|
 |
|
กำลังอ่านอยู่ : 9 คน |
|
|
|
|

แสงแดดทอดตัวบนพื้นหญ้า
ดูเจิดจ้า ทว่าสงบ
หญ้าเปลี่ยนสีที่ใต้เงาต้นมะม่วง
ใบมะม่วงพลิกพลิ้วเบา ๆ
คุยกับสายลม
ลูกของมันระย้าย้อยเต็มต้น
บ้านเงียบสงบ
ไม่มีเสียงรถรารบกวน
ฟังเพลงเก่า ๆที่เคยชอบ
แล้วก็นอนพัก
ดอกผักบุ้งริมรั้วกำลังบาน
กลอนเปล่าบทนี้ชื่อ
วันอาทิตย์ ฉันเขียนขึ้นในสมัยที่วันอาทิตย์เป็นวันนอน อย่างขี้เกียจ
ต่อมาเมื่อศึกษาธรรมะ ก็เลยเลิกกิจการการนอนเช้าๆวันอาทิตย์ อากาศดี
ถนนเงียบเพราะผู้คนยังไม่ตื่น หิ้วตะกร้าไปซื้อกับข้าวถุงๆแล้วก็ไปวัดชลประทานฯ
ที่วัดนี้มีสวนร่มรื่น เป็นต้นไม้ใหญ่มากเหมือนป่า ทำให้มีความสุขมาก
พอ 9 โมงเช้าก็มีการสวดมนต์ เขาจะติดลำโพงจาก ห้องประชุมมาไว้ตามสวนด้วย
ปัจจุบันพื้นสวนได้ปรับใหม่จากลานดินที่เหมือนอยู่สวนป่าจริง ๆ มาเป็นลานอิฐ
มีการจัดสวนตามสมัย ก็ดีไปอีกรูปแบบหนึ่ง แต่บรรยากาศก็เปลี่ยนไปบ้าง
สมัยก่อนหลวงพ่อปัญญานันทะ
ท่านเทศน์ทุกวันอาทิตย์ ก็นั่งฟังอยู่ใต้ต้นไม้บ้าง ในศาลาริมสระบ้าง
สุดแสนจะสบายใจดีกว่านอนหง่าวอยู่บ้านเยอะเลย
พอท่านเทศน์เสร็จก็มีการตักบาตร
พระนั่งล้อมเป็นวงที่ลานหินโค้ง ดูแล้วประทับใจนัก ก่อนกลับบ้านก็แวะไปยืมเทปจากห้องสมุดศาลาจำปีรัตน์ที่มีหลายตู้
เอากลับไปฟังที่บ้าน ที่ยืมมาประจำก็คือเทปของหลวงพ่อปัญญา และหลวงพ่อพุทธทาส
นานปีก็จับได้ว่าตัวเองฟังเทปได้มากกว่าอ่านหนังสือ แต่จริง ๆแล้วหนังสือก็ถอดมาจากเทปบรรยายธรรมของหลวงพ่อนั่นเอง
ฟังมาก็พอสมควร
มองเห็นผังภูมิของพุทธศาสนาว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องอะไร ผังภูมินี้ก็เหมือนกับตัวบ้าน
เรายืนดูก็รู้ได้ว่า ประตูบ้านอยู่ไหน ตัวบ้าน ประตู หน้าต่าง หลังคา
แค่มีบ้านก็เดินเข้าไปหลบฝนหลบแดดได้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆนั้นเป็นรายละเอียด
ใครชอบก็ค่อย ๆตามเก็บตามแคะเอา
วันหนึ่ง
น้องคนหนึ่งก็มาพูดคุยเรื่องจะเข้าบ้านศาสนายังไงดีให้ช่วยแนะนำด้วย
ทำให้คิดย้อนกลับไปถึงตัวเองเมื่อแรกเริ่มก็เจอปัญหานี้เหมือนกัน เลยชวนมาเล่าให้ฟัง
น้องอีกคนหนึ่งก็มาสบทมด้วย รวม 3 คน เป็นธรรมสัญจรไปคุยกันที่สวนรถไฟบ้าง
เขาดินบ้าง เพลิดเพลินดี
ก่อนจะไปก็ต้องทำโน้ตสั้น
ๆว่าจะคุยเรื่องอะไร กลับมาก็เก็บไว้
ตั้งใจว่าจะเอามาเล่าให้ลูกชายฟัง
เท่าที่เคยถาม
ๆ มา ก็พอจะอนุมานได้ว่า คนที่ไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไรมีเยอะ และนึกเข้าหาศาสนาพุทธ
ก็หาประตูไม่เจอก็มีเยอะ พอเห็นใครอยากรู้ก็เล่าให้เขาฟัง เลยคิดว่าเขียนเป็นหนังสือเลยท่าจะดีกว่า
จะได้เผื่อไปถึงคนอื่น ๆ ที่อาจจะสนใจด้วย แต่ใครจะคิดว่าฉันตั้งตนเป็นอาจารย์นั้นก็ไม่ใช่
ฉันเป็นเพียงคนรวบรวมเอาคำเทศน์ที่ได้ฟังมาเล่าให้ฟังสั้น ๆ และรวมไว้ในที่เดียวกันเท่านั้นเอง
และอยากจะเล่าให้ฟังเพลิน ๆ ประสาเพื่อนคุยกัน พอเป็นพื้นฐานแบบเตรียมอนุบาล
เพื่อว่าท่านจะได้ใช้เป็นทางลัดให้เข้าไปศึกษาธรรมด้วยตัวเองต่อไปได้เลยไม่ต้องแวะเวียนค้นหาไปตามจุดต่าง
ๆ ให้เสียเวลาเหมือนกับที่ฉันเคยเป็นมา
แต่ในชั้นแรกนี่ ก็จะเล่าถึงช่วงที่ยังหาธรรมะไม่พบด้วย เพื่อท่านจะได้ทราบว่า
ความรู้สึกบางอย่างที่เคยเกิดขึ้นนั้น มันเกิดขึ้นกับคนอื่นด้วย อาจทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น
แรกเริ่มเมื่อมีความทุกข์ใจหนัก
แต่ละวันผ่านไปเหมือนเรือลำเล็ก ฝ่าอยู่กลางคลื่นยักษ์ในมหาสมุทรอย่างกับในหนังฝรั่งก็ได้ไปหาน้องคนหนึ่ง
ซึ่งมีท่าทางเป็นนักวิชาการดี และถามเขาว่า

พุทธศาสนาสอนว่าอะไร
เขามองหน้าเหมือนกับว่าเรายวน
แต่พอเห็นความโง่ในดวงตาของฉัน ก็กลับเปลี่ยนใจ วันรุ่งขึ้น ก็หอบหนังสือมาให้เกือบ
10 เล่ม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางศาสนา ปรัชญาลัทธิต่าง ๆ และหนังสือธรรมะหนา
ๆ พอเห็นตั้งหนังสือฉันก็เริ่มหาว และอุ้มเอากลับไปหนุนหัวนอน

วันหนึ่ง
จึงออกกำลังกายเดินไปวัดเบญจมบพิตร เพราะอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก ไปถึงก็ไปนั่งกราบพระพุทธชินราชที่แสนจะงดงามประทับใจ
นั่งรำพึงรำพันฟ้องเรื่องราวต่าง ๆ กับท่านอยู่ในใจไกด์ตัวท้วมพาฝรั่งเที่ยวก็เดินเกือบจะสะดุดเท้าของฉันที่พับเพียบแนบอยู่กับตัว
หัวเข่าเฉี่ยวไหล่ไปเส้นยาแดงผ่ายี่สิบแปด อะไรวะ! ยังไม่บรรลุเลย
ตัวฉันใสจนมองไม่เห็นรึไง นึกแล้วก็หันไปกราบพระ ท่านยังยิ้มให้อยู่เหมือนเดิม
อยากให้พระท่านพูดได้จังเพราะบ่นแล้วมันยังไม่หายกลุ้มใจ
เป็นเครียดอยู่นาน
มีคนชวนไปถวายสังฆทานให้สบายใจ ก็ไปซื้อข้าวของเตรียมสังฆทาน แล้วก็ไปวัดด้วยความยินดี
ไปถึงกุฏิเจ้าอาวาส ท่านก็ใจดีสวดมนต์ให้ยาวหลายบท และยังแถมบทสวดให้พรประจำวันเกิดด้วย
ฟังจนขาเป็นเหน็บ ย้ายพับเพียบซ้ายไปขวา ขวาไปซ้าย ระหว่างนั่นท่านก็ซัดน้ำมนต์ให้เพื่อเป็นสิริมงคล
กว่าจะสวดเสร็จ ก็เปียกไปทั้งตัวยังกะฝ่าฝนตกหนักมา ก็ชุ่มฉ่ำหัวใจ
แจกทิชชู่มาเช็ดหัวหูกันเพลิน

|