ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
webmaster
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 04 มิ.ย. 2004
ตอบ: 769
|
ตอบเมื่อ:
07 ส.ค. 2005, 5:46 pm |
  |
ตำนาน...วันแม่ ที่ลูกควรรู้
เคยสงสัยบ้างหรือไม่ว่า “วันแม่” มีความเป็นมาอย่างไร ดังนั้น เนื่องในโอกาส “วันแม่แห่งชาติ” ในปีนี้ “ผู้จัดการออนไลน์” จะพาไปค้นหาความหมายของวันสำคัญวันนี้กัน
ความเป็นมาของวันแม่นั้น กล่าวกันว่า นางแอนนา เอ็ม. จาร์วิส คุณครูชาวอเมริกันแห่งรัฐฟิลาเดลเฟียก็ใช้ความพยายามร่วมสองปีเพื่อเรียกร้องให้มี “วันแม่” ขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยในปีพ.ศ. 2457 ประธานาธิบดีวู้ดโรว์ วิลสัน ได้มีคำสั่งให้ถือเอาวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมเป็น “วันแม่แห่งชาติ” และใช้ “ดอกคาร์เนชั่น” เป็นสัญลักษณ์วันแม่ โดยมี 2 แบบคือ ถ้าแม่มีชีวิตอยู่ ให้ใช้ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู แต่ถ้าแม่ถึงแก่กรรมไปแล้วให้ใช้ดอกคาร์เนชั่นสีขาว
สำหรับประเทศไทย มีการจัดงานวันแม่ครั้งแรก โดยกระทรวงสาธารณสุข เมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ที่สวนอัมพร แต่เนื่องจากช่วงดังกล่าวเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ต้องงดจัดในปีต่อไป และต่อมาแม้จะมีหลายหน่วยงานได้พยายามรื้อฟื้นจัดขึ้นอีก แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร รวมทั้งได้มีการเปลี่ยนแปลงกำหนด “วันแม่”หลายครั้ง
จนเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 คณะรัฐมนตรีสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี จึงได้มีประกาศรับรองให้วันที่ 15 เมษายนของทุกๆ ปี เป็น วันแม่ โดยเรียกว่า “วันแม่ของชาติ” และมอบหมายให้สภาวัฒนธรรมแห่งชาติเป็นผู้จัดงานเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2493 เป็นครั้งแรก และได้รับความสำเร็จด้วยดี มีประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ให้การสนับสนุนจัดงานกันอย่างกว้างขวางตั้งแต่นั้นมา และยังมีการประกวดแม่แห่งชาติ และคำขวัญวันแม่ เพื่อให้เกียรติและเพิ่มความสำคัญของงานวันแม่ให้ยิ่งๆ ขึ้นไปด้วย
ต่อมาในปี พ.ศ. 2519 ทางราชการจึงได้เปลี่ยนใหม่ โดยให้ถือว่าวันที่ 12 สิงหาคม อันเป็น วันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็น “วันแม่แห่งชาติ” และกำหนดให้ใช้ “ดอกมะลิ” เป็นดอกไม้สัญลักษณ์วันแม่
การที่ใช้ “ดอกมะลิ” เป็นสัญลักษณ์วันแม่ ก็เพราะดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์ มีกลิ่นหอมที่หอมไปไกลและหอมได้นาน ผลิดอกได้ทั้งปี อีกทั้งยังนำไปปรุงเป็นเครื่องยาหอมใช้บำรุงหัวใจได้ด้วย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ลึกซึ้งที่แม่มีต่อลูก เป็นความรักที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณาที่ไม่มีที่สิ้นสุด และไม่มีพิษมีภัย มีแต่ความชุ่มชื่นใจดั่งความหอมของดอกมะลิ
.................................................................
ข้อมูลโดย อมรรัตน์ เทพกำปนาท กลุ่มประชาสัมพันธ์
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 สิงหาคม 2548 17:09 น. |
|
_________________ ธรรมจักรดอทเน็ต
แก้ไขล่าสุดโดย webmaster เมื่อ 06 มิ.ย.2007, 2:13 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
   |
 |
jiab
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
12 ส.ค. 2005, 8:30 am |
  |
ขอบพระคุณค่ะสำหรับข้อมูลดีดีที่นำมาฝาก  |
|
|
|
|
 |
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
13 ส.ค. 2005, 2:04 pm |
  |
ขออนุญาติ Copy สิ่งดีๆ นี้ไปเผยแผ่ต่อไปนะครับ |
|
|
|
|
 |
ลูกสาว
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
15 ส.ค. 2006, 5:43 am |
  |
|
|
 |
แก้วลักษณ์
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 03 ส.ค. 2006
ตอบ: 35
|
ตอบเมื่อ:
24 พ.ย.2006, 1:00 pm |
  |
ดีมากเลยค่ะ มีความรู้เพิ่มอีก 1 เรื่อง  |
|
_________________ ธรรมะคือความจริงของชีวิต |
|
  |
 |
webmaster
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 04 มิ.ย. 2004
ตอบ: 769
|
ตอบเมื่อ:
11 ส.ค. 2018, 6:34 pm |
  |
|
   |
 |
|