แสวงหาธรรม
รอบรั่วธรรม ในสวนธรรม ละความโกรธ กรรม การทำบุญให้ทาน ภารกิจของหิ่งห้อย
 
*-* หน้าแรก *-*
 กำลังอ่านอยู่ : 7 คน

กรรม
 

              กรรมคือการกระทำของเรา เราทำสิ่งใด ๆ ลงไปเรียกว่าสร้างกรรม มีทั้งดีและชั่ว ทำดีก็เป็นกรรมดี ทำชั่วก็เป็นกรรมชั่ว เมื่อทำกรรมแล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือผลของกรรม

              เรื่องเกี่ยวกับกรรมมีดังนี้

              1. สัตว์โลกมีกรรมเป็นของตนคือ เป็นของเราคนเดียว ไม่มีทางเป็นของคนอื่น ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่วได้ชั่ว คนอื่นจะมาทำแทนให้ไม่ได้ และจำทำแทนคนอื่นก็ไม่ได้

              สมบัติอะไรที่เป็นของเรา เมื่อเราตายไป ก็เอาไปไม่ได้ มันจึงไม่เป็นของเราอย่างแท้จริง แต่กรรมที่เราทำนั้นเอาติดตัวไปได้ทุกชาติ จึงนับว่าเป็นของเราจริง ๆ ถ้าไม่ชอบ ทิ้งมันไว้ มันก็ยังตามไปเอง

              ถ้าเราทุกบุญมาก ๆ ผลกรรมดีก็จะติดตามเราไปตลอดทั้งชาตินี้ชาติหน้า ถ้าทำชั่ว ผลกรรมชั่วก็ติดตามไปตลอดเช่นกัน

              กรรมของใครก็เป็นของคนนั้น ยกให้กันก็ไม่ได้

              เฉลยศรีเป็นคนฉลาดมากตามกรรมดีที่ส่งมา เธออยากแบ่งความฉลาดไปให้น้องคนเล็กที่สมองทึบ แต่เธอก็แบ่งไม่ได้

              ฉลองศักดิ์เป็นคนแข็งแรงมาก เขาอยากแบ่งความแข็งแรงให้กับน้องชายที่เป็นโปลิโอ เขาก็แบ่งไม่ได้

              คุณยายพรักพริ้ง ตื่นเช้ามาใส่บาตรทุกวัน แล้วสวดมนต์

               ฟังธรรมะตลอด คุณยายบอกพิมลลูกสาวว่า คุณยายต้องใส่บาตรเอง เพื่อจะได้พาบุญไปด้วยตอนตาย ถ้าพิมลทำแทนคุณยายก็ไม่มีบุญจะพาไปด้วย เพราะบุญนั้นก็เป็นของพิมล พิมลบอกว่า ทำแทนให้ก็เหมือนกัน คุณยายยิ้มก่อนจะพูดว่า

              “ งั้นเวลาหล่อนหิว แม่กินข้าวแทนนะ ทำบุญก็เหมือนกินข้าวแหละลูกเอ๊ย ใครกินใครก็อิ่ม กินแทนกันไม่ได้หรอก “

              ความที่มันแบ่งกันไม่ได้ รับแทนกันไม่ได้นี้ เมื่อเราเห็นใครได้ดี เห็นใครทุกข์โศก หรือตัวเราเองได้รับสิ่งดีสิ่งร้ายก็เป็นกรรมเก่าที่เราเคยสร้าง มาส่งผลให้เราได้รับรู้ทั้งนั้น สิ่งที่เราควรจะทำในตอนนี้ก็คือ ทำใจยอมรับกรรมเก่าของเราเอง และพยายามสร้างกรรมใหม่ที่ดีงาม เพื่อที่เราจะได้กะเตงไปแต่สิ่งดีๆ สู่อนาคตของเรา

              2. มีกรรมเป็นกำเนิด คือกรรมเป็นผู้สร้างสรรค์ให้เกิดกรรมของเราเองที่เคยทำไว้ มันส่งมาเกิด ถ้าเคยทำกรรมดี ก็ส่งมาเกิดในที่ดี มีครอบครัวดี มีชีวิตที่ดี มีสติปัญญาดี ถ้าเคยทำกรรมชั่วมาก ก็เกิดที่แห้งแล้ง ยากจน กินดินกินทรายไปตามเรื่อง ท่านว่าพวกมีโมหะมาก ๆ ก็เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ทำให้ไม่มีโอกาสศึกษาธรรม ส่วนคนไม่มีกรรมแล้ว ท่านก็ไม่มาเกิดอีก

              3. เราเป็นทายาทของกรรม คือเราเป็นผู้รับมรดกกรรม เราเคยทำกรรมอันใดไว้ ชีวิตนี้เรามาเป็นผู้รับมรดกกรรมของเราเอง
ในชีวิตนี้เราอาจได้รับมรดกมาเป็นเงินทองหรือบ้าน แต่ก็อาจไม่ได้รับจริง เพราะถูกโกงไปบ้าง แต่มรดกกรรมนี่ใครก็โกงไม่ได้

              เราได้รับของเราเต็ม ๆ ถ้าเป็นมรดกดีก็สบายไป ถ้าเป็นมรดกไม่ดีอันนี้ก็ตัวใครตัวมันนะจ๊ะ ยกตัวอย่างนิดหน่อย พอขู่ไว้ให้กลัวบาปกลัวกรรมกันมั่ง เช่น

              คนที่ชอบขโมยของคนอื่น ก็จะเกิดมาลำบากยากจนไปตลอด อยากได้อะไรก็ไม่สมหวังไปเสียหมด

              ตรงข้ามกับคนเคยทำบุญให้ทาน ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อคนอื่นมามากมาย เกิดมาชาตินี้ไม่เคยติดขัดอะไร อยากได้อะไรก็มีคนหามาให้หมด

              4. มีกรรมเป็นพี่น้องเผ่าพันธุ์ ท่านอธิบายว่า พี่น้องของเราอาจช่วยเราได้บ้าง ช่วยไม่ได้บ้าง ในบางเรื่องบางเวลา แต่กรรมอยู่กับเราตลอดเวลา สิ่งที่พี่น้องช่วยไม่ได้ กรรมจะช่วยได้ อย่างคนที่จากบ้านไปทำงานที่อเมริกาอยู่คนเดียว แล้วเกิดปวดท้องไปทำงานไม่ได้ ในวันที่ตึกที่ทำงานถูกถล่ม ทำให้รอดชีวิตมาได้แสดงว่ากรรมดีของเขาได้ช่วยไว้ให้ปลอดภัย

              5. มีกรรมเป็นที่พึ่งพาอาศัยคือ กรรมของเราเองนั่นแหละที่เป็นที่พึ่งพาของเราตลอดชีวิต และพึ่งได้ทุกชาติ คนอื่นเรายังพอพึ่งได้บางเวลา แต่พอไปพึ่งเขาบ่อย ๆ เขาก็อาจจะรำคาญไม่พอใจ แต่กรรมดีของเรา เราพึ่งได้ แต่ก็อีกนั่นแหละ กรรมชั่วของเราก็มี ถ้ากรรมชั่วมาถึงเมื่อใด มันก็จะขัดขวางไม่ให้ใครเข้ามาช่วยเราเหมือนกัน มันจะติดขัดคับข้องไปเสียหมด เพราะกรรมไม่ยอมให้พึ่ง จะให้เราชดใช้กรรมเสียให้เข็ด ฉะนั้นถ้าอยากพึ่งกรรม ก็ต้องทำแต่กรรมดีเอาไว้

              หมอนสมัยกำลังเดินกลับบ้านกับน้องสาว พบหญิงชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งกำลังมีปัญหาเรื่องหาทางไปโรงแรมไม่ถูก หมอนสมัยพาหญิงสาวขึ้นรถแท็กซี่ แล้วนั่งไปเป็นเพื่อน ส่งนักท่องเที่ยวคนนั้นจนถึงโรงแรมอย่างเรียบร้อย


              หลายปีต่อมา หมอนสมัยไปตกระกำตกรถอยู่ในตำบลเปลี่ยว รถโดยสารก็หมดเวลาทำการกะทันหัน ทำให้เธอต้องเดินยาวไกล แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือ ใกล้จะมืดค่ำเต็มทีแล้ว และยังเหลือทางอีกไกลมากกว่าจะถึงเมืองอันเป็นที่พัก เธอโบกรถหลายคันก็ไม่จอดรับ เธอจึงเดินต่อไป ในใจเริ่มร้องไห้ นึกขึ้นว่า

              “ แหม ทีเวลาคนอื่นลำบาก เราตามไปส่งถึงที่เลยนิ พอเราลำบาก ไม่เห็นมีใครช่วยเราเลย “

              ทันใดนั้น กรรมที่กำลังนอนเกาหลังอยู่ก็นึกขึ้นได้ จึงให้รถตู้คันหนึ่งเบรกกึ๊ก แล้วถอยหลังมารับหมอนสมัยไปส่งถึงในเมืองทันก่อนลำแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์จะโบกมือลา ( ขออภัย ลิเก ไปหน่อยนะ )

              เนี่ย มีกรรมเป็นที่พึ่ง บางทีกว่าจะพึ่งได้ ก็กรรมเหมือนกันแหละ

              เวลาที่ผลกรรมไม่ดีของเราวิ่งตามมาถึง มันจะให้ผลกับเราได้ โดยที่กรรมดีอื่น ๆ ก็จะแตะเบรกไว้ก่อน เปิดไฟเขียวให้กรรมไม่ดีได้ทำงานเต็มที่ เหมือนระบบจราจรที่มีไฟเขียวไฟแดง

              รัศมีจันทร์อยากกลับบ้านนอนแต่หัวค่ำ เพราะพรุ่งนี้เช้าต้องตื่นตี 5 ไปต่างจังหวัดตามคำสั่งเจ้านาย และตอนนี้ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืนแล้ว ไม่รู้ทำอะไรมา เมื่อกี้ดูนาฬิกายังเพิ่ง 2 ทุ่มเอง เร็วจริง ๆ

              รัศมีจันทร์ซิ่งรถผ่านแสงไฟสวยงามของกรุงเทพฯ เลี้ยวเข้าหมู่บ้าน ผ่านซอยไปหลายซอย และผ่านหมาตัวหนึ่งแถวสะโพกของมัน

              เธอรีบจอดรถลงไปดูหมาแปลกหน้า เห็นดวงตาที่น่าสงสารกับสะโพกเดี้ยง ก็รีบอุ้มมันขึ้นรถ ขับไปควานหาสัตวแพทย์สักคน เอ อยู่ไหนละเนี่ย ขับไปไม่นานก็เจอพอดี บุญของหมา ไม่ใช่ของเธอ ฝากหมาไว้กับหมอแล้วรีบกลับบ้านนอนตอนตี 2

              เช้ามาตี 4 ครึ่ง นาฬิกาไม่ปลุก ถ่านหมดตอนตี 4 บุญช่วยที่เจ้าอั้งโล่ หมาของหล่อนโดนแม่ครัวข้างบ้านสาดน้ำร้อนใส่โดยไม่ตั้งใจ ร้องเอ๋ง ๆ เข้ามาปลุกให้ตื่น จึงลุกขึ้นรีบแต่งตัวงัวเงีย เพราะนอนไม่ถึง 8 ชั่วโมงตากกฎสุขภาพ คว้าอะไรได้ก็หอบ ๆ ไปเต็มกอดเพื่อไปที่รถ

              ประตูเปิดไม่ออกอยู่นาน โมโหเตะประตูทีหนึ่ง เป็นการลงโทษประตู ประตูงอน แตกเพล้ง เฉือนเนื้อที่ขา เลือดโกรก
วันนี้รัศมีจันทร์ไม่ได้ไปต่างจังหวัด เพื่อนข้างบ้านมาหามส่งโรงพยาบาล เธอยังมีสติดีอยู่ ตอนที่รู้ว่าบัตรเครดิตหาย และฝากเพื่อนข้างบ้านว่า กลับบ้านแล้ว ช่วยโทรฯบอกแม่ของหนูด้วยว่าแม่กลับจากทำบุญแล้ว ช่วยมารับลูกสาวด้วยค่ะ

               กรรมเก่าไม่ดีของรัศมีจันทร์ ที่มาเยี่ยมตั้งแต่เมื่อคืนวานนั่งหัวเราะอยู่แถวปลายเตียง


<< กลับหน้าที่ผ่านมา
หน้าถัดไป >>
แสวงหาธรรม
รอบรั่วธรรม ในสวนธรรม ละความโกรธ กรรม การทำบุญให้ทาน ภารกิจของหิ่งห้อย

หน้าแรกธรรมจักร l กลับเรือนธรรม