ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ไอธรรมไอที
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 12 ธ.ค. 2004
ตอบ: 28
|
ตอบเมื่อ:
12 ส.ค. 2005, 1:05 am |
  |
เลือดแม่เพื่อลูก
สมัยหนึ่ง ที่การคมนาคมทางบกและทางอากาศยังไม่สะดวก เวลาจะเดินทางไปไกลๆ ผู้คนส่วนใหญ่จึงนิยมโดยสารเรือเดินทะเล มีเรื่องเล่าว่า มีเรือขนส่งผู้โดยสารทางทะเลลำหนึ่ง ได้นำผู้โดยสารมีจำนวนนับร้อยมุ่งหน้าสู่ทะเลใหญ่ ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้ปรากฏว่า เมื่อเรือไปถึงกลางทะเล เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็บังเกิดขึ้น ทันใดนั้นได้เกิดลมพายุพัดโหมกระหน่ำจนทำให้เรือถึงกับอับปางลง ในขณะที่เรือกำลังจะล่มนั้น ได้มีการถ่ายคนจากเรือใหญ่ลงสู่เรือเล็ก ด้วยความกลัวตายของคนในเรือต่างรีบเอาตัวรอด หาได้คิดถึงเสบียงอาหารหรือทรัพย์สินที่นำติดตัวมาไม่ คว้าสิ่งของได้เท่าที่จะหยิบติดมือไปได้เท่านั้น
ถึงแม้จะผ่านวิกฤติการณ์อันเลวร้ายมาได้ แต่เรือลำน้อยนี้ได้ลอยคว้างอยู่กลางทะเลอย่างไร้จุดหมายเป็นเวลาหลายวัน ทำให้คนที่อยู่ในเรือหลายชีวิตต้องพบกับความอดอยากหิวโหย เพราะเสบียงที่นำติดตัวมาซึ่งมีจำนวนเล็กน้อยได้หมดลง อีกทั้งน้ำที่มีอยู่โดยรอบก็ไม่สามารถนำมาดื่มเพื่อดับกระหายได้ ทำให้หลายคนต้องจบชีวิตลงกลางทะเลอย่างน่าเวทนา
ในจำนวนเรือที่ลอยละล่องเคว้งคว้างกลางทะเลนั้น มีเรือลำหนึ่งได้มีแม่กับลูกน้อยอาศัยมาด้วย แม้เธอจะผ่านพ้นภัยมรสุมมาได้อย่างปลอดภัย แต่ก็ต้องมาเผชิญกับความหิวโหยเช่นกัน ลำพังตนเองนั้นไม่เท่าไหร่ ห่วงแต่เพียงลูกน้อยที่ต้องมารับชะตากรรมอันเลวร้ายกับเธอด้วย ซึ่งตอนนี้ลูกน้อยกำลังร้องไห้เพราะความหิว เสียงร้องของลูกเปรียบเหมือนมีดที่กรีดลงกลางใจของผู้เป็นแม่ ซึ่งไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้ลูกได้คลายหิว สิ่งที่แม่ให้ลูกได้ในตอนนั้น มีเพียงน้ำนมจากอกที่ยังพอประทังความหิวให้ลูกได้
ความร้อนจากแสงแดดในตอนกลางวันแผดเผาผิวอันบอบบางของลูกน้อย ด้วยความรักความสงสาร ห่วงว่าลูกจะได้รับความทรมาน จึงได้ดึงชายเสื้อของตนขึ้นมาเป็นกำบัง ใช้แผ่นหลังเป็นหลังคาคุ้มแดดให้ลูกได้คลายร้อน ถึงแม้ในตอนนี้หลังแม่จะปวดแสบเพราะถูกแดดแผดเผา แม่ก็ยังทนได้ เธอทนต่อไปถึงแม้หนทางข้างหน้าจะมืดมนไร้จุดหมาย ผู้คนในเรือทยอยกันสิ้นใจไปทีละคนๆ เพราะความหิวโหย แต่เธอก็บอกกับตัวเองว่า เรายังตายไม่ได้เราจะต้องประคองชีวิตให้อยู่ต่อไปเพื่อลูกน้อย
เมื่อเห็นลูกมีอาการจะสิ้นใจเพราะขาดน้ำ จึงคิดว่าจะปล่อยให้ลูกตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้เป็นอันขาด จะต้องหาทางช่วยลูกให้รอดตายให้ได้ คิดดังนั้นเธอจึงพยายามควานหาสิ่งต่างๆ รอบตัวอีกครั้ง ก็ไม่พบสิ่งใดเลยที่จะนำมาประทังความหิวให้ลูกได้ เมื่อเอามือคลำไปในกระเป๋าก็พบของแข็งมีคมอย่างหนึ่งนั่นคือมีด เธอจึงได้หยิบมีดเล่มนั้นขึ้นมา เธอคิดว่านี่คงเป็นวิธีสุดท้ายที่ช่วยให้ลูกมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปได้
ในขณะที่ลูกกำลังร้องอยู่นั้น มือของเธอกำมีดแน่นแล้วรำพึงกับลูกว่า ลูกจ๋า ! ถึงแม่จะหาน้ำให้ลูกดื่มไม่ได้ แต่แม่ก็ยินดีที่จะสละเลือดในกายของแม่ ให้เจ้าดื่มกินแทนน้ำเพื่อคลายหิวได้ แล้วเธอจึงคว้ามีดเล่มนั้นกรีดลงไปที่ข้อมือของตนเอง
เมื่อเลือดไหลออกมา เธอก็รีบประคองปากแผลนั้นแตะลงไปที่ปากน้อยๆ ของลูก ด้วยความไร้เดียงสาและความหิวกระหาย เด็กน้อยจึงได้ดูดดื่มเข้าไปโดยไม่รู้ว่าหยดน้ำที่มาแตะปากของตนนั้น คือเลือดในกายของแม่
เนื่องจากแม่ได้เสียเลือดไปมากจึงทำให้ร่างกายนั้นอ่อนล้า จนในที่สุดเธอก็เป็นลมหมดสติไป เมื่อฟื้นขึ้นมาเห็นลูกน้อยยังมีชีวิตอยู่ก็ดีใจรำพึงว่า ถึงเลือดในกายของแม่จะเหือดแห้งไปจนหมด แต่ขออย่าให้ชีวิตที่แม่รักแม่ถนอมต้องจากแม่ไปเลย แม่ยินดีสละแม้ชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อให้ลูกได้มีชีวิตรอดปลอดภัย
ในที่สุดเรือลำนั้นก็ถูกคลื่นซัดเข้าสู่ฝั่ง เมื่อถึงฝั่งทุกคนต้องตะเกียกตะกายลงจากเรือ เหลือเพียงแม่ลูกคู่นั้นที่ไม่มีใครสนใจ ถูกทอดทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง หญิงผู้เป็นแม่ได้พยายามประคองลูกน้อยลงจากเรือด้วยความทุทักทุเล มองไปทางไหนก็ไม่มีใครสักคนที่จะช่วยเหลือได้ ด้วยความอ่อนเพลียเพราะเสียเลือดไปมาก และอดอาหารมาหลายวัน จึงไม่มีเรี่ยวแรงที่จะพยุงกายตนให้ลุกขึ้นมาได้
ส่วนลูกนั้นก็คลานออกห่างแม่ไป แม้แม่พยายามจะรั้งลูกไว้ แต่บัดนี้หูตาของผู้เป็นแม่เริ่มพล่ามัวแทบสิ้นใจอยู่แล้ว ก่อนที่เธอจะสิ้นลมได้ฝากฝังลูกกับพระแม่ธรณีเป็นครั้งสุดท้ายว่า
แม่ธรณีจ๋า ! ฉันไม่อาจอยู่เลี้ยงดูลูกคนนี้ต่อไปได้อีกแล้ว ชีวิตฉันคงสิ้นลงเพียงแค่นี้ ขอฝากลูกไว้กับแม่ธรณี ขอให้แม่ธรณีโปรดคุ้มครองรักษาดูแลลูกแทนฉันด้วยเถิด แล้วเธอก็สิ้นลงที่ตรงนั้น !!!
เย็นวันนั้นมีชาวประมงคนหนึ่งนำเรือเข้าฝั่ง ได้เห็นเด็กน้อยกำลังร้องไห้ คลานอยู่เพียงลำพัง จึงได้เข้าไปอุ้มขึ้นมา และได้เห็นเลือดติดอยู่ที่ปากของเด็กจึง นึกเอะใจว่าคงจะเกิดเรื่องขึ้นในแถวนี้เป็นแน่ จึงได้เดินดูบริเวณใกล้ๆ ที่เด็กคลานอยู่ สักครู่หนึ่งก็ได้พบศพผู้หญิงคนหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างหัวเรือ จึงได้พลิกศพของหญิงนั้นหงายขึ้น ก็ถึงกับตะลึงเมื่อเห็นที่ข้อมือมีรอยบาดแผลและคราบเลือดติดอยู่ ซึ่งเลือดที่ข้อมือนั้นก็เป็นเลือดสีเดียวกับเลือดที่ปากของเด็ก จึงทำให้ชาวประมงสันนิษฐานว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องเป็นแม่ของเด็กอย่างแน่นอน เธอคงจะรอนแรมหลงทางมาในกลางทะเล จนน้ำและอาหารหมด ด้วยความรักและสงสารลูก นางคงสละเลือดในกายตนเพื่อให้ลูกได้คลายหิวเป็นแน่
ครั้นแล้วชาวประมงได้รำพึงขึ้นว่า โอ้ ! แม่นางเป็นแม่ผู้มีน้ำใจประเสริฐยิ่งนัก แม้ในโลกนี้อาจมีหญิงมากมายที่รักลูกของตนยิ่งกว่าชีวิต แต่หญิงผู้นี้ได้เสียสละครั้งยิ่งใหญ่เพื่อรักษาชีวิตลูกไว้ให้อยู่รอดปลอดภัย นางเป็นแม่ผู้มีน้ำใจแสนประเสริฐยิ่งนัก ขอให้เธอจงไปสู่สุขคติเถิด ฉันจะเป็นผู้เลี้ยงดูลูกของเธอ ให้ความรักความเอาใจใส่ให้สมกับเมื่อครั้งที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ได้พยายามเลี้ยงลูกของเธอด้วยความทะนุถนอนรักใคร่อย่างดี ฉันจะเลี้ยงลูกของเธอให้ดีที่สุด
แล้วชาวประมงนั้นก็ได้พาเด็กน้อยกลับไปเลี้ยงดู เมื่อเด็กโตขึ้นก็ได้รบเร้าถามชาวประมงว่า ลุงจ๋า ! หนูคิดถึงแม่เหลือเกิน ลุงพอจะรู้หรือเปล่าว่า แม่ของหนูอยู่ที่ไหน หนูอยากจะพบอยากจะอยู่ใกล้ๆ แม่ หนูอยากจะเรียกแม่ ลุงช่วยพาหนูไปหาแม่หน่อยได้ไม๊จ๊ะ
ชาวประมงเห็นว่า เด็กคนนี้โตพอที่จะรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตนเองได้แล้ว จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง และพาเด็กน้อยไปที่หลุมฝั่งศพของมารดา เมื่อไปถึงหลุมฝั่งศพ เด็กน้อยก็โผเข้าไปกอดหลุมฝังศพ พร้อมกับร้องไห้รำพึงรำพันว่า
แม่จ๋า ! ทำไมแม่จึงได้จากลูกไปเร็วเช่นนี้ ทำไมไม่มีโอกาสอยู่ให้ลูกได้ทำหน้าที่ตอบแทน แม่ผู้เป็นผู้ที่เสียสละให้ลูกฝ่ายเดียว แล้วเมื่อไรลูกจึงจะมีโอกาสได้ทดแทนพระคุณของแม่บ้าง
เมื่อชาวประมงเห็นว่าหนูน้อยคร่ำครวญอยู่นานแล้ว จึงได้ไปรั้งร่างของหนูน้อยขึ้นมา ลูบหลังลูบไหล่พูดปลอบใจว่า เอาเถอะ ! ถึงแม้แม่เจ้าจะสิ้นไปแล้ว ถ้าเจ้าคิดจะตอบแทนล่ะก็ ขอให้เจ้าจงมุ่งมั่นในความดี ทำความดีในความดี ทำความดีทุกวิถีทางในชีวิตของเจ้า เมื่อขณะที่เจ้าร่ำเรียนก็ขอให้เรียนให้ดีที่สุด เมื่อเจ้าโตจะทำกิจการงานใดก็ขอให้เจ้าจงทำงานในหน้าที่ของเจ้าให้ดีที่สุด และเมื่อเจ้าจะบวชเรียนก็ขอให้เจ้าบำเพ็ญให้ดีที่สุด เมื่อแม่ของเจ้าได้รับรู้อยู่ด้วยญาณวิถีอันใด ก็คงจะชื่นใจที่สุดในการให้กำเนิด ในการประคับประคองปกป้อง ยอมสละชีวิตเพื่อเจ้าจนสามารถอยู่รอดมาได้จวบจนทุกวันนี้ แม่ของเจ้าคงจะปลื้มใจอยู่ในสุขคติโลกสวรรค์ ถึงแม้แม่เจ้าจะไม่มีชีวิตอยู่ แต่เจ้าก็ยังสามารถทำความดีให้นางรับรู้ได้
...........................................................................
คัดมาจาก :: หนังสือพระในบ้าน
ร้านหนังสือเอกอนันต์ โทร. 02-428-5291
...........................................................................
ขอฝากเรื่องราวข้อคิดธรรมะนี้นะครับ สำหรับวันแม่นะครับ
เพราะความกตัญญูกตเวทิตาเป็นสิ่งสำคัญนะครับ ขอบคุณครับ |
|
_________________ ดีใดไม่มีโทษดีนั้นชื่อว่าดีเลิศ
ทำตนให้เป็นที่พึ่งได้ |
|
    |
 |
สายลม
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
|
ตอบเมื่อ:
15 ส.ค. 2005, 8:30 pm |
  |
|
    |
 |
598
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
17 ส.ค. 2005, 10:05 pm |
  |
|
|
 |
กาย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
18 ส.ค. 2005, 3:30 pm |
  |
|
|
 |
ป๊อบ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
20 ส.ค. 2005, 1:27 am |
  |
ผมจำได้ตอนเด็กๆ คุณแม่ผมเคยอ่านเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เป็นหนังสือนิทานมีภาพประกอบด้วย แต่ตอนนั้นเด็กอยู่เลยไม่ค่อยรู้เรื่อง จำได้นิดๆ หน่อยๆ ก็ตามหาอ่านเรื่องเต็มๆ มานานแล้วครับ วันนี้ได้มาเจอแล้วใช่เรื่องตอนเด็กๆ ที่คุณแม่ผมอ่านให้ฟังแน่นอน ขอขอบคุณผู้นำมาลงไว้มากๆ ครับ |
|
|
|
|
 |
ลูกโป่ง
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
01 ก.ย. 2005, 8:41 pm |
  |
สาธุค่ะ...
ขอบพระคุณที่นำเรื่องดีดีมาแบ่งปันกันอ่าน |
|
|
|
   |
 |
nina
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 ก.ย. 2005, 5:49 pm |
  |
|
|
 |
kan
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
12 ก.ย. 2005, 7:02 pm |
  |
สาธุที่นำมาให้อ่าน |
|
|
|
|
 |
น้องมัท
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
17 ก.ย. 2005, 10:51 am |
  |
นิทานเรื่อนนี้อ่านเเล้วซาบซึ้งเเละสนุกมากๆ ค่ะ |
|
|
|
|
 |
น้องมาย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
13 พ.ย.2005, 4:28 pm |
  |
เรื่องนี้ดีมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณคนที่นำมาให้อ่านนะคะ ชอบมากค่ะ
สาธุที่นำมาให้อ่าน ซาบซึ้งใจมากๆ ค่ะ |
|
|
|
|
 |
โอปอ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
18 พ.ย.2005, 2:32 pm |
  |
ทั้งเศร้าทั้งสนุก อ่านแล้วคิดถึงแม่ทันทีเลยค่ะ |
|
|
|
|
 |
ทู้จ้า..
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
21 พ.ย.2005, 6:07 pm |
  |
ขอบคุณค่ะ สนุกมาก ฮือๆๆๆๆ |
|
|
|
|
 |
อำนวยยาลา
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 30 ต.ค. 2006
ตอบ: 15
ที่อยู่ (จังหวัด): 259หมู่6ตำบลนาเกลืออำเภอพระสมุทรเจดีย์จังหวัดสมุทรปราการ
|
ตอบเมื่อ:
22 พ.ย.2006, 7:24 pm |
  |
ขอบคุณมากครับซึ้งมากอ่านแล้วน้ำตาไหลเลย  |
|
_________________ ศรัทธาพระพุทธศาสนาเป็นเลิส |
|
  |
 |
kong_014
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 30 พ.ย. 2006
ตอบ: 37
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ
|
ตอบเมื่อ:
30 พ.ย.2006, 4:14 pm |
  |
อนุโมทนาสาธุครับผม ขอให้ผู้อ่านทุกท่านจงเป็นลูกที่ดี  |
|
_________________ ไม่กล่าวโทษผู้อื่น กล่าวโทษตนเองไว้เสมอ มุ่งปฎิบัติให้ถึงซึ่งพระนิพพาน |
|
    |
 |
Rabbit16102525
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 19 ม.ค. 2007
ตอบ: 18
|
ตอบเมื่อ:
22 ม.ค. 2007, 2:05 pm |
  |
ซึ้งจังเลย อ่านแล้วทำให้รู้สึกรักแม่มากๆ เลย....  |
|
_________________ ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น |
|
   |
 |
แม่แก้มหอม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
23 ม.ค. 2007, 1:32 pm |
  |
คำขอขมาและอธิฐานจิต
อธิฐานต่อหน้าพระพุทธรูป หรือ สวดมนต์ก่อนนอนก็ได้
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราถัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต
หากข้าพระพุทธเจ้าจงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดามารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย
หากข้าพเจ้ามีเจ้าของติดตัวตามมา ขออนุญาติมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิฐาน คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ควร ที่ชอบ ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป
ขอให้ข้าพเจ้าประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตอย่างมีปัญญา เจริญรุ่งเรืองทุกสิ่งทุกประการ มีรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่นิพพานเทอญ >>
หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าชาติภพใดก็ตามข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาตและคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลกและทางธรรม >>
|
|
|
|
|
 |
พ.สังข์ทอง
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 ก.พ.2007, 9:02 pm |
  |
อ่านแล้วซึ้งใจมากเลย....น่าอนุโมทนาบุญกับผู้เป็นแม่ เราควรรักแม่ให้มากๆ ตราบเท่าที่เรามีชีวิตอยู่เราควรรู้จักตอบแทนบุญคุณท่าน รู้จักกตัญญูต่อท่าน ....ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี |
|
|
|
|
 |
เป็ด
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 26 มี.ค. 2007
ตอบ: 4
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
26 มี.ค.2007, 9:20 pm |
  |
ทั้งเศร้าทั้งสนุก อ่านแล้วคิดถึงแม่ทันทีเลยครับ
 |
|
_________________ รักแท้... มีแค่ ครั้งเดียว |
|
    |
 |
kanalove
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 07 เม.ย. 2007
ตอบ: 35
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
13 พ.ค.2007, 5:05 pm |
  |
อ่าน 2 รอบ น้ำตาคลอ 2 รอบ
อะไรจะเศร้า ซึ้งใจปานนี้ * * |
|
_________________ kanalovero@hotmail.com
ธรรมะสวัสดีคะ แอดเมล์ได้นะคะ
เรามักจะออนเอ็มเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์นะ
เรามีชีวิตอยู่เพื่อตาย จงตายจริงก่อนที่เราจะตายลวง |
|
      |
 |
ตามรอยธรรม
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2008
ตอบ: 2
ที่อยู่ (จังหวัด): ชลบุรี
|
ตอบเมื่อ:
12 เม.ย.2008, 1:50 pm |
  |
อ่านแล้วอยากร้องให้เลยครับ ขออนุโมธนากับนิทานเรื่องนี้ด้วยนะครับ  |
|
_________________ ทำในสิ่งที่ดี ทำให้ดีที่สุด และเป็นทุกข์ให้น้อยที่สุด |
|
   |
 |
|