วุ่นวาย คือ อาการหงุดหงิดภายในจิต
แล้วก็แสดงออกมาทางคำพูดและทางกาย เช่น บ่น เพ้อ รำพรรณ
จะนั่งนอนที่ไหนก็ไม่เป็นสุข หรือไม่เกิดความพอใจ เป็นต้น
อาการที่ว่านี้ ถ้าไม่รู้จับยับยั้ง หรือไม่มีอุบายที่จะทำให้มันสงบได้
อาจจะแตกดอกออกผล เป็นด่าหรือทุบตีเกิดขึ้นได้ ถ้ามีผุ้ขัดใจหรือมีอำนาจที่พอทำได้
เจ้าความวุ่นวายที่ว่านี้ มีเหตุให้เกิดได้ ๒ ทาง คือ
จากสิ่งแวดล้อม และจากจิตของเราเอง
วุ่นวายจากสิ่งแวดล้อม คือ อยู่ในสภาพที่พลุกพล่านด้วยผู้คน
และเสียงต่าง ๆ เช่น อยู่ด้วยกันมาก ๆ แออัดยัดเยียด
เสียงจากโรงงาน เสียงสัตว์ เสียงคน เป็นต้น
วุ่นวายจากจิตของเราเอง คือ จิตใจมันไม่สงบอยู่แล้ว
แม้ได้อยู่ในสถานที่สงบ มันก็อดที่จะวุ่นวายไม่ได้ ถ้าอยู่ในที่วุ่นวายด้วย
ก็ยิ่งจะเสริมให้หงุดหงิด หรือวุ่นวายยิ่งขึ้นไปอีก
การจัดการกับสิ่งแวดล้อม ที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายนี้
จัดได้ยากและไม่ควรจัด เพราะจะต้องจัดกันไม่รู้จักจบสิ้น
ทั้งจะต้องพบกับอุปสรรค และต้องลงทุนลงแรงมาก ผลที่ได้ไม่คุ้มค่ากัน
สู้การจัดที่จิตใจของตนเองดีกว่า ทั้งง่ายและประหยัดด้วยมีวิธีทำได้
๒ ประการ คือ ก. แยกตัวเอง ข. สงบใจตนเอง
การแยกตัวเอง คือ การปลีกตนออกไปอยู่คนเดียว ในที่สงบสงัด
ตามแต่ที่เราจะเห็นสมควร ถ้ามีบริเวณบ้าน หรือสวน จะจัดมุมใดมุมหนึ่ง
ให้เป็นที่วิเวก เช่น ปลูก กระท่อมเล็ก ๆ ที่อยู่โดดเดี่ยวและอิสระก็ได้
การอยู่ในสถานที่สงบสงัดนั้น เท่ากับปิดทวารไปได้ ๕
ทางแล้ว คือ ทางกาย ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น เหลืออยู่แต่ทางใจทางเดียว
คือความนึกคิด
การสงบใจตนเอง คือ การทำให้จิตใจสงบ มีวิธีทำอยู่ ๒
ประการ คือ ก. ทำในที่สงบสงัด ข. ทำในทุกที่
การทำในที่สงบสงัด คือ อยู่ในสถานที่สงบสงัด แล้วจึงจัดการกับจิตใจของตนเอง
มีการเจริญสติ สมาธิ และ วิปัสสนา เป็นต้น
การทำในทุกที่ คือ ไม่เลือกสถานที่ อยู่ที่ไหนก็ทำมันที่นั่น
ไม่สนใจกับสิ่งใดหรืออารมณ์ใดทั้งสิ้น ข้อสำคัญคือการ
"ทำใจ" ไม่เกาะเกี่ยวในอะไรทุกสิ่ง
ตัวเจตนา ความตั้งใจ ความใส่ใจ หรือจะพูดให้ตรง ๆ ก็คือความเส่หาอารมณ์ไม่เข้าเรื่อง
หรือสิ่งที่ไม่เป็นเรื่องนั่นแหละ เป็นมารหัวใจที่ร้ายกาจยิ่ง
สิ่งใดที่มันจะเกิดมันก็เกิด สิ่งใดมันจะดับมันก็ดับของมันไปตามสภาวะหรือเหตุปัจจัย
ถ้าเรามีสติและสัมปชัญญะ เราก็จะแยกรับหรือปล่อย โดยที่ไม่เกิดความเดือดร้อนอะไรเลย
รวมความว่า ต้นเหตุว่าความวุ่นวายใจทั้งหลาย ล้วนเกิดจากการขาดสติ
สมาธิ และปัญญา กล่าวคือระลึกไม่ได้ ว่าอะไรเกิดอะไรดับ
อะไรมีโทษและมีคุณแก่จิตใจ ในขณะนั้น ๆ ก็ไม่รู้ตัวเลย
ทางแก้
๑. ถ้าจัดการกับสิ่งแวดล้อมได้ ก็จัดการไป
๒. ถ้าจัดไม่ได้ก็ปลีกตนออกไปอยู่ในที่สงบสงัด
๓. คุมจิตของตนเอง ด้วยสติ สมาธิและปัญญา
ข้อที่ ๓ นี้สำคัญที่สุด ถ้าเอาสติควบคุมจติไว้ได้เพียงสิ่งเดียว
สิ่งอื่นทั้งโลกก็หมดความหมาย.