Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงรับประทานเนื้อสัตว์หรือไม่ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2008, 7:51 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทโธ ท่านผู้ใดทราบ กรุณาช่วยขยายความด้วย เพราะเคยได้ยินคนพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ไม่ทราบแน่ชัด ถือว่าเป็นวิทยาทาน สาธุสาธุ สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2008, 7:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ฉันครับ ฉันทั้งชีวิต
พุทธองค์ต้องการให้ภิกษุเป็นผู้เลี้ยงง่าย จึงไม่ให้เลือกฉันเลือกกินนัก

แต่มีเรื่องราวทั้งพระวินัย และพระประวัติเรื่องนี้ชัดเจน
เด๋วผู้รู้แถวนี้จะช่วยยกมาให้ทราบกัน
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ค.2008, 11:47 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ varittra ครับ

พระพุทธเจ้าทรงรับประทานเนื้อสัคว์ครับ ก็ตามแต่ใครจะเอาอะไรมาถวาย เป็นผักก็ได้ เป็นเนื้อก็ได้

คุณลองคิดดูครับว่า ทำไมพระพุทธองค์จึงสอนสาวก (พระ) ว่า พระที่ไปคิดว่า ชาวบ้านเขา
ต้องฆ่าสัตว์เพื่อมาถวาย พระฉันอาหารนั้นลงไป ท่านก็ผิดแล้ว ต้องมีอกุศลจิตติดตัวไป แม้ว่า
ท่านไม่ได้ฆ่าสัตว์นั้นด้วยตัวเอง


แล้วทำไม พระพุทธองค์ท่านก็ยังฉันอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์เสมอ พระองค์มิได้หยุด หรือห้ามสาวกมิให้ฉัน

คำตอบก็คือ

เพราะพระพุทธองค์ท่านรู้ความจริงว่า บาปกรรมก็คือ การกระทำโดยเจตนาในจิตที่คิดเป็นอกุศล
ถ้าจิตไม่คิดเป็นอกุศล ก็ไม่มีบาปเกิดขึ้น พระพุทธองค์ท่านจึงไม่นำความคิดที่เป็นอกุศล
มาใส่ลงไปในจิตของตัวเอง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 1:50 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ คุณพลศักดิ์, คุณคามินธรรม แม้จะไม่มากแต่ก็ทำให้เห็นธรรม อนุโมทนาบุญ ด้วย สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 4:38 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

http://www.larnbuddhism.com/webboard/showthread.php?t=1417
ลองอ่านดูนะคับ มีอะไรเยอะแยะดี
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 9:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
เพราะพระพุทธองค์ท่านรู้ความจริงว่า บาปกรรมก็คือ การกระทำโดยเจตนาในจิตที่คิดเป็นอกุศล
ถ้าจิตไม่คิดเป็นอกุศล ก็ไม่มีบาปเกิดขึ้น พระพุทธองค์ท่านจึงไม่นำความคิดที่เป็นอกุศล
มาใส่ลงไปในจิตของตัวเอง




อ้อ........อือมมม...งั้นผมจะพยายามกินเนื้อสัตว์แบบไม่คิดอกุศล
แล้วกระผมจะคิดเป็นกุศลอย่างไรครับ อาจารย์วานสั่งสอนด้วยครับ สาธุ
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
TU
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 9:42 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ข้อคิดเรื่องมังสวิรัติ (เสฐียรพงษ์ วรรณปก)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10805

ข้อคิดเรื่องอุททิสมังสะ (เสฐียรพงษ์ วรรณปก)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10384

มังสวิรัติในทัศนะเสฐียรพงษ์ วรรณปก
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11525

อาหารธรรมชาติ (เสฐียรพงษ์ วรรณปก)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11527

ลังกาวตารสูตร (เสฐียรพงษ์ วรรณปก)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10804
 

_________________
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวYahoo Messenger
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 11:23 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ"ฌาณ" คับ



อ้อ........อือมมม...งั้นผมจะพยายามกินเนื้อสัตว์แบบไม่คิดอกุศล
แล้วกระผมจะคิดเป็นกุศลอย่างไรครับ อาจารย์วานสั่งสอนด้วยครับ



ถ้าคุณถูกฝึกให้กินแต่มังสวิรัติ มันก็ยากที่จะเปลี่ยนสัญญาหรือความจำในอดีตของคุณได้

ผมเป็นคนที่กินเนื้อได้ ขนาดพระโพธิสัตว์กวนอิมมาดลจิตให้ผมเลิกกันเนื้อวัว และพยายาม
ให้ผมสะอิดสะเอือนทุกครั้งที่กิน ผมยังขอให้พระองค์ไปเลย เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพของผม

หลานสาวผม 2 คน ก็ไม่ยอมกินเนื้อวันมาตั้งแต่เด็ก และนับถือพระโพธิสัตว์กวนอิมมาก

ตอนอายุหลานของผมทั้ง 2 คน อายุ 3 ขวบ พวกเขาเรียกผู้หญิงคนหนึ่งในโลกวิญญาณอย่างสนิทใจว่า

"แม่" ผมรู้โดยทันทีว่าพระโพธิสัตว์กวนอิมส่งพวกเขามา เวลาไปห้างสรรพสินค้า พวกเขาจะไม่
ยอมเข้าร้านที่มีการขายเนื้อวัวเด็ดขาด ผมรู้ว่าพระโพธิสัตว์กวนอิมจะบีบผมให้เลิกทานเนื้อวัว
เหมือนที่ท่านบีบให้หลวงปู่โต๊ะเป็นศิษย์ และในที่สุดก็ต้องทานอาหารเจ


ผมคงไม่อยากแนะนำอะไรคุณ เดี๋ยวผู้ที่อยู่เบื้องหลังการรับประทานอาหารของคุณ
เขาจะต่อว่าผม
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เมธี
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 12:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เพิ่มเติมครับ

พระเทวทัตเคยขออนุญาตพระพุทธเจ้าห้ามมิให้ภิกษุฉันนั้นเลยตลอดชีวิต แต่พระพุทธองค์ทรงห้ามไว้ เนื่องจากต้องการให้ภิกษุเป็นผู้เลี้ยงง่าย

พระพุทธเจ้าท่านทรงอนุญาตให้ภิกษุฉันเนื้อ ฉันปลา ได้

แต่มีข้อยกเว้น คือ เนื้อนั้น ต้องไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้สงสัย

ว่าฆ่ามาเพื่อเลี้ยงภิกษุโดยเฉพาะ

และก็ทรงไม่อนุญาตให้ฉัน เนื้ออีก 10 อย่าง ตัวอย่างเช่น เนื้อมนุษย์ เนื้อช้าง เนื้อม้า...


ครับผม

ทานเพื่อยังไว้ซึ่งอัตภาพ เพื่ออยู่ประพฤติธรรม

มิได้เพื่อให้บำรุงกิเลสน่ะครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 9:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

-ขอบพระคุณ คุณ TU เป็นอย่างมากที่แนบเรื่องมาให้อ่าน จะเก็บไว้อ่านวันหลัง ตัวข้าพเจ้าเองขณะนี้ก็รับประทานมังสวิรัต เฉพาะเข้าพรรษา เผลอๆ อาจต่อถึงเทศกาลกินเจ
-คุณพลศักดิ์ ด้วย ที่ทิ้งแง่คิดไว้ให้ ช่วงนี้ตัวเองงานยุ่งมาก เลยไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาคุย ยังไงก็ขอขอบพระคุณทุกท่าน ที่เข้ามาแชร์ความรู้กัน
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ

แก้ไขล่าสุดโดย บัวหิมะ เมื่อ 31 ก.ค.2008, 3:30 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ชัยพร พอกพูล
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2006
ตอบ: 73
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 9:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมเองเคยตั้งกระทู้ถามทุกท่านในบอร์ดเหมือนกันครับเกี่ยวกับเรื่องการทำงานเป็นคนฆ่าสัตว์ในโรงฆ่าสัตว์ ทุกท่านที่เข้ามาตอบก็แสดงทรรศนะไปในทางเดียวกันว่าการฆ่าสัตว์อย่างไรก็เป็นบาป แต่เป็นบาปกรรมในระดับที่เราทำไปโดยหน้าที่ ไม่ได้ฆ่าเพื่อความสนุกสนาน ก็คงจะเหมือนทหารในสนามรบนั่นแหละครับ ชาติสั่งให้เรามารบก็ต้องฆ่าฝ่ายตรงข้ามเพราะหน้าที่ ไม่ได้มีใครเกลียดใครเป็นการส่วนตัว ถ้าเราไม่ฆ่า เราก็จะถูกฆ่าและอาจทำให้ทุกคนในทัพถูกฆ่าด้วย มันจึงเป็นผลกรรมในระดับหนึ่ง ไม่ได้หนักหนาเท่าการทำโดยเจตนาร้าย ผมเองก็กินเนื้อสัตว์เพราะคิดว่าสัตว์จะตัวใหญ่ตัวเล็กก็หนึ่งชีวิต หนึ่งวิญญาณ บาปกรรมที่ฆ่าเค้ามันควรจะเท่ากัน พืชผักก็เช่นกัน มีชีวิตทั้งนั้น แต่จะมีวิญญาณรึเปล่าผมไม่รู้นะครับ เราบริโภคซากของเขาก็เพื่อให้เรามีชีวิตต่อไป หากกินแต่พืช ร่างกายก็ทรุดโทรม หากกินแต่เนื้อร่างการก็แย่เช่นกัน จึงควรกินทุกอย่างให้ครบ 5 หมู่ แต่อย่าให้มากไปหรือน้อยไป และพึงระลึกว่าเราใช้ชีวิตเค้ามาต่อชีวิตเรา เราก็ควรจะใช้ชีวิตที่ได้มานั้นเป็นคนดีของครอบครัว สังคม และประเทศชาติต่อไปครับ
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 9:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
พืชผักก็เช่นกัน มีชีวิตทั้งนั้น แต่จะมีวิญญาณรึเปล่าผมไม่รู้นะครับ


อันนี้วอนอาจารย์ช่วยอธิบายหน่อยครับว่าพืชมีวิญญาณไหมครับ

อ้างอิงจาก:
หากกินแต่พืช ร่างกายก็ทรุดโทรม


อันนี้ไม่จริงอะครับ ผมว่าร่างกายแข็งแรงกว่านะ.....
........คุณครูเคยสอนผมว่าประเทศหรรษากินแต่พืชผักอายุยืนนานกว่าร้อยปี ชนชาวเคอร์กิชแถวอเมริกากินแต่ผักอายุกว่า 140 ปี.......
แต่ชาวเอสกิโมอยู่เมืองหนาวกินแต่เนื้อสัตว์อายุเฉลี่ย 45 ปี(ตายเร็ว)
ยิ้ม
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 11:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ"ฌาณ" ครับ


พืชผักก็เช่นกัน มีชีวิตทั้งนั้น แต่จะมีวิญญาณรึเปล่าผมไม่รู้นะครับ

อันนี้วอนอาจารย์ช่วยอธิบายหน่อยครับว่าพืชมีวิญญาณไหมครับ



ผมคิดว่าพืชผักมีวิญญาณนะครับ แต่ระดับการพัฒนาความรู้สึก(เวทนา)ต่ำมากๆ จนบางศาสนา
บอกว่าไม่มีวิญญาณ จริงๆ ที่มีระดับการพัฒนาความรู้สึก(เวทนา)สูงกว่าพืชอื่น เช่น ต้นตานีบางต้น
ต้นตะเคียนบางต้น


สำคัญที่สุด คือ จิตของเราจะต้องไม่ไปคิดเป็นอกุศลเด็ดขาดเมื่อกินพืช และใน
ทุกศาสนาก็ระบุว่า บาปเกิดจากการฆ่ามนุษย์และสัตว์เท่านั้น

ถ้าคุณไปคิดลึกซึ้งว่ากินผักก็ไม่ได้ ก็เท่ากับคุณกำหนดสิ่งที่เป็นอกุศลขึ้นมาอีกตัว แล้วต่อไปก็อาจจะ
คิดมากว่า เราทำอะไรก็ไม่ได้ หายใจก็ไม่ได้ เพราะเชื้อโรคเป็นแสนเป็นล้านตัวต้องตายไป
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 31 ก.ค.2008, 3:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ พิมพ์ว่า:
คุณ"ฌาณ" ครับ


พืชผักก็เช่นกัน มีชีวิตทั้งนั้น แต่จะมีวิญญาณรึเปล่าผมไม่รู้นะครับ

อันนี้วอนอาจารย์ช่วยอธิบายหน่อยครับว่าพืชมีวิญญาณไหมครับ



ผมคิดว่าพืชผักมีวิญญาณนะครับ แต่ระดับการพัฒนาความรู้สึก(เวทนา)ต่ำมากๆ จนบางศาสนา
บอกว่าไม่มีวิญญาณ จริงๆ ที่มีระดับการพัฒนาความรู้สึก(เวทนา)สูงกว่าพืชอื่น เช่น ต้นตานีบางต้น
ต้นตะเคียนบางต้น


สำคัญที่สุด คือ จิตของเราจะต้องไม่ไปคิดเป็นอกุศลเด็ดขาดเมื่อกินพืช และใน
ทุกศาสนาก็ระบุว่า บาปเกิดจากการฆ่ามนุษย์และสัตว์เท่านั้น

ถ้าคุณไปคิดลึกซึ้งว่ากินผักก็ไม่ได้ ก็เท่ากับคุณกำหนดสิ่งที่เป็นอกุศลขึ้นมาอีกตัว แล้วต่อไปก็อาจจะ
คิดมากว่า เราทำอะไรก็ไม่ได้ หายใจก็ไม่ได้ เพราะเชื้อโรคเป็นแสนเป็นล้านตัวต้องตายไป



พุทโธ -ลึกซึ้งจริงๆ แต่ละท่าน นี่คือผลบุญของการได้เข้ามาในลานธรรมจักรแห่งนี้ อานิสงฆ์ ทำให้ทราบข้อมูล และมีความรู้ขึ้นอีกมาก
-การที่บุคคลแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นกัน นั้นดีแน่ อย่างน้อย ก็ในแง่ได้พัฒนาความคิด(ใช้ความคิดอย่างสร้างสรรค์)
-เพราะฉะนั้น พวกเราชาวลานธรรมจักร มาร่วมกันแชร์และถ่ายทอดความรู้ ที่ท่านทั้งหลายมีกันเถอะ อย่าเก็บไว้คนเดียวเลย สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 31 ก.ค.2008, 4:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ"ชัยพร พอกพูล"ครับ




ผมเพิ่งเข้าในในเว็บนี้เดือนเดียว ไม่ได้ติดตามกระทู้ของคุณ เกี่ยวกับเรื่องการทำงานเป็นคนฆ่าสัตว์ในโรงฆ่าสัตว์

ผมขอแสดงความเห็นดังนี้

การฆ่าสัตว์ตามหน้าที่ไม่ได้เป็นบาป ถ้าจิตไม่คิดเป็นอกุศล ขนาดเพขรฆาตฆ่าคนตามหน้าที่
ยังไม่เป็นบาปเลย ผมขอยกเรื่องราวของพระสารีบุตรที่สอนเพชรฆาตมาอ้าง

พระสารีบุตรสอนเพชรฆาต โดยพระสารีบุตรถามเพชรฆาตที่มีอาชีพฆ่าคนว่า "ท่านฆ่าเอง หรือ ทำตามคำสั่ง
ใคร"


เพชรฆาตตอบว่า "ข้าพเจ้า ทำตามคำสั่งพระราชา"

พระสารีบุตรย้อนถามว่า "เมื่อท่านไม่ฆ่าเอง แล้วจะมีบาปด้วยหรือ" (เป็นคำถาม ไม่ได้โกหก)

เพชรฆาตเคราแดง เข้าใจไปเองว่า เออ งั้นคงไม่เป็นบาป แล้วก็สบายใจ ใจน้อมจนเข้าถึงธรรมพอดี

แล้วก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน

เรื่องนี้ก็เหมือนเรื่องพระพุทธเจ้าสอนสาวกไม่ให้ไปคิดว่า ชาวบ้านไปฆ่าสัตว์มาเพื่อบิณฑบาตร

จิตใต้สำนึกจะบอกคุณเองว่า บาปหรือไม่บาป เป็นหน้าที่หรือเป็นเจตนาที่คุณฆ่าเอง ถ้าเป็นหน้าที่ก็
ไม่บาป สำคัญที่คุณต้องไม่นำบาปมายัดใส่ตัวคุณเองเท่านั้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
kokorado
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 12 ก.ค. 2008
ตอบ: 104
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 01 ส.ค. 2008, 6:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรื่องของพระสารีบุตรกับเพชรฆาต นั้นเป็นเรื่องที่กล่าวในจริยะศาสตร์ ว่ามีการยกเว้นในเรื่องการพูดโกหกหรือไม่ เนื่องจากพระสารีบุตรต้องการจะโปรดเพชรฆาต แต่เนื่องจากเขามีความกังวลถึงกรรมที่เคยทำ พระสารีบุตร จึงพูดไม่จริงเพื่อให้เขาคลายกังวล เขาถึงบรรลุธรรมได้ ในเรื่งเตมีย์ใบ้ พระเตมีย์ระลึกชาติได้ว่าตนเคยเป็นกษัตริย์มาก่อน และเคยรับสั้งฆ่าโจร ถึงได้ตกนรกอยู่นานแสนนาน พอนึกเช่นนี้ก็มีความกลัวที่จะต้องเป็นกษัตริยืและต้องฆ่าโจรอีก จึงแกล้งทำเป็นใบ้ แขนขาไม่มีเรียวแรง เพื่อทีจะออกบวช
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
muntana
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 10 ม.ค. 2008
ตอบ: 108
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok , Thailand

ตอบตอบเมื่อ: 02 ส.ค. 2008, 2:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตอบคำถาม พระพุทธเจ้า ทรง ทานเนื้อสัตว์ หรือ ไม่ ลองอ่านในเวปข้างล่างในอีกแง่มุมมองดู


http://www.dhammachak.net/board/viewtopic.php?t=331
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ชัยพร พอกพูล
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2006
ตอบ: 73
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 03 ส.ค. 2008, 9:38 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณทุกท่านที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาที่ผมแสดงไว้ในกระทู้ครับ งั้นผมขอตอบเป็นรายบุคคลไปนะครับ เพราะยังอยากจะได้ความรู้เพิ่มเติมอีกครับ
คุณ ฌาณ ครับ
ประเทศหรรษานี่ตั้งอยู่แถบไหนครับ แล้วคนในประเทศนั้นอายุยืนเกินร้อยปีทุกคนเลยเหรอครับ และชาวเคอร์กิซก็อายุยืนเกิน 140 ปีทุกคนเลยเหรอครับ เอ่อ ที่ถามอย่างนี้ไม่ได้กวนนะครับ แต่อยากทราบจริง ๆ ครับว่าอายุยืนขนาดนั้นกันทุกคนนี่คงต้องลงกินเนสบุ๊คกันทั้งเผ่าทีเดียว

คุณ พลศักดิ์ และคุณ kokorado ครับ
สรุปก็คือ ผลกรรมจากการกระทำของเรานั้นที่สุดแล้วอยู่ที่เจตนาของเราใช่ไหมครับ เพราะเห็นคุณพลศักดิ์กล่าวว่า ถ้าเราฆ่าแต่ไม่มีเจตนาร้ายก็จะไม่มีบาปกรรมติดตัวไป แต่คุณ kokorado กล่าวในเชิงที่ว่าการฆ่านั้นก็ยังเป็นกรรมอยู่ไม่ว่ามีเจตนาเช่นไรก็ตาม ดังเรื่องของพระสารีบุตรกับเพชรฆาตที่ยกมาเป็นตัวอย่างนั้น ซึ่งผมขอตีความว่าการที่เพชรฆาตกังวลเรื่องการฆ่าตามคำสั่งนั้นเพราะการฆ่านั้นทำให้เกิดกรรมชั่วแล้ว ทำให้กังวลจิตใจขุ่นมัวจนบรรลุธรรมไม่ได้ พระสารีบุตรจึงต้องกล่าวเท็จเพื่อให้เพชรฆาตนั้นปล่อยวางจากความกังวลในกรรมของตน จึงทำให้บรรลุธรรมได้ เพราะผมคิดว่ามันคล้ายคลึงกับกรณีพระพุทธองค์โปรดองคุลีมาลที่ฆ่าคนเพื่อบรรลุธรรม (ของอาจารย์ท่านอื่นที่สอนเขาซึ่งไม่ใช่พระพุทธองค์) จนองคุลีมาลบรรลุธรรม และบาปกรรมทั้งหลายที่กระทำมานั้นกลายเป็นอโหสิกรรมไป ผมรบกวนให้ทั้งสองท่านแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติมด้วยครับ ถ้าจะกรุณา
การแสดงความเห็นที่ขัดแย้งของหลาย ๆ ท่านทำให้เห็นมุมมองจากกรณีต่าง ๆ ครับ ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีนะ เพราะทำให้มีการแจกแจงความคิดกันและทำให้คำสอนของพระพุทธองค์แจ่มชัดขึ้น และสื่อความหมายไปในทิศทางเดียวกันครับ

คุณ kokorado ครับ
รบกวนช่วยเล่ารายละเอียดเรื่องพระสารีบุตรกับเพชรฆาต กับเรื่องเตมีย์ใบ้ เพิ่มเติมอีกจะได้ไหมครับ เพราะผมไม่เคยอ่านหรือได้ยินเกี่ยวกับสองเรื่องนี้ อยากทราบในรายละเอียดน่ะครับ รบกวนด้วยครับ

คุณ varittra ครับ
ขอบคุณมากครับที่เห็นประโยชน์จากการแสดงความคิดเห็น เพราะถ้าลองอ่านเผิน ๆ เหมือนผมจะมาป่วนกระทู้ด้วยซ้ำไป ผมเห็นว่าการแชร์ความรู้กันนั้นทำให้เรามีมุมมองที่ลึกและกว้างขึ้นไม่ได้เจาะจงแต่เฉพาะที่เราอ่านเจอ เพราะเราคงไม่ได้อ่านจากแหล่งความรู้แห่งเดียวกันทุกคนแน่นอนครับ และการมาแชร์ความรู้กันนั้นทำให้คำสอนของพระพุทธองค์เคลียร์และมีใจความที่ไปในทิศทางเดียวกัน เพราะคำสอนของศาสนาอื่นบ่อยครั้งที่มักจะมีความขัดแย้งในตัวเองครับ (ขอกล่าวแค่นี้ล่ะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็น)
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 03 ส.ค. 2008, 4:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

TU พิมพ์ว่า:
ข้อคิดเรื่องมังสวิรัติ (เสฐียรพงษ์ วรรณปก)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10805

ข้อคิดเรื่องอุททิสมังสะ (เสฐียรพงษ์ วรรณปก)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10384

มังสวิรัติในทัศนะเสฐียรพงษ์ วรรณปก
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11525

อาหารธรรมชาติ (เสฐียรพงษ์ วรรณปก)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11527

ลังกาวตารสูตร (เสฐียรพงษ์ วรรณปก)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10804




คุณ TU ได้เริ่มอ่านเรื่องที่คุณส่งมาแล้ว สงสัยว่า เสฐียรพงษ์ วรรณปก คือใคร ช่วยตอบด้วย จะเป็นพระคุณยิ่ง สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 03 ส.ค. 2008, 5:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เทศน์ว่า :


" สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงว่า ธรรมของพระตถาคต เมื่อเข้าไปประดิษฐานในสันดานของปถุชนแล้ว ย่อมเป็นของปลอมทั้งสิ้น(สัทธรรมปฏิรูป) แต่ถ้าเข้าไปประดิษฐานในจิตสันดานของ พระอริยะเจ้าแล้วไซร์ ย่อมเป็นของบริสุทธิ์แท้จริง และเป็นของไม่ลบเลือนด้วย "


ย้ำ! ธรรมของพระตถาคต เมื่อเข้าไปประดิษฐานในสันดานของปถุชนแล้ว ย่อมเป็นของปลอมทั้งสิ้น(สัทธรรมปฏิรูป)

แต่ถ้าเข้าไปประดิษฐานในจิตสันดานของ พระอริยะเจ้าแล้วไซร์ ย่อมเป็นของบริสุทธิ์แท้จริง และเป็นของไม่ลบเลือนด้วย "


อย่างไรก็ตาม เพราะว่าพวกพระหรือปถุชน ที่ไม่ปฏิบัติธรรม มีจำนวนมากกว่า พระหรือปถุชน ที่ปฏิบัติธรรม จึงยากจะต่อกรและยับยั้งพวกพระหรือปถุชน ที่ไม่ปฏิบัติธรรมไม่ถึงอริยะได้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง