Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ผิดศีลข้อ 3 อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ออย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 10 ก.พ.2006, 9:45 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าเกิดว่าเราไปยุ่งเกี่ยวกับคนที่เขามีครอบครัวแล้ว (แต่ยังไม่ถึงขั้นมีอะไรกัน) แต่ว่าเราคบไปได้สักพักนึงแล้วรู้ว่ามันไม่ดี แล้วก็ตัดสินใจเลิกยุ่งเกี่ยวกับเขาแบบชู้สาวคบกันแค่คนเคยรู้จัก เจอกันก็ทักกันบ้าง บางทีก็ทำว่าต่างคนต่างไม่มีตัวตน แล้วแบบนี้จะต้องชดใช้กรรมที่เรียกว่าผิดศีล ข้อ 3 รึเปล่า (ในกรณีนี้เราสำนึกได้ว่าไม่ดีก็เลยเลิก) สงสัย
 
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 10 ก.พ.2006, 11:22 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

นำมาให้อ่าน คิดว่าน่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนและเตือนใจดีน่ะ
จากกระทู้
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=176

...................................

ผมยอมรับอย่างไม่กระดากเลยว่า ผมเป็นคนเลว คนบาป ทำแต่กรรมชั่วมามากมาย ศีลทั้ง 5 ข้อ ไม่เคยอยู่ในจิตใจผมเลยแม้แต่ข้อเดียว

ผมจะไม่โยนความผิดหรือบาปนั้นไปให้กับเหตุการณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะทุกสิ่งที่ผมได้กระทำลงไปแล้วนั้น มันเป็นเพราะจิตที่ใฝ่ต่ำของผมเอง ทั้งๆ ที่ผมมีทางที่จะหลีกเลี่ยง ไม่ให้มันเกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้นมาก็ได้

ย้อนหลังไปเมื่อปี 2506 ตอนนั้นผมกำลังอยู่ในวัยเบญจเพศพอดี

ผมไปหากินอยู่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยอาศัยอยู่กับครอบครัวของคนบ้านเดียวกันซึ่งผมเรียกเขาว่าพี่ทั้งสามีและภรรยา ครอบครัวของเขาอยู่ด้วยกัน 3 คน คือ สามี ภรรยาและลูกชายอายุไม่ถึง 6 ขวบ

ภรรยาของเขาค้าขายในตลอดเก่า ส่วนสามีนั้นเป็นช่างและเป็นเจ้าของร้านถ่ายรูป ผมอยู่กับเขานานเข้า ความใกล้ชิดสนิทสนมถือกันเป็นญาติพี่น้องก็เป็นของธรรมดา

เหตุการณ์เกิดขึ้นในคืนหนึ่ง คืนนั้นพี่ผู้ชายไปธุระในจังหวัดและค้างคืน ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ ไม่เกิน 22.00 นาฬิกา ลูกชายก็หลับไปแล้ว เวลาดังกล่าวผมกำลังนอนอ่านหนังสือนิยายอยู่ จู่ๆ ผมก็สะดุ้งสุดตัว เพราะพี่ผู้หญิงแกย่องมานั่งลงข้างเตียงนอนของผม เธออยู่ในชุดนอนที่บางมาก บางจนมองเห็นอะไรต่อมิอะไรทะลุปรุโปร่งไปหมด

มิหนำช้ำ เธอยังส่งยิ้มอันแสนจะยั่วยวนให้อีกด้วย เมื่อสายตาของผมกราดไปเห็นอะไรต่อมิอะไรเข้า ใจมันก็เกิดความปรารถนาขึ้นมา

ผมพยายามหักห้ามใจตนเองด้วยการพูกกับเธอว่า "พี่ลงมาทำไม กลับขึ้นไปนอนเสียไป๊ ใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดีไม่งาม"

แทนที่จะเธอจะพูดตอบและกลับขึ้นไปยังชั้นบนซึ่งเป็นห้องนอนของเธอ เธอกลับขยับเข้ามาชิดผมมากเข้าไปอีก ทำให้ส่วนท้ายของเธอเบียดกับขาผมพร้อมกับเลื่อนมือมาจับขาผมไว้

ผลที่สุด ผมก็ทนแก่ความต้องการไม่ไหว ก็ได้ล่วงละเมิดศีล ข้อ 3 ตั้งแต่บัดนั้นมา และเป็นมาอยู่เรื่อยๆ

วันหนึ่ง เธอมาพูกกับผมว่าเธอจะขอแยกทางกับสามีของเธอแล้วจะอยู่กับผมอย่างออกหน้าออกตา ผมรีบปฏิเสธทันที และยังเตือนเธอว่าอย่าได้กระทำอย่างนั้น แค่นี้ผมก็ละอายแก่ใจเต็มทีแล้ว

แต่เธอก็ไม่ยอม ผมจึงหาโอกาสหนีจากเธอโดยที่เธอไม่รู้ว่าผมไปอยู่ที่ไหน

เวลาผ่านไปได้ไม่ถึง 2 เดือน เธอก็ตามมาพบผมที่ลำปาง เธอนัดให้ผมไปพบ เมื่อตกลงกันที่โรงแรมที่เธอพักอยู่ ความจริงตอนนี้ถ้าผมจะหลีกเลี่ยงหรือหลบหน้าเธอไปเสีย ก็คงจะสิ้นเรื่องราวกันไปแล้ว แต่ตัณหาครับ ความอยากเพราะความเคยได้ ทำให้ผมก้าวลงอเวจีไปอีกจนได้ กว่าจะสลัดจากเธอได้ก็กินเวลาหลายวันทีเดียว

ผมมาทราบทีหลังว่า เธอแยกกับสามีเธอจริงๆ สามีเธอปวดร้าวมากเพราะเธอทิ้งลูกน้อยไว้ให้และไม่ทราบว่าไปอยู่แห่งหนตำบลใด สามีเธอได้รับความลำบาก ไม่เป็นอันทำมาหากิน จนเป็นบ้าไปพักหนึ่ง

พอผมหนีจากเธอได้ ผมก็รีบแต่งงานทันที ผมอยู่กับภรรยาจนมีลูก 1 คน ลูกกำลังไม่ถึงขวบ ผมก็บังเอิญพบกับหญิงสาวคนใหม่

ภรรยาใหม่ของผมอยู่ในฐานะค่อนข้างมีอันจะกิน อาชีพค้าขายและมีพี่สาวที่แต่งงานแล้วแต่ยังสวยไม่สร่างอยู่คนหนึ่ง เป็นเจ้าของร้านอาหาร

ผมกับภรรยามักจะมาช่วยพี่สาวขายกับข้าวอยู่เสมอ วันไหนผมไม่ว่างก็ให้ภรรยามาช่วย ผมกับพี่สาวอายุใล่ๆ กัน ความใกล้ชิดสนิทสนมฉันญาติก็ทำให้ไม่ถือสาอะไร นานวันเข้า พี่สาวของภรรยากับผมก็ถลำลึกลงไปถึงอเวจีด้วยกันอีก

เหตุการณ์แห่งความชั่วช้าเป็นมาอย่างราบรื่น สนุกสนานตามความคิดของคนเลวทราม โดยที่ภรรยาของผมและสามีของพี่สาวไม่ระแคะระคายเลย จนกระทั่งผลของกรรม ตามมาทันเข้า

เย็นวันหนึ่งผมได้ไปนั่งดื่มเหล้ากับพรรคพวกที่ร้านอาหารอีกแห่งหนึ่ง พรรคพวกซึ่งแกคงทนไม่ได้ที่เห็นเพื่อนเป็นควายมานาน จึงได้เล่าพฤติการณ์ของภรรยาของผมให้ผมฟังว่า "เฮ้ย เมื่อกี้ข้าเห็นเมียเอ็งเข้าโรงแรมม่านรูดกับเจ้าตำรวจที่เคยมากินอาหารที่ร้านเอ็งบ่อย ๆ ด้วย"

พอผมทราบเท่านั้นแหละ ผมโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลยทีเดียว ผมขับรถกลับบ้านด้วยความเร็วมาก เพราะความโมโห แต่แล้ว "โครม" รถผมเสยท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ที่กำลังจะชิดซ้ายจอดข้างทางอย่างจัง แถบซ้ายทั้งแถบของรถผมพังยับเยิน ส่วนรถบรรทุกไม่เสียหายอะไร จึงไม่มีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล

จิตใจของผมตอนนั้นไพล่ไปคิดว่าเป็นเพราะเมียมีชู้จึงทำให้ซวย โดยไม่คิดถึงกรรม ที่ตนเองได้กระทำมาแม้แต่น้อย

ผมกลับถึงบ้านก็พอดีกับที่ภรรยาผมลงจากรถนายตำรวจที่เพื่อนพูดถึงพอดี ผมปวดร้าวมาก ปวดหัวใจเหลือที่จะกล่าว

ผมเพิ่งจะทราบว่าพิษของการถูกแย่งของที่ตนรักนั้นเป็นอย่างไร ผมแยกทางกับภรรยาและเริ่มเอาเหล้าเป็นที่พึ่ง สำมะเลเทเมาจนเกือบจะเสียผู้เสียคน

ดีแต่ว่าหัวหน้างานท่านคงจะสังเวชหรือทุเรศก็ไม่ทราบ ท่านจึงพาออกท้องที่เสียนาน และพาไปเกลี้ยกล่อมจนสงบสติอารมณ์ลงได้บ้าง ความรัก ความแค้น จึงจางลง

ทว่ามันก็ไม่ได้ลบรอยขาดหายไป มันยังเป็นรอยขีดข่วนอยู่อย่างนั้น
บัดนี้ ผมปลงตกแล้ว เพราะผมได้พบกับทางสงบ ทางสว่างอันแท้จริง
นี่แหละ กรรมใดใครก่อไว้อย่างไร ย่อมได้รับผลกรรมนั้นไม่ช้าก็เร็ว


................................................

จากหนังสือเงากรรม (โลกทิพย์)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
แมวขาวมณี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2006, 4:53 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผิด ศีล ข้อ 3 คงยังต้องชดใช้อยู่ดีค่ะ
ผู้รู้ท่าน "แพ่งยอมได้ แต่อาญา ยังอยู่" ต้องไปชดใช้อีกค่ะ
การเลิกลาไป เท่ากับ หยุดกระทำ ชั่วนั้น แล้ว
แต่สิ่งที่ทำลงไปแล้ว ยังไม่ได้ชำระ บัญชีค่ะ
หาวิธีชดใช้กรรมเสียชาตินี้ จะไม่ต้องทนทุกข์ใน นรกที่รุนแรงกว่าหลายร้อยเท่าค่ะ
 

_________________
พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2006, 6:55 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ คุณแมวขาวมณี สาธุ
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
walaiporn
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 ก.ค. 2006
ตอบ: 253
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ

ตอบตอบเมื่อ: 03 ก.ย. 2006, 12:00 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อดีตอย่าไปรื้อฟื้น ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เก็บความผิดพลาดนี้ไว้เป็นครู มีธรรมะมาฝากค่ะ
โอวาทหลวงปู่สิมฯ พระญาณสิทธาจารย์ สำนักสงฆ์ถ้ำผใป่อง จ.เชียงใหม่

เรื่อง กามเป็นของร้อน

บัดนี้ เราทุกคนรู้แล้วว่า กิเลสมันดองอยู่ในจิตใจของเรามานานแสนนานจนนับภพนัยชาติไม่ได้

ที่เราเกิดมาตาย อยู่ในโลกนี้ก็เพราะจิตนี้ยังหลงอยู่ในกามรมณ์ สำคัญผิดคิดว่า กามให้ความสุข

ที่ไหนได้ กามนี้มันให้ทุข์ ตั้งแต่เกิดมาจนเราตาย ตายไปแล้วยังตามจิตหลงไปจนนับภพ

นับชาติไม่ได้ในอนาคต ดูแต่ปัจจุบันในชาตินี้ คนใดบริโภคกามทางกายอยู่ ทางวาจา ทางจิตอยู่

ย่อมมีแต่เรื่องร้อนจิตร้อนใจทั้งภายนอกทั้งภายใน ด้วยเหตุนี้แหละ เมื่อเราท่านทั้งหลาย

ได้ฟังธรรมนี้แล้ว ให้พากันละกามมารตัวร้ายนี้ออกไปให้หมดสิ้น อย่าเสียดายอยู่เลย
 

_________________
ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ หากเราพยายามทำและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พรเทพคนงาม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 03 ก.ย. 2006, 1:12 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณออยทำใจให้สบายนะครับ เรื่องที่คุณออยถามว่าต้องใช้บาปกรรมไหม ผมขอตอบว่า ถ้าทำแล้วต้องใช้แน่นอนครับ แต่คุณออยก็ยังไม่ได้มีอะไรกันจึงยังถือว่าเป็นกรรมไม่หนักครับ ไม่ต้องกลัวให้ทุกข์ใจไปปล่าวๆครับ ตอนนี้ คุณออยได้เลิกทำกรรมชั่วนั้นไปแล้ว ต้องขอสาธุครับ

ต่อไปนี้ก็พยายามละชั่ว ทำดีทุกชนิด และทำใจให้ผ่องใส

แล้วคุณออยก็เลิกทุกข์ใจเรื่องนี้ ถ้าคุณออยยังหวนคิดแต่กรรมที่เราเคยทำผิดมา มันจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ โดยเฉพาะตอนใกล้จะตายจงอย่าได้คิดเรื่องที่เราทำผิดไว้เลย มันจะพาไปสู่อบายครับ เพราะจิตก่อนตายมันไปยึดอะไรไว้ก็จะไปตามนั้นครับ

ขอให้คุณออยหมั่นทำความดีอื่นๆที่หนักกว่ากรรมนี้ ทำมากๆบ่อยๆ แล้วก่อนจะตายจิตมันจะเห็นแต่ภาพดีๆ และพาไปสู่สุคติได้ครับ

เรื่องเล็กๆน้อยๆ ผ่านไปแล้วก็ทิ้งไปเถอะครับ ยิ้มเห็นฟัน
 
พรเทพคนงาม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 03 ก.ย. 2006, 1:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าจะพูดถึงศีลข้อ 3 ของเด็กสมัยนี้ ลูกพี่ลูกน้องผมแค่เด็ก ม. 2 ก็มีแฟนมาแล้ว 8 คน

คนสมัยนี้ ก็ถือว่าเรื่องบนเตียงเป็นเรื่องปกติกันไปแล้ว เปลี่ยนคู่นอนถือว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนพวกเราทั้งหลายที่เข้าหาธรรมถือว่ามีบุญอย่างยิ่ง ก็พยายามละกิเลสกันต่อไปครับ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง