สาธุ กัลยาณมิตรทุก ๆ ท่าน ทั้งบทกลอนและ
สาระดี ๆ ที่นำมาฝากกัน

เมื่อวานไปทำบุญถวายเทียนพรรษามา เอาบุญมาฝาก
กัลยาณมิตรทุก ๆ ท่าน ค่ะ

ป.ล ไม่ทราบว่า คุณแมวขาวมณี หายไปไหนค่ะ

ขอบคุณ คุณปลายฟ้า..ค่ะ
สำหรับบทกลอนสอนการปฏิบัติ

ยังไม่มีกลอนครับ แต่เอาเพลงมาฝากคงไม่ว่ากันนะครับ

CAN´T FIGHT THIS FEELING : REO Speedwagon

http://www.ijigg.com/songs/V2AD707FPB0

เป็นเพลงหว๊าน หวานครับ
ผมประทับใจเพลงนี้ตรงที่มันเป็นเพลงประกอบหนังเรื่องหนึ่ง
ที่เด็กสาวที่กำลังโตเป็นสาวคนหนึ่ง ใฝ่ฝันที่จะเป็นนักล่าปิศาจ
เพราะพ่อของเธอเป็นนักล่าปิศาจ และถูกปิศาจฆ่าตาย ตั้งแต่เธอยังจำความไม่ค่อยได้
แต่แม่ของเธอก็ไม่เคยเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอปราถนา และคอยกำราบเธอไว้ตลอด
เธอจึงไม่เคยที่จะเป็นตัวของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ใจเธออยากจะทะยานออกไปอยู่ตลอดเวลา
จนกระทั่งวันหนึ่ง พระเอกซึ่งเป็นนักล่าปิศาจเดินเข้ามาด้วยความบังเอิญ
และประหนึ่งเธอก็มองเห็นแสงเทียน ที่จะนำทางเธอไปสู่สิ่งที่เธอใฝ่ฝัน
และก็เป็นจุดที่เธอไม่อาจจะต้านทานสิ่งที่ใจเธอปราถนาได้อีกต่อไป
เธอก็เลยตัดสินใจหนีออกจากบ้าน เพื่อเริ่มต้นชีวิตการเป็นนักล่าปิศาจตามใจฝัน

ทุกครั้ง เวลาที่ผมดูหนัง ผมจะเก็บเกร็ดดี ๆ คิดวนกลับมาหาเรื่องธรรมได้ทุกที ไม่รู้เป็นโรคอะไร
เพลง หว๊าน หวาน อย่างนี้ล่ะครับ เป็นกำลังใจในการศึกษาธรรมดีแท้ ๆ

ยกมาท่อนสั้น ๆ เพื่อโชว์ความเห่ยของผมพอหอมปากหอมคอนะครับ
พอดีผมเกือบตกวิชาภาษาอังกฤษน่ะครับ ผมก็เลยไม่รู้สึกกระดากใจที่จะแปลภาษาผิด ๆ ถูก ๆ


"Youre a candle in the window On a cold, dark winters night"

แสงเทียน ที่ช่องหน้าต่าง ในคืนวันที่พายุซัดกระหน่ำและหนาวเหน็บ ก็คือ พระธรรมครับ

อย่าให้ผมเอาเพลงนี้มาแปลให้ฟังทั้งเพลงเลยครับ เดี๋ยวนักร้องเขาจะอกแตกตาย อิ อิ


แต่อดใจไม่ได้ที่จะเอามาฝากทั้งเพลง เพื่อน ๆ ที่แปลอังกฤษเก่ง ๆ ไปแปลให้เพี้ยนเป็นธรรมเอาเองนะครับ

CAN´T FIGHT THIS FEELING : REO Speedwagon

I cant fight this feeling any longer
And yet Im still afraid to let it flow
What started out as friendship, has grown stronger
I only wish I had the strength to let it show

I tell myself that I cant hold out forever
I said there is no reason for my fear
Cause I feel so secure when were together
You give my life direction
You make everything so clear
And even as I wander
Im keeping you in sight
Youre a candle in the window
On a cold, dark winters nightAnd Im getting closer than I ever thought I might

And I cant fight this feeling anymore
Ive forgotten what I started fighting for
Its time to bring this ship into the shore
And throw away the oars, forever

Cause I cant fight this feeling anymore
Ive forgotten what I started fighting for
And if I have to crawl upon the floor
Come crashing through your door
Baby, I cant fight this feeling anymore

My life has been such a whirlwind since I saw you
Ive been running round in circles in my mind
And it always seems that Im following you, girl
Cause you take me to the places that alone Id never find

หะ หะ หะ ผมไม่โรแมนติกขนาดนั๊นนนน
เพลงนี้ตอนที่ดูหนัง และได้ฟัง ผมนึกถึงสิ่งที่เป็นประหนึ่งแสงเทียน
ที่ค้ำจุนจิตใจผมมาตลอด ในช่วงเวลาที่ผมต้องต่อสู้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง
แม้ว่าพายุจะหนักแค่ไหน แสงเทียนนั้นก็ไม่เคยดับไปจากใจผม ซึ่งก็คือธรรม
เพราะธรรม ทำให้สายตาของผม clear
เพราะธรรม ทำให้ผมรู้ว่าผมจะหายใจไปเพื่ออะไร you give my life direction

อืมห์ โรแมนติก
แต่ก็อาจจะนะ ถ้าสายตาคนอื่น...คุณล่ะมั๊ง..หนึ่งคน...จะมองเห็นเป็นเช่นนั้นไปได้...ก็อาจจะใช่ก็ได้
ส่วนผมไม่รู้ครับ ผมไม่ค่อยได้แสดงออกทางนี้ซะด้วยสิ่
เพราะยังไม่เคยมีคนที่จะมาให้แสดงออก สักที
ผมก็คงตกอีหรอบประมาณว่าไม่มีที่ระบายออก ก็เลยจับธรรมะมาเป็นคู่ชีวิต
โอ้...ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมคงต้องยอมรับความจริงซะแล้ว ว่าผมเป็นคนโรแมนติก
แม้แต่เพลงหวาน ๆ ก็ยังนึกไปถึงธรรมได้ ผมไม่สงสัยแล้ว ทำไมสาว ๆ ถึงไม่กล้าอยู่ใกล้ผม


และถ้าอยู่ดี ๆ ผมหยิบเพลง Heavy Rock มา คุณจะว่าผมดิบ เถือน รึเปล่านี่

ขอบคุณ คุณyahoo ที่แวะมาเยี่ยมพร้อม
ทั้งบทเพลงค่ะ เพราะมาก ๆ พร้อมทั้งอธิบายที่มาของเพลง
คนไร้สาระก็มีความคิดคล้ายคุณ ว่าบทเพลงสามารถ
ให้ธรรมะเราได้ มีธรรมะเป็นคู่ใจเช่นกัน ด้วยมีความรู้สึกว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรแน่นอน
รู้สึกช่วงนี้คุณไม่ค่อยได้โพสต์เลย ปกติก็ติดตามไปอ่านที่คุณ
คุยกับคุณ บัวศกล วาทะคมคายไม่แพ้กันเลย


ขอบคุณ คุณน้ำ กำลังคิดว่าจะหาเนื้อเพลงกับคำแปล
เพราะแค่เห็นชื่อเพลงแล้ว ก็น่าติดตามให้ทราบความหมาย
เห็นด้วยกับคุณน้ำ คุณyahoo เป็นคนโรแมนติกเหมือนกันน่ะ
คนไร้สาระคิดว่า เราน่าจะมีกระทู้ บทเพลงกับธรรมะบ้างเนอะ

งานเข้าครับป๋ม...


เอ้า....โร ก็ โร ครับ โร-ตี หน้ากบ แหม...เขียวเชียว ขอบคุณครับ
คราวหน้า ถ้าจะเอารูปกบมาฝากผม ขอเป็นกบตัวสีฟ้า สี่น้ำเงิน สีม่วง สีคราม หรือสีอะไรก็ได้ครับ
โทน ๆ นี้ เพราะผมชอบ

ก็เพราะ นาฬิกา ไม่ใช่กาลเวลานี่จ๊ะ

กาลเวลาย่อมกลืนกินทุกสิ่ง ไปพร้อมๆกับการกลืนกินตัวมันเอง

ส่วนนาฬิกา เป็นเพียง สิ่งที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อจัดวางตำแหน่งของกาลเวลา
สำหรับให้รู้ว่า ตำแหน่งของเวลาบัดนี้อยู่ ณ.ตรงจุดไหน

กาลเวลาไม่เคยมีระยะหยุดนิ่ง แต่นาฬิกาพร้อมจะหยุดนิ่งได้ทุกเวลาและทุกเหตุผลที่จะหยุด

สิ่งนี้บอกให้รู้ได้ว่า ไม่มีสิ่งปรุงแต่งใด จะคงที่ได้ เช่นดังความคงที่ของกฏธรรมชาติ
และความคงที่ของกาลเวลา
เพราะกาลเวลาย่อมคงที่เสมอต่อการเคลื่อนไปข้างหน้าเพียงถ่ายเดียว

มีเพียงสิ่งหนึ่งที่คงที่อยู่ภายใต้กฏธรรมชาติเช่นสิ่งทั้งปวง
และเป็นเพียงสิ่งๆเดียวที่คงที่อยู่ได้ด้วยตัวของมันเองโดยไม่ถูกกาลเวลากลืนกิน
เพราะมันเป็นสิ่งซึ่งอยู่เหนือมิติของกาลเวลา

สิ่งนั้นนั่นก็คือ...............................

มันจะโรแมนติกอะไรกันนักกันหนา

น่าอิจฉา หวะ

ท่านเพื่อนจ๋า ท่านเพื่อนจ๋าของสหายเจ๊าะจ๋อ อิจฉา
เพราะท่านเพื่อนจ๋า อยากจะมาเป็นโรตี เคียงข้างสหายเจ๊าะจ๋ออีกหรือจ๊ะ จ๊ะ จ๋า...
ภาพสาวงามคราวก่อน ท่านเพื่อนจ๋าก็ไม่ยอมน้อยหน้าสหายไปหนหนึ่งแล้ว
คราวนี้ ท่านเพื่อนจ๋า คิดจะมาท้าชิงโรตีกับสหายเจ๊าะจ๋ออีกแล้วหรือจ๊ะ จ๊ะ จ๋า

ผมอิจฉาว่า ทำไมผมไม่ยอมโรแมนติกบ้างหวา

ไอ้โรแมนติกของผมมันหายหัวไปไหน นานแท้หวา

แล้วสหายผม........แกมีมุขนี้ด้วยหรือหวา