ขอบคุณ คุณน้ำ มาก ๆค่ะ มากมายจริง
เลือกทานไม่ถูุก น่าทานทั้งนั้น สงสัยจะกลิ้งได้ก็คราวนี้แหละ
ชอบมา..กกก

ขอบคุณ คุณปลายฟ้า...ค่ะ พรุ่งนี้ยังมีหวัง
เหมือนพระอาทิตย์ขึ้นทุกวัน ภาพสวยจริง ๆ ค่ะ

สาธุ คุณอมิตาพุทธ สำหรับคำขอบคุณและบทกวีอ่านทีไรก็สุขใจ

กลอนบทนี้ มีกัลยาณมิตร ท่านนึง ฝากมาโพสต์ครับ
คงจะออกมาจากความในใจของท่านน่ะครับ

"ยืนอยู่ริมน้ำ เดียวดาย
สายตาทอดไกล เวิ้งกว้าง
เรือลำน้อย เทียบคอย
ผู้เพียรถอนใจ อำลา

ยืนอยู่ปากปล่อง เหวลึก
สายตาทอดลง เบื้องล่าง
ลูกไฟหล่อหลอม ลุกลาม
ผู้เพียรคิดดับ ตัวตน

ยืนอยู่ริมผา สูงชัน
สายตาทอดไป สุดหล้า
ฟ้าใสดาวกระจ่าง ระยับตา
ผู้เพียรคิดกลับ คืนรัง"

แกไปยืนตั้งสามที่เลยนะ

ริมน้ำ ปากปล่อง ริมผา

ยืนตรงไหน ก็รำพันตรงนั้น

รำพันตรงริมน้ำคงไม่เท่าไร

ไปรำพันตรงปากปล่อง กับริมผานี่สิ คงต้องมีเสียวกันบ้างหละ

ไอ้ตรงที่ดีๆ มีเยอะแยะ ยักไม่รู้จักไปยืนทอดถอนใจ


หากชีวิตมนุษย์เรา ต้องการนำพาตนให้พ้นจากปัญหา
สิ่งแรกที่ควรทำคือ

พยายามเลือกตำแหน่งยืนที่ปลอดภัย ทรงตัวให้ได้ไม่โอนเอน
เมื่อมีหลักเบื้องต้นมั่นคงดีแล้ว

ก้าวต่อไปไม่ว่าอะไรๆ ก็จะง่ายขึ้น

ดีจ๊ะ คุณน้อง เมื่อวานแหย่นึกว่าเป็นหวัด 2009 ซะแล้ว
วันนี้ดีขึ้นแล้วล่ะ

อ่านกลอนแล้ว ออกแนวเศร้า ๆ นะ คุณอมิตาพุทธ
คนไร้สาระมี 2 แนวความคิด 1 เหมือนคนนี้กำลังคิดจะฆ่า
ตัวตาย 2.จิตอาจจะกำลังหลุดพ้น ถอดถอนอุปาทานจากความ
เป็นมนุษย์




อนุโมทนาสาธุ ค่ะ คุณบัวศกล

สวัสดียามดึกใกล้รุ่ง ครับ คุณ คนไร้สาระ
ไม่สบายหรือครับ ดีใจด้วยนะครับ ที่ไม่เจอ 2009
ดูแลสุขภาพด้วยครับ


เจ้าของบทกลอนตอนนี้ท่าน ยังสบายดีอยู่ครับ

ขอบคุณค่ะ คุณอมิตาพุทธ ตอนนี้อาการดีจน
เกือบหายเป็นปกติแล้วค่ะ ดีใจค่ะที่เจ้าของกลอน
ยังเป็นปกติดีอยู่ ฝากบอกด้วยว่าคนไร้สาระขอบคุณมาก
สำหรับบทกลอนและเป็นกำลังใจให้

สวัสดีครับ ท่าน อมิตาพุทธ สวัสดีครับคุณ คน.....สาระ
พอดีผมหากวีของตัวเองไม่เจอ เมื่อท่านอมิตาพุทธ
มีผู้ฝากบทธรรมมาลง ผมจึงฉวยโอกาส ค่อนแคะแกะเกา
เอามาถูๆไถๆ เป็นคำคมตามแบบฉบับทู่ๆของผม

ซึ่งหวังว่า ท่านเจ้าของผู้ต้นฉบับ เธอคงจะไม่ถือสานะขอรับ

แล้วที่ถามถึงผู้ป่วยไข้ไม่สบายเนี่ย
ใช่หมายถึงคนที่กำลังหายสาบสูญไปจากสถานธรรมแห่งนี้ในขณะนี้รึเปล่าครับ

แล้วบัวศกลรู้จักไหมครับ
คือเผื่อว่ารู้จักบัวศกล จะได้ฝากความนึกถึง และความเป็นห่วงไปถึงเธอด้วย

แต่ถ้าบัวศกลไม่รู้จัก ก็จะได้สงบวาจา รู้หนอๆอยู่เงียบๆ แบบอยู่เงียบๆคนเดียว
ของคุณกรัชกาย

แล้วนี่คุณแมวขาวหายไปไหนเนี่ย หรือไปกับแม่ครัว

ขอโทษนะคะ ยังอดที่จะเป็นห่วงเป็นใยในจิตอันเปี่ยมไปด้วยเมตตาของคุณ อมิตา ไม่ได้
แต่เท่าที่เห็น คุณเป็นผู้ที่มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระโพธิสัตว์ เป็นอย่างมาก
ถ้าอธิษฐานได้ เบื้องต้นอธิษฐานเบา ๆ ขอเป็นตะเกียงที่โต๊ะทำงานของพระโพธิสัตว์ก็งามล้นเหลือแล้ว
(อันนี้มุขแซวนะคะ)
เมื่อเป็นตะเกียงนาน ๆ เห็นกิจของพระโพธิสัตว์ทุกเมื่อเชื่อวัน แล้วยังรู้สึกเลื่อมใสในเส้นทาง
ก็ค่อยอธิษฐานต่อยอดออกไปก็ได้นะคะ...อิ อิ
แต่หรือว่าคุณแอบ อธิษฐานไปแล้วล่ะนี่....

พระโพธิสัตว์ หมายถึง บุคคลที่บำเพ็ญบารมีหรือกระทำความดีต่างๆ เพื่อให้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล
บารมี หมายถึง การกระทำที่ประเสริฐ การกระทำที่ประกอบด้วยกุศลเจตนาคุณงามความดีที่ควรกระทำ คุณงามความดีที่ได้บำเพ็ญมา คุณสมบัติที่ทำให้ยิ่งใหญ่ เป็นธรรมส่วนหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งช่วย เหลือเกื้อกูลให้ผู้ปฏิบัติได้ถึงซึ่งโพธิญาณ

บารมีที่พระโพธิสัตว์บำเพ็ญ คือ

1. ทานบารมี หมายถึง การสละออก การให้ต่างๆ
2. ศีลบารมี หมายถึง การรักษาศีลให้เป็นปกติ ถ้าเป็นฆราวาสก็ถือศีล 5 ถ้าเป็นนักบวชก็ถือศีล 8 ขึ้นไป
3. เนกขัมมะบารมี หมายถึง การออกบวช (หากฆราวาสถือศีล๘ ก็นับเป็นเนกขัมบารมีได้เช่นกัน เพราะเป็นการกระทำเพื่อละกาม)
4. ปัญญาบารมี หมายถึง การกระทำเพื่อเพิ่มปัญญา
5. วิริยะบารมี หมายถึง การกระทำที่ใช้ความเพียรเป็นที่ตั้ง
6. ขันติบารมี หมายถึง การอดทนอดกลั้นต่อสิ่งต่างๆ
7. สัจจะบารมี หมายถึง การรักษาคำพูด ไม่กลับกลอก แม้ว่าจะต้องสละบางสิ่งเพื่อรักษาคำพูดไว้
8. อธิษฐานบารมี หมายถึง การตั้งมั่นในปรารถนา ตั้งจิตมั่นต่อคำอธิษฐาน
9. เมตตาบารมี หมายถึง มีความรักต่อสัตว์ทั้งหลายในโลกอย่างเท่าเทียม ประดุจมารดารักบุตร
10. อุเบกขาบารมี หมายถึง การวางเฉย การปล่อยวางในสิ่งที่ผิดพลาด ในสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ วางเฉยในความทุกข์ของตน

ซึ่งในแต่ละบารมีนั้นแบ่งย่อยเป็น 3 ขั้น ได้แก่

บารมีขั้นต้น คือ เนื่องด้วยวัตถุ และทรัพย์นอกกาย เช่น การสละทรัพย์ช่วยผู้อื่น จัดเป็น ทานบารมี รักษาศีลแม้ว่าจะต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง จัดเป็น ศีลบารมี หรือ ยอมถือบวชโดยไม่อาลัยในทรัพย์สิน จัดเป็น เนกขัมบารมี เป็นต้น
บารมีขั้นกลางหรืออุปบารมี คือ เนื่องด้วยเลือดเนื้อ อวัยวะ เช่น การสละเลือดเนื้ออวัยวะแก่ผู้อื่น จัดเป็น ทานอุปบารมี การใช้ปัญญารักษาอวัยวะเลือดเนื้อของผู้อื่น จัดเป็น ปัญญาอุปบารมี การมีความเพียรจนไม่อาลัยในเลือดเนื้อหรืออวัยวะ จัดเป็น วิริยะอุปบารมี มีเมตตาต่อผู้ที่จะมาทำร้ายเลือดเนื้ออวัยวะของตน จัดเป็น เมตตาอุปบารมี หรือ มีความอดทนอดกลั้นต่อผู้ที่จะมาทำลายอวัยวะของตน จัดเป็น ขันติอุปบารมี เป็นต้น
บารมีขั้นสูงสุดหรือปรมัตถบารมี คือ เนื้องด้วยชีวิต เช่น การสละชีวิตเป็นทานแก่ผู้อื่น จัดเป็น ทานปรมัตถบารมี ยอมสละแม้ชีวิตเพื่อจะรักษาคำพูด จัดเป็น สัจจปรมัตถบารมี ตั้งจิตไม่หวั่นไหวต่อคำอธิษฐานแม้จะต้องเสียชีวิต จัดเป็น อธิษฐานปรมัตถบารมี หรือ วางเฉยต่อผู้ที่จะมาทำร้ายชีวิตของตน จัดเป็น อุเบกขาปรมัตถบารมี เป็นต้น

สวัสดีครับ ท่านบัวศกล
เจ้าของบทกวี ที่เขาฝากข้าพเจ้ามาโพสต์นั้น
ท่านสบายดีครับ ไม่ได้เจ็บป่วยทางกายใดๆ

ส่วนตัวท่านนั้นเป็นใคร ข้าพเจ้าไม่สามารถบอกได้ครับ
เพราะต้องรักษาคำพูด ที่ให้ไว้กับเจ้าของบทกวี ว่า
อย่าได้บอกผู้ใดว่าบทกวีนี้เป็นของท่านครับ

สวัสดีครับ คุณ เอรากอน
ต้องขอบคุณจริงๆ สำหรับความเมตตาและความห่วงใย ของคุณเอรากอนที่มีต่อข้าพเจ้า รู้สึกตื้นตันมากมายครับ
และต้องขอบคุณอีกครั้ง ที่ได้นำเรื่องการสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์มาให้อ่านด้วยครับ
ข้าพเจ้าจะรับฟังคำแนะนำและคำตักเตือนไว้ครับ

...ดูก่อนท่านผู้นิรทุกข์ พระโพธิสัตว์จำต้องสำเร็จในธรรมอันเป็นคุณสมบัติ 8 ประการ

1.พระโพธิสัตว์ จักต้องบำเพ็ญตนให้เป็นคุณประโยชน์ต่อปวงสัตว์ โดยไม่ปรารถนารับผลตอบแทน
จากสัตว์ทั้งหลายใด ๆ
2.พระโพธิสัตว์สามารถเสวยสรรพทุกข์แทนสรรพสัตว์ได้ โดยมิบ่นหรือย่อท้อ
3.พระโพธิสัตว์สร้างคุณความดีไว้ประมาณเท่าไหร่ ก็สามารถอุทิศให้แก่สัตว์ทั้งหลายได้
โดยไม่หวงแหนตระหนี่ไว้
4.พระโพธิสัตว์ตั้งจิตอยู่ในสมณธรรมอันสม่ำเสมอในปวง สัตว์ ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
ถ่อมตนไว้ไม่ลำพองโดยปราศจากความข้องขัดใดๆ
5.พระโพธิสัตว์เห็นพระโพธิสัตว์ทุก ๆ องค์ ปานประหนึ่งเห็นพระพุทธองค์ อนึ่งพระสูตรใดยังมิเคยได้สดับรับฟัง ครั้นได้มีโอกาสสดับตรับฟังแล้ว ก็ไม่บังเกิดความคลางแคลงกังขาอย่างไรในพระสูตรนั้น
6.พระโพธิสัตว์ ไม่ หันปฤษฏางค์(หันหลัง)ให้กับธรรมของพระอรหันตสาวกแต่ สมัคร สมานเข้ากันได้กับธาตุดังกล่าว
7.พระโพธิสัตว์ไม่เกิดความริษยาในลาภสักการะอันบังเกิดแก่ ตนเอง สามารถควบคุมจิตของตนไว้ได้
8.พระโพธิสัตว์จักต้องหมั่นพิจารณาโทษของตนอยู่เป็น นิตย์ ไม่เที่ยวเพ่งโทษโพนทนาโทษของผู้อื่น
ตั้งจิตมั่นคงเด็ดเดี่ยวในการสร้างบารมี

อนุโมทนาสาธุค่ะ กัลยาณมิตรทุกท่าน

ขอบคุณค่ะคุณบัวศกล คนที่ไม่สบายคือ
คนไร้สาระเองค่ะ เป็นหวัดคิดว่าเป็นหวัด 2009
ส่วน คุณแมวขาวมณี เธอบอกว่า งดเล่าเข้าพรรษาค่ะ

หวัดดีค่ะคุณน้อง

สาธุ คุณอมิตาพุทธ

เห็นด้วยกับ คุณเอรากอน อนุโมทนาสาธุ
สำหรับข้อความให้ความรู้กัน รู้สึกครึ้นเครงดีค่ะ
มีเพื่อน ๆ มาเยี่ยมกัน ยินดีมากค่ะ

...ว่าแต่ว่า คุณyahoo
หายไปไหน หาเจ้าสาวเจอหรือยังค่ะ

อิ อิ...

วันนี้ผมกลับมาทักทายครับ คิดถึงครับ
คงยังไม่ได้เอากลอนอะไรมาฝากนะครับ...

เพราะอารมณ์ตอนนี้ มันซนครับ
ยังไม่สุนทรีย์...