|
 |
|
กำลังอ่านอยู่ : 8 คน |
|
|
|
การพยายามตีความเข้าข้างตน |
|
|
|
|

ธรรมะสอนเพื่อแก้ทุกข์ใจ
และเป็นไปในทางที่ดีเสมอ แต่ด้วยความรักตัวเห็นแก่ตัวเอง อันเป็นธรรมชาติของคนเรา
จึงพยายามฉลาดพยายามตีความหมายให้สนองความต้องการของตนเอง อย่างในบางครั้งที่เราเรียกกันว่า
เลี่ยงบาลี ตรงนี้ไม่มีประโยชน์อะไร
เพราะเมื่อคนเราพยายามตีความให้เบี่ยงเบนไป ให้ผิดเพี้ยนไป เขาก็ทำในสิ่งที่เขาตัดสินว่าเขาแปลถูก
ส่งผลให้การกระทำของเขาผิดไปด้วย ทำกับเป็นการทำกรรมใหม่ที่ผิดสร้างบาปให้ไปรอตนเองอยู่ในวันข้างหน้า
เนื่องจากไม่ว่าเราจะทำอะไร
ก็เรียกว่าเป็นการสร้างกรรมไว้ ส่วนทำดีก็คือสร้างกรรมดี ส่วนกรรมชั่วก็คือสร้างกรรมชั่ว
เมื่อสร้างแล้วย่อมมีผลเสมอ ก็มีผลดีและชั่วตามการสร้าง วันใดวันหนึ่งผลย่อมปรากฏตามการกระทำ
เกรียงไกรได้เรียนรู้ว่า
ร่างกายนี้ไม่ใช่ตัวตน เป็นองค์ประกอบของธาตุ และทุก ๆ เรื่องบนโลกนี้
ในที่สุด ก็คือความว่างเปล่า
เขาจึงคิดว่า
ถ้าอย่างนั้น เขาจะทำร้ายใครก็ได้ที่เขาไม่ชอบ เพราะในที่สุดแล้วก็ว่างเปล่า
เขาเอ่ยให้มาลีฟัง มาลีจึงอธิบายว่า
นั่นเป็นเพราะเรารักตัวเอง เราสนองความรู้สึกของตัวเองอยู่เสมอ เมื่อเราไม่ชอบใคร
ถ้าได้ทำร้ายเขาโดยไม่มีความผิด ก็รู้สึกว่าจะเป็นทางออกที่ดี ที่ได้ทำด้วยและไม่ผิดด้วย
แต่ธรรมะสอนให้เราเป็นคนดี
การทำร้ายคนอื่นเป็นสิ่งที่ผิด เราจึงรู้ว่าคุณแปลผิด ความว่างจึงไม่ได้แปลว่าให้คุณทำร้ายใครได้
ในทางกลับกัน
คุณลองคิดสิว่า โอ
. ทุกสิ่งเป็นของว่างเปล่า ถ้าอย่างนั้นคนอื่นก็มาทำร้ายเราได้ตลอดเวลาสิ
ฟังแล้วน่ากลัวไหม คุณไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลยใช่ไหม เกิดรักตัวกลัวตายขึ้นมา
อยากให้ข้อนี้แปลถูกไม่ใช่แปลแบบนี้ คนอื่นก็กลัวเหมือนกับเรา
เพราะฉะนั้น
อย่าแปลอะไรเพื่อสนองใจเราฝ่ายเดียว
อีกอย่างหนึ่ง
จุดประสงค์ของการให้เห็นเรื่องความว่างของทุกสิ่ง ก็เพื่อถอนความยึดติดในใจของเราให้คลายลง
เป็นความรู้ในโลกของธรรมะ แต่ในโลกของความเป็นจริง เราก็ยังอยู่ในกฎของสังคม
ซึ่งมีกฎหมายไว้คุ้มครอง เพื่อให้คนเราอยู่กันอย่างสงบ ถ้าเราไปทำร้ายใคร
เราก็ต้องติดคุก จะมาอ้างว่า โลกว่าง ไม่ต้องติดคุกนั้นไม่ได้ มันคนละเรื่องกัน

|