่ชั้นที่ 4 เช่นกันโดยอยู่รวมกัน แต่แห่งที่ 3 นี้ทานบอกว่าคำว่าชั้นที่ 4 นั้นไม่ใช่สวรรค์ชั้น4 แต่เป็นชั้นอะไรท่านก็บอกแต่ผมจำไม่ได้ซึ่งท่านบอกว่าผู้ที่ทำบุญมาหรือมีบุญเท่าเทียมกันจะไปอยู่ตั้งแต่ชั้นที่ 1 เรื่อยไปถึงชั้นที่ 9 (ท่านบอกว่ามี 9 ชั้น) จึงจะไปเกิดไปเกิดเป็นอะไรผมก็ไม่ทราบเช่นกัน ที่ผมเล่ามานั้นผมไม่ได้งมงาย ไม่ได้เชื่อร้อยเปอร์เซนต์ แต่ไปถามเพื่อความสบายใจ แต่ทั้ง 3 แห่งไม่ต่างกันเลย โดยเฉพาะเรื่องของชั้นที่ 4 ที่เล่ามานั้น ท่านที่พอรู้ได้กรุณาช่วยอธิบายให้กระผมเข้าใจด้วยครับ กราบขอบพระคุณครับ
( ในเมื่อผมอยู่ในสภาพที่สับสนกับความสูญเสียคนรักและพบกับความพลัดพรากเช่นนี้ ถึงแม้อาจมีส่วนที่เป็นจริงบ้างหรือไม่ก็ตามผมก็จะไป เพื่อความสบายใจเท่านั้น จริงๆแล้วผมก็พอรู้และเข้าใจว่าสิ่งที่พึ่งพาได้จริงๆก็คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ )

แก้คำผิดครับ สูนย์เสีย ผิด ที่ถูกเขียนว่า สูญเสีย
แสดงว่าคุณไม่เอาธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งจริง เพราะคนที่เอาธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งจริง
จะสามารถพ้นทุกข์ได้ตามระดับปัญญาของตนๆ และจะไม่แล่นไปหาที่พึ่งปลอมๆที่เรียกว่าการทรงเจ้า ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเดรัจฉานวิชาที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงสรรเสริญด้วยประการทั้งปวง..ก ารกระทำเช่นนี้ไม่เป็นบุญกุศลเลยแต่เป็นการเพิ่มพูนโมหะหรือความเขลาให้มากขึ้น .. .



ไปแล้วบอกว่าไม่เชื่อ แต่คำถามนี้แสดงว่าเชื่อไปแล้ว และหากไม่เชื่อเขาแต่กลับแสวงหาการทรงถึง๓แห่ง นี่แสดงว่าเชื่อเอามากจนมีความเพียรในการเสาะหาสำนักทรงถึง๓ที่

ทีนี้เขาบอกมาว่าคนตายไปเกิดอยู่ชั้น4..ก็เกิดคำถามตามมาอีกว่ามันคืออะไร
อุตส่าหฺ์ไปหาคนที่เขาทราบว่าแฟนไปอยู่ชั้น๔แล้ว ทำไมไม่ถามรายละเอียดกับคนบอกเล่าครับ? ..แล้วใครๆในที่นี้จะทราบหรือครับ

แล้วคนทรงบอกว่าไม่ใช่สวรรค์ ถ้าอย่างนั้นเป็นอบายหรือเปล่า เพราะมนุษย์ไม่มีชั้นนี่นะ ...

คุณ amamครับ หากสามารถแสวงหาที่ทรงได้ถึง๓แห่ง.. ผมใคร่เรียนเชิญให้อ่านที่นี่สัก๓รอบนะครับ..เพื่อความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและความสิ้นทุกข์ที่กำลังมีอยู่ครับ ขณะอ่านก็ได้บุญ เมื่ออ่านจบแล้วให้อุทิศบุญให้คนตายด้วยก็เป็นบุญอีกครับ..

คนเราตายแล้วไปไหน

http://www.84000.org/tipitaka/book/nana.php?q=16


ขอให้คุณ amamพ้นจากความวิตกทุกข์ใจโดยพลันครับ

..... อยู่กับตัวเอง ดูแลตัวเองเถอะครับ คนรักคุณคงไม่ปรารถนาจะให้คุณมานั่งตามหาเขาหรอก เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า ยังไงก็ต้องจากกัน อย่าไปห่วงเขาให้เขาไปแบบมีห่วงผูกพันเลย ปล่อยเขาไปเถอะ หมั่นทำบุญ อุทิศส่วนกุศล แค่นั้น ผมว่า เขาก็รับรู้ และคงหมดห่วงคุณเช่นกัน .... ในโลกของความตายนั้น ผมไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่อยากให้เตือนสติตัวเองว่า "การพลัดพรากจากของที่รัก เป็นทุกข์" นี่คือคำสอนของพระพุทธองค์ ..... ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ ..........

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

กาลเวลาจะทำให้ทุกสิ่งดีขึ้นครับ

สิ่งเดียวที่จะทำให้คุณได้พบกับเขาอีก...

ก็คือ หมั่นทำบุญ ทำความดี เข้าไว้คะ

คนรักของคุณได้ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ใช่ไหมคะ ถ้าคุณทำความดีเอาไว้มากๆ ตายไปคุณจะได้ไปพบเธอบนสวรรค์ชั้นเดียวกันไง และถ้าเธอคนนั้นเป็นคนดีมากๆ อยู่สวรรค์ถึงชั้นระดับ 4 แสดงว่า คุณต้องใช้ความดี ทำบุญ หรือจิตใจที่เป็นกุศลมากๆ จะได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 4 กับเธอได้

สุ้ๆนะคะ

คนที่ตายไปแล้ว เอากลับมาไม่ได้หรอกคะ...
หลงเหลือแต่เพียงวิญญาน ถ้ายังอยากเจอกันอยู่ ก็ต้องตามขึ้นไปบนสวรรค์แล้วคะ ><
และก็ เวลาบนสวรรค์ยาวนานกว่ามนุษย์โลกมากนัก ดังนั้นไม่ต้องห่วงหรอก ว่าจะคลาดกัน

โชคดีนะคะ

ตั้งแต่คนที่รักจากไปไม่เคยได้รับกำลังใจจากใคร ไม่ได้รับข้อคิดหรือคำแนะนำจากใครเหมือนอยู่เดียวดายจึงทำไปตามที่อยากทำเพื่อความสบายใจ......ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้รับทั้งกำลังใจและสิ่งดีๆที่ท่านผู้ตอบคำถามได้เมตตาชี้แนะให้กับกระผม กระผมจะพยายามทำตามที่ท่านแนะนำให้ได้ครับ กราบขอบพระคุณทุกคำตอบครับ กราบขอบพระคุณอีกครั้งมากๆครับ

น้ำตาที่คุณเคยเสียให้กับการพลัดพรากจากของรักของชอบใจ

นั้นมากยิ่งกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง4 หากยังรักที่จะเกิด ก็ต้องเสียน้ำตาอยู่ร่ำไป

คนเราเกิดมาก็ต้องตายเป็นปกติ คนตายบนโลกนี้วันละแสนคน คุณก็ไม่ได้เสียน้ำตาให้

แต่พอเรายึดว่าคนที่ตายเป็นคนสำคัญของเรา การตายครั้งนี้จึงทำให้คุณเป็นทุกข์

เรื่องแบบนี้ใครจะพูดก็พูดได้ แต่พอเจอเข้ากับตัวคงทำใจได้ยาก

ก็ขอให้ความเสียใจพ้นไปจากใจโดยเร็วนะครับ คนที่อยู่ก็ต้องมีชีวิตต่อไป

ตายไปแล้วเอาไปได้กับบุญและบาป หากชีวิตทำแต่ความดีแล้วไซร้

ปรโลกก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลย

สิ่งเดียวที่คนที่มีชีวิตอยู่ สามารถทำให้แก่ผู้ที่จากไปแล้ว ได้ก็คือ

หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลมากๆคะ และขอให้คนที่คุณรักได้โมทนาด้วย

ขอให้เข้มแข็งเร้วๆนะคะ

ขอให้คุณมีชีวิตที่เข้มแข็งและก้าวเดินไปข้างหน้าอย่าได้ย่อท้อเป็นอันขาด
ลองอ่านดูนะค่ะ

ดั่งเรือที่ลอยทวนสายน้ำ ตอนนี้มีเพียงแต่ต้องเดินก้าวไปข้างหน้า
เมื่อเมฆฝนจางหายไป เส้นทางที่เปียกก็จะส่องแสงแวววับ
มีเพียงความมืดที่ช่วยนำทาง สอนให้ฉันเข้มแข็ง
เข้มแข็งดุจดังแสงทรงกล้า ให้ฉันมีแรงก้าวไปข้างหน้า
อย่างเข้มแข็งต่อไป

สู้ๆ
เวลาจะช่วยเยียวยาแผลที่ใจให้เข้มแข็งขึ้นค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้คุณ amam ด้วยครับ
เกิด แก่ เจ็บ ตาย พลัดพราก ชีวิตคนเรายากจะหลีกพ้น
ขอให้มีกำลังใจที่เข้มแข็งต่อไปครับ

พูดถึงเรื่อง ที่คนทรง ที่คุณไปหา(ไม่รู้ว่าเป็นคนจีนหรือเปล่า)
บอกว่า คนที่คุณรัก ได้ไปอยู่ที่ชั้น 4 (จาก 9 ชั้น)
เขาอาจจะหมายถึง สุขาวดีโลกธาตุ ก็เป็นได้ครับ
เคยได้ยินและได้อ่านจากหนังสือมาบ้างน่ะครับ

แดนสุขาวดีพุทธเกษตรทางทิศตะวันตก
เป็นพุทธเกษตรของพระอมิตาภะพุทธเจ้า
ตามความเชื่อของพุทธศาสนา มหายาน
แดนสุขาวดี มีลักษณะเป็นดอกบัว 9 ชั้น
แบ่งเป็น
-บัวชั้นสูง
-บัวชั้นกลาง
-บัวชั้นล่าง

ที่นี่ถือเป็น สุคติภพ ครับ
ถ้าหากได้ไปอยู่ที่ชั้นที่ 4 จริง ก็คงได้อยู่บัวชั้นกลาง
แสดงว่าตอนมีชีวิตอยู่ ได้สร้างบุญกุศลมากพอสมควร
และได้ตั้งจิตอธิษฐานขอให้ไปเกิดยังสุขาวดีโลกธาตุ

หรือผู้ที่เคารพศรัทธา กราบไหว้ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (พระโพธิสัตว์กวนอิม)
และหมั่นรักษาศีล สร้างบุญกุศล ในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
เมื่อทิ้งกายสังขารนี้ไปแล้ว ก็จะถูกนำพาโดยพระโพธิสัตว์กวนอิม
ให้มาเกิดที่แดนสุขาวดี แต่จะได้เกิดที่ชั้นใดนั้น
ขึ้นอยู่กับบุญกุศลที่ได้สร้างสมมา หากมีบุญมาก ก็ได้เกิดชั้นสูง
หากยังมีกิเลสอยู่มาก ก็เกิดที่ชั้นล่าง

ชั้นที่ 9 เป็นชั้นสูงสุด เป็นที่ประทับของพระอมิตาภะพุทธเจ้า
และบรรดา พระอริยสาวกทั้งหลาย.
แต่ไม่ว่าจะเกิดที่บัวชั้นใด ก็จะได้ปฏิบัติธรรมกันทุกคนครับ.

อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ดูจากข้อมูลที่คุณบอกมา.

ขออนุญาต ยกบางประโยคในหนังสือ*คิดจากความว่าง*ของคุณ ดังตฤน มานะครับ


เราหลุดจากวันวานไม่สำเร็จ
เพียงเพราะมองวันวานเป็นวันนี้
หรือผูกมัดวันนี้ไว้กับวันวาน
ต่อเมื่อทอดมองออกมาจากความว่าง
จึงจะเห็นวันวานล่วงลับแล้ว
ที่เหลืออยู่คือวันนี้
ที่มีจริงคือเดี๋ยวนี้

.........................................
ทุกสิ่งเกิด ต้องมีดับ...จงยิ้มให้กับความทุกข์ เราจะเป็นผู้ชนะสำหรับวันนี้

อย่าเชื่อเลยค่ะ คนที่ดูส่วนใหญ่ก็บอกชั้น ๔ ทั้งนั้น เพราะประชากรชั้น ๔ มีเยอะที่สุดค่ะ เยอะกว่านรกน่ะค่ะ

จุฬาภินันท์ไม่รู้ว่าอะไรมี ๙ ชั้น แต่รู้ว่ามีแบ่งเป็น ๕ ชั้นสำหรับทั่วไปนะคะ

๑. พรหม (สวรรค์)
๒. มนุษย์
๓. สัตว์
๔. เร่ร่อน (เปรต)
๕. นรก

อ้อ อีก ๔ ชั้น ก็เป็นขั้วประเสริฐค่ะ ชั้นอริยะน่ะค่ะ
๑. ชั้นพระนิพพาน
๒. ชั้นมหาโพธิสัตว์
๓. ชั้นพระโพธิสัต์
๔. ชั้นอรหันต์

อย่างไรก็ตาม การทรงเจ้าเข้าผี มีจริงค่ะ แต่ไม่จำเป็นที่ต้องไปหาเอง การทรงเจ้าเข้าผีเกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลค่ะ และท่านจะมาหาเองเมื่อถึงวาระค่ะ ไม่จำเป็นต้องขวนขวายไปหาอะไรค่ะ

เสียใจด้วยนะคะถ้าใครเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็คงจะตั้งตัวไม่อยู่
ขอให้สู้ต่อไปถ้าคนที่เรารักดูอยู่เขาก็คงอยากจะบอกให้คุณมีความสุข
ไม่ต้องทุกข์และสู้ต่อไป ชีวิตมันก็สั้นนักจะอยู่อีกกีปีแต่สิ้นสุดท้ายของชีวิต
ทุกคนก็เหมือนกัน
............................................................................

ความสุขเหมือนคนที่เรารัก แต่ความทุกข์เหมือนคนที่รักเรา
กล่าวคือความสุขต้องวิ่งตามหา แต่ความทุกข์กลับอบู่กับเราตลอดเวลา
ถ้าเรามีใจที่ยังหลงผิด