|
 |
|
กำลังอ่านอยู่ : 9 คน |
|
|
|
|

คำถามที่เคยได้ยินบ่อย
ๆก็คือ พระองค์นั้นองค์นี้อยู่สายไหน แล้วก็จะมีคนคอยแจงว่า พระองค์นั้นอยู่สายศีล
เช่น พระที่สำนักสันติอโศก สายสมาธิ ก็หมายไปถึงหลวงพ่อที่ชอบนั่งวิปัสสนาและสายปัญญาก็คือกลุ่มที่ชอบอ่านเขียนหนังสือ
วิเคราะห์วิจารณ์ธรรม เช่น ท่านพุทธทาส ดังนี้เป็นต้น
ความจริงธรรมะไม่ได้มีสาย
และการปฏิบัติก็ไม่สามารถแยกกันได้เป็นส่วน ๆ ศีล สมาธิ ปัญญา ต้องไปด้วยกันเสมอจึงจะทำได้
คนที่มีศีล คือ ปฏิบัติตัวดี มีสติอยู่เสมอก็ย่อมเกิดสมาธิ ส่งผลให้มีปัญญาคิดการไปได้
ไม่ทำอะไรผิดพลาด เปรียบเหมือนเวลาเราจะกินข้าวสวย เราก็ต้องมีข้าวสารกับน้ำ
มีหม้อหุงข้าว และมีไฟฟ้าหรือเตา รวมครบ 3 อย่าง เราก็สามารถจัดการให้เกิดข้าวสวยมากินได้
ถ้าขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไป ก็ไม่ได้ผล ก็ง่าย ๆ แค่นี้ ไม่มีอะไรซับซ้อน
เคยเปิดหนังสือในร้านหนังสือดูมีหนังสือของอาจารย์ต่างๆ
หลวงพ่อต่าง ๆ ก็สอนถึงเรื่องเหล่านี้ แล้วก็มานึกได้ว่า เออ ! เรานี่จะหาอะไรที่แตกต่าง
ก็ทั้งหมดนี้คือคำสอนของพระพุทธเจ้าองค์เดียว ศิษย์ของพระพุทธเจ้าก็ต้องพูดเหมือนกันอยู่แล้ว
อาจจะแตกต่างในรายละเอียดวิธีการที่จะแนะนำต่างกันไป ดังนั้น ต่อมาจึงไม่ได้แสวงหา
เพราะที่มีอยู่เยอะแยะ ทั้งหนังสือและเทป ก็
ทำให้ได้ก่อนเถอะ
พอหยุดแล้วก็รู้สึกสบาย รู้สึกมีเวลาว่างสมองว่างขึ้นเยอะเลย ความรู้สึกจะซอกซอนแสวงหาที่มันยุ่งอยู่ยุกยิกจุกจิกก็หายไป
ต่อมาได้หนังสือหลวงปู่ดูลย์ อตุโล มาเล่มหนึ่ง อ่านแล้วก็ดีมาก ได้รู้ว่าคิดถูก
ท่านสอนว่า
“
อย่าเอาจิตออกนอก “
“
ถ้าคิดแล้วไม่รู้ หยุดคิดจึงรู้ แต่จะรู้ได้ก็ด้วยความคิดนั่นแหละ
“
“
ไม่ต้องไปเรียนอะไรมากหรอก ดูจิตอย่างเดียว “
เมื่อได้ฟังเทปของหลวงพ่อพุทธทาส
ตอนแรกก็ฟังเรื่อย ๆ เป็นเรื่อง ๆ ไป ต่อมาก็นำมารวมสรุปเอาไว้ใช้เองเป็นส่วนตัว
ดังนี้
1.
อริยสัจ 4 - มรรคมีองค์ 8
2.
โอวาทปาติโมกข์ ทำดี เว้นชั่ว ทำใจให้ผ่องแผ้ว
3.
ปฏิจจสมุปบาท สิ่งต่างๆ อาศัยกันและกันเกิด
4.
ไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ความไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่ของตน
5.
ละความยึดมั่นถือมั่น ปล่อยวาง
6.
หลุดพ้น
พระพุทธเจ้าสอนเรื่องความทุกข์และการดับทุกข์
เรื่องต่าง ๆเหล่านี้ก็คือ สิ่งที่ท่านทรงให้เข้าใจถึงความทุกข์และการดับทุกข์นั่นเอง
ส่วนที่เราพบเรื่องราวอื่น ๆในหนังสืออีก ก็เป็นรายละเอียดที่อธิบายแยกย่อยออกไปจากสิ่งเหล่านี้
ดังนั้น
เราจะพบว่า เมื่อเราเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้แล้ว เมื่อเราไปอ่านเรื่องอื่น
ๆต่อไป ก็จะล้วนวนไปเวียนมาอยู่กับเรื่องเหล่านี้เสมอ เปรียบเหมือนภูเขาลูกหนึ่ง
เมื่อรู้ว่าภูเขาลูกนี้อยู่ที่ไหน มีฐานจากจังหวัดใดถึงจังหวัดใด มีความสูงเท่าใดแล้ว
สิ่งต่าง ๆ ก็วนเวียนอยู่กับความเป็นภูเขาลูกนี้ ไม่ว่าจะเป็นพรรณไม้
น้ำตก สัตว์ใหญ่สัตว์น้อย ทางน้ำ ทางมด ทางช้าง ก็เป็นรายละเอียดของภูเขาลูกนี้ทั้งนั้น
ส่วนการใช้งานเมื่อเราปฏิบัติธรรม
แต่ละคนก็ทำไปตามขีดขั้นของตนเอง ซึ่งไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น คำว่าหลุดพ้น
พระอรหันต์ท่านก็หลุดพ้นไปถึงการดับขันธ์ ไม่เกิดใหม่ อย่างเรา ๆ มีปัญญาแค่หางลูกอึ่ง
หลุดพ้นของเรา ก็เอาเฉพาะหลุดไปจากเรื่องที่กำลังตำตาตำใจ เท่านั้น
เป็นเบื้องต้นก็เห็นจะพอ เรียกว่าระดับร้อนได้นิดหน่อย แต่ก็ได้เยอะโขอยู่
ถ้าจะเทียบกับคนที่ไม่ได้ทำเลย
ทีนี้เรามาเมาท์กันเป็นตัว
ๆ เอาอย่างย่อ ๆและง่าย ให้เหมาะกับการที่เป็นหนังสืออ่านประกอบการเตรียมอนุบาล
ไม่ใช่หนังสือสอนธรรมะโดยตรง

|