Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เสียบุตรที่รักอย่างกระทันหันควรปฏิบัติอย่างไรจึงทำใจได้ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กชพร
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2005
ตอบ: 8

ตอบตอบเมื่อ: 09 เม.ย.2005, 7:58 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เลิกกับสามี มีบุตรชายเพียงคนเดียว อายุ 21 ปี แต่เมื่อ 18 มีนาคม 2548 กลับเสียชีวิตอย่างกระทันหัน ด้วยการนอนหลับไปแล้วไม่ฟื้นตื่นมาอีก ทำใจให้ยอมรับกับการที่ลูกจากไปยังไม่ได้เลย บางครั้งคิดว่าตัวเองฝันไปหรือปล่าว ควรจะปฏิบัติตัวปฏิบัติใจอย่างไร ขอท่านผู้รู้ช่วยอนุเคราะห์ด้วยค่ะ
 

_________________
คนเราเมื่อมีความทุกข์ การที่มีใครสักคนพร้อมที่จะรับฟังและให้คำปรึกษา ถือว่าผู้นั้นเป็นมิตรแท้อย่างยิ่ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ผ่านมา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 เม.ย.2005, 12:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เสียใจด้วยค่ะ อย่าคิดมาก และหมกมุ่นกับเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นเลยนะค่ะ ใช้เวลาที่เหลืออยู่ปฏิบัติธรรม เพือสร้างคุณค่าให้กับตนเองและอุทิศบุญ กุศลนี้ให้แก่ผู้จากไปเถอะค่ะ
 
เพื่อนธรรม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 เม.ย.2005, 1:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โห ..... หลับไปแล้วไม่ตื่น นี่เป็นการตายที่ทรมานน้อยที่สุดเลยน๊ะเนี่ย

ผมเองจะได้อย่างนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้



คุณต้องพิจารณาให้แยบคายกว่านี้ว่า ความตายเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดาที่สุด เราเองก็นั่นแหละเหมือนกันเลย ขณะจิตที่ทุกข์ก็ต้องทุกข์ เพราะได้ยึดมั่นมานานว่านั่นคือลูกของเรา เราเป็นแม่ อะไรทำนองนี้ คือแม้แต่ทุกข์ ถ้าเราบอกว่าเป็นของเรา อย่างนี้ก็เสร็จเลย ทุกข์เต็มร้อยแน่ๆ



เขาถึงต้องฉีดวัคซีน ด้วยการศึกษาธรรมะกันไว้แต่เนิ่นๆไงครับ

เคยรู้เรื่องขันธ์ 5 หรือเปล่า ความไม่ใช่ตัวตนอ่ะ

ตอนนี้ทุกข์ใช่ไหม ต้องพิจารณาตั้งแต่ว่ากายเป็นสักว่าธาตุ นั่นร่างกายใคร แน่ใจหรือว่านั่นเป็นร่างกายลูกของตน แล้วกายเธอเองล่ะ ของเธอแน่น๊ะ ไม่ใช่ดินน้ำลมไฟหรือ นี่ทางกายน๊ะตัวอย่าง



ความทุกข์ก็คือเวทนาอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นธรรมชาติของจิตซึ่งมีอยู่จริงในธรรมชาติ

คนที่มีสภาวะเหตุการณ์อย่างนี้ก็ทุกข์อย่างนี้ทุกคน เพราะนี่คือจิตดวงเดียวกัน

ธรรมชาติให้ลูกเต๋ามาหกด้าน โยนอย่างไรก็หกด้านนี่แหละ ไม่พ้นที่มีนี้ไปได้



คืนทุกอย่างให้ธรรมชาติไปเถอะครับ อย่าตู่ไปว่าสิ่งใดเป็นตัวเราของเราเลย

ผมเองก็ทยอยคืนไปเรื่อยๆครับ บางสิ่งมันยังไม่ได้คืนนั่นแหละทุกข์ทั้งนั้น



ขันธ์ 5



1. รูป ดิน น้ำ ลม ไฟ

2. เวทนา ทุกข์ สุข ไม่ทุกข์ไม่สุข

3. สัญญา ความจดจำในอายตนะทั้ง 5 ( แล้วมักยึดว่าเป็น ) มีบุคคล กาลเวลา สถานที่

4. สังขาร การปรุงแต่งสิ่งที่จดจำนั้นเป็นเรื่องราวยาวยืด

5. วิญญาณ สิ่งที่สัมผัสรับรู้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
 
รอย คีน(เบอร์16)
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 เม.ย.2005, 8:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คิดมากปวดหัวมาก

คิดน้อย ปวดหัวน้อย

ไม่คิดเลย ก้อไม่ปวดหัวเลย



จำเป็นด้วยเหรอที่ต้องเอาธรรมะเข้าข่ม

ไม่มีใคร บีบให้คุณคิด คุณคิดของคุณเอง

แล้วจะทำยังงัยดีล่ะ คำตอบอยู่ที่ใคร ก้อคุณงัย อยากเสียใจก้อคิดไป ไม่อยากเสียใจก้อไม่ต้องคิด
 
chanpapha
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 05 เม.ย. 2005
ตอบ: 16

ตอบตอบเมื่อ: 09 เม.ย.2005, 9:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความทุกข์โศกที่เกิดขึ้นจะมลายหายไปได้จากการปฏิบัติธรรมค่ะ แนะนำให้คุณปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งจะก่อให้เกิด สติ ปัญญา และความชุ่มเย็นแก่คุณในการที่จะดับทุกข์นี้ได้ และยังเป็นการสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ที่คุณจะอุทิศให้กับลูกชายอันเป็นที่รักของคุณได้ด้วยค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 09 เม.ย.2005, 9:32 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณกชพร.....การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก หรือพลัดพรากจากของรักของชอบใจนั้น คุณลองพิจารณาซิว่า อย่าว่าแต่ชีวิตคนที่เรารัก หรือคนอื่น หรือแม้แต่ทรัพย์สินเงินทองมากมายก่ายกองทั้งหลายเหล่านั้นเลย แม้ชีวิตเราเองก็หนีไม่พ้นกฏของธรรมชาติที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั้นไปได้



ตื่นจากความฝัน สมรสกับพระธรรม ควงคู่อยู่กับพระธรรม น้อมนำเข้ามาเป็นคู่จิตคู่ใจ เชื่อเถอะว่า พระธรรมจะอยู่เคียงข้างกชพรทุกลมหายใจเข้าออกตราบวันตาย ให้พระธรรมอยู่เป็นเพื่อนชีวิต พระธรรมไม่เคยทรยศกบฏรักเหมือนคู่ควงที่เป็นปุถุชนซึ่งมีรักอื่นเสมอด้วยตนไม่มี



เมื่อเสียใจ เศร้าใจ สลดใจ ต้องหลั่งน้ำตา พระธรรมนั่นแหละจะคอยซับน้ำตาและปลอบประโลมใจ อิทธิพลของพระธรรมจะทำให้น้ำตาตื้น หายเป็นปลิดทิ้งในที่สุด.....ชีวิตไม่มีใครเป็นเจ้าของมัน ชีวิตเป็นธรรมชาติ เป็นของธรรมชาติ ปล่อยวางมันเสีย เพียงกระแสธรรมชาติล้วนๆที่ไหลเรื่อยไปต่างหาก



ไหลพร้อมไปกับความไม่เที่ยงแท้แน่นอน คือ อนิจจัง ไหลไปท่ามกลางความทนอยู่ได้ยาก คือ ทุกขัง เพราะชีวิตไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ว่าใคร มันเป็น อนัตตา อย่างนั้นเอง



ปล่อยวางซะ.....วันหนึ่งที่ถึงวันที่เราต้องตาย ก็จงหลับตาตายไปด้วยจิต ที่ประภัสสรอยู่ตามธรรมชาติของมัน ไม่ต้องปรุงแต่งให้หนักอึ้ง เศร้าหมองด้วย อวิชชา ตัณหา อุปาทานอีกต่อไป ภพ ชาติ ทุกข์ ก็เป็นอันจบสิ้นลง ณ ขณะจิตที่สำคัญที่สุดนั้น...นั่นเอง



ธรรมะสวัสดี



มณี ปัทมะ ตารา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ธรรมะวัฒนะ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 10 เม.ย.2005, 8:12 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความสมดุลแห่งธรรมชาติ มีได้ย่อมมีเสีย มีเกิดย่อมมีตาย มีด้าน

บวกย่อมมีด้านลบ ธรรมชาติมันเป็นเช่นนี้เอง ไม่มีเหตุผล ไม่อาจ

หาคำตอบได้ว่า ทำไม? ผู้ใดสามารถโน้มนำจิตใจให้คล้อยตาม

ธรรมชาติได้ย่อมไม่เกิดทุกข์ ผู้ใดทำใจให้คล้อยตามธรรมชาติไม่ได้

ย่อมทุกข์ใจอยู่ตลอดเวลา



ธรรมวัฒนะ พบรักเมื่อเฒ่าชรา
 
มโน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 10 เม.ย.2005, 1:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณกชพร ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย สิ่งที่ทำได้ขณะนี้ก็คือทำใจให้ยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วล่วงพ้นความตายไปได้ จะช้าหรือเร็วก็แล้วแต่กรรม ขอให้ถือปฏิบัติแต่สิ่งดี ทำบุญอุทิศกุศลให้แก่บุตรที่รัก เมื่อจิตใจสงบ รับได้กับการที่คุณต้องดำเนินชีวิตอยู่ต่อไป คุณย่อมพบกับทางแห่งความสุข
 
กชพร
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2005
ตอบ: 8

ตอบตอบเมื่อ: 13 เม.ย.2005, 4:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบขอบพระคุณ ท่านผู้มีธรรมะทุกท่าน ที่ได้ให้ข้อคิดโดยเอาหลักธรรมมาแนะนำ ดิฉันขอน้อมรับไว้เพื่อแก้ทุกข์ที่เกิดในใจ ขอกราบขอบพระคุณอีกครั้ง และขอให้บุญกุศลที่ทุกท่านได้ทำให้ดิฉันได้ข้อคิดเพื่อบำบักทุกข์นั้น ส่งให้ทุกท่านประภัสสรด้วยพระธรรม
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
TU
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589

ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2005, 9:56 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอให้คุณกชพร ศึกษาประวัติของ

พระปฏาจาราเถรี เอตทัคคะในฝ่ายผู้ทรงพระวินัย
ที่สูญเสีย... สามี-ลูกทั้ง 2 คน-พ่อ-แม่-พี่ชาย ในเวลาไล่เลี่ยกัน จนเสียสติ


ท่านประสบทุกข์อันหนักหน่วงมากมาย
แล้วอาศัยธรรมเป็นที่พึ่งจนได้บรรลุพระอรหัตผล

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=6788

สาธุ ไม่ใช่มีแต่เราเพียงคนเดียวเท่านั้นที่พบกับความสูญเสีย
ยังมีเพื่อนร่วมโลกอีกมากมายที่ประสบกับความสูญเสียนะค่ะ คุณกชพร
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวYahoo Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง