| ผู้ตั้ง | 
ข้อความ | 
พระสุพิน  อัตตสันโต 
ผู้เยี่ยมชม 
  
 
 
 
 
 | 
 ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2005, 7:22 pm | 
   | 
 
 
 
ครั้งนึง  ขณะกราบพระพุทธรูปด้วยจิตสงบอยู่นั้นก่อนจะนั่งสมาธิพลันจิตในจิต   
 
   
 
ก็บอกว่าอยากเป็น พระพุทธเจ้าเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยคิดมาก่อน   
 
   
 
เพราะเป็นสิ่งที่สู่งมาก  ถามใครก็ได้รับคำตอบไม่ตรงประเด็น   ทำให้เกิด   
 
   
 
ความสงสัยจวบทุกวันนี้    ขอถามเพราะเหตุใดจิตในจิตจึงบอกอย่างนั้น   
 
   
 
โปรดช่วยแก้ขอสงสัยนี้ด้วย   หวังได้รับเมตตาธรรมจากผู้รู้ทั้งหลาย   
 
   
 
(อนุโมทนาสาธุล่วงหน้า) | 
 
        
          |   | 
         
 | 
 
 
 | 
 | 
  | 
เขม 
ผู้เยี่ยมชม 
  
 
 
 
 
 | 
 ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2005, 7:36 pm | 
   | 
 
 
 
มันคิดได้ยิ่งกว่านั้นอีกครับผม   
 
ไปเชื่อถืออะไรกับความคิดซึ่งหลอกลวง   
 
ขณะนั้นมันอยากเป็นพุทธเจ้า    
 
ตามดูสิมันอยากเป็นอะไรอีก   
 
แล้วดูอีกเป็นอยากเป็นอะไรอีก    
 
ดูไปๆๆๆๆๆ   
 
จะเห็นมันอยากเป็นนั่นเป็นนี่ตลอด   
 
 | 
 
        
          |   | 
         
 | 
 
 
 | 
 | 
  | 
รักธรรม 
ผู้เยี่ยมชม 
  
 
 
 
 
 | 
 ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2005, 8:34 pm | 
   | 
 
 
 
นมัสการพระคุณเจ้า สิ่งที่ท่านสัมผัสจากจิตในจิตของท่านเป็นดังนั้นอาจสืบเนื่องมาจากสัญญาของจิตท่านจากกาลก่อนก้อเป็นได้ ถือเป็นสิ่งที่ดี มิควรสงสัย แต่ควรมุ่งปฏิบัติต่อไปเพื่อผลนั้น เพราะถ้าท่านปราถนาพุทธภูมิจริงท่านต้องผ่านการบำเพ็ญและปฏิบัติอย่างเต็มที่เต็มกำลังอีกยาวนานหลายอสงขัยกัปล์ เป็นสิ่งที่ดีที่ได้พบเป้าหมายของตัวตน บางคนใช้ชีวิตอยู่ไปเรื่อยโดยไม่มีเป้าหมายใดแน่นอนและก้ออาจเป็นเช่นนั้นไปในทุกๆชาติ แต่บางคนมีเป้าหมายชัดเจนแน่นอน กำลังใจกำลังสมาธิแม่นมั่นข้ามภพข้ามชาติก้อยังจดจำสัญญานั้นๆได้อยู่และมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงจุดหมาย  ขออนุโมทนาบูญในสัญญาจากจิตในจิตของท่านด้วยค่ะ  | 
 
        
          |   | 
         
 | 
 
 
 | 
 | 
  | 
ธัมมิกะ 
ผู้เยี่ยมชม 
  
 
 
 
 
 | 
 ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2005, 8:43 pm | 
   | 
 
 
 
ดูการเกิดดับของจิตซึ่งเกิดขึ้นในขณะนั้นๆ แล้วจะเข้าถึงพุทธธรรม   | 
 
        
          |   | 
         
 | 
 
 
 | 
 | 
  | 
โอ่ 
ผู้เยี่ยมชม 
  
 
 
 
 
 | 
 ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2005, 8:46 pm | 
   | 
 
 
 
แล้วทำไมคิดว่าเป็นจิตในจิตละครับ  จิตในจิตนั้นจริงๆเป็นยังไงกันแน่ครับ | 
 
        
          |   | 
         
 | 
 
 
 | 
 | 
  | 
โมฆบุรุษ 
บัวใต้ดิน 
 
 
  
เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2004 
ตอบ: 38 
 
 
 | 
 ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2005, 8:51 pm | 
   | 
 
 
 
กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ   
 
   
 
บำเพ็ญไปทางสายพุทธภูมิเลยครับ   
 
หากเบื่อเมื่อไหร่ ก็ค่อยลาครับ   
 
   
 
ลองเข้าไปอ่านที่นี่ด้วยนะครับ   
 
เป็นแนวทางคร่าวๆครับ   http://Bodhisattva.name/  
 
   
 
ขอโมทนาบุญในการที่จะรื้อสัตว์ให้ข้ามไตรภพ   
 
ให้พ้นจากวัฏฏสงสารมากต่อมากนะครับ   | 
 
        
          |   | 
         
 | 
 
 
 | 
    | 
  | 
สุเชาว์ 
ผู้เยี่ยมชม 
  
 
 
 
 
 | 
 ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2005, 9:13 pm | 
   | 
 
 
 
จำได้จากมหาสติปัฏฐานสูตร ว่า  ภิกษุเห็นจิตในจิต    
 
..เห็นเวทนาในเวทนา   
 
..เห็นกายในกาย   
 
..เห็นธรรมในธรรม | 
 
        
          |   | 
         
 | 
 
 
 | 
 | 
  | 
สายลม 
บัวเงิน 
 
  
  
เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004 
ตอบ: 1245 
 
 
 | 
 ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2005, 9:37 pm | 
   | 
 
 
 
     
 
   
 
สาธุด้วยครับ   
 
   
 
   | 
 
        
          |   | 
         
 | 
 
 
 | 
     | 
  | 
สับสน 
ผู้เยี่ยมชม 
  
 
 
 
 
 | 
 ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2005, 10:25 pm | 
   | 
 
 
 
อายตนะ + อารมณ์ + วิญญาณ = ผัสสะ ---->เวทนา---->สัญญา---->สังขาร---->ตัณหา----->อุปาทาน------>ภพ----->ชาติ----->ชรา------>มรณะ   
 
   
 
มโนสังขาร = มโนสัญเจตนา----->มโนทวาร------>มโนกรรม   
 
   
 
เมื่อปรุงแต่ง ก็ย่อมเวียนว่าย   
 
   
 
ปรุงแต่งว่า อยากเวียนว่าย ก็ย่อมเวียนว่าย   
 
ปรุงแต่งว่า ไม่อยากเวียนว่าย ก็ยังต้องเวียนว่าย   
 
   
 
ขันธ์ 5 ดับ ปรุงแต่งไม่มี ที่อยู่ของตัณหาไม่มี ตัณหาก็ไม่มี   
 
   
 
จึงหยุดเวียนว่าย   
 
   
 
ผู้อยู่ในภูมิธรรมใด ย่อมเห็นได้ตามภูมิธรรมนั้น   
 
สัตว์โลกย่อมมีกรรมเป็นของตน จึงต้องเวียนว่ายกันต่อไป   
 
   
 
ขอให้เจริญในธรรม | 
 
        
          |   | 
         
 | 
 
 
 | 
 | 
  | 
พระสุพิน  อัตตสันโต 
ผู้เยี่ยมชม 
  
 
 
 
 
 | 
 ตอบเมื่อ:
27 มี.ค.2005, 10:53 pm | 
   | 
 
 
 
อนุโทนาบุญ   
 
    
 
       ที่ทุกท่านช่วยแก้ข้อสังสัย    แก่อาตมา(ผู้ยังต้องศึกษา) พอที่จะเข้าใจอะไรดีขึ้น   
 
   
 
       มาบ้าง  มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยถามพระด้วยกันท่านตอบว่า(อวด)  ก็เลยไม่กล้าถามใครอีก   
 
   
 
        พอได้มาตรงนี้พบผู้มีบุญและผู้รู้จึงได้ถามอีกครั้ง  ซึ่งช่วงนั้นรู้สึกเป็นบ่อยมากจนเกิด   
 
   
 
       ความทุกข์  (ทุกข์เพราะสงสัย)   เพราะเข้าใจในระดับจิตตัวเองดีว่าเป็นอย่างไร   
 
   
 
       แต่ทุกวันนี้ความรู้สึกตรงนั้นเริ่มเข้าปกติ    แต่ก็ใช่ว่าจะหายไปเลยก็ยังมีอยู่เป็นอยู่   
 
   
 
       ในบางครั้ง                                
 
   
 
                                                        อนุโมทนาสาธุขอให้เจริญใธรรมทุกท่าน | 
 
        
          |   | 
         
 | 
 
 
 | 
 | 
  | 
TU 
บัวทอง 
 
  
  
เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004 
ตอบ: 1589 
 
 
 | 
 ตอบเมื่อ:
28 มี.ค.2005, 1:16 pm | 
   | 
 
 
 
ปุถุชนย่อมมีศรัทธาไม่มั่นคง ปุถุชนย่อมมีจิตไม่มั่นคง เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เราจึงไม่ควรยึดมั่นถือมั่นมากจนเกิดเป็นความทุกข์ ดังนั้น การที่จิตในจิตบอกว่าอยากเป็นพระพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเพราะเหตุใดก็ตาม ก้อควรวางจิตของเราเป็นอุเบกขาไว้ก่อน    
 
   
 
ถ้าเกิดฉันทะ เพื่อการเป็นพระพุทธเจ้า แล้วเกิดกำลังใจเพียรมุ่งมั่นปฏิบัติตน เพียรมุ่งมั่นปฏิบัติธรรมเพื่อการนั้น นับว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐ    
 
   
 
ถ้าเราศึกษาขั้นตอนการสร้างบารมีของพระพุทธเจ้าหรือพระอริยมหาสาวก จะพบว่า กว่าท่านจะได้เป็นพระพุทธเจ้าหรือพระอริยมหาสาวก ล้วนต้องตั้ง "จิตปรารถนา" ไว้ในอดีตชาติ เป็นลำดับแรกก่อนค่ะ     
 
   
 
       | 
 
        
          |   | 
         
 | 
 
 
 | 
     | 
  | 
สับสน 
ผู้เยี่ยมชม 
  
 
 
 
 
 | 
 ตอบเมื่อ:
28 มี.ค.2005, 11:23 pm | 
   | 
 
 
 
ก็ให้ดูความเปลี่ยนแปลงนั้นแหละ จะไปทำอะไรได้อีก    
 
   
 
คิดจะทำอะไรอีก ก็ปรุงแต่งอยู่ดี ก็ย่อมเปลี่ยนแปลงอยู่ดี   
 
   
 
หลอกกันไปหลอกกันมาอยู่นี่ล่ะ แม้แต่ตัวหลอกด้วยกันเอง   
 
   
 
ดู และ สักแต่ว่ารู้ เท่านั้น   
 
   
 
แม้แต่ตัวดู ก็หลอกเช่นเดียวกัน แต่เลี้ยงไว้ใช้ดูก่อน   
 
   
 
เพราะไม่งั้นก็ไม่มีตัวดู   
 
   
 
ก่อนที่ปล่อยให้มันก็ดับเองเป็นตัวสุดท้าย   
 
   
 
มันก็จะตัดวงจรได้พอดี   
 
   
 
ขอให้เจริญในธรรม | 
 
        
          |   | 
         
 | 
 
 
 | 
 | 
  | 
| 
 |