วันเวลาปัจจุบัน 21 พ.ค. 2025, 00:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2009, 09:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 16:30
โพสต์: 133

อายุ: 0
ที่อยู่: Uttaradit

 ข้อมูลส่วนตัว


พระสงฆ์บิณฑบาตตอนเช้าแล้วให้พรโยมที่นั่งอยู่หลังจากที่ใส่บาตรแล้ว
พระให้พรว่า "อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง"
พระท่านจะอาบัติหรือไม่ โดยที่ผู้ที่ใส่บาตรนั่งพนมมือด้วยอาการสำรวม

ขอบคุณครับ

.....................................................
" สติปัญญา เราใช้ปัญญาอยู่เสมอก็จริง แต่สตินั้นแท้จริงแล้ว เรานำออกมาใช้น้อยนัก ทั้งที่สตินั้นมีคุณค่าแก่ชีวิต มีคุณค่าอย่างเหลือที่จะประมาณ "


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2009, 10:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 10:01
โพสต์: 200

โฮมเพจ: http://www.watpanonvivek.com/
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ลุงชู เขียน:
พระสงฆ์บิณฑบาตตอนเช้าแล้วให้พรโยมที่นั่งอยู่หลังจากที่ใส่บาตรแล้ว
พระให้พรว่า "อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง"
พระท่านจะอาบัติหรือไม่ โดยที่ผู้ที่ใส่บาตรนั่งพนมมือด้วยอาการสำรวม

ขอบคุณครับ


smiley ตามที่ได้ศึกษามาไม่เป็นครับ....

.....................................................
พอใจในสิ่งที่ตนมีตนได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2009, 12:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2008, 14:07
โพสต์: 285

อายุ: 0
ที่อยู่: ประเทศไทย

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่แน่ใจครับ

คือเคยอ่านมานะครับ (อาจเข้าใจผิดก็ได้) พระจะยืนแสดงธรรมกับคนที่นั่งที่ไม่ได้
เว้นแต่คนนั้นป่วย ถ้าทำจะถืออาบัติ
ถ้าถือว่าตอนให้พร เป็นการแสดงธรรมก็ถือว่าอาบัติ ถ้าไม่ใช่ก็น่าจะไม่อาบัติครับ

ถ้าเอาชัวร์ แนะนำให้ท่านไปถามพระดีกว่าคับ เพราะผมก็ไม่รู้จริง

ผู้รู้ช่วยตอบทีครับ

.....................................................
"ใครเกิดมา ไม่พบพระพุทธศาสนา ไม่เลื่อมใส ไม่ปฎิบัติ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เป็นโมฆะตลอด ตั้งแต่วันเกิดจนวันตาย"

"ให้พากันหมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา"

พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
http://www.luangta.com/

"ทำสมาธิมากเนิ่นช้า คิดพิจารณามากฟุ้งซ่าน หัวใจของการปฏิบัติคือการมีสติในชีวิตประจำวัน"
หลวงปู่มั่น

"ดูจิต...ด้วยความรู้สึกตัว"
หลวงพ่อปราโมทย์ สวนสันติธรรม ชลบุรี
http://www.wimutti.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2009, 14:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


อาบัติป่าวไม่รู้....
แต่ความคิดเห็นส่วนตัวก็ไม่เห็นว่าพระจะผิดอะไรนี่ครับ โยมใส่บาตรก็รับ แล้วก็อนุโมทนาให้พร มันก็ปกตินี่ครับ :b6:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2009, 16:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 16:59
โพสต์: 79

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าอนุโลเอาตามความเห็นของตัวเองนะครับพี่น้อง ท่านบัญญัติว่าอย่างไรก็ตามนั้น เพราะท่านเห็นโทษแล้วท่านจึงบัญญัติห้าม ศึกษาให้ดีครับทุกท่าน ผิดก็คือผิด ครับพี่น้อง ไม่มีว่าผิดนิดเดียวไม่เป็นไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2009, 17:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.พ. 2008, 10:17
โพสต์: 97

ที่อยู่: นครปฐม

 ข้อมูลส่วนตัว


อาบัติทุกกฎ มันเป็นอาบัติเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะการมองข้ามอาบัติว่าเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ สุดท้ายอนาคตชาติกลายเป็นดิรัจฉานมามากแล้ว
การยืนแสดงธรรม แก่ญาติโยมที่นั่งอยู่ อาบัติแน่นอน
แต่ปัจจุบัน พระท่านมักจะแก้ตัวให้เข้าข้างตนเองอยู่เสมอว่าเป็นการอนุโลม เมื่อญาติโยมทำบุญแล้วอยากจะได้พรเพื่อเป็นสิริมงคล ก็เพิ่งจะรู้นี่แหละว่า ทำบุญเพื่อให้ได้พร เท่านั้นเองหรือคือบุญ
.....สุดแล้วแต่จะว่าไป....

.....................................................
อยู่อย่างเข้าใจในทุกสิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2009, 21:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ออกความเห็นด้วยคนครับ
ลุงชู เขียน:
พระสงฆ์บิณฑบาตตอนเช้าแล้วให้พรโยมที่นั่งอยู่หลังจากที่ใส่บาตรแล้ว
พระให้พรว่า "อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง"
พระท่านจะอาบัติหรือไม่ โดยที่ผู้ที่ใส่บาตรนั่งพนมมือด้วยอาการสำรวม
ขอบคุณครับ


วินัยข้อนี้มีบาลีย่อๆว่า
เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ฐิตา นิสินฺนสฺส ธมฺมํ เทเสนฺติ ฯเปฯ
ก็ โดยสมัยนั้นแลพระฉัพพคีย์ทั้งหลาย ยืนแสดงธรรมแก่ผู้นั่ง

ต้นเรื่องมาจากพระกลุ่มหนึ่ง เข้าไปบิณฑบาตแล้วยืนแสดงธรรม เรื่องมีผู้เพ่งโทษโพนทนา ก็เลยทรงมีพระบัญญัติ
ในบาลีใช้คำว่า ธมฺมํ เทเสนฺติ ต้องเข้าใจความหมายก่อนว่า แสดงธรรม (ธมฺมํ เทเสนฺติ) คืออะไร
ธมฺมํ หรือ ธรรม หมายถึง ถ้อยคำที่อิงอรรถอิงธรรม เป็นพุทธภาษิต สาวกภาษิต อิสีภาษิต เทวตาภาษิต
คือถ้อยคำที่เป็นเนื้อความของธรรม(ไม่จำกัดหมวดหมู่) ที่พระพุทธเจ้าตรัส หรือสาวกกล่าว ฤาษีกล่าว เทวดากล่าว
เทเสนฺติ แสดง หมายถึงทำให้........ปรากฏ , ทำให้ผู้อื่นเห็น(เข้าใจ).......... เช่นทำให้ธรรมปรากฏ หรือทำให้ผู้อื่นเห็น(เข้าใจ)ซึ่งธรรม
สรุปคือการอธิบาย พูดให้ปรากฏข้อความธรรม พูดให้เขาเข้าใจข้อธรรมตามความหมายของอาบัตินี้ และต้องมี
เจตนาเป็นการแสดงธรรม

จากตัวอย่างที่ถามมานั้น ต้องวินิฉัย ๒ ประเด็นครับ คือ
๑.ถ้าเจตนาท่านกล่าวอย่างนั้น แต่ว่า ใจท่านไม่รู้ว่านี่เป็นธรรมภาษิต ท่านประสงค์ในใจว่า ขอโยมจงมีอายุ วรรณะ สุขะพละ อันนี้ไม่จัดเข้าเรื่องแสดงธรรม เป็น อนาบัติ (คล้ายว่าจะมีพุทธานุญาต มีมูลเหตุจากนักบวช
ลัทธิอื่น)
๒.แต่ถ้าท่านประสงค์ในใจว่า (แปลบาลีบทเต็ม บาทท้ายของพรพระข้อนี้หน่อยครับ เพื่อความกระจ่าง)
ธรรม ๔ ประการคือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีปกติไหว้เป็นนิจจ์
โดยประสงค์เหมือนเหมือนพูดคำคมหรือโศลก หรืออะไรซักอย่างให้โยมฟัง ตรงนี้น่าจะผิด เพราะเป็นการแสดงเนื้อความของภาษิต (ผมไม่ทราบว่าใครภาษิต แต่คิดว่าเป็นได้ทั้งพุทธภาษิตและสาวกภาษิต จำไม่ได้แล้วว่าเจอที่
ไหน)

อาบัติจะมีได้ไม่อยู่ที่การสำรวมระวังของโยมครับ เพราะจริงๆข้อเสขิยวัตรนี้ แม้โยมใส่รองเท้า ยืนบนรองเท้า นั่งบนรถเป็นต้น ทั้งที่เรามองกันสุภาพแล้วนะ ถ้าภิกษุแสดงธรรม ก็ยังต้องด้วยวินัยข้อนี้เลยครับ ผมก็ยังไม่สบาย
ใจเลย เพราะผมคิดถึงว่า แล้วพระที่ยืนบรรยายที่แสตนละครับ คนนังฟังปาฐกตรึมเลย จะทำไงดี
:b8: :b8: :b8:

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 13:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความเห็นส่วนตัวในฐานะที่บวชมาแล้ว

อุบาสกธรรม ๕
หน้าที่ของอุบาสกอุบาสิกกา เอาใจใส่ทำนุบำรุงและช่วยกิจการพระพุทธศาสนา

พระภิกษุสงฆ์ ควรอนุเคราะห์คฤหัสถ์ในฐานะที่ตนเป็นเสมือน ทิศเบื้องบน ดังนี้
บอกทางสวรรค์ สอนวิธีดำเนินชีวิตให้ประสบความสุขความเจริญ

การที่พระสงฆ์แนะนำสั่งสอนให้ญาติโยมตั้งอยู่ในความดี และให้พรญาติโยมขณะบิณฑบาตจึงชอบด้วยกิจของสงฆ์ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 13:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 08:24
โพสต์: 1


 ข้อมูลส่วนตัว


เอาอย่างนี้นะพี่น้อง ถ้าเราเป็นชาวพุทธที่จริงๆกันนะครับ
เราอย่าไปมองในส่วนผิดเพียงเล็กน้อยเลย แต่ให้เรามองและเอาในประโยชน์ดีกว่า
การที่เราจ้อง ก็เหมือนกับการเพ่งโทษพระสงฆ์ ซึ่งมันไม่ควรด้วยประการทั้งปวง
อย่าให้สิ่งเหล่านั้นมา ปิดกั้นคุณธรรมคุณงามความดีที่เราจะแสดงออกเลยนะ
ทุกสิ่งมันไม่สมบูรณ์แบบตายตัว ให้เราเอาประโยชน์ มากกว่าเพ่งโทษจะดีกว่านะ
:b45:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 14:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว




vlcsnap6213578gf5.png
vlcsnap6213578gf5.png [ 394.17 KiB | เปิดดู 9595 ครั้ง ]
ลุงชู เขียน:
พระสงฆ์บิณฑบาตตอนเช้าแล้วให้พรโยมที่นั่งอยู่หลังจากที่ใส่บาตรแล้ว
พระให้พรว่า "อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง"
พระท่านจะอาบัติหรือไม่ โดยที่ผู้ที่ใส่บาตรนั่งพนมมือด้วยอาการสำรวม

ขอบคุณครับ

ตลกง่ะ ทำไมจะไม่ได้เล่า
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2009, 15:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


บัว 4 เหล่า เขียน:
อย่าอนุโลเอาตามความเห็นของตัวเองนะครับพี่น้อง ท่านบัญญัติว่าอย่างไรก็ตามนั้น เพราะท่านเห็นโทษแล้วท่านจึงบัญญัติห้าม ศึกษาให้ดีครับทุกท่าน ผิดก็คือผิด ครับพี่น้อง ไม่มีว่าผิดนิดเดียวไม่เป็นไร


ถ้าจะหาความผิดกันแล้วล่ะก็....กระผมว่า "โยมที่นั่งรับพรนั่นแหละ" ไม่รู้จักกาละเทสะ
และถ้าพระไม่ให้พรแล้วโยมก็จะตำหนิอีก(จิตใจขุ่นมัว แทนที่จะได้บุญกลับได้บาปพ่วงไปด้วย)....ให้พรไปก็ผิดอีก(รู้ว่าได้บาปแต่ก็ยังทำเพื่อจิตใจโยมที่ใส่บาตรจะได้ผ่องใส และได้อานิสงค์จากการทำบุญนั้นเต็มที่)

ลองๆพิจารณาดูเถิดครับว่าการกล่าวโทษสงฆ์นั้นชอบแล้วหรือยัง :b10:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 11:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 มี.ค. 2009, 21:09
โพสต์: 9


 ข้อมูลส่วนตัว


ง่า...เราไม่เคยรู้เลยว่า ทำให้ท่านอาบัติ
เพราะว่าจังหวัดที่เราอยู่ เป็นเรื่องปกติที่เวลาใส่บาตรเสร็จ บรรดาโยมทั้งหลายจะนั่งลงรับพร ทุกครั้งเลย
เพิ่งรู้จริงๆนะเนี่ย :b14:

ปล.ปกติคิดว่า เราไม่ควรยืนเสมอพระสงฆ์ หลังใส่บาตร ก็เลยจะนั่งลงก่อนท่านให้พรค่ะ
:b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 12:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 16:59
โพสต์: 79

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โยมนั้นผิดตรงที่ทำให้พระกระทำผิด
พระก็ผิดตรงที่ไม่สอนสิ่งที่ถูกต้องให้โยมรู้และยังยอมตนลงไปรับใช้โยม(ทำตามสิ่งที่โยมบอก)

สรุปก็คือ ผิดทั้งสองฝ่าย แก้ไขก็โดยการศึกษาให้ดีแล้วทำให้ถูกต้องสิครับ จะมาอนุโลมกันไปตามใจชอบได้อย่างไร ก็ธรรมวินัยระบุไว้แล้ว คิดพิจารณาสิครับพี่น้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 12:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 16:59
โพสต์: 79

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การจะกล่าวโทษ ก็ต้องเอาคำที่พระพุทธองค์บัญญัติไว้แล้ว ห้ามแล้ว มากล่าว ไม่ใช่จะมากล่าวโทษลอยๆ เอาตามความชอบใจของตนเอง เอาความคิดของตนเองมากล่าวโทษ

ถ้ารู้ว่าตนทำผิดก็แก้ไขสิครับ จะมาดึงดัน หาความถูกต้องใส่ตัวกันทำไม พระไตรปิฎกก็มีศึกษาสิ ปฏิบัติตามสิ พระอรหันต์ก็ยังมีอยู่ก็ไปศึกษากับท่านบ้างสิ เอาชนิดที่ว่า ตายเป็นตายก็จะขอปฏิบัติตามพระพุทธองค์ให้ได้

ทำเหยาะๆ แหยะๆ อยู่ได้ ที่วัดบ้านตาด หลวงตามหาบัวท่านยังไม่ยอมให้อยู่ร่วมด้วยเลยพวกพระที่ไม่ศึกษาพระธรรมวินัย ขนาดหนังสือพิมพ์ท่านยังห้ามพระยุ่งเกี่ยว ยิ่งโทรศัพท์ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะถ้าท่านรู้ว่าพระมีโทรศัพท์ท่านถึงกับตะเพิดออกจากวัดไปเลย นี่คิดพิจารณาดูเอา

บวชมาแล้วไม่ศึกษาธรรมวินัยให้ดีและปฏิบัติไม่ได้ก็สึกออกไปซะ อยู่ไปก็รังแต่จะทำให้ศาสนามัวหมอง

แต่ถ้าบวชแล้วตั้งใจศึกษาธรรมวินัย ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ก็ถือว่าท่านเป็นเนื้อนาบุญของโลกโดยแท้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 12:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2009, 09:03
โพสต์: 81


 ข้อมูลส่วนตัว


เอ ! ท่าทางท่านทีคัดค้านจะเป็นภิกษุแน่ ๆ ยังไงดีหละโยมเขาเริ่มฉลาดมากขึ้นรู้จักหาซื้อพระไตรปิฎกมาอ่านกันแล้วนะ พระธรรมวินัย นะอยู่ในพระไตรปิฎกทั้งหมดแต่เอาออกมาแค่ 227 เป็นมาตรฐานเท่านั้น เล็กน้อย ๆ อีกเพียบ ใครจะคัดค้านพุทธพจน์ก็เชิญตามสบาย เอามาให้อ่านอีกรอบ ท่านเจ้าอาวาสจะได้สั่งสอนพระลูกวัดอย่าทำผิดพระบัญญัตินะ เพราะเห็นมากับตัวเองแล้วตำหนิในใจตลอดเวลาว่าผิด


พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ - หน้าที่ 940

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้
ว่าดังนี้:-
พระอนุบัญญัติ
๒๑๔. ๖๙. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เรานั่งบนอาสนะต่ำ จัก
ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เจ็บไข้ ผู้นั่งบนอาสนะสูง
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุผู้นั่งบนอาสนะต่ำ ไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้นั่งอยู่
บนอาสนะสูง ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ นั่งบนอาสนะต่ำแสดงธรรมแก่คน
ไม่เป็นไข้ ผู้นั่งบนอาสนะสูง ต้องอาบัติทุกกฎ
อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑
อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๙ จบ
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๑๐
[๘๗๓] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์ยืนแสดงธรรมแก่
บุคคลผู้นั่งอยู่. . .
พระอนุบัญญัติ
๒๑๕. ๗๐. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เรายืนอยู่จักไม่แสดง
ธรรมแก่คนไม่เจ็บไข้ผู้นั่งอยู่.

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ - หน้าที่ 941

สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุผู้ยืนอยู่ ไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้นั่งอยู่ ภิกษุใด
อาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ ยืนแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้นั่งอยู่ ต้องอาบัติ
ทุกกฏ. อนาปัตติวาร
ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑
อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๑๐ จบ
ปาทุกาวรรค สิกขาบทที่ ๑๑
[๘๗๔] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์เดินไปข้างหลัง แสดง
ธรรมแก่บุคคลผู้เดินไปข้างหน้า. . .
พระอนุบัญญัติ
๒๑๖. ๗๑. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราเดินไปข้างหลัง จัก
ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เจ็บไข้ ผู้เดินไปข้างหน้า.
สิกขาบทวิภังค์
อันภิกษุผู้เดินไปข้างหลัง ไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้เดินไป
ข้างหน้า ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อเดินไปข้างหลัง แสดงธรรมแก่คนไม่
เป็นไข้ผู้เดินไปข้างหน้า ต้องอาบัติทุกกฏ.
:b34:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร