ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ออย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
10 ก.พ.2006, 9:45 am |
  |
ถ้าเกิดว่าเราไปยุ่งเกี่ยวกับคนที่เขามีครอบครัวแล้ว (แต่ยังไม่ถึงขั้นมีอะไรกัน) แต่ว่าเราคบไปได้สักพักนึงแล้วรู้ว่ามันไม่ดี แล้วก็ตัดสินใจเลิกยุ่งเกี่ยวกับเขาแบบชู้สาวคบกันแค่คนเคยรู้จัก เจอกันก็ทักกันบ้าง บางทีก็ทำว่าต่างคนต่างไม่มีตัวตน แล้วแบบนี้จะต้องชดใช้กรรมที่เรียกว่าผิดศีล ข้อ 3 รึเปล่า (ในกรณีนี้เราสำนึกได้ว่าไม่ดีก็เลยเลิก)  |
|
|
|
|
 |
สายลม
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
|
ตอบเมื่อ:
10 ก.พ.2006, 11:22 am |
  |
นำมาให้อ่าน คิดว่าน่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนและเตือนใจดีน่ะ
จากกระทู้
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=176
...................................
ผมยอมรับอย่างไม่กระดากเลยว่า ผมเป็นคนเลว คนบาป ทำแต่กรรมชั่วมามากมาย ศีลทั้ง 5 ข้อ ไม่เคยอยู่ในจิตใจผมเลยแม้แต่ข้อเดียว
ผมจะไม่โยนความผิดหรือบาปนั้นไปให้กับเหตุการณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะทุกสิ่งที่ผมได้กระทำลงไปแล้วนั้น มันเป็นเพราะจิตที่ใฝ่ต่ำของผมเอง ทั้งๆ ที่ผมมีทางที่จะหลีกเลี่ยง ไม่ให้มันเกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้นมาก็ได้
ย้อนหลังไปเมื่อปี 2506 ตอนนั้นผมกำลังอยู่ในวัยเบญจเพศพอดี
ผมไปหากินอยู่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยอาศัยอยู่กับครอบครัวของคนบ้านเดียวกันซึ่งผมเรียกเขาว่าพี่ทั้งสามีและภรรยา ครอบครัวของเขาอยู่ด้วยกัน 3 คน คือ สามี ภรรยาและลูกชายอายุไม่ถึง 6 ขวบ
ภรรยาของเขาค้าขายในตลอดเก่า ส่วนสามีนั้นเป็นช่างและเป็นเจ้าของร้านถ่ายรูป ผมอยู่กับเขานานเข้า ความใกล้ชิดสนิทสนมถือกันเป็นญาติพี่น้องก็เป็นของธรรมดา
เหตุการณ์เกิดขึ้นในคืนหนึ่ง คืนนั้นพี่ผู้ชายไปธุระในจังหวัดและค้างคืน ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ ไม่เกิน 22.00 นาฬิกา ลูกชายก็หลับไปแล้ว เวลาดังกล่าวผมกำลังนอนอ่านหนังสือนิยายอยู่ จู่ๆ ผมก็สะดุ้งสุดตัว เพราะพี่ผู้หญิงแกย่องมานั่งลงข้างเตียงนอนของผม เธออยู่ในชุดนอนที่บางมาก บางจนมองเห็นอะไรต่อมิอะไรทะลุปรุโปร่งไปหมด
มิหนำช้ำ เธอยังส่งยิ้มอันแสนจะยั่วยวนให้อีกด้วย เมื่อสายตาของผมกราดไปเห็นอะไรต่อมิอะไรเข้า ใจมันก็เกิดความปรารถนาขึ้นมา
ผมพยายามหักห้ามใจตนเองด้วยการพูกกับเธอว่า "พี่ลงมาทำไม กลับขึ้นไปนอนเสียไป๊ ใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดีไม่งาม"
แทนที่จะเธอจะพูดตอบและกลับขึ้นไปยังชั้นบนซึ่งเป็นห้องนอนของเธอ เธอกลับขยับเข้ามาชิดผมมากเข้าไปอีก ทำให้ส่วนท้ายของเธอเบียดกับขาผมพร้อมกับเลื่อนมือมาจับขาผมไว้
ผลที่สุด ผมก็ทนแก่ความต้องการไม่ไหว ก็ได้ล่วงละเมิดศีล ข้อ 3 ตั้งแต่บัดนั้นมา และเป็นมาอยู่เรื่อยๆ
วันหนึ่ง เธอมาพูกกับผมว่าเธอจะขอแยกทางกับสามีของเธอแล้วจะอยู่กับผมอย่างออกหน้าออกตา ผมรีบปฏิเสธทันที และยังเตือนเธอว่าอย่าได้กระทำอย่างนั้น แค่นี้ผมก็ละอายแก่ใจเต็มทีแล้ว
แต่เธอก็ไม่ยอม ผมจึงหาโอกาสหนีจากเธอโดยที่เธอไม่รู้ว่าผมไปอยู่ที่ไหน
เวลาผ่านไปได้ไม่ถึง 2 เดือน เธอก็ตามมาพบผมที่ลำปาง เธอนัดให้ผมไปพบ เมื่อตกลงกันที่โรงแรมที่เธอพักอยู่ ความจริงตอนนี้ถ้าผมจะหลีกเลี่ยงหรือหลบหน้าเธอไปเสีย ก็คงจะสิ้นเรื่องราวกันไปแล้ว แต่ตัณหาครับ ความอยากเพราะความเคยได้ ทำให้ผมก้าวลงอเวจีไปอีกจนได้ กว่าจะสลัดจากเธอได้ก็กินเวลาหลายวันทีเดียว
ผมมาทราบทีหลังว่า เธอแยกกับสามีเธอจริงๆ สามีเธอปวดร้าวมากเพราะเธอทิ้งลูกน้อยไว้ให้และไม่ทราบว่าไปอยู่แห่งหนตำบลใด สามีเธอได้รับความลำบาก ไม่เป็นอันทำมาหากิน จนเป็นบ้าไปพักหนึ่ง
พอผมหนีจากเธอได้ ผมก็รีบแต่งงานทันที ผมอยู่กับภรรยาจนมีลูก 1 คน ลูกกำลังไม่ถึงขวบ ผมก็บังเอิญพบกับหญิงสาวคนใหม่
ภรรยาใหม่ของผมอยู่ในฐานะค่อนข้างมีอันจะกิน อาชีพค้าขายและมีพี่สาวที่แต่งงานแล้วแต่ยังสวยไม่สร่างอยู่คนหนึ่ง เป็นเจ้าของร้านอาหาร
ผมกับภรรยามักจะมาช่วยพี่สาวขายกับข้าวอยู่เสมอ วันไหนผมไม่ว่างก็ให้ภรรยามาช่วย ผมกับพี่สาวอายุใล่ๆ กัน ความใกล้ชิดสนิทสนมฉันญาติก็ทำให้ไม่ถือสาอะไร นานวันเข้า พี่สาวของภรรยากับผมก็ถลำลึกลงไปถึงอเวจีด้วยกันอีก
เหตุการณ์แห่งความชั่วช้าเป็นมาอย่างราบรื่น สนุกสนานตามความคิดของคนเลวทราม โดยที่ภรรยาของผมและสามีของพี่สาวไม่ระแคะระคายเลย จนกระทั่งผลของกรรม ตามมาทันเข้า
เย็นวันหนึ่งผมได้ไปนั่งดื่มเหล้ากับพรรคพวกที่ร้านอาหารอีกแห่งหนึ่ง พรรคพวกซึ่งแกคงทนไม่ได้ที่เห็นเพื่อนเป็นควายมานาน จึงได้เล่าพฤติการณ์ของภรรยาของผมให้ผมฟังว่า "เฮ้ย เมื่อกี้ข้าเห็นเมียเอ็งเข้าโรงแรมม่านรูดกับเจ้าตำรวจที่เคยมากินอาหารที่ร้านเอ็งบ่อย ๆ ด้วย"
พอผมทราบเท่านั้นแหละ ผมโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลยทีเดียว ผมขับรถกลับบ้านด้วยความเร็วมาก เพราะความโมโห แต่แล้ว "โครม" รถผมเสยท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ที่กำลังจะชิดซ้ายจอดข้างทางอย่างจัง แถบซ้ายทั้งแถบของรถผมพังยับเยิน ส่วนรถบรรทุกไม่เสียหายอะไร จึงไม่มีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล
จิตใจของผมตอนนั้นไพล่ไปคิดว่าเป็นเพราะเมียมีชู้จึงทำให้ซวย โดยไม่คิดถึงกรรม ที่ตนเองได้กระทำมาแม้แต่น้อย
ผมกลับถึงบ้านก็พอดีกับที่ภรรยาผมลงจากรถนายตำรวจที่เพื่อนพูดถึงพอดี ผมปวดร้าวมาก ปวดหัวใจเหลือที่จะกล่าว
ผมเพิ่งจะทราบว่าพิษของการถูกแย่งของที่ตนรักนั้นเป็นอย่างไร ผมแยกทางกับภรรยาและเริ่มเอาเหล้าเป็นที่พึ่ง สำมะเลเทเมาจนเกือบจะเสียผู้เสียคน
ดีแต่ว่าหัวหน้างานท่านคงจะสังเวชหรือทุเรศก็ไม่ทราบ ท่านจึงพาออกท้องที่เสียนาน และพาไปเกลี้ยกล่อมจนสงบสติอารมณ์ลงได้บ้าง ความรัก ความแค้น จึงจางลง
ทว่ามันก็ไม่ได้ลบรอยขาดหายไป มันยังเป็นรอยขีดข่วนอยู่อย่างนั้น
บัดนี้ ผมปลงตกแล้ว เพราะผมได้พบกับทางสงบ ทางสว่างอันแท้จริง
นี่แหละ กรรมใดใครก่อไว้อย่างไร ย่อมได้รับผลกรรมนั้นไม่ช้าก็เร็ว
................................................
จากหนังสือเงากรรม (โลกทิพย์) |
|
|
|
    |
 |
แมวขาวมณี
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307
|
ตอบเมื่อ:
02 ก.ย. 2006, 4:53 am |
  |
ผิด ศีล ข้อ 3 คงยังต้องชดใช้อยู่ดีค่ะ
ผู้รู้ท่าน "แพ่งยอมได้ แต่อาญา ยังอยู่" ต้องไปชดใช้อีกค่ะ
การเลิกลาไป เท่ากับ หยุดกระทำ ชั่วนั้น แล้ว
แต่สิ่งที่ทำลงไปแล้ว ยังไม่ได้ชำระ บัญชีค่ะ
หาวิธีชดใช้กรรมเสียชาตินี้ จะไม่ต้องทนทุกข์ใน นรกที่รุนแรงกว่าหลายร้อยเท่าค่ะ |
|
_________________ พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา |
|
   |
 |
๛ Nirvana ๛
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403
|
ตอบเมื่อ:
02 ก.ย. 2006, 6:55 am |
  |
สาธุ คุณแมวขาวมณี  |
|
_________________ ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน |
|
     |
 |
walaiporn
บัวบาน

เข้าร่วม: 02 ก.ค. 2006
ตอบ: 253
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ
|
ตอบเมื่อ:
03 ก.ย. 2006, 12:00 am |
  |
อดีตอย่าไปรื้อฟื้น ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เก็บความผิดพลาดนี้ไว้เป็นครู มีธรรมะมาฝากค่ะ
โอวาทหลวงปู่สิมฯ พระญาณสิทธาจารย์ สำนักสงฆ์ถ้ำผใป่อง จ.เชียงใหม่
เรื่อง กามเป็นของร้อน
บัดนี้ เราทุกคนรู้แล้วว่า กิเลสมันดองอยู่ในจิตใจของเรามานานแสนนานจนนับภพนัยชาติไม่ได้
ที่เราเกิดมาตาย อยู่ในโลกนี้ก็เพราะจิตนี้ยังหลงอยู่ในกามรมณ์ สำคัญผิดคิดว่า กามให้ความสุข
ที่ไหนได้ กามนี้มันให้ทุข์ ตั้งแต่เกิดมาจนเราตาย ตายไปแล้วยังตามจิตหลงไปจนนับภพ
นับชาติไม่ได้ในอนาคต ดูแต่ปัจจุบันในชาตินี้ คนใดบริโภคกามทางกายอยู่ ทางวาจา ทางจิตอยู่
ย่อมมีแต่เรื่องร้อนจิตร้อนใจทั้งภายนอกทั้งภายใน ด้วยเหตุนี้แหละ เมื่อเราท่านทั้งหลาย
ได้ฟังธรรมนี้แล้ว ให้พากันละกามมารตัวร้ายนี้ออกไปให้หมดสิ้น อย่าเสียดายอยู่เลย |
|
_________________ ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ หากเราพยายามทำและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง |
|
  |
 |
พรเทพคนงาม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
03 ก.ย. 2006, 1:12 am |
  |
คุณออยทำใจให้สบายนะครับ เรื่องที่คุณออยถามว่าต้องใช้บาปกรรมไหม ผมขอตอบว่า ถ้าทำแล้วต้องใช้แน่นอนครับ แต่คุณออยก็ยังไม่ได้มีอะไรกันจึงยังถือว่าเป็นกรรมไม่หนักครับ ไม่ต้องกลัวให้ทุกข์ใจไปปล่าวๆครับ ตอนนี้ คุณออยได้เลิกทำกรรมชั่วนั้นไปแล้ว ต้องขอสาธุครับ
ต่อไปนี้ก็พยายามละชั่ว ทำดีทุกชนิด และทำใจให้ผ่องใส
แล้วคุณออยก็เลิกทุกข์ใจเรื่องนี้ ถ้าคุณออยยังหวนคิดแต่กรรมที่เราเคยทำผิดมา มันจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ โดยเฉพาะตอนใกล้จะตายจงอย่าได้คิดเรื่องที่เราทำผิดไว้เลย มันจะพาไปสู่อบายครับ เพราะจิตก่อนตายมันไปยึดอะไรไว้ก็จะไปตามนั้นครับ
ขอให้คุณออยหมั่นทำความดีอื่นๆที่หนักกว่ากรรมนี้ ทำมากๆบ่อยๆ แล้วก่อนจะตายจิตมันจะเห็นแต่ภาพดีๆ และพาไปสู่สุคติได้ครับ
เรื่องเล็กๆน้อยๆ ผ่านไปแล้วก็ทิ้งไปเถอะครับ  |
|
|
|
|
 |
พรเทพคนงาม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
03 ก.ย. 2006, 1:24 am |
  |
ถ้าจะพูดถึงศีลข้อ 3 ของเด็กสมัยนี้ ลูกพี่ลูกน้องผมแค่เด็ก ม. 2 ก็มีแฟนมาแล้ว 8 คน
คนสมัยนี้ ก็ถือว่าเรื่องบนเตียงเป็นเรื่องปกติกันไปแล้ว เปลี่ยนคู่นอนถือว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนพวกเราทั้งหลายที่เข้าหาธรรมถือว่ามีบุญอย่างยิ่ง ก็พยายามละกิเลสกันต่อไปครับ |
|
|
|
|
 |
|