|
 |
|
กำลังอ่านอยู่ : 11 คน |
|
|
|
|

พรพรำเป็นเมตตากรุณา
เห็นพิษจริตลำบากก็อยากช่วยเหลือ เธอช่วยค้ำประกันรถให้ ช่วยขายที่ดินให้
และยังให้ยืมเงินสดอีก เหตุการ์ณผ่านไป จนพิษจริตพ้นวิกฤติไปได้ วันหนึ่งพรพรำก็ได้รับจดหมายจากบริษัทรถ
ให้ชำระค่ารถแทนในฐานะผู้ค้ำประกัน พรพรำไม่ได้พบกับพิษจริต แต่มีญาติมาเล่าให้ฟังว่าพิษจริตบ่นว่า
คราวนั้นเธอขายที่ดินให้ในราคาที่ถูกเกินไป เขาควรจะได้เงินมากกว่านี้
ไม่อย่างนั้นเขาคงผ่อนรถเองได้
พรพรำคุยให้วุ้นหวานฟัง
วุ้นหวานให้อรรถาธิบายว่า ทำคุณคนไม่ขึ้น ที่ดินขายไปแล้ว ตอนหลังจะมาพูดว่าขายถูกเท่าไหร่ก็พูดได้
ถ้าขายได้แพงมาก ตอนนั้นทำไมไม่ขายเสียเองเล่า ก็เพราะไม่มีคนซื้อนะซี
เรื่องถึงได้มาถึงเรา นี่ดีนะที่เธอยังไม่ได้ซื้อไว้เอง ไม่งั้นเขาหาว่าเธอโกงเขาแน่
พรพรำเก็บเกี่ยวประสบการณ์แบบนี้ได้บ่อยเหมือนเดินผ่านหญ้าเจ้าชู้
แต่กระนั้น เมื่อรู้ว่าใครมีทุกข์ สมองของพรพรำก็แล่นปื้ด มีแผนการขึ้นมาทันทีว่าเรื่องอย่างนี้
ๆ ต้องแก้ปัญหาอย่างนั้น ๆ บางทีความร้อนใจของเธอจะมีมากกว่าเจ้าของเรื่องเขาเสียเองด้วยซ้ำ
เธอบอกวุ้นหวานว่า
ก็เรามีนิสัยเป็นนักจัดการไง มันก็เลยชอบคิด
วุ้นหวานค้อนประหลับประเหลือก
แปลตามศัพท์ว่าเสือก
แล้วจะให้ทำไง พรพรำหัวเราะไปถามไป ในขณะที่วุ้นหวานทำหน้าเบื่อ
ก็ช่วยได้
แต่ช่วยเท่าที่พอสมควร นอกนั้นต้องอุเบกขา ไม่ใช่เอาแต่อุ้มแบกเขา
เราแทบตายแล้ววันหลังเสร็จงานยังต้องมากิน ยำขอบคุณ ที่เผ็ดจนปวดท้องอีก
คำของวุ้นหวานเจาะใจพรพรำ
ให้เกือบ ๆ เป็นน้ำตาพรำ วุ้นหวานรีบอุดรูน้ำตา

เอาน่ะ เรื่องมันแล้วไปแล้ว ท่านสอนว่าอย่างนี้นะ วุ้นหวานเริ่มเทศน์
ไม่เป็นทุกข์ล่วงหน้า
และไม่นำเอาคความทุกข์ที่ล่วงไปแล้วมาทับถมสมทบเข้าไปอีก คือให้คิดอยู่เสมอว่า
ความทุกข์สำหรับวันนี้ก็พอแล้วสำหรับวันนี้ ไม่ต้องนำเอาความทุกข์เมื่อวานกับวันนี้มาสมทบเข้าด้วยกัน
พรพรำชอบทุกข์เพราะความคิด
ชอบวางแผนงานล่วงหน้าแล้วก็ทุกข์ว่าจะเป็นไปตามนั้นไหม ชอบคิดถึงความหลังที่เจ็บปวดว่ามันไม่น่าเป็นอย่างนั้นเลย
วัน ๆ อยู่กับข้างหน้าบ้างข้างหลังบ้างตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่สวดมนต์อยู่ทุกเช้าว่า
ไม่คิดถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้วด้วยอาลัย และไม่พะวงถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
เสียงวุ้นหวานเทศน์ต่อไปว่า
เรื่องอนาคต เมื่อวางแผนไว้ดีแล้ว ก็พอแล้ว หลังจากนั้นก็ทำไปให้ดีที่สุด
แต่ถ้ามันไม่เป็นไปตามแผนก็แก้ไขไป ไม่ต้องกังวลล่วงหน้าจนปวดท้อง
มันมาถึงก็รู้เองแหละ เรามีพรที่พรำ ๆ อยู่ตลอดเวลาแล้วจะกลัวอะไร
ต้องดีวันยันค่ำ จริงมะ ถ้าชื่อพรสวิตช์ติด ๆ ดับ ๆ ก็ว่าไปอย่าง ส่วนเรื่องอดีต
ไม่ต้องพูดถึง ลืมไปเลยรู้ไหม เออ เมื่อกี้ฉันพูดอะไรนะ เห็นไหม ฉันลืมไปแล้ว
เฮ้ย
มากไป พรพรำหัวเราะ วุ้นหวานยิ้มแก้มตุ่ย
ท่านสอนว่า
น้ำเยอะแยะนอกเรือ ไม่ทำให้เรือจม แต่น้ำนิดหน่อยที่อยู่ในเรือ ทำให้เรือจมได้
รู้ไหม ใจเรานั่นแหละคือเรือ เรื่องอะไร ๆ ที่อยู่ในใจเรานั่นแหละที่จะทำให้เราตาย
เพราะฉะนั้นเราต้องคอยวิดน้ำ คือเรื่องบ๊อง ๆ ทั้งหลายออกไปจากใจเราอยู่เรื่อย
ๆ จึงจะอยู่สบาย ช่วยคนอื่นก็ช่วยพอประมาณ เราชื่อพรพรำ ไม่ใช่ชื่อพรพร่ำเพรื่อ
ถ้าจะมีพรหมวิหาร 4 ต้องมีให้ครบ 4 อย่ามีแค่ 2 มีไปให้ถึงข้อ 4 คืออุเบกขาด้วย
อย่างนี้ถึงจะพอเอาตัวรอดด้ายยย
ใจดำหรือเปล่า
พรพรำกระซิบ วุ้นหวานสั่นหัว ลงจากธรรมมาสน์ เลิกเทศน์ เอวังด้วยคำว่า
ถึงเวลาอุเบกขาเราต้องถือว่า สัตว์โลกย่อมมีกรรมเป็นของตนและเป็นไปตามกรรม

|