|
 |
|
กำลังอ่านอยู่ : 6 คน |
|
|
|
|

สมัยเป็นเด็กเรียนอยู่ชั้นมัธยม
เคยได้ยินอาจารย์พูดว่า สันดอนนั้นขุดง่าย แต่สันดานขุดยาก ฟัง
ๆไปก็นึกว่าเป็นคำคล้องจองกันเฉย ๆ ก็ขำกันไป พอแก่แล้วจะมาฝึกหัดเลิกละนิสัยมักโกรธของตัวเอง
จึงได้สำนึกถึงคำโบราณคำนี้ โอ มันขุดยากจริง ๆ ว่าจะไม่โกรธแล้วเชียว
ไม่ทันไรเลย โกรธไปเรียบร้อยแล้ว วิถีจิตนี่มันไวจริง ๆ ตามไม่ทันเลย
นึกขึ้นมาได้ทีไรเป็นอดีตไปแล้วทุกที โกรธทะเลาะกันไปเรียบร้อยแล้ว
บางทีน้ำตาแห้งแล้วจึงสำนึกได้ว่าโกรธอีกแล้ว
จึงได้นั่งนึกว่าจะทำอย่างไรหนอกับความโกรธของตัวเองเพราะโกรธแล้วก็เป็นทุกข์เหลือเกิน
ทำให้มีเรื่องราวเกิดขึ้น และทำให้คู่กรณีของเราก็โกรธเป็นทุกข์ไปด้วยอีกคน
ช่างไม่ดีจริง ๆ เลยความโกรธนี่
คุณเฉลิมชัย
โฆษิตพิพัฒน์ เขียนเล่าไว้ในหนังสือประวัติชีวิตของเขาเองว่า วันหนึ่ง
ผมก็ลุกขึ้นมาประกาศเลยว่า พรุ่งนี้ผมเลิกชั่วตลอดชีวิต แล้วผมก็เลิกเลย
ช่างเป็นคนเข้มแข็งอะไรปานนั้น
ฉันนึกนิยมในใจ ครั้นจะเลียบแบบบ้างก็คิดว่าคงไปไม่ได้ไกล สำหรับหัวข้อความโกรธนี้
เพราะจะเลิกโกรธพรุ่งนี้ไปตลอดชีวิตเลยได้ไง ในเมื่อโกรธแล้วยังไม่รู้ตัวเลย
ตามไม่ทัน เห็นทีจะต้องเอาคุณเฉลิมชัยไปเป็นตัวอย่างแก่ตนเองในข้ออื่นจะดีกว่า
คิดได้ดังนั้นแล้ว ฉันก็ย้ายวิก
ฉันไปดูตุ๊กตาล้มลุกเป็นตัวอย่างและเป็นกำลังใจ
ไม่เป็นไร
วันนี้โกรธแล้วก็แล้วไป พรุ่งนี้ตั้งต้นไม่โกรธกันใหม่ ล้มแล้วก็ลุกไปเรื่อย
ๆ ผ่อนคลายตัวเองหน่อย พระพุทธเจ้าสอนว่าทางสายกลาง แต่อย่าหย่อนเกินไปก็แล้วกัน
ไม่งั้นจะเป็น โกรธได้ย่ะ จะโกรธย่ะ อันนี้คือล้มไม่ลุก
แล้วก็ไม่ต้องถึงกับหักคะแนนตัวเอง
ตำหนิตัวเองว่า โอย ฉันแย่จังเลย ทำไม่ได้เป็นคนไม่เข้มแข็ง รู้สึกเศร้าหมองจนบั่นทอนกำลังใจตัวเอง
ไม่จำเป็นต้องคิดเช่นนั้น เอาแค่มองตรง คือตั้งใจใหม่ กับมองสูงว่าจะต้องทำได้ในที่สุด
ไม่ต้องมองต่ำว่าเราทำไม่ได้ เพราะอะไรๆมันอยู่ที่เราจะเลือกคิด ฉะนั้น
ก็เลือกคิดให้กำลังใจตัวเองเป็นดีที่สุด
พูดมาถึงตรงนี้
อาจจะรู้สึกขัดกับข้อที่แล้ว ที่ว่าให้ตั้งใจมาก ไม่เช่นนั้นจะยกโทษให้ตัวเองทุกครั้งที่โกรธ
คราวนี้มาบอกให้เป็นตุ๊กตาล้มลุก คือโกรธได้โกรธแล้วเอาใหม่ แต่ตรงนี้มันต่างกัน
คือตุ๊กตาล้มลุกนี้
รู้ตัวว่าเสียท่าโกรธไปแล้ว ให้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ยังดำรงความตั้งใจที่จะหยุดโกรธอยู่
ให้กำลังใจตัวเอง แล้วลองทำใหม่ คือตั้งใจที่จะเป็นตุ๊กตาที่ล้มแล้วลุกใหม่ได้
ถ้าไม่ตั้งใจ ก็คือตุ๊กตาที่ล้มแล้วเลิกเลย
ส่วนการยกโทษให้ตัวเองที่ว่านั้น
คือ ฉันไม่ผิด เรื่องมันควรโกรธหรอก ฉันไม่ได้โกรธไปเอง ไม่เสียคะแนนว่างั้นเถอะ
ถ้าเข้าใจนัยนี้ได้ ก็จะเห็นว่า 2 ข้อนี้ ไม่ได้ขัดกัน
ตอนหัดใหม่
ๆก็โกรธทุกวัน โกรธไปก่อน จับไม่ทัน มาคิดได้ทีหลัง แต่พอให้กำลังใจตัวเองว่าเป็นตุ๊กตาล้มลุก
เอาใหม่ เอาใหม่ ไม่เป็นไร เอาใหม่ อยู่เรื่อย ๆ มันก็ค่อย ๆดีขึ้นเรื่อย
ๆ เหมือน
กัน
คือปรากฏว่ามันไวขึ้น จับความรู้สึกได้ไวขึ้น ว่ากำลังโกรธนะ ให้เลิกโกรธ
กลับมาพิจารณาด้วยเหตุผล ต่อมาก็เป็นเกือบ ๆจะโกรธแล้วนะ จะรู้สึกตัวแล้วก็เลิกโกรธ
หันไปฟังเหตุผลมากขึ้น ก็จะลืมความโกรธไปใส่ใจกับเรื่องราวต่าง ๆ ต่อไป
พอนาน
ๆเข้า มันไม่โกรธเร็ว ความโกรธมันค่อย ๆ ช้าลงเรื่อย ๆ ท่านพุทธทาสเคยสอนว่า
ฝึกธรรมะเหมือนฝึกจักรยานค่อย ๆ เป็น มันสะสมไว้ไม่หายไปไหน พอเป็นแล้วก็สบายขี่ได้ดีและจะกลับไปขี่จักรยานไม่เป็นอีกก็ไม่ได้

มีเพื่อนบางคน
เคยเล่าให้เขาฟัง และชวนให้ฝึกด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่ฝึกไม่ได้นาน
เขามีความรู้สึกว่ามันไม่ได้ผล เห็นตัวเองก็ยังโกรธอยู่ ก็บอกกับตัวเองว่า
โอ้ย ทำไม่ได้หรอก แล้วก็เลิกไป
อันนี้น่าจะให้ไปขุดสันดอนเวลาโกรธ
เป็นการระบายอารมณ์อัดอั้น และยังเป็นประโยชน์แก่เรือสัญจรในแม่น้ำ
เพราะโกรธบ่อย ได้ขุดอยู่เรื่อย ๆ แม่น้ำจะได้ไม่ตื้น

กำลังใจเป็นเรื่องสำคัญ
ไม่มีใครให้กำลังใจแก่เราได้ดีเท่ากับตัวเราเอง แม้คนสักร้อยคนมายืนให้กำลังใจเรา
แต่ถ้าตัวเราเองท้อถอยเสียแล้ว ก็ไม่ส่งให้เกิดผลอันใด วันที่เราไม่โกรธ
เราอาจนึกชมตัวเองบ้าง ให้คะแนนตัวเองสักหน่อย เป็นการให้กำลังใจตัวเอง
ไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือน่าเกลียดอะไรเลย ที่จะชมผลงานของตัวเองบ้าง
เราบอกแก่ตัวเองผู้ได้รับผลงาน ไม่ได้ไปอวดกับใครและไม่ได้ยกยอให้หลงอะไรไป
เพียงรู้ตัวว่าเราทำได้สำเร็จครั้งหนึ่งก็ชื่นใจ เก็บคะแนนไปเรื่อย
ๆ
การสะสมความเย็นที่เกิดขึ้นในใจ
ในระยะแรกเราจะไม่รู้สึกเหมือนกับว่ามันจะไม่ได้ผล ฉันคิดว่ามันอาจจะเหมือนน้ำแข็งก้อนเล็ก
ๆ ในแก้วน้ำร้อน ที่ทำให้น้ำเย็นไม่ได้ แต่พอใส่น้ำแข็งลงไปเรื่อย
ๆ น้ำในแก้วก็เย็นขึ้น คือต้องมีปริมาณและคุณภาพที่พอเพียง มันจึงแสดงผลได้
เมื่อเราสามารถคุยกับใครหรืออยู่ในสถานการณ์ใดที่เราจะโกรธแล้ว เราจะแปลกใจที่ทำไมเราจึงไม่รู้สึกโกรธ
เราจะมีคำถามกับตัวเอง แต่เป็นคำถามที่น่ายินดี
 
|