ของข้าพเจ้าขอเลือก ข้อ ๔ และ ข้อ ๒ เจ้าค่ะ
แต่ขออนุญาตคุณหล่อฯ ปรับเปลี่ยนคำว่า สอนธรรม
มาเป็น "แบ่งปัน แนะนำ" ดีกว่า

(เพราะข้าพเจ้าเองไม่กล้าสอนใคร
แล้วธรรมชาติของปุถุชนที่ยังเต็มไปด้วยอัสสิมานะ
ก็คงไม่ยอมให้ใครสอนง่ายๆ หรอกนะ (ข้าพเจ้าว่า)
ยกเว้นผู้ใฝ่ธรรมที่กำลังฝึกตนเพื่อข้ามโคตรเข้าสู่อริยะ....เท่านั้นแหละเจ้าค่ะ)

อีกข้อเจ้าค่ะ
ขออนุญาตเพิ่ม ข้อ ๗ อีกหนึ่งข้อว่า "เพื่อฝึกจิต" เจ้าค่ะ

เข้ามาดูคนทะเลาะกัน...ขอรับ

....เกิดอาการคลื่นไส้แปลกๆ...

มาตามกรรมครับ...กรรมนำให้เข้ามา...มีวิบากร่วมกันกับสมาชิกเว็บนี้อยู่ครับ

ต่างคนต่างนิสัย มากคนก็มากเรื่อง

....เพราะ "ไม่รู้" . .... ครับ

เหตุแรกสนใจในธรรมะ

เลือกข้อ 2 ค่ะ ชอบมานั่งอ่านและศึกษาธรรมะที่คนอื่นแนะนำ และถ้าตัวเราพอมีประสบการณ์ก็จะแบ่งปันความรู้ที่ศึกษามาค่ะ

ข้อ 1 ไม่ได้ว่างงาน
ข้อ 2 ไม่มีปัญญาล้ำเลิศพอที่จะสอนธรรมใคร
ข้อ 3 ไม่มีวิชาร้อน ๆ
ข้อ 4 ไม่ได้มาศึกษาธรรมในนี้แน่นอน แสดงความคิดกันหลากหลายเกินไป
ขี้เกียจกรอง ยิ่งร่ายมาจากตำราจะไม่แตะเลย เพราะที่บ้านมีเยอะแล้ว
ข้อ 5 ไม่แน่ ถ้าเจออะไรมันคัน ๆ ก็ต้องเกากันหน่อย ก็เห็น ขำ ขำ กัน ก็ ขำบ้างสิ่
ข้อ 6 ไม่ใช่วัยรุ่น ไม่ใช่นักแชท
จุดประสงค์ของเรามีเพียงข้อเดียว เจาะจง ชัดเจน ก็คือ
ข้อ 7 มาหาเพื่อนที่อาศัยอยู่ในบึงน่ะ
นอกนั้น ไม่มีอยู่ในความคิด

ศึกษาธรรมครับ

เข้ามาเพราะอยากลืมตาดูโลก
เข้ามาเพราะอยากดูดซับ สิ่งดีๆเอามาเป็นของตัว
เข้ามาเพื่อ ผ่อนคลาย เพื่อบันเทิง และเพื่ออาศัย
เข้ามาเพราะ ที่แห่งนี้ดีเลิศ ประเสริฐแท้ กว่าที่ไหนๆ
เข้ามาเพราะ อยากมารอ สหายเก่า ที่เรายังคุยกันไม่อิ่ม
และสหายเก่า ก็ตามมาจนพบ สาธุ สาธุ


เข้ามาเพราะ........................อีกมากมาย

เข้ามาดูละครมั้งคะ..

ไม่มีอะไรทำไงน้อง เข้ามายามว่าง

1.อยากหาคำตอบให้กับชีวิต...เหมือนความคิดภายในใจอยู่ท่ามกลางความสงสัย สงสัยว่าเกิดมาทำไม จักรวาลมีที่สุดสุดไหม และอีกหลายๆคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ และสุดท้ายก็ได้คำตอบที่ธรรมมะนี่แหละค่ะ ตอบได้ทุกเรื่อง
2.ธรรมะเป็นยาวิเศษ...ให้ธรรมมะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเราในทุกเรื่องค่ะ รวดเร็ว และตรงประเด็นที่สุด สมัยมัธยมเคยมีปัญหาที่เครียดมาก หาทางแก้ไม่ออก แต่พอดีอีกวันต้องสอบวิชาพระพุทธศาสนา อ่านไปท่องไปตามภาษา จนมาเจอเรื่องอริยสัจ 4 ก็เลยนำมาใช้ซะเลยค่ะ ได้ผลจริงๆด้วย...
3.ธรรมะเป็นเกราะคุ้มกัน...ในชีวิตเราต้องเจอเรื่องที่ทำให้เราอ่อนแอ ท้อแท้มากมาย ธรรมมะสอนให้เราเข้มแข็งขึ้น และที่สำคัญคือสอนให้เราเข้าใจโลก ไม่มีอะไรยัง่ยืน ผ่านมาเด๊วก็ผ่านไป อ่อนแอไปท้อแท้ไปขาดทุนชีวิตเปล่าๆเพราะเดี๋ยววันที่ไม่ดีนี้ก็จะผ่านไปอีกแล้ว...
4.ธรรมะเป็นวิทยาศาสตร์...หลายคนที่รู้จักธรรมเพียงผิวเผิน ไม่ได้มาศึกษาจริงอาจมองว่างมงาย แต่ถ้าศึกษาจะเข้าใจว่าก็ธรรมะคือวิทยาศาสตร์ มีเหตุผล ที่มาที่ไป ซึ่งตอนแรกก็ไม่ค่อยเชื่อ เจอหลักความเชื่อกาลามสูต10ประการ(อ่านตอบสอบวันนั้นแหละค่ะ) สอนเราได้ดีมาก
1. มา อนุสสเวนะ อย่าได้เชื่อถือ ตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา
2. มา ปรัมปายะ อย่าได้เชื่อถือ ตามถ้อยคำสืบๆ กันมา
3. มา อิติกิรายะ อย่าได้เชื่อถือ โดยตื่นข่าวว่าได้ยินอย่างนี้
4. มา ปิฏกสัมปทาเนนะ อย่าได้เชื่อถือ โดยอ้างตำรา
5. มา ตักกเหตุ อย่าได้เชื่อถือ โดยเดาเอาเอง
6. มา นยเหตุ อย่าได้เชื่อถือ โดยคาดคะเน
7. มา อาการปริวิตักเกนะ อย่าได้เชื่อถือ โดยความตรึกตามอาการ
8. มา ทิฏฐินิชฌานักขันติยา อย่าได้เชื่อถือ โดยชอบใจว่าต้องกับทิฐิของตัว
9. มา ภุพพรูปตายะ อย่าได้เชื่อถือ โดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้
10. มา สมโณ โน ครูติ อย่าได้เชื่อถือว่าสมณะนี้คือครูของเรา พออ่านจบก็ใช้หลักนี้แหละค่ะ จึงต้องลองพิสูจน์ธรรมะ

5.มีเวลาว่าง...หลังจากที่ไปเรียน ทำงาน เล่นเกม เล่นM TV โทรศัพท์ ปลูกต้นไม้และอีกหลายๆ เหมือนไม่รู้จะทำอะไรก็เลยอยากหาอะไรที่เป็นสาระให้กับตัวเอง เสียดายเวลาที่ผ่านไปวันๆ เลยนึกว่าศึกษาธรรมดีกว่า น่าค้นหา และที่สำคัญรู้สึกว่าเป็นการพัฒนาศักยาภาพของตนเองในทางความคิด พอความคิดดีขึ้นทำอะไรก็ง่ายขึ้นค่ะ ^^~

***แล้วสิ่งเหล่านี้ทั้ง5.ข้อจะหาได้จากไหน คำตอบหนึ่งที่มีอยู่ในใจก็ที่เวปสนทนาธรรม