ทาน
การให้, สิ่งที่ให้, ให้ของที่ควรให้แก่คนที่ควรให้
เพื่อประโยชน์แก่เขา, สละให้ปันสิ่งของตน เพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น
ทาน มี ๒ หมวด ดังนี้
ทาน ๒ คือ - อามิสทาน ให้สิ่งของ
- ธรรมทาน ให้ธรรมะ
ทาน ๒ คือ - สังฆทาน ให้แก่สงฆ์
หรือให้เพื่อส่วนรวม
-
ปาฏิบุคลิกทาน ให้เจาะจงแก่บุคคลผู้ใดผู้หนึ่งโดยเฉพาะ
คำนิยามความหมายของทานข้างต้นนี้
นำมาจากพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของ พระธรรมปิฎก
(ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
ทาน
เป็นชื่อของการให้ และสิ่งที่ให้ คนที่ให้ทานท่านเรียกว่า
ทานบดี (ทานนะบอดี) เจ้าของทาน คือ เป็นเจ้าของแห่งทานนั้นตลอดไป
ใครจะมาแย่งชิงเอาไปไม่ได้
ในทาน ๒ หมวดข้างต้นนี้ พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญว่า
ธรรมทาน (การให้ธรรมะเป็นทาน) และสังฆทาน (การให้แก่สงฆ์หรือส่วนรวม)
ว่าเป็นทานอันเลิศของแต่ละฝ่าย
แต่ในทาน
๒ อย่างนี้ ย่อมจะต้องมีคู่กันไป จะตัดออกแล้วเอาแต่ส่วนใดส่วนหนึ่งนั้น
ก็หาสำเร็จประโยชน์ไม่ โดยเฉพาะในหมวดที่ ๑ อามิสทานและธรรมทานย่อมนั้นจะต้องเดินไปด้วยกัน
เหตุทั้งนี้ เพราะ
.....
อามิสทาน
เป็นเครื่องบริหารกาย
ธรรมทาน
เป็นเครื่องบริหารใจ
ในสองอย่างนี้จะต้องเดินเคียงคู่กันเสมอ
ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ไม่อาจที่จะสำเร็จประโยชน์อันสูงสุดได้
ดังนั้น ในฐานะปุถุชนเต็มขั้น จึงควรที่จะต้องบำเพ็ญทาน
๒ อย่างนี้ควบคู่กันไป ไม่ควรที่จะมุ่งทำแต่เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
เพราะทานทั้งสองอย่างนี้ย่อมต้องอาศัยซึ่งกันและกัน
ร่างกายของคน
ย่อมต้องอาศัยวัตถุทานเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง ฉันใด
?
จิตใจก็ย่อมจะต้องอาศัยธรรมะ เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงฉันนั้น
!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
สำหรับชาวบ้านด้วยแล้ว ถ้าไม่บำเพ็ญทานเลย ภิกษุทั้งหลายก็อยู่ไม่ได้
เมื่อภิกษุไม่มีเสียแล้ว พระพุทธศาสนาจะตั้งอยู่อย่างครบถ้วนบริบูรณ์ได้อย่างไร
?
ขอแต่ว่า ผู้ที่บำเพ็ญทานอยู่เป็นประจำแล้ว ขออย่าได้ย่ำเท้าอยู่กับที่
ขอให้รักษาศีล และเจริญภาวนาร่วมด้วย มิฉะนั้นท่านก็ไม่อาจที่จะรับอานิสงส์แห่งพระพุทธศาสนาได้ครบวงจร